นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่282นี่คือสิ่งที่ใจคุณอยากพูดมัน ออกมาหรือเปล่า



บทที่282นี่คือสิ่งที่ใจคุณอยากพูดมัน ออกมาหรือเปล่า

บทที่ 281 ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากความโกรธ

ใบหน้าของเสิ่นอีเวยเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ อาจเป็น เพราะการกระทำกับเพิ่งเจ๋อเฉิงก่อนหน้านี้ที่เกิดขึ้น เช่นเรื่อง แบบเมื่อคืนวานนี้ก็ไม่เคยมีมาก่อน แต่นั่นช่างไม่เหมือนกับ สถานการณ์ตอนนี้อย่างสิ้นเชิง

อย่างน้อยในตอนนั้น เพิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้อยู่ข้างกายหล่อน ต่อหลังจากเสร็จกิจแล้ว บ่อยครั้งที่เช้าวันรุ่งขึ้นหลังหล่อนตื่น ขึ้นมา คนข้างๆก็ลุกไปแล้ว แม้กระทั่งผ้าห่มอีกครึ่งฝันก็แทบ ไม่เหลือไออุ่นไว้เลย

ทว่าครั้งนี้กลับไม่เหมือนกัน พวกเขายังคงอยู่ด้วยกันและ ยังใช้เวลายามค่ำคืนด้วยกัน ในตอนนี้ยังตื่นขึ้นมารับแสง ยามเช้าด้วยกันอีก เสิ่นอีเวยรู้สึกแปลกใจทันทีกับเรื่องที่กำลัง เกิดขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเหนื่อยทั้งกายและใจ แต่ทำไมเมื่อคืน ตนเองถึงหลับสนิทดีขนาดนั้น? แม้แต่ฝันก็ยังไม่ฝัน หลับสนิท จนถึงเช้า

ตั้งแต่เจ็บป่วยขึ้นมา เสิ่นอีเวยไม่ได้หลับสนิทมานานแล้ว บวกกับเดิมที่เส้นประสาทก็อ่อนแออยู่แล้วด้วย ดังนั้น ในเรื่องการนอนหลับใหลของเมื่อคืน ทำให้หล่อนรู้สึกประหลาดใจอยู่

ไม่น้อย

แม้ว่าจะตื่นขึ้นมาแล้ว ทว่าคนทั้งสองก็ไม่ได้เอื้อนเอ่ย อะไรอยู่นาน เสิ่นอีเลยไม่รู้ว่าควรพูดอะไรจริงๆ และเพิ่งเจ๋อเฉ งก็กำลังมองเสิ่นอีเวยด้วยความสนอกสนใจ

จากการประเมินด้วยสายตาแล้ว สถานการณ์เหมือนผ่อน คลายลงอยู่เล็กน้อย หากความรู้สึกของเสิ่นอีเวยบอกไม่ผิด สายตาที่เพิ่งเจ๋อเฉิงมองหล่อนตอนนี้เหมือนกับต้องการจะกลืน กินหล่อนทั้งตัว

ใจเสิ่นอีเวยราวกับเป็นใบ้ อีกทั้งยังตื่นเต้น ไม่รู้ว่าตัวเอง ไปทำอะไรผิดกับเขาตรงไหนกัน

สิ่งที่ดีที่สุดก็คือพยายามอย่างหนักที่จะเบี่ยงเบนประเด็น แขนของฉันชาไปหมดแล้ว รบกวนคุณช่วยขยับให้หน่อยได้ ไหมคะ”

น้ำเสียงค่อนข้างสุภาพและมีมารยาทเอามาก ทว่าเพิ่งเจอ เพิ่งกลับขมวดคิ้วขึ้น เพราะเขาฟังออกถึงความเย็นชาและห่าง เห็นที่ซ่อนอยู่ในน้ำเสียง ตรงนี้เองที่ทำให้เขารู้สึกไม่ถูกใจ

เสิ่นอีเวยคิดว่าสิ่งที่ตนเองพูดออกจะชัดเจนขนาดนี้ ผู้ชาย คนนี้ก็ควรจะปล่อยแขนของตนเองได้แล้ว แต่ที่คิดไม่ถึงก็คือ เพิ่งเจ๋อเฉิงไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะปล่อยแขนเธอเลยสักนิด

ผู้ชายที่หน้าตาดูดีกับดวงตาเรียวยาวที่หลงเล็กน้อย ในดวงตาของเขาฉายรังสีอันตรายอยู่บ้าง “เสิ่นอีเวย เมื่อคืน ตอนนอนอยู่คุณละเมอพูดด้วย ทั้งแข่งผมแถมยังเตะผมอีก คุณคิดว่าแขนของคุณที่กำลังขาอยู่ที่สามารถเอามาทดแทนกับ สิ่งที่ผมโดนเมื่อคืนนี้ได้เหรอ?

เงินอีเวยเผยอปากเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยความ ประหลาดใจ ผู้ชายคนนี้กำลังพูดถึงอะไรกัน? นี่เขาว่างจนไม่มี อะไรทำก็เลยมาใส่ร้ายตนเองเนี่ยนะ?

ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่สบายใจ จนเผลอก็หลุดปากถามออกไป แล้ว: “คุณตลกไปละ? แต่ไหนแต่ไรมาฉันไม่เคยมีนิสัยนอน แล้วพูดละเมอ ยิ่งไม่มีนิสัยแปลกๆอย่างพวกเตะหรือตีคน คุณ ไม่ต้องมาใส่ร้ายกันเลย

เพิ่งเจ๋อเฉิงเลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วยิ้มแห้ง “คุณหลับไปแล้ว จะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองทำอะไรลงไป?”

เงินอีเวยเงียบไป ช่วงเวลานี้ หล่อนรู้สึกได้ถึงท่าทีที่ เปลี่ยนไปของเพิ่งเจ๋อเฉิง ตอนที่เขาพูดประโยคเมื่อครู่นั้นแม้จะ เป็นการยิ้มเยาะ แต่แตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง

การยิ้มแห้งๆของเขาก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยการเสียดสี และการปรามาสแแต่ว่าเมื่อครู่เสิ่นอีเวยกลับไม่รู้สึกถึงอารมณ์ แบบนั้นเลย

จะพูดยังไงดีล่ะ? ตรงกันข้ามกลับเหมือน…คู่สามีภรรยา ทั่วไป ราวกับเป็นการต่อล้อต่อเถียงประจำวันทั่วๆไป
เงินอีเวยยกมุมปากแล้วตอบกลับว่า : “ฉันไม่อยากเถียง เรื่องพวกนี้กับคุณ ไม่ต้องมาหลอกล่อฉันเลยนะ

ตอนที่กำลังพูดประโยคออกมานี้ เป็นอีเวยก็ยืนขึ้น ใคร บางคนได้ยินคำตอบแบบนี้กลับรู้สึกไม่ถูกใจเลยยื่นมือออกไป แล้วดึงเสิ่นอีเวยเข้ามากอดแทน เพิ่งเจ๋อเฉิงที่กำลังนั่งอยู่ข้าง เตียงฉะนั้นจึงทำให้ตำแหน่งของเธออยู่สูงกว่าเขามาก

ศีรษะของเซิ่งเจ๋อเฉิงอยู่ตรงหน้าอกของหล่อนอย่างพอดิบ พอดี เสิ่นอีเวยถึงกับเกิดอาการทำตัวไม่ถูก

ก็เพราะเพิ่งเจ๋อเฉิงที่เป็นแบบนี้ไง หล่อนถึงไม่ชินเอามาก

การกระทำที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันเกินไป เงินอีเวยยิ่ง อยากหนีออกมา จะสู้ก็ไร้ประโยชน์ เลยคิดเปลี่ยนเรื่องเลยดี

กว่า

“งั้นก็ได้ ถ้าคุณยืนกรานจะพูดเรื่องนี้ให้ได้งั้นก็เอาหลัก ฐานออกมาสิ ไม่อย่างนั้นฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคุณพูดจริงหรือ หลอก? ฉันละเมอพูดว่าอะไรล่ะ?”

เงินอีเวยต้องการกลบเกลื่อนบรรยากาศที่กำลังเก้อเขิน ให้มาเป็นปกติดั้งเดิม ดังนั้นตอนที่พูด เธอจึงตั้งใจให้ท่าทาง ของตนเองมีชีวิตชีวาเล็กน้อย แต่หลังจากที่เธอพูดเสร็จ เพิ่ง เจ๋อเฉิงก็เงียบไปอยู่นาน

ด้านนอกหน้าต่างมีลมพัดเข้ามา พัดผ่านผ้าม่านสีขาว

ครีมลอยปลิวไสวขึ้นไปมา เส้นผมบนหน้าผากของเล่นอีเวยสองเส้นถูกพัดลอยขึ้น ถึงแม้เพิ่งตื่นนอนและยังไม่ได้ล้างหน้า ก็ตาม ผิวพรรณของเสิ่นอีเวชก็ยังขาวใสบริสุทธิ์อย่างหาที่ใด เปรียบได้

เพิ่งเจ๋อเฉิงยกศีรษะขึ้นมองหล่อนเล็กน้อย ปลายจมูก เกือบจะแตะหน้าอกของหล่อน เงิน เวยเป็นหลังเล็กน้อย แต่ก็ ค้นพบว่าร่างกายแข็งทื่ออยู่บ้าง จนถึงขณะนี้หล่อนถึงเพิ่งจะรู้ ว่า แท้จริงแล้วตนเองกลัวการสัมผัสใกล้ชิดกับเชิงเจ๋อเฉิง ขนาดนี้ โดยเฉพาะเมื่อรู้อย่างชัดเจนแล้วว่าอารมณ์และความ รู้สึกของอีกฝ่ายนั้นเปลี่ยนแปลงไป

“คุณละเมอพูดว่า เพิ่งเจ๋อเฉิงคุณปล่อยฉันไปเถอะ” ผู้ชาย พูดออกมาอย่างฉับพลัน

เงินอีเวยตะลึงงัน อากาศโดยรอบเยือกเย็น ในฉับพลัน

หล่อนเองที่เป็นคนให้เพิ่งเจ๋อเฉิงเอาหลักฐานออกมา ตอน นี้กลับไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี อันที่จริงสิ่งที่เพิ่งเจ๋อเฉิงพูดออกมา นั้น เสิ่นอีเวยเชื่ออยู่แล้ว

คำพูดแบบนี้ ครั้งหนึ่งหล่อนเคยพูดต่อหน้าเพิ่งเจ๋อเฉิง แถมไม่ใช่เพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ มันก็ กลายมาเป็นความคิดที่จริงใจที่สุดของหล่อน

ดูเหมือนว่าคำพูดที่ว่ากลางวันมีความคิด กลางคืนก็เก็บ เอากลับไปฝันถึงนั้นเป็นจริง เสิ่นอีเวยถอนหายใจอยู่ในใจ

“นี่คือเรื่องที่อยู่ในใจของคุณเหรอ?” เพิ่งเจ๋อเฉิงถามอีกครั้ง

ในใจเสนอเวยกระโดดโลดเต้น มันอัดแน่นไปด้วยความ รู้สึกโศกเศร้าเสียใจ วันนี้เป็นอะไรไปเนี่ย? ตอนแรกก็ยัง อารมณ์ที่สนุกสนานอยู่เลย? แต่ทำไมตนเองถึงรู้สึกอยาก ร้องไห้อย่างนี้ล่ะ?

เสิ่นอีเวยนิ่งเงียบ

“ตอบฉันสิ”

แม้จะเป็นการเตือน แต่ว่าเงินอีเวยกลับไม่รู้สึกถึงความ

ดุดัน

“คุณอยากฟังความจริงงั้นเหรอ?” หล่อนก้มศีรษะสบตา เพิ่งเจ๋อเฉิง พูดเบาๆ

“แน่นอน” สงบนิ่งและเฉียบขาด

ในสายตาของเซ่งเจ๋อเฉิงมีประกายเย็นเยียบ เพียงแค่ แวบเดียวเท่านั้

เงินอีเวยพูดออกไปเพียงคำเดียว ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ผ่าน

ไปนาน เพิ่งเจ๋อเฉิงก็เปิดปาก “หลังจากนี้ผมจะไม่ให้โอกาส คุณได้พูดแบบนี้อีกแล้ว

ชั่วขณะหนึ่งเป็นเวยยังไม่ทันตั้งตัวว่าประโยคนี้หมายถึง อะไร รอจนตั้งสติได้ หัวใจก็รู้สึกเหมือนถูกทิ่มแทงด้วยของมีคม เจ็บปวดอย่างไม่น่าเชื่อ

“เมื่อคืนคุณรู้สึกอย่างไรบ้าง

คำถามที่โพล่งขึ้นมาฉับพลัน เสิ่นอีเวยถึงกับอึ้งไปสักพัก

ถึงได้ตอบเพิ่งเจ๋อเจิงได้

คำถามแบบนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าจะถามแบบสุ่มสี่สุ่มห้าแบบ นี้ก็ได้ด้วยหรอ!? เสิ่นอีเวยพูดอะไรไม่ออก เธอโมโหจนพูดใน สิ่งที่ไม่น่าฟังออกมา

“ไม่รู้สึกอะไร”

อุณหภูมิในดวงตาของเพิ่งเจ๋อเฉิงเย็นเยียบลง เอวบาง คอดกิ่วของเสิ่นอีเวยถูกหยิกอย่างรุนแรง หล่อนร้องเสียงหลง แต่ที่ได้รับมากลับเป็นคำเตือนที่ดุดันจากเพิ่งเจ๋อเฉิง

“คุณพูดอีกรอบซิ?”

แน่นอนว่าเงินอีเวยไม่ได้โง่พอจะพูดอีกรอบ หล่อนก้าว ถอยหลังเงียบๆแล้วเดินจากไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ