นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่59 การแข่งขันเพิ่งเริ่มต้น



บทที่59 การแข่งขันเพิ่งเริ่มต้น

บทสนทนาเมื่อครู่ทำให้ทุกคนที่อยู่ในออฟฟิศเงียบเป็น

เป่าสาก

พูดจบ เสิ่นอีเวยก็หันตัวกลับมาพูดกับหมี่ย่าอย่างเยือก เย็นว่า : “ส่วนเธอ ต้องลาออกไปจากบริษัทเซิ่งชื่อ ลูกน้องใน สายงานของฉัน ฉันรับไม่ได้ที่เธอเป็นคนหยิ่งผยองขนาดนี้” เสิ่นอีเวยพูดเสร็จก็เดินไปทางออฟฟิศของตัวเองทุกคน

หลีกทางให้หล่อน สีหน้าของเธอดูปกติธรรมดา แต่ทว่าใจนั้น

เต้นอีกทึกครึกโครมไม่หยุด

วันนี้เป็นวันแรกในการทำงานที่ซิ่งชื่อแถมก่อเรื่องให้เพิ่ง เจ๋อเฉิงอีกไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นถ้ารู้แล้วจะทำยังไงบ้าง? แต่ก็ไม่ สนใจแล้ว เพราะตัดสินใจมาทำงานที่บริษัทเซิ่งซื่อนานๆ ยิ่ง เรื่องที่มาแสดงอำนาจแบบนี้ถถึงเวลาก็ต้องจัดการจริงจัง

เช่นพวกหล่อน ออฟฟิศบริษัทยักษ์ใหญ่มีเยอะแยะ แค่วัน นี้เสิ่นอีเวยเชือดไก่ให้ลิงดูเท่านั้นเอง ละลายพฤติกรรมความ เย่อหยิ่งของสวี่อันฉิงสักหน่อย ต่อไปในภายภาคหน้าตัวเองจะ ได้อยู่ใต้อย่างสบายใจ

หมีย่าเหมือนกับนักโทษที่พิพากษาให้ประหารชีวิตได้แต่ ยืนนิ่งๆอยู่ที่เดิม จะพูดต่ออีก เสิ่นอีเวยเป็นคนที่ท่านประธาน เซึ่งพูดออกมาจากปากเองว่าหล่อนเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการ ออกแบบ ในใจสวี่อันฉิงไม่ยอมแพ้หล่อนแต่ว่าเรื่องมาถึง ขนาดนี้แล้วจะพูดอะไรต่อได้อีก บทที่59 การแข่งขันเพิ่งเริ่มต้น

บทสนทนาเมื่อครู่ทำให้ทุกคนที่อยู่ในออฟฟิศเงียบเป็น

เป่าสาก

พูดจบ เสิ่นอีเวยก็หันตัวกลับมาพูดกับหมี่ย่าอย่างเยือก เย็นว่า : “ส่วนเธอ ต้องลาออกไปจากบริษัทเซิ่งชื่อ ลูกน้องใน สายงานของฉัน ฉันรับไม่ได้ที่เธอเป็นคนหยิ่งผยองขนาดนี้” เสิ่นอีเวยพูดเสร็จก็เดินไปทางออฟฟิศของตัวเองทุกคน

หลีกทางให้หล่อน สีหน้าของเธอดูปกติธรรมดา แต่ทว่าใจนั้น

เต้นอีกทึกครึกโครมไม่หยุด

วันนี้เป็นวันแรกในการทำงานที่ซิ่งชื่อแถมก่อเรื่องให้เพิ่ง เจ๋อเฉิงอีกไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นถ้ารู้แล้วจะทำยังไงบ้าง? แต่ก็ไม่ สนใจแล้ว เพราะตัดสินใจมาทำงานที่บริษัทเซิ่งซื่อนานๆ ยิ่ง เรื่องที่มาแสดงอำนาจแบบนี้ถถึงเวลาก็ต้องจัดการจริงจัง

เช่นพวกหล่อน ออฟฟิศบริษัทยักษ์ใหญ่มีเยอะแยะ แค่วัน นี้เสิ่นอีเวยเชือดไก่ให้ลิงดูเท่านั้นเอง ละลายพฤติกรรมความ เย่อหยิ่งของสวี่อันฉิงสักหน่อย ต่อไปในภายภาคหน้าตัวเองจะ ได้อยู่ใต้อย่างสบายใจ

หมีย่าเหมือนกับนักโทษที่พิพากษาให้ประหารชีวิตได้แต่ ยืนนิ่งๆอยู่ที่เดิม จะพูดต่ออีก เสิ่นอีเวยเป็นคนที่ท่านประธาน เซึ่งพูดออกมาจากปากเองว่าหล่อนเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการ ออกแบบ ในใจสวี่อันฉิงไม่ยอมแพ้หล่อนแต่ว่าเรื่องมาถึง ขนาดนี้แล้วจะพูดอะไรต่อได้อีก คนที่อยู่ในตอนเกิดเรื่องนั้นค่อยๆทยอยออกไป ละครวันนี้ ทำให้ทุกคนเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว ที่แท้ภรรยาของท่าน ประธานคนนี้ไม่ได้เหมือนที่ใครๆเล่ากันมาว่าอ่อนแอตามข่าว ลือ ส่วนหมี่ย่านั้นหล่อนก็เป็นเพียงคนที่สวี่อันฉิงเอามาเป้าลูก ศรเพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้น

หลังจากผ่านเรื่องวุ่นวายไป ทั้งออฟฟิศก็เงียบสนิท เหมือนว่าอุณหภูมิลดลง ทุกคนต่างสนงานที่ตัวเองทำ

หน้าต่างมู่ลี่ห้องทำงานของท่านประธานไม่รู้ว่าใครเป็น คนเปิดขึ้นมันมาเล็กน้อย เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นด้านนอกห้องเขา เห็นกับตาทั้งหมด เวลานั้น สีหน้าของเขาเจือปนไปด้วยรอยยิ้ม ความสนุกเล็กน้อยตแนนี้เขามองไปยังบานประตูห้องผู้อำนวย การฝ่ายออกแบบที่ถูกปิดลง

เพิ่งเจ๋อเฉิงคิดอยู่หลายวินาที เขาหันหัวกลับไปหาหลินอวี้ ที่ยืนอยู่ข้างๆ หลินอวี้เดินเข้าไปหาทางด้านหน้า เขารู้ว่าเจ้า นายมีเรื่องต้องการสั่งเขาแล้ว

เพิ่งเจ๋อเฉิงนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของตัวเองแล้วพูดออกมา เบาๆสี่คำ : “ไล่หมี่ย่าออก”

ในใจของหลิ้นอวี้เกิดอาการตกใจ วันนี้เรื่องที่หมี่ย่าทำ แน่นอนว่าทำเกินไปหน่อย แต่ว่าหล่อนเป็นนักออกแบบฝีมือ ทอง ความสามารถในการออกแบบทุกคนต่างรู้ดี ทว่าเซิ่งเจ๋อ เฉิงตอนนี้พูดว่าให้ออกก็ต้องเอาออก ดูท่าแล้วในใจของเจ้า นาย ไม่ใช่ว่าไม่มีใจให้คุณเห็นไม่ใช่หรอ” คนที่อยู่ในตอนเกิดเรื่องนั้นค่อยๆทยอยออกไป ละครวันนี้ ทำให้ทุกคนเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว ที่แท้ภรรยาของท่าน ประธานคนนี้ไม่ได้เหมือนที่ใครๆเล่ากันมาว่าอ่อนแอตามข่าว ลือ ส่วนหมี่ย่านั้นหล่อนก็เป็นเพียงคนที่สวี่อันฉิงเอามาเป้าลูก ศรเพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้น

หลังจากผ่านเรื่องวุ่นวายไป ทั้งออฟฟิศก็เงียบสนิท เหมือนว่าอุณหภูมิลดลง ทุกคนต่างสนงานที่ตัวเองทำ

หน้าต่างมู่ลี่ห้องทำงานของท่านประธานไม่รู้ว่าใครเป็น คนเปิดขึ้นมันมาเล็กน้อย เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นด้านนอกห้องเขา เห็นกับตาทั้งหมด เวลานั้น สีหน้าของเขาเจือปนไปด้วยรอยยิ้ม ความสนุกเล็กน้อยตแนนี้เขามองไปยังบานประตูห้องผู้อำนวย การฝ่ายออกแบบที่ถูกปิดลง

เพิ่งเจ๋อเฉิงคิดอยู่หลายวินาที เขาหันหัวกลับไปหาหลินอวี้ ที่ยืนอยู่ข้างๆ หลินอวี้เดินเข้าไปหาทางด้านหน้า เขารู้ว่าเจ้า นายมีเรื่องต้องการสั่งเขาแล้ว

เพิ่งเจ๋อเฉิงนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของตัวเองแล้วพูดออกมา เบาๆสี่คำ : “ไล่หมี่ย่าออก”

ในใจของหลิ้นอวี้เกิดอาการตกใจ วันนี้เรื่องที่หมี่ย่าทำ แน่นอนว่าทำเกินไปหน่อย แต่ว่าหล่อนเป็นนักออกแบบฝีมือ ทอง ความสามารถในการออกแบบทุกคนต่างรู้ดี ทว่าเซิ่งเจ๋อ เฉิงตอนนี้พูดว่าให้ออกก็ต้องเอาออก ดูท่าแล้วในใจของเจ้า นาย ไม่ใช่ว่าไม่มีใจให้คุณเห็นไม่ใช่หรอ” ได้แต่คิดในใจ เขาปฏิบัติตามคำสั่งที่ออกมาโดยไม่ช้า หลินอวี้เดินไปยังข้างๆ ตำแหน่งที่ทำงานของหมี่ย่าภายใต้ สายตาที่ทุกคนจับตามอง

หมีย่าเงยหน้าขึ้นมองหลินอวี้ ในใจได้เตรียมใจไว้แล้วว่า

จะเกิดอะไรขึ้น

“ขอโทษด้วยครับ นักออกแบบหมี่ จากวันนี้เป็นต้นไปคุณ ถูกไล่ออกจากบริษัทแล้ว” น้ำเสียงของหลินอวี้ปกติดั่งสายน้ำ

ใหล

เสียงไม่ได้ดังหรือเบา แต่ทุกคนในออฟฟิศต่างได้ยิน

อย่างชัดเจน

หมีย่าเบิกตากว้างแทบไม่เชื่อ เกิดความโกลาหลขึ้นใน ออฟฟิศอทุกคนคิดไม่ถึงเลยว่าท่านประธานจะสำคัญกับเรื่องที่ เกิดขึ้นเป็นอย่างมากแถมยังให้ความเคารพกับคำพูดนั้นของผู้ อำนวยการเสิ่น

“เป็นความต้องการของท่านประธานเชิ่งใช่ไหม? เขาจะไล่ ฉันออกจริงๆหรอ?”

สีหน้าของหลินอวี่ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน : “หากนัก ออกแบบหมีไม่เชื่อสามารถไปสอบถามท่านประธานเพิ่งด้วย ตนเองได้ครับ”

เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว หมีย่าคงไม่โง่ที่จะวิ่งไปถามท่าน ประธานเซึ่งจริงๆ หล่อนหันมองสวี่อันฉิงที่หมดอารมณ์อยู่ข้างๆ รอว่าหลังจากนี้หล่อนจะช่วยพูดให้ได้บ้าง จะพูดอีก เป็นที่ตัว ได้แต่คิดในใจ เขาปฏิบัติตามคำสั่งที่ออกมาโดยไม่ช้า หลินอวี้เดินไปยังข้างๆ ตำแหน่งที่ทำงานของหมี่ย่าภายใต้ สายตาที่ทุกคนจับตามอง

หมีย่าเงยหน้าขึ้นมองหลินอวี้ ในใจได้เตรียมใจไว้แล้วว่า

จะเกิดอะไรขึ้น

“ขอโทษด้วยครับ นักออกแบบหมี่ จากวันนี้เป็นต้นไปคุณ ถูกไล่ออกจากบริษัทแล้ว” น้ำเสียงของหลินอวี้ปกติดั่งสายน้ำ

ใหล

เสียงไม่ได้ดังหรือเบา แต่ทุกคนในออฟฟิศต่างได้ยิน

อย่างชัดเจน

หมีย่าเบิกตากว้างแทบไม่เชื่อ เกิดความโกลาหลขึ้นใน ออฟฟิศอทุกคนคิดไม่ถึงเลยว่าท่านประธานจะสำคัญกับเรื่องที่ เกิดขึ้นเป็นอย่างมากแถมยังให้ความเคารพกับคำพูดนั้นของผู้ อำนวยการเสิ่น

“เป็นความต้องการของท่านประธานเชิ่งใช่ไหม? เขาจะไล่ ฉันออกจริงๆหรอ?”

สีหน้าของหลินอวี่ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน : “หากนัก ออกแบบหมีไม่เชื่อสามารถไปสอบถามท่านประธานเพิ่งด้วย ตนเองได้ครับ”

เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว หมีย่าคงไม่โง่ที่จะวิ่งไปถามท่าน ประธานเซึ่งจริงๆ หล่อนหันมองสวี่อันฉิงที่หมดอารมณ์อยู่ข้างๆ รอว่าหลังจากนี้หล่อนจะช่วยพูดให้ได้บ้าง จะพูดอีก เป็นที่ตัว เองแหละที่ทำตามหล่อนชี้แนะไว้ให้ วันนี้เลยแสดงอาการแล ลนั้นกับเสิ่นอีเวยไป

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าท้ายที่สุดแล้วหล่อนจะจุดไฟเผาตัวเอง

ให้วอดวายไป

แม้ว่าหมี่ย่าจะมองมาที่ตัวหล่อนก็ตาม แต่ว่าสวี่อันฉิงก็ไม่ ได้ทำอะไรต่อ หล่อนไม่ได้โง่ที่จะเผชิญหน้ากับความตะปูของ เพิ่งเจ๋อเฉิงในเวลานี้ ตอนนี้ทำได้แค่โทษตัวเองที่ดูถูกผู้หญิง อย่างเส่นอีเวยผิดไป

หลังหลินอวี้ประกาศคำสั่งเสร็จก็หันหลังเดินกลับไปตอน เดินก็กวาดตามองทุกคนอย่างเย็นชา ทุกคนที่ในสมองมีแต่ เรื่องสอดรู้สอดเห็นได้แต่ก้มหน้าก้มตาลงอย่าเงียบเชียบ

ออฟฟิศของเสิ่นอีเวยเปิดออก คนเปิดคือสวี่อันฉิง

เสิ่นอีเวยเงียหน้ามองหล่อนแวบหนึ่ง สีหน้าไม่ได้แสดง อารมณ์อะไรและก้มหน้าทำงานของตัวเองต่อไป

สวีอันฉิงรีบเดินไปยังด้านข้างโต๊ะทำงานและนั่งฝั่งตรง ข้ามเสิ่นอีเวย เสิ่นอีเวยก็ยังไม่สนใจหล่อน ในที่สุดสวี่อีเวยก็ ระงับไว้ไม่ได้

“เสิ่นอี้ เวย ตอนนี้ก็มีแค่เราสองคน ไม่ต้องมาสร้างภาพ แล้วแหละมั้ง?”

เป็นอีเวยวางมือจากงานที่ทำอยู่ เงยหน้ามองไปยังผู้หญิง ที่สีหน้าแสดงออกถึงความรุนแรงในแบบเติมที่เคยเป็นมา และ ทำอารมณ์ประมาณว่าเรื่องงานก็ต้องเป็นเรื่องงาน: “หัวหน้าสวี เองแหละที่ทำตามหล่อนชี้แนะไว้ให้ วันนี้เลยแสดงอาการแล ลนั้นกับเสิ่นอีเวยไป

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าท้ายที่สุดแล้วหล่อนจะจุดไฟเผาตัวเอง

ให้วอดวายไป

แม้ว่าหมี่ย่าจะมองมาที่ตัวหล่อนก็ตาม แต่ว่าสวี่อันฉิงก็ไม่ ได้ทำอะไรต่อ หล่อนไม่ได้โง่ที่จะเผชิญหน้ากับความตะปูของ เพิ่งเจ๋อเฉิงในเวลานี้ ตอนนี้ทำได้แค่โทษตัวเองที่ดูถูกผู้หญิง อย่างเส่นอีเวยผิดไป

หลังหลินอวี้ประกาศคำสั่งเสร็จก็หันหลังเดินกลับไปตอน เดินก็กวาดตามองทุกคนอย่างเย็นชา ทุกคนที่ในสมองมีแต่ เรื่องสอดรู้สอดเห็นได้แต่ก้มหน้าก้มตาลงอย่าเงียบเชียบ

ออฟฟิศของเสิ่นอีเวยเปิดออก คนเปิดคือสวี่อันฉิง

เสิ่นอีเวยเงียหน้ามองหล่อนแวบหนึ่ง สีหน้าไม่ได้แสดง อารมณ์อะไรและก้มหน้าทำงานของตัวเองต่อไป

สวีอันฉิงรีบเดินไปยังด้านข้างโต๊ะทำงานและนั่งฝั่งตรง ข้ามเสิ่นอีเวย เสิ่นอีเวยก็ยังไม่สนใจหล่อน ในที่สุดสวี่อีเวยก็ ระงับไว้ไม่ได้

“เสิ่นอี้ เวย ตอนนี้ก็มีแค่เราสองคน ไม่ต้องมาสร้างภาพ แล้วแหละมั้ง?”

เป็นอีเวยวางมือจากงานที่ทำอยู่ เงยหน้ามองไปยังผู้หญิง ที่สีหน้าแสดงออกถึงความรุนแรงในแบบเติมที่เคยเป็นมา และ ทำอารมณ์ประมาณว่าเรื่องงานก็ต้องเป็นเรื่องงาน: “หัวหน้าสวี มาหาฉันมีธุระอะไรหรอ?”

สวีอันฉิง โมโหที่สุดได้แต่ยิ้มเยาะๆ ตอบ : “อย่ามาปั้นหน้า ใส่ฉัน สภาพเธอที่มีมันน่ารังกียจเมื่อกี้นี้ทำไมไม่แสดงออกมา ให้ทุกคนได้เห็นล่ะ? งูพิษดีๆนี่เอง”

สภาพอารมณ์ของเสิ่นอีเวยยังคงแกร่งไม่แสดงออกถึง ความอ่อนแอ : “หากจะเปรียบว่าฉันเป็นงูพิษ คงสู้เธอไม่ได้ ตามที่ฉันรู้มา หมี่ย่าทำงานกับเธอมานานแล้วใช่ไหม? เหมือน ว่าจะรู้จักกันก่อนที่เธอจะมาทำงานที่บริษัทเซิงซื่อ? ความ สัมพันธ์ที่แนบแน่นขนาดนี้ วันนี้เธอทำให้หล่อนเป็นเหมือน รองเท้าแล้วถีบมาไว้ข้างหน้าฉัน หัวหน้าสวี่เก่งได้ขนาดนี้เลย หรอ? แล้วทำไมไม่ไปขอร้องต่อหน้าท่านประธานเซิ่งหล่ะ?”

การถากถางตูถูกดูแคลนทำให้สีหน้าของสวี่อันฉิงเปลี่ยน เป็นซีดไปสักพัก เสิ่นอีเวยไม่ได้รอเธอตอบกลับ

“อ๋อ ใช่สิ คราวที่แล้วที่เธอบอกว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงเลื่อน ตำแหน่งให้เธอเป็นถึงเลขาฯส่วนตัวแล้วไม่ใช่หรอ? ทำไม -”

เสิ่นอีเวยเงยหน้าดูและประมาณการณ์สวี่อันฉิง สายตา จ้องมองบริเวณด้านหน้าหน้าอกที่ห้อยป้ายอยู่

“ยังเป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบนี้?”

เป็นถ้อยคำที่แสดงออกถึงการเสียดสีอย่างชัดเจน

หล่อนตกใจ คราวที่แล้วที่ร้านชุดแต่งงานที่หล่อนพูดว่า เซึ่งเจ๋อเฉิงเลื่อนตำแหน่งให้หล่อนเป็นถึงเลขาฯส่วนตัวมันเป็น เรื่องหลอกลวง หล่อนตั้งใจโกหกเสิ่นอีเวย จุดประสงค์ของเธอ มาหาฉันมีธุระอะไรหรอ?”

สวีอันฉิง โมโหที่สุดได้แต่ยิ้มเยาะๆ ตอบ : “อย่ามาปั้นหน้า ใส่ฉัน สภาพเธอที่มีมันน่ารังกียจเมื่อกี้นี้ทำไมไม่แสดงออกมา ให้ทุกคนได้เห็นล่ะ? งูพิษดีๆนี่เอง”

สภาพอารมณ์ของเสิ่นอีเวยยังคงแกร่งไม่แสดงออกถึง ความอ่อนแอ : “หากจะเปรียบว่าฉันเป็นงูพิษ คงสู้เธอไม่ได้ ตามที่ฉันรู้มา หมี่ย่าทำงานกับเธอมานานแล้วใช่ไหม? เหมือน ว่าจะรู้จักกันก่อนที่เธอจะมาทำงานที่บริษัทเซิงซื่อ? ความ สัมพันธ์ที่แนบแน่นขนาดนี้ วันนี้เธอทำให้หล่อนเป็นเหมือน รองเท้าแล้วถีบมาไว้ข้างหน้าฉัน หัวหน้าสวี่เก่งได้ขนาดนี้เลย หรอ? แล้วทำไมไม่ไปขอร้องต่อหน้าท่านประธานเซิ่งหล่ะ?”

การถากถางตูถูกดูแคลนทำให้สีหน้าของสวี่อันฉิงเปลี่ยน เป็นซีดไปสักพัก เสิ่นอีเวยไม่ได้รอเธอตอบกลับ

“อ๋อ ใช่สิ คราวที่แล้วที่เธอบอกว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงเลื่อน ตำแหน่งให้เธอเป็นถึงเลขาฯส่วนตัวแล้วไม่ใช่หรอ? ทำไม -”

เสิ่นอีเวยเงยหน้าดูและประมาณการณ์สวี่อันฉิง สายตา จ้องมองบริเวณด้านหน้าหน้าอกที่ห้อยป้ายอยู่

“ยังเป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบนี้?”

เป็นถ้อยคำที่แสดงออกถึงการเสียดสีอย่างชัดเจน

หล่อนตกใจ คราวที่แล้วที่ร้านชุดแต่งงานที่หล่อนพูดว่า เซึ่งเจ๋อเฉิงเลื่อนตำแหน่งให้หล่อนเป็นถึงเลขาฯส่วนตัวมันเป็น เรื่องหลอกลวง หล่อนตั้งใจโกหกเสิ่นอีเวย จุดประสงค์ของเธอ ก็เพื่อจะทำให้เสิ่นอีเวยโมโหเป็นฟื้นเป็นไฟจะได้มีปัญหาระ หว่างเซิ่งเจ๋อเฉิง

ด้วยเหตุนี้แหละ วันงานเต้นรำจะได้ส่งผลกระทบเรื่องผู้ หญิงที่เต้นคู่งานเต้นรำ แม้ว่าตัวเองไม่ได้อาศัยความโกรธของ เพิ่งเจ๋อเฉิงแต่หล่อนก็เสนอตัวเป็นคู่นเต้นรำกับเขา คู่เต้นรำ ของเซิ่งเจ๋อเฉิงจะไม่ดีก็ไม่ควรจะเป็นเสิ่นอีเวย

สวี่อันฉิงประสบความสำเร็จไปแล้วจริงๆ ใจของเสิ่นอีเวย คิดอย่างเคียดแค้น ก็ใช่ไง น่าสงสารจริงๆ

เสิ่นอีเวยยิ้มอย่างเยือกเย็น : “เธอไม่เคยคิดว่าตัวเองน่า

สมเพชเลยหรอ? ใช้วิธีการโกหกมาเพื่อดึงตัวมาเป็นคู่เต้นรำ ของเซิ่งเจ๋อเฉิง ถ้าเขาเห็นอกเห็นใจเธอบ้างจริงๆ เรื่องหมี่ย่า ในวันนี้เขาคงไม่ตัดปัญหาแบบนี้ ใครต่างก็รู้ว่าหมี่ย่าเป็นคน ของเธอ ยิ่งไล่หล่อนออกก็เหมือนเป็นการหักหน้าเธอไปด้วย”

สวีอันฉิงรู้สึกเจ็บแปลบๆ หล่อนพูดอย่างดุดัน : “ตัวฉันยัง ไม่ได้พูดถึงเธอ เธอกลับเปิดปากกระบอกปืนแล้วยิงมันแล้ว!”

เสิ่นอีเวยเหมือนนึกอะไรออก สายตาของเธอเจือปนไป ด้วยความโกรธ : “ตั้งแต่ที่เธออยากจะเข้าใกล้เพิ่งเจ๋อเฉิง เธอ ไม่เคยรู้สึกถึงเวลาที่เธอต้องขอโทษเสิ่นหุ้ยบ้างหรอ?” ก็เพื่อจะทำให้เสิ่นอีเวยโมโหเป็นฟื้นเป็นไฟจะได้มีปัญหาระ หว่างเซิ่งเจ๋อเฉิง

ด้วยเหตุนี้แหละ วันงานเต้นรำจะได้ส่งผลกระทบเรื่องผู้ หญิงที่เต้นคู่งานเต้นรำ แม้ว่าตัวเองไม่ได้อาศัยความโกรธของ เพิ่งเจ๋อเฉิงแต่หล่อนก็เสนอตัวเป็นคู่นเต้นรำกับเขา คู่เต้นรำ ของเซิ่งเจ๋อเฉิงจะไม่ดีก็ไม่ควรจะเป็นเสิ่นอีเวย

สวี่อันฉิงประสบความสำเร็จไปแล้วจริงๆ ใจของเสิ่นอีเวย คิดอย่างเคียดแค้น ก็ใช่ไง น่าสงสารจริงๆ

เสิ่นอีเวยยิ้มอย่างเยือกเย็น : “เธอไม่เคยคิดว่าตัวเองน่า

สมเพชเลยหรอ? ใช้วิธีการโกหกมาเพื่อดึงตัวมาเป็นคู่เต้นรำ ของเซิ่งเจ๋อเฉิง ถ้าเขาเห็นอกเห็นใจเธอบ้างจริงๆ เรื่องหมี่ย่า ในวันนี้เขาคงไม่ตัดปัญหาแบบนี้ ใครต่างก็รู้ว่าหมี่ย่าเป็นคน ของเธอ ยิ่งไล่หล่อนออกก็เหมือนเป็นการหักหน้าเธอไปด้วย”

สวีอันฉิงรู้สึกเจ็บแปลบๆ หล่อนพูดอย่างดุดัน : “ตัวฉันยัง ไม่ได้พูดถึงเธอ เธอกลับเปิดปากกระบอกปืนแล้วยิงมันแล้ว!”

เสิ่นอีเวยเหมือนนึกอะไรออก สายตาของเธอเจือปนไป ด้วยความโกรธ : “ตั้งแต่ที่เธออยากจะเข้าใกล้เพิ่งเจ๋อเฉิง เธอ ไม่เคยรู้สึกถึงเวลาที่เธอต้องขอโทษเสิ่นหุ้ยบ้างหรอ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ