นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่212ให้เวลาพวกคุณสิบวิน าทีให้หายไปจากที่นี่



บทที่212ให้เวลาพวกคุณสิบวิน าทีให้หายไปจากที่นี่

บทที่ 212

ให้เวลาพวกคุณสิบวินาทีให้หายไปจาก

ที่นี่

เนื่องจากเพราะฤทธิ์เหล้าเลยทำให้เสิ่น เมื่อสักครู่นีได้เห็นสายตาของเซิ่งเจ๋อเ

อีเวยมีความมึนเมา

ฉิง

เหมือนรู้สึกว่าจิตใจอันอ่อนโยนของเธ อนั้นถูกสายตาที่น่ากลัวทำร้ายเข้าให้

ชัดเจนว่ารู้สึกเจ็บปวด

แต่ในใจกลับรู้สึกถึงความปลอดภัยอย่า งบอกไม่ถูก

เสิ่นอีเวยยังอยู่ในห้วงแห่งจินตนาการข องเธอ

แต่เมื่อสักครู่ที่เพิ่งเจ๋อเฉิงพูดกับเธอนั้น เลยทำให้เธอกลับมามีสติอีกครั้ง

เป็นเพราะการดื่มเหล้าที่มากเกินไป เสิ่นอีเวยเลยมีหน้าตาที่แดงก่ำ บางคนมีอาหารแพ้เหล้า ซึ่งเสิ่นอีเวยก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ดังนั้นเลยทำให้หน้าและส่วนคอของเธ อนั้นมีเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเหมือนอากา รแพ้เหล้า

สีผิวของเธอนั้นมีความขาว เสมือนกับสีขาวราวกับหิมะ โดยเฉพาะแสงสีที่มากมายเลยทำให้เธ อนั้นยิ่งมึนเมาเข้าไปใหญ่

ถึงแม้ขนาดที่เจิ้งอวิ๋นชวนที่อยู่ข้างๆ โดยเดิมทีแล้วหยุดอยู่ที่ข้าง ๆ เซิ่งเจ๋อเฉิงแต่ตอนนี้กลับถูกดึงดูดไปโ ดยเสนอเวย

เซิ่งเจ๋อเฉิงเห็นเจิ้งอวิ๋นชวนได้เห็นถึงส ายตาที่เจิ้งอวิ๋นชวนได้มองไปยังเสิ่นอีเ

วย

ซึ่งสายตาที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็นแ

ละการตักเตือนอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เพียงสักครู่เดียวเซิ่งเจ๋อเฉิงก็เลยรีบ

เก็บสายตาของตัวเอง เสิ่นอีเวยอยู่ห่างจากเขาไม่ถึงหนึ่งเมต ๆเพื่อมองเซิ่งเจ๋อเฉิงและได้พูดอย่างร ะมัดระวังว่า “คุณมาจริง ๆ หรือนี่”

ร เธอได้ลืมตากว้าง

เซิ่งเจ๋อเฉิงได้ขมวดคิ้วแล้วพูดด้วยควา มเยือกเย็นอย่างเป็นที่สุดว่า “ทำไม ? ในสายผมบอกว่าจะมา คุณคิดว่าผมพูดเล่นหรือ ? ” ไม่รู้ว่าเล่น เวทนความรู้สกกล้วกลับ

พยักหน้า

พอพยักหน้าเสร็จจึงมีความรู้สึกว่ามีตร งไหนไม่ถูกต้อง

เลยรีบส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ ไม่ใช่ ชั้นไม่ได้หมายความว่าแบบนี้”

แต่ว่าเสิ่นอีเวยรู้สึกมีความมึนเมาอยู่ใน

หัว

เลยไม่สามารถที่จะรับรู้อะไรได้มากมา ย เลยทำให้ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เลยได้เพียงแต่ก้มหัวลง

เป็นเพราะฟ้านั้นชอบกลั่นแกล้งชั้นน่ะห เพราะอะไรจะต้องให้เซิ่งเจ๋อเฉิงมาในเ

รือ?

วลานี้ด้วยเล่า ?

ตัวเองเพียงเพราะอยากช่วยเซิ่งเจ๋อเฉิ งเลยตอบรับเจิ้งอวิ๋นชวนด้วยการดื่มเห ลา

เสิ่นอีเวยจะไม่ยินยอมเด็ดขาดถ้าจะให้เ ซิ่งเจ๋อเฉิงรู้ว่าเธอทำไปเพราะอะไร ความจริงเสิ่นอีเวยรู้ตัวเองดีว่ากว่าคนอื่

นว่า

การดื่มเหล้าต่อหน้าเจิ้งอวิ๋นชวนนั้นเป็น วิธีที่ต่ำตมที่สุด แต่เธอก็ไม่มีวิธีอื่น

เธอจำได้อย่างแม่นยำ

ตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่

มีครั้งหนึ่งเคยได้บอกกับเธออย่างหนัก

แน่นมาก ๆ

ในบนโลกนี้

คนมากมายจะมีความรักศักดิ์ศรีของตน

มากกว่าสิ่งอื่นใด

แต่ความจริงแล้วนี่คือสิ่งที่ธรรมดาของ

มนุษย์

ไม่มีอะไรที่น่าอับอายหรือถูกดูถูกหรือ ก

แต่ว่ามีความน่าพิศวงอย่างน่าประหลา

ดใจคือ

เมื่อเห็นคนที่ตัวเองนั้นรักสุดหัวใจถูกค นนอกนั้นมาทำร้าย

ทุกคนก็จะยืนหยัดและเข้มแข็งขึ้นมาเอ

ยามที่คนมีความรู้สึกอยากปกป้องคนรั ก็จะไม่ไปสนใจสายตาของคนนอกอย่า

กของตนเองนั้น

งแน่นอน

ตอนนั้นเสิ่นอีเวยอายุน้อยมีความมุ่งมั่น

ไม่เข้าใจความหมายของเธอแม่ เลยไม่ได้เห็นด้วยอะไร ณ ตอนนี้จึงทำให้เธอรู้สึกเห็นด้วยถึงควา มหมายของแม่เธอ

ยามที่เสิ่นอีเวยไม่รู้ถึงความหมายอันลึ กซิงของประโยคนน

เลยไม่ได้ทำให้เธอนั้นไปตามหาคำตอ

ตอนนั้นแม่ของเธอนั้นยิ้มเบาๆ แล้วพูดอย่างเป็นกลางว่า “ตอนนี้เธอนั้นยังเด็กอยู่ หรืออาจจะยังไม่รู้ถึงเหตุผลพวกนี้ แต่วันหนึ่งเธอจะต้องเข้าใจอย่างแน่นอ น”

ซึ่งเสิ่นอีเวยคิดว่าตอนที่พูดกับแม่นั้นเป็ นเพียงแค่ความบังเอิญในการพูดคุยแค่ นั้นเอง ดังนั้นเลยไม่ได้ใส่ใจอะไร แม้กระทั่งไม่ได้คิดถึงคำพูดนี้เป็นเวลา

นานมาก

ในหัวของเธอก็ลืมเรื่องนี้ไปนานมากเสี

ยแล้วด้วย

แต่ใน ณ เวลานเธอกลับกระจ่างขึ้นมาทันที

กับคำพูดที่แม่ของเธอนั้นพูดเอาไว้ว่านั่ นคือสิ่งที่ถูกต้อง

และพิสูจน์ได้จากสิ่งที่เธอได้รับ

หากเป็นเช่นนี้เป็นการละทิ้งศักดิ์ศรีของ แต่สำหรับเซิ่งเจ๋อเฉิงจะเข้าใจความใน

ตนเองหรือ ?

ใจเธอไหม ?

หรือเป็นเพียงแค่คิดไปเองเท่านั้นแค่นั้

นเอง

เซิ่งเจ๋อเฉิงได้ตรวจสอบเสิ่นอีเวยตั้งแต่

หัวยันขา

นอกจากสติที่มีอาการมึนเมาแล้ว ส่วนอื่นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้เขานั้นได้ถีบประตูอ อกมา เล่นอีเวยยืนอย่างไร้เรี่ยวแรง

แต่เพิ่งเจ๋อเฉิงก็ได้รู้สึกสบายใจไปอีกช่ วงหนง

ความเป็นห่วงผู้หญิงคนนี้ขนาดนี้ ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเป็น ทำไมตอนนี้ถึงปรากฏออกมา ? เซิ่งเจ๋อเฉิงรู้สึกไม่ชัดเจน

หากพูดตามสถานการณ์ เขาไม่สามารถที่จะไปวิเคราะห์อะไรได้ มากมาย

เซิ่งเจ๋อเฉิงได้เดินไปข้างหน้าสองก้าว

และได้นำตัวของเสิ่นอีเวยแบกหลังอย่ างเป็นธรรมชาติ

เขาได้มองสีหน้าที่สับสนของเจิ้งอวิ๋นช วน และได้พูดอย่างเย็นยะเยือกว่า

“คุณชายเจิ้งนำภรรยาผมมาที่นี่

ไม่รู้ว่าจะกระทำการใด” ณ

ตอนที่เพิ่งเจ๋อเฉิงนั้นได้เข้ามาที่ประตู ทุกคนในที่นั้นก็ได้รู้แล้วว่าเป็นเขา

ประธานของบริษัทเซิ่งชื่อ

หากเป็นคนที่ติดตามข่าวเกี่ยวกับนักธุร กิจบ่อย ๆ ก็คงไม่มีใครไม่รู้จักเขา

ก่อนหน้านี้ห้านาที

ทุกคนได้ครุ่นคิดถึงผู้หญิงคนนี้ที่ได้ล่ว งเกินคุณชายเจิ้งลงไป

ทันใดนั้นเพิ่งเจ๋อเฉิงได้เข้ามา

เหมือนกับลมพายุที่พัดเข้ามา

โดยไม่มีการรู้ล่วงหน้าเลย เหมือนกับการที่นิสัยการทำงานของเข านั่นเอง

ทุกคนที่อยู่บนโซฟานั้นต่างมองหน้ากั นด้วยการไม่พูดอะไร แต่สายตาทุกคนก็ต่างมองถึงละครตอ

นต่อไป

เมื่อทุกคนรอคอยคำตอบของเจิ้งอวิ๋นช วนที่กำลังจะตอบเซิ่งเจ๋อเฉิงอยู่นั้น ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงแห่งความเย็นน่าก

ล้วพัดออกมา

“พวกทุกคนที่อยู่ตรงนั้น

ทุกคนก็รู้จักผมหรืออาจจะรู้จักคนของ

ผม

ให้พวกทุกสิบวินาทีให้รีบออกไปจากที่ นี่เดี๋ยวนี้”

เสียงของผู้ชายคนนี้เหมือนกับได้เอามี

ดทิ่มแทงคนไปทั่ว

โดยทิ่มแทงไปยังหูของทุกคน

เลยทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนกำลังทำสง ครามเย็น แต่คนที่พูดนี้ไม่ใช่เจิ้งอวิ๋นชวน

แต่เป็นเซิ่งเจ๋อเฉิง

พอเซิ่งเจ๋อเฉิงพูดเสร็จ

เจิ้งอวิ๋นชวนก็มีสีหน้าที่น่าเกลียดขึ้นมา ทุกคนที่อยู่บนโซฟาพอได้ยินคำพูดขอ งเซิ่งเจ๋อเฉิงก็ได้มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป เซิ่งเจ๋อเฉิงพูดไม่ผิดว่าทุกคนในนั้นไม่ มีใครไม่รู้จักเขา

เพราะว่าทุกคนเป็นลูกของบริษัทที่เขา ทำการร่วมมือลงนามด้วยกับพ่อของพว กเขา

ซึ่งตอนนี้ก็ได้รู้จักพวกเขาทั้งหมด เลยไม่ได้มีความน่าแปลกใจอะไร คำพูดเมื่อสักครู่ของเซิ่งเจ๋อเฉิงไม่มีใค

รฟังไม่รู้เรื่อง ในเมืองแห่งนี้ เพียงแต่รู้ชื่อของเซิ่งเจ๋อเฉิงเท่านั้น ก็จะรู้ทันทีว่าการทำงานของเซิงเจอเฉิ งนั้นเป็นอย่างไร

วินาทีต่อมา ทุกคนก็ค่อยๆ ลุกออกจากห้องนี้ไป

พอเดินไปไม่ถึงครึ่งก้าว

เจิ้งอวิ๋นชวนก็ได้พูดออกมาด้วยความเ ย็นชาว่า

“ผมให้พวกคุณไปแล้วหรือ ? ” 193597817_482976422968547_1964582967374018178_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ