นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่199เสิ่นอีเวยถูกเจิ้งอวิ๋นชว นกลั่นแกล้ง



บทที่199เสิ่นอีเวยถูกเจิ้งอวิ๋นชว นกลั่นแกล้ง

เสิ่นอีเวยถูกเจิ้งอวิ๋นชวนกลั่นแกล้ง

เสิ่นอีเวยจับกระเป๋าในมือแน่นและซุกตั วไม่ขยับเขยื้อนอยู่ที่มุมลิฟต์

เบื้องหน้าของเธอมืดมิด เพราะเธอขี้ขลาดมาแต่ไหนแต่ไร เธอยังรู้สึกว่าเธอจะสามารถมองเห็นสิ่ง แปลกๆ

โผล่ออกมาที่มุมลิฟต์ได้ในวินาทีถัดไป เวลาทยอยผ่านไปทุกนาที เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าการหายใจของเธอนั้น ลำบากขึ้นเรื่อยๆ อย่างชัดเจน เธอยกมือขึ้นกดเปิดหน้าจอมือถือ แต่หน้าจอก็ยังไม่มีสัญญาณ

ราวกับว่าเธอได้ตัดขาดการติดต่อกับโล แต่บางครั้งหัวใจของเสิ่นอีเวยก็จะมีคว ามรู้สึกว่าตนเองนั้นอยู่ในที่มืดอันไร้ขอ

กไปอย่างสิ้นเชิง

ความเงียบรอบตัวช่างน่ากลัว พื้นที่ลิฟต์มีขนาดเล็กมาก

บเขต

ความรู้สึกไร้ขอบเขตเช่นนี้ทำให้เสิ่นอีเ วยหายใจไม่ออกและสิ้นหวัง

หัวใจของเธอเต้นระส่ำอย่างรุนแรงอยู่ ภายในทรวงอกราวกับว่าเต็มไปด้วยพล

ะกำลัง

แต่ก็เหมือนกับว่ามันจะหยุดเต้นเมื่อใด ก็ได้

ทันใดนั้นลิฟต์ก็มีเสียงเสียดสีดังกระชั้น ขึ้นมา

เสิ่นอีเวยสะดุ้งตกใจ “อา!”

เสียงกรีดร้องเล็กแหลมเสียดหูของผู้ห ญิงดังขึ้นในที่แคบๆ เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าตนเองกำลังจะหูหนวก

และไม่มีเสียงสะท้อนใดๆ

เธอยกมือขึ้นปิดหูแน่น พยายามทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น

แต่เสียงเสียดสีนั้นดังมากจนการป้องกั นของเธอนั้นไร้ประโยชน์

ทันใดนั้นลิฟต์ก็เริ่มร่วงหล่นลงมาอย่าง รวดเร็ว หัวใจเหมือนถูกโยนทิ้งไป ความรู้สึกไร้น้ำหนักอย่างมหาศาลและ ความรู้สึกว่างเปล่าเข้ามาโจมตีด้วยควา มเร็วอันสูงสุด

เสิ่นอีเวยหลับตาปี่ด้วยความหวาดกลัว เธอไม่ได้สังเกตว่าไฟบนหน้าจอแสดง ผลในลิฟต์ก็สว่างขึ้นเช่นกัน ในขณะนี้ตัวเลขระดับชั้นได้ปรากฏขึ้นอ ย่างรวดเร็ว 18, 17, 16…

ลิฟต์ตกลงมาอย่างรวดเร็ว แต่เสิ่นอีเวยรู้สึกราวกับว่าเธอได้ผ่านไ ปหนึ่งศตวรรษแล้ว

เธอรู้สึกว่าเส้นประสาททั่วทั้งร่างกายข

องเธอหดเกร็ง

เธอกุมศีรษะของเธออย่างแน่นหนา ไม่ขยับเขยื้อน

ปล่อยให้ร่างของเธอถูกปะทะอย่างรุน แรงจนระเนระนาด

ในที่สุดลิฟต์ที่กำลังตกลงมาก็ได้หยุดล งอย่างกะทันหันในช่วงเวลาหนึ่ง

เนื่องจากความเฉื่อย กะโหลกของเสิ่นอีเวยจึงกระแทกเข้ากั บผนังลิฟต์อย่างหนักหน่วง เธอไม่รู้สึกเจ็บปวดแต่รู้สึกวิงเวียนศีรษ ะไปหมด

เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าความตระหนักรู้ของเธ อนั้นไม่ชัดเจนแล้ว

ในเวลานี้แสงไฟในลิฟต์ก็สว่างขึ้นมาอ

ย่างกะทันหัน

เนื่องจากแสงสว่างแรงเกินไป เสิ่นอีเวยจึงรู้สึกแสบตา

เธอพยายามลืมตาขึ้น

ในที่สุดก็เห็นภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงห น้าอย่างชัดเจน ลิฟต์ที่ว่างเปล่า

แต่ความหวาดกลัวและความตึงเครียดใ นใจของเธอก็ลดน้อยลงด้วยแสงไฟอัน ฉับพลัน

ในเวลานี้ประตูลิฟต์ก็เปิดออกทันที อากาศบริสุทธิ์ไหลเข้าสู่พื้นที่ปิดในทัน

ใด

เสิ่นอีเวยรู้สึกได้ถึงลมที่พัดเข้ามาตรง หน้าเธอ

เธอยังคงนั่งอยู่กับพื้นเหมือนเดิม เงยหน้าขึ้นมองภายนอกลิฟต์ที่เต็มไป

ด้วยผู้คน

รวมถึงพนักงานฝ่ายอาคารและผู้คนที่ร ายล้อมอยู่รอบๆ

“คุณครับ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม!”

ชายในเครื่องแบบคนหนึ่งซึ่งดูเหมือนพ นักงานฝ่ายทรัพย์สินของอาคารรีบวิ่งเ ข้ามาแล้วคุกเข่าไปทางเสิ่นอีเวย น้ำเสียงแฝงไปด้วยความกังวล

เสิ่นอีเวยเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ พนักงานคนนั้นก็เห็นหน้าเธอได้อย่างชั ดเจนในเวลานี้เอง

สีหน้าของฝ่ายหลังตกใจเล็กน้อย

หญิงสาวคนนี้ก็คือประธานของบริษัทเ ซิ่งซื่อ เป็นภรรยาของเซิ่งเจ๋อเฉิงไม่ใช่หรือ?

ในเมืองนี้แทบจะไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่ อเซิ่งเจ๋อเฉิงเจ้าแห่งวงการธุรกิจ โดยธรรมชาติแล้วย่อมมีหลายคนที่รู้จัก กับเสิ่นอีเวยภรรยาของเขา เขาจะกล้ารับผิดชอบได้อย่างไรเมื่อบุค คลสำคัญอันดับหนึ่งเกิดเรื่องขึ้นในลิฟ

ต์ที่ตนเองดูแลอยู่?

พนักงานคนนั้นคิดถึงความสัมพันธ์นี้ เหงื่อบนหน้าผากก็ผุดออกมา

เสียงของเขาสั่นไหวด้วยความกังวลใจ “คุณเสิ่น คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?” เสิ่นอีเวยประหลาดใจเล็กน้อยที่อีกฝ่าย

รู้จักชื่อของเธอ

เธออ้าปากเล็กน้อยเพื่อจะบอกอีกฝ่ายว่ าตนเองไม่เป็นไร แต่พูดตั้งนานก็เพิ่งพบว่าตนเองไม่สาม ารถเปล่งเสียงใดๆ ออกมาได้เลย ลำคอเหมือนมีปุยฝ้ายแห้งอุดตัน

ช่วยไม่ได้ เธอจำต้องหุบปาก

เสิ่นอีเวยยื่นมือข้างหนึ่งออกไปยันผนัง ลิฟต์ ต้องการยืนขึ้นด้วยตัวเอง แต่พอออกแรงก็พบว่าขาทั้งสองข้างนั้ นเจ็บปวดอย่างมาก ขนาดลุกขึ้นยืนยังต้องเปลืองแรง

พนักงานที่นั่งยองๆ อยู่ข้างๆ

ได้รีบเข้ามาพยุงเสิ่นอีเวยให้ลุกขึ้นจาก พื้น สีหน้าของเธอซีดเผือด หน้าผากเปียกชื้อไปด้วยเหงื่อ ริมฝีปากของเสิ่นอีเวยขยับเล็กน้อย พยายามพูดคำว่า “ขอบคุณ” ออกมา

พนักงานปล่อยแขนของเสิ่นอีเวย ฝ่ายหลังยืนอยู่กับที่และพยายามทำให้ จิตใจของตนเองสงบลง แล้วเริ่มเดินช้าๆ ออกไปนอกลิฟต์ เสิ่นอีเวยรู้สึกอย่างชัดเจนว่าก้าวเดินขอ

งเธอนั้นล่องลอยเล็กน้อย

แต่เธอไม่ได้คิดที่จะหยุด เพราะยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องไปทำ

“คุณเงินครับ

ต้องการให้พาไปโรงพยาบาลมั้ยครับ?”

“ใช่แล้ว ตกใจขนาดนี้

ไปโรงพยาบาลตรวจดูหน่อยดีกว่า”

มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นที่ด้านหลังเ สิ่นอีเวยอย่างอื้ออึง

ตอนแรกเธออยากหันกลับไปบอกว่า

“ไม่ต้อง”

แต่เธอรู้สึกว่าร่างกายไม่มีเรี่ยวแรงใดๆ

ดังนั้นจึงไม่สนใจอะไรอีก

แล้วเดินต่อไปอย่างไม่ลังเล

เมื่อครู่เนื่องจากลิฟต์ได้จอดอยู่ที่ชั้นห

นึ่ง

เสิ่นอีเวยจึงเดินไปที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิ นได้โดยตรง

หลังจากขึ้นรถมาแล้วเธอก็เปิดไฟในร

ตอนนี้เธอต้องการแสงไฟที่สว่างไสวเ หมือนปลาที่กำลังจะตายบนชายหาดตั องการน้ำ เสิ่นอีเวยนั่งเงียบๆ ในที่นั่งคนขับและพยายามสงบสติอาร มณ์ ในสมองเกิดนึกถึงอะไรบางอย่าง

เสิ่นอีเวยยกมือขึ้นส่องกับแสงไฟเมื่อดู เวลาบนนาฬิกาข้อมือ เวลาหนึ่งชั่วโมงที่เจิ้งอวิ๋นชวนให้กับเธ อนั้นผ่านไปแล้วมากกว่าครึ่งชั่วโมง ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเครียด

แม้ว่าจิตใจที่ย่ำแย่จะยังไม่กลับคืนสู่สภ แต่เสิ่นอีเวยกลับไม่กล้าลังเลแม้แต่วินา

าวะปกติ

ทีเดียว

เธอสตาร์ทรถเพื่อขับตรงไปยังทางออ

เสิ่นอีเวยขับรถเร็วมาก ระหว่างทางมีการจราจรติดขัด

เกือบหกโมงเย็นเธอจึงมาถึงบาร์ที่เจิ้ง อวิ๋นชวนบอก

เนื่องจากเรื่องลิฟต์มีปัญหา เสิ่นอีเวยเห็นจากกระจกมองหลังว่าสภ าพจิตใจของเธอในขณะนี้ดูเหมือนจะสั บสนเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ทันได้สนใจอะไรมาก

หลังจากจอดรถเธอก็เปิดประตูแล้วเดิน

ไปยังประตูใหญ่หน้าบาร์

หลังจากก้าวเข้ามาแล้วเสิ่นอีเวยก็มอง เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกร ะเป๋า

ไปรอบๆ

ขณะที่กำลังจะโทรหาเจิ้งอวิ๋นชวน เธอก็เห็นชายคนหนึ่งซึ่งมีท่าทางเหมือ นบริกรเดินเข้ามาหา

“ขอโทษครับ คุณเสิ่นใช่ไหม?” บริกรโค้งให้เล็กน้อยแล้วถามด้วยควา

มเคารพ

เสิ่นอีเวยชะงักไป ทันใดนั้นเธอก็เงยหน้ามองบริกรคนนั้น ด้วยสัญญาตญาณแล้วถามด้วยความส งสัยว่า

“คุณรู้ได้อย่างไรว่าฉันคือใคร?”

บริกรที่ยิ้มแย้มแจ่มใสยิ้มและตอบอย่าง สุภาพว่า

คุณเจิ้งเคยให้ผมดูรูปถ่ายของคุณแล้ว “

ดังนั้นผมจึงจำคุณได้

เขาเป็นคนสั่งกำชับให้ผมคอยบริการคุ ณอยู่ที่นี่เป็นพิเศษ”

เสิ่นอีเวยมองบริกรด้วยสายตาสงสัย โดยทั่วไปในฐานะที่เป็นคนในอาชีพบริ

กร

ทัศนคติที่มีต่อพวกเขานั้นค่อนข้างสุภา

พมาก

แต่ตอนนี้บริกรที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอนั้น มีท่าทีเคารพนบนอบเกินไป เมื่อพูดคุยกับเขาเสิ่นอีเวยจึงมีความรู้สึ กไม่ค่อยสบายใจ

วันนี้ที่เจิ้งอวิ๋นชวนเรียกเธอมาคงไม่ใช่เ พียงเพราะงานเลี้ยงบังหน้าหรอกนะ? ช่างมันเถอะ

คำถามนี้มันไม่คุ้มค่าที่จะเสียเวลาคิด ชายคนนั้นกำลังสร้างปัญหาให้กับตัวเอ ง

แต่เมื่อกี้เธอได้ยินบริกรคนนั้นบอกว่าเ หตุผลที่เขาจำตัวเธอได้ก็คือรูปถ่ายขอ งเธอที่เจิ้งอวิ๋นชวนเอาให้เขาดู ทำไมเขาถึงมีรูปถ่ายของเธอได้? เสิ่นอีเวยรู้สึกงงงวย
192832587_234072354716026_7988963125849470488_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ