นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่464สิ่งที่คุณต้องการผมจะมอบให้ คุณทั้งหมด



บทที่464สิ่งที่คุณต้องการผมจะมอบให้ คุณทั้งหมด

บทที่464 สิ่งที่คุณต้องการผมจะมอบให้คุณทั้งหมด

เสิ่นอีเวยนิ่งอึ้ง คิดไม่ถึงว่าอยู่ๆเพิ่งเจ๋อเฉิงจะพูดอย่างนี้ จึงถาม: “คุณเป็นอะไรไป?”

ดวงตาเซิ่งเจ๋อเฉิงหลุบลง ในเวลานี้เงยหน้าขึ้นมองไป

ทางเสิ่นอีเวย น้ำเสียงจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ผม บอกว่า ผมจะทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ก่อนหน้านี้เป็นผมที่ไม่ดีพอ ไม่รู้สิ่งที่คุณชอบ แต่ว่าต่อไป เกี่ยวกับอาหารที่คุณชอบกิน หรืออาหารที่ไม่ชอบกิน สิ่งของเรื่องราวอันสวยงามที่คุณรักทุก สิ่งทุกอย่าง ผมจะจำเอาไว้ทั้งหมด และจะสรรห รรหาหาทุกสิ่งทุก อย่างมาไว้ตรงหน้าคุณดีมั้ย?”

ร่างทั้งร่างของเสิ่นอีเวยหยุดชะงัก สูญเสียคำพูดไปชั่ว ขณะหนึ่ง เพราะผู้ชายตรงหน้าคนนี้ คำที่เขาใช้สรรหา

นี่เป็นคำที่จริงใจและสุภาพมากคำหนึ่ง? แต่ไหนแต่ไรมา เสิ่นอีเวยไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองจะได้ยินคำๆนี้จากปาก ของเซิ่งเจ๋อเฉิง

ณ เวลานี้ เขาพะเน้าพะนอหล่อนเหมือนเป็นเด็กเล็กๆคน หนึ่ง ตามใจหล่อนเหมือนกลัวว่าหล่อนจะไม่มีความสุข
ไม่สนว่าเงินอีเวยจะคิดอย่างไร ความหวานละมุนในใจที่ มากมายนั้นก็ขยายใหญ่ขึ้นอีก มุมปากของหล่อนมีรอยยิ้มผุด ออกมาโดยไม่รู้ตัว ท้ายที่สุด เพิ่งเจ๋อเฉิงก็ได้ยินหล่อนพูดว่า :

เวลาอีกสามวันต่อจากนี้ ก็จะผ่านไปในลักษณะนี้ ทุกวัน เงินอีเวยจะนอนอยู่ในห้องจนกว่าจะตื่นขึ้นมาเอง ตื่นมาแล้วก็ จะมีเพิ่งเจ๋อเฉิงทำอาหารอร่อยๆ ด้วยตนเองรอหล่อนมากิน พร้อมกัน อาจจะเป็นเพราะการทรมานจากเมื่อหลายวันก่อน ทําให้ร่างกายของหล่อนรับไม่ไหว

เมื่อวานโทรไปหาหยางอันหรานกับเหมียนเหมียนเพื่อ รายงานความปลอดภัย ทางนั้นจึงวางใจไปได้ส่วนหนึ่ง

ตอนหยางอันทรานได้ยินว่าหล่อนกำลังอยู่กับเซิ่งเจ๋อเฉิง คนปลายสายก็ประหลาดใจจนคางแทบหลุดออกมา แถมพู ครัวๆไม่หยุดพักเลย “เธอดูสิดูเอาสิ ตอนแรกเริ่มฉันพูดไว้ว่า ยังไง?! ฉันเคยบอกว่าช้าเร็วพวกเธอสองคนจะต้องมีเรื่องให้ กลับมาอยู่ด้วยกันใช่มั้ย? ก็ยังไม่เชื่อฉัน

หยางอันทรานพล่ามในสายโทรศัพท์เสียยาวเหยียด จน สมองของเสิ่นอีเวยเริ่มปวด ก็เห็นว่าหยางอันหรานยังคงมีคำ ซักถามไม่หยุดหย่อน จึงอธิบายไปไม่กี่คำและวางสายไป

ต้นเหตุและสาเหตุทั้งหมด ทำไมทุกอย่างจึงเปลี่ยนเป็น ราบรื่นในทันที แม้แต่ตัวเสิ่นอีเวยเองก็ยังต้องการเวลาในการ อธิบาย สําหรับคนรอบข้างว่าจะเล่าเรื่องของตนเองและเพิ่งเจือเฉิงอย่างไร คงต้องรอหลังกลับจากภูเขาจิ๋วเหมิงค่อยว่ากัน

หลายวันมานี้ หล่อนคิดแค่จะแก้ไขเรื่องราวที่นี่ไปพร้อม กับเซิ่งเจ๋อเฉิง จากนั้นก็จะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมของพวกเขา อย่างสบายใจได้อีกครั้ง ถึงตอนนั้น ทุกอย่างก็จะสงบสุขแล้ว

ช่วงหลายวันมานี้เสิ่นอีเวยพักอยู่แต่ในห้องไม่เคยออกไป

ข้างนอก ที่นี่ยังไม่สงบเท่าไหร่นัก หล่อนเองก็จะไม่ออกไปไหน

ด้วย ไม่ต้องพูดถึงว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงเองก็คงไม่อนุญาต ในวัน

ธรรมดาช่วงหลังตื่นนอนขึ้นมาเพิ่งเจ๋อเฉิงก็จะอยู่ด้วยตลอด มี

อยู่ครั้งหนึ่งหล่อนได้ยินหลินอบอกว่าตอนที่หล่อนหลับอยู่เชิง

เพื่อเพิ่งจะออกไปตลอด ตอนที่อยู่ข้างนอกก็จัดการเรื่องนั้นที่

หานฉีเฟิงขอให้เขาช่วย

ดูเหมือนว่าคนกลุ่มนั้นของท่านฉิน จะจัดการไม่ง่ายนัก ไม่อย่างนั้นเพิ่งเจ๋อเฉิงก็คงไม่ต้องเสียเวลาอยู่ที่นี่เกือบหนึ่ง สัปดาห์หรอก

เสิ่นอีเวยก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยกังวลใจ แต่ในใจหล่อนเองก็รู้ดี ว่าเรื่องนี้หล่อนช่วยอะไรเพิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่ได้พูด อะไรมาก จึงได้แต่แอบถามหลินอว่าเขาจะมีอันตรายอะไร หรือไม่

หลินอยิ้มแล้วตอบหล่อนว่า “คุณผู้หญิงวางใจเถอะ ท่านประธานไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องอะไรกับตนเองแน่ครับ

เมื่อพูดอย่างนี้แล้ว ใจของเงินอีเวยก็เบาใจไปได้ครึ่งหนึ่ง แต่อีกครึ่งก็ยังคงกังวลอยู่ไม่น้อย
เพียงแต่ทุกครั้งตอนที่เพิ่งเจ๋อเฉิงกลับมาจากข้างนอก มัก จะเอาความทุกข์ใจกลับมาด้วย แม้ว่าจะไม่มีตรงไหนได้รับ บาดเจ็บ แต่เนิ่นอีเวยก็ยังเห็นว่าเขามีท่าทีกังวลใจ ในใจอดไม่ ได้ที่จะเป็นห่วง

วันนี้ ตอนที่เพิ่งตื่นขึ้นมา ก็เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว เมื่อ ลืมตา เสิ่นอีเวยก็เห็นแผ่นหลังของผู้ชายที่คุ้นเคยยืนอยู่หน้า กระทะ กำลังหันหลังให้หล่อนทำอาหารอะไรอยู่

ดูเหมือนว่าจะมีสมาธิในการทำอย่างมาก เพิ่งเจ๋อเฉิงจึง ไม่ทันสังเกตว่าเงินอีเวยตื่นแล้ว สาวน้อยในชุดนอนที่เป็นเสื้อ เชิ้ตสีขาวตัวยาวบนเตียงลุกขึ้นจากเตียงอย่างแผ่วเบา ด้วย เพราะกลัวรองเท้าจะทำให้เกิดเสียงบนพื้น ดังนั้นเป็นอีเวยจึง เดินเท้าเปล่าเงียบๆไปยังชายหนุ่มที่กำลังทำอาหารอยู่

เพิ่งเจ๋อเฉิงกำลังใส่ใบชาลงในกุ้งที่มีกลิ่นหอมยั่วเย้า พลันรู้สึกถึงวงแขนหนึ่งที่โอบรอบเอวตนเอง การเคลื่อนไหว ของเขาหยุดชะงัก แล้วค่อยๆหันหน้าไปถามเงินอีเวย “ตื่น แล้วเหรอ?”

เสิ่นอีเวยแนบแก้มซ้ายติดกับแผ่นหลังที่หนาและอบอุ่น ของเขา ปลายจมูกสูดดมกลิ่นน้ำหอมที่สกัดมาจากไม้อ่อนๆ บนร่างของเพิ่งเจ๋อเฉิง คิดในใจ ผู้ชายคนนี้ไม่ว่าเขาจะไป ที่ไหนหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างไร ก็ยังคงมีความ พิถีพิถันอย่างนี้ตลอด

เงินอีเวยพยักหน้าเล็กน้อยให้กับแผ่นหลังของเขา เพิ่งเจ๋อรับรู้กระทำของหล่อน มุมปากโค้งขึ้นอย่างอัตโนมัติ กล่าวว่า อาหารแล้ว เตรียมกินข้าวได้เลย”

เมื่อได้รับการเตือนแล้ว เสิ่นอีเวยสูดหายใจเฮือกหนึ่ง จึง พบว่า อากาศปล่อยเพิ่งเจ๋อเฉิงแล้วหันหน้าไปมอง ดวงเป็นประกาย สดใสอุทานด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจกุ้งผัดชาจึง

ต้องไว้ว่า หล่อนชอบกินและเมนูเกี่ยวก็กุ้งผัดชาหลงจึง เมนูจะบอกทำก็ได้ยาก มาก แต่ต้องพิถีพิถันและใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ปกติแค่ ข้าวอบซี่โครงหมูและผัดก็ถือว่ามากแล้ว เสิ่นอีเวยไม่ ว่า เพิ่งเจ๋อเฉิงจะความอดทนขนาดนี้ ทำอาหารหล่อน ชอบกินที่สุดอย่างกุ้งผัดหลงจึงให้หล่อนด้วยตนเอง

เมื่อพ่อครัวสั่งแล้ว เสิ่นอีเวยจึงตักข้าวอย่างมีความสุข ตั้งบนโต๊ะตัวเล็ก ทั้งสองนั่งลงและกิน

เสิ่นอีเวยกุ้งผัดชาหลงจึงไปหนึ่งพอปากก็ หอมอย่างหาเชฟมาเองเลยทีเดียว

เพิ่งเจ๋อเฉิงอยู่ตรงข้ามหล่อน พอดีนี้เขาสวมเสื้อ เชิ้ตสีมองแล้วสดชื่นเป็นมาก ถึงแม้ว่าจะเขม่า ที่มาตอนทำอาหารบ้าง ได้ทำให้เขาดูเลย แต่น้อย

เสิ่นอีเวยมองผัดหลงจึงบนโต๊ะ ก่อนจะเงยหน้ามองชายหนุ่มรูปงามตรงข้ามอีกครั้ง พูดออกมาประโยคหนึ่ง “อื้อ คือ ช่างเป็นอาหารแสนวิเศษจริงๆ!

เพิ่งเจ๋อเฉิงได้ยินประโยคนี้ก็หยุดไปครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้น มองหล่อน พูดด้วยเสียงเบาๆว่า : “นอนมาตั้งนานขนาดนี้ยัง ไม่หิวอีกเหรอ? กินข้าวเยอะๆ เชื่อฟังผมหน่อย

เสิ่นอีเวย “ ”

ต้องรู้ไว้เลยว่า หล่อนไม่มีภูมิต้านทานใดๆ ต่อน้ำเสียง อ่อนหวานแบบนี้ของเซิ่งเจ๋อเฉิงจริงๆ

เงินอีเวยกินข้าวคำใหญ่อยู่ในปาก ค่อยๆเคี้ยวและกลืน ลงไปอย่างช้าๆ มองเชิงเจ๋อเฉิงแล้วถามว่า “คุณบอกความ จริงฉันมา ช่วงที่ฉันจากไปไม่กี่วันมานี้ คุณแอบไปเรียนทำ อาหารจากเชฟมาโดยเฉพาะใช่มั้ยเนี่ย?

เพิ่งเจ๋อเฉิงได้ยิน มือที่กำลังคีบอาหารหยุดชะงัก แล้ว ตอบหล่อน ไปหาเชฟเพื่อเรียนทำอาหารหน่ะจริง แต่ไม่ใช่ ช่วงที่คุณจากไปไม่กี่วันมานี้หรอก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ