นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่221ภรรยาของคุณเป็นมะเร็งตับ



บทที่221ภรรยาของคุณเป็นมะเร็งตับ

บทที่ 221 ภรรยาของคุณเป็นมะเร็งตับ

หมอเงียบ

เขารู้สึกว่ามันแปลกที่ชายคนนั้นเพิ่งใช้

คำว่า “ได้โปรด”

ที่นอบน้อมอย่างชัดเจน

แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าเขารู้สึกถึงแรงกดดัน อย่างล้นหลามจากชายคนนั้น

หมอคิดและเอ่ยปากถามว่า “คุณมีความสัมพันธ์กับผู้ป่วยรายนี้อย่า งไร?”

เซิ่งเจ๋อเฉิงชะงักและนิ่งไปหนึ่งวินาทีก่ อนจะตอบว่า “ผมเป็นสามีของเธอ”

ไม่มีความประหลาดใจในสายตาของแ พทย์

คนสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคนหนึ่งนอ

นคนหนึ่งนั่ง

ดูเหมือนว่าพวกเขาจะอายุไม่ต่างกันมา

จากหน้าตาของพวกเขาช่างเหมาะสมกั

นดี

ควรเป็นสามีภรรยากันอย่างไม่ต้องสงสั

“ในเมื่อเป็นสามีภรรยา งั้นผมก็ไม่ถามอะไรมากแล้ว”

เซิ่งเจ๋อเฉิงได้ยินหมอพูดเช่นนั้นก็เงยห น้าขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดอย่างเฉยเมยว่า “คุณมีปัญหาอะไร?”

หมอมองดูเสิ่นอีเวยที่นอนอยู่บนเตียงแ

ล้วพูดว่า

สุขภาพของภรรยาคุณเป็นอย่างนี้เพร าะเธอดื่มเหล้ามาก คุณเป็นสามีไม่ดูแลเธอเลยเหรอ?”

เซิ่งเจ๋อเฉิงชะงักไปครู่หนึ่ง

จับจุดสำคัญในคำพูดของหมอได้ว่า “สภาพร่างกาย? หมายความว่ายังไง?”

คราวนี้หมอเริ่มรู้สึกงุนงง “คุณไม่รู้เหรอว่าภรรยาของคุณเป็นมะเ ร็งตับ”

น้ำเสียงของเขาตื่นเต้นเล็กน้อย

เสียงของหมอเงียบลง

ในห้องคนไข้มีเพียงความเงียบงัน

ไม่มีใครพูดจา

การได้ยินของเซิ่งเจ๋อเฉิงได้ยินคำพูดข องหมออย่างชัดเจน : มะเร็งตับ

อุณหภูมิในดวงตาของเขาเย็นลงเรื่อยๆ เขามองขึ้นมาแล้วถามว่า “คุณหมายความว่ายังไง?”

ทันทีที่หมอเห็นท่าทางแบบนี้เขาก็รู้ทัน ทีว่าอีกฝ่ายไม่รู้เรื่องจริงๆ เขาจึงเปิดบันทึกการักษาแล้วพูดว่า

“มาๆๆ คุณดูนี่”

กระดาษสีขาวกางอยู่ตรงหน้าเซิ่งเจ๋อเ ฉิง เขามองตามทิศทางนิ้วมือของหมอ

ตรงที่ว่างมีคำสี่คำเขียนเอาไว้ว่ามะเร็ง ตับ เขามีท่าทางคาดไม่ถึง แต่ก็ดูเหมือนปกติ

เห็นได้ชัดว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงรู้สึกว่าลมหายใ จของเขาหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาไม่ได้ขอคำยืนยันจากหมอในทันที เขาเลื่อนสายตาของเขาขึ้นอย่างช้าๆ แถวแรกของหน้ากระดาษคือชื่อของผู้

ป่วยสามตัวที่เขาคุ้นเคย : เสิ่นอีเวย โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นของรัฐ

ดังนั้นกระดาษรายงานพื้นขาวตัวหนังสื อดำแบบนี้จึงไม่มีทางปลอมอย่างแน่น อน

สมองของเซิ่งเจ๋อเฉิงทำงานได้อย่างร

วดเร็ว

เขาพยายามนึกว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาเ นิ่นนานนี้เคยได้ยินคำว่ามะเร็งตับจากป ากของเสิ่นอีเวยมาก่อนหรือไม่

ประมาณสิบวินาทีต่อมาเขาก็สรุปได้ว่า

: ไม่เคย

เซิ่งเจ๋อเฉิงเงยหน้าขึ้น มองหมอด้วยสายตาที่เย็นชา

ฝ่ายหลังเกิดความหวาดกลัวขึ้นในจิตใ จอย่างไม่รู้สาเหตุ

“คุณบอกว่าภรรยาของผมเป็นมะเร็งตับ ถ โดเวลาที่คุณตรวจเธอแค่ป เมผิด ระมาณหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น

ในช่วงเวลาสั้นๆ

คุณยืนยันได้อย่างไรว่าเธอเป็นมะเร็งตั

บ”

ตรรกะในคำพูดของเซิ่งเจ๋อเฉิงนั้นชัดเ

จนมาก

พอเขาได้ยินว่าเสิ่นอีเวยกำลังป่วยด้วย

โรคมะเร็งตับ

ปฏิกิริยาแรกของเขาคือไม่เชื่อ แต่วินาทีต่อมาเขาก็หันมาคิดว่าโดยทั่ว

ไปแล้วหมอจะไม่โกหกผู้ป่วยหรือครอ บครัว

แต่ทำไมอารมณ์ของตัวเองเหมือนได้ฟั งเรื่องตลกยังไงยังงั้นเลย? ผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่น่ารังเกียจคนนั้น ทำไมเธอถึงเป็นมะเร็งตับได้? ความคิดของเซ่งเจอเฉิงถูกขัดจังหวะโ ดยหมอ

“คุณครับ คืออย่างนี้นะ ตอนนี้เคสมะเร็งตับในเมืองของเราได้ถู กสร้างเป็นฐานข้อมูลแล้ว สำหรับผู้ป่วยที่ถูกส่งไปที่โรงพยาบาล ของเราด้วยปัญหาเนื่องจากการดื่ม ทางทีมแพทย์จะทำการตรวจสอบในฐา นข้อมูลว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งตับหรือไม่ก่ อนใช้ยา

เพื่อที่จะดำเนินการรักษาอย่างแม่นยำม ากขึ้น”

เมื่อหมอพูดถึงตรงนี้ก็หยุดไปครู่หนึ่ง เพราะเขาเห็นสิ่งผิดปกติในสายตาของ

เซิ่งเจ๋อเฉิง

ดวงตาของชายคนนั้นดูเหมือนจะเผยค

วามนัยออกมาว่า : พ เรื่องไรสาระ คุณช่วยพูดสิ่งที่มีสาระหน่อย

ในความเป็นจริงเซิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้หมาย ความอย่างนั้น หมอเข้าใจผิดไปเอง

เขาแค่คิดถึงเรื่องที่เสิ่นอีเวยเป็นมะเร็ง

ตบ

ตนเองในฐานะสามีของผู้หญิงคนนั้นยัง ไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้เลย ดังนั้นยิ่งเขาคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไรเขา

ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น ผู้หญิงคนนี้คิดว่าเธอเป็นอะไรของเขา กันแน่!

เมื่อหมอเห็นท่าทางของเซิ่งเจ๋อเฉิงผ่อ นคลายลงเล็กน้อยเขาจึงพูดต่อ “ดังนั้นเมื่อคุณพาภรรยาเข้ามา เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของเราก็เรียก

ดฐานข้อมูลทันที ฐานข้อมูลใดแสดงให้เห็นว่าภรรยา ของคุณเป็นผู้ป่วยมะเร็งตับ”

ใบหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงไม่มีความรู้สึกแ ละไม่มีอารมณ์ใดๆ ในน้ำเสียงที่เย็นชาของเขา

“ฐานข้อมูลกรณีนี้เป็นแบบเรียลไทม์หรื อเปล่า”

“ไม่กล้าบอกว่าเป็นแบบเรียลไทม์หรือไ

ม่

แต่สามารถรับประกันความถูกต้องได้

100%

หากไม่มีข้อผิดพลาดในการตรวจครั้งแ รกของโรงพยาบาลแต่ละแห่ง แต่สำหรับเรื่องการอัพเดทแบบเรียลไท ม์นั้น

ถึงแม้จะมีความคลาดเคลื่อนด้านเวลา เจ้าหน้าที่จะบันทึกฐานข้อมูลอยู่ในช่วง เวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง”

หมอก็เข้าใจคนอื่นเช่นกัน

พวกเขาสามารถมองเห็นได้อย่างรวดเร็ วว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงกำลังกังวลเรื่องใดอยู่ เนื่องจากเขาเป็นสามีของผู้ป่วยและดูจ ากท่าทางเมื่อครู่นั้นไม่ทราบว่าภรรยาข องตนเองเป็นมะเร็งตับ

ดังนั้นในสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งแรกที่เขาต้องการคือข้อพิสูจน์ยืนยัน ความถูกต้อง

เซิ่งเจ๋อเฉิงเอ่ยปากถามว่า

“ภรรยาของผมถูกบันทึกอาการป่วยตั้ง แต่เมื่อไร?”

หมอนิ่งไปชั่วครู่ นึกย้อนไปแล้วตอบว่า “ประมาณสี่เดือนที่แล้ว”

สี่เดือนที่แล้ว เซิ่งเจ๋อเฉิงนึกถึงเวลาในตอนนั้น

เสิ่นอีเวยไปที่ห้องผู้ป่วยของเสิ่นหุ้ยโด ยไม่ได้รับอนุญาต ต่อมาก็ทะเลาะกับตนเองอย่างใหญ่โต

เมื่อนึกถึงเสิ่นหุ้ย

หัวใจของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็ดูเหมือนจะไม่มี ความหวั่นไหวใดๆ เสิ่นหุ้ย

ไม่ได้นึกถึงชื่อนี้มานานแล้วใช่ไหม? ขนาดตัวเขาเองยังลืมไปเลย

ในขณะนี้เขาไม่มีกะจิตกะใจจะไปครุ่นคิ ดว่ามันดีหรือร้ายกันแน่

เนื่องจากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง ตับและบันทึกไว้ในฐานข้อมูลแล้ว นั่นก็หมายความว่าเสิ่นอีเวยรู้ถึงความเ จ็บป่วยของตัวเองดีเธอจงใจปกปิดควา มเจ็บป่วยกับเขา ไฟโกรธปะทุขึ้นในร่างกายของเซิ่งเจ๋อ

เฉิง

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเสิ่นอีเวยกำลังนอนโค

ม่าอยู่บนเตียง

เขาอยากคาดคั้นเดี๋ยวนี้เลยว่าทำไมเธ อถึงไม่บอกความจริงกับเขา!

ทันใดนั้นสมองของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็มีภาพ

ปรากฏขึ้น

มันคือตอนที่เสิ่นอีเวยแท้งลูก

ในเวลานั้นเขาไม่รู้ว่าเด็กคนที่เธอสูญเ

สียไปคือลูกของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงมองหาโอกาสที่จะเยาะเย้ ยเธอทุกครั้ง

ครั้งที่ทะเลาะกันในห้องนอนของเธอ เสิ่นอีเวยกินยาเข้าไปต่อหน้าเขาหนึ่งเ ม็ด เนื่องจากตอนนั้นเขาดื่มเหล้า ความตระหนักรู้ของเขาจึงไม่ชัดเจนเท่ าไร

แต่เขามั่นใจว่าเห็นเสิ่นอีเวยกินยาเข้าไ

ในเวลานั้นเพิ่งเจ๋อเฉิงเกิดความสงสัย เขาจึงแอบเปิดลิ้นชักหยิบยาออกไปเม็ ดหนึ่งในขณะที่เสิ่นอีเวยไม่สนใจ

เขาไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพท

ดังนั้นเขาจึงไม่ได้อยู่ในจุดที่ลำพังเพีย งมองด้วยตาเปล่าก็รู้ว่ายาเม็ดสีขาวนั้น ใช้รักษาโรคอะไร

ในเวลานั้นตอนแรกเซิ่งเจ๋อเฉิงต้องการ เก็บยาเม็ดนั้นไว้เพื่อให้หลินอวี้เอาไปต รวจสอบว่ามันใช้รักษาโรคอะไร แต่พอสร่างเมาในวันต่อมาเขาก็เกิดปะ ทะฝีปากกับเสิ่นอีเวยในห้องนั่งเล่น ตอนนั้นผู้หญิงคนนั้นพูดออกมาประโย คหนึ่งซึ่งทำให้เขาโกรธ

ดังนั้นเขาจึงทิ้งเม็ดยานั้นไปอย่างไม่ลัง

เลด้วยความโกรธ

ตอนนี้เมื่อมองย้อนกลับไป เหตุผลที่เสิ่นอีเวยกินยาในคืนนั้นน่าจะเ ป็นเพราะอาการของโรคกำเริบขึ้นมา

หมอที่ยืนอยู่ข้างๆ

เห็นเซิ่งเจ๋อเฉิงไม่พูดจา

จึงนึกว่าเขาไม่ได้ยินสิ่งที่ตนเองพูด ดังนั้นเขาจึงพูดซ้ำอีกครั้ง

“ภรรยาของคุณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น มะเร็งตับเมื่อสี่เดือนที่แล้ว และจากผลการตรวจร่างกายของเราเมื่ อเร็วๆ นี้

เธอดูเหมือนจะไม่ได้รับการรักษาอย่าง จริงจังในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ได้รับวินิจ ฉัยจนถึงปัจจุบัน ถ้าไม่เช่นนั้น ช่วงเวลาสั้นๆ

ไม่น่าจะทําให้อาการป่วยเลวร้ายลงถึง

ขั้นนี้”
195649322_1455713994773346_426060342692749678_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ