นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่228ทำไมฉินโม่เขารู้



บทที่228ทำไมฉินโม่เขารู้

บทที่228 ทำไมฉินโม่เขารู้

แต่ตอนนี้ มองสายตาของเซิ่งเจ๋อเฉิง หัวใจของเสิ่นอีเวยเหมือนดดนมีดแทง ไปร้อยครั้งพันครั้ง

ความเจ็บปวดในนั้นมีแต่เธอเองที่รู้

“ทำไมฉันจะช่วยเธอไม่ได้ล่ะ”

เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงจะตอบม

าเป็นแบบนี้

การซักถามของเซิ่งเจ๋อเฉิงทำให้เสิ่นอี เวยอึ้งไปทั้งคน

เธอมองเขาเงียบๆและถามขึ้น”นี่นานห มายความว่ายังไง”

สีหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงยังคงไร้อารมณ์” เปลี่ยนเป็นพูดในอีกแบบหนึ่งก็คือ คนที่ช่วยเธอนั้นทำไมจะเป็นฉันไม่ได้”

“หรือว่าคนที่เธออยากให้มาช่วยนั้นเป็น คนอื่น”

เมื่อพูดถึงคำพูดสุดท้าย

น้ำเสียงของเซิ่งเจ๋อเฉิงเคร่งขรึมมากขึ้ น

แต่เสิ่นอีเวยกลับไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย

เสิ่นอีเวยไม่ได้พูดอะไร

เพียงแต่ยิ้มเย็นชา

เซิ่งเจ๋อเฉิงมองสีหน้าเธอในแบบนี้ ในใจมีการคาดเดาอีกข้อหนึ่งขึ้นมา

เมื่อคิดแบบนี้เขาก็พูดออกมาตรงๆ”คน ที่รู้เธอป่วยนั้นนอกจากเธอเองแล้วยังมี

ใครอีก”

เฮ่อ ผู้ชายคนนี้คืออยากจะปราบปรามเธอห รอ เสิ่นอีเวยมองเซิ่งเจ๋อเฉิง หัวใจเหมือนตกอยู่ในน้ำแข็ง

พักใหญ่

เสิ่นอีเวยก็พูดขึ้นจางๆ นอกจากฉันแล้ว

ก็ยังมีคุณหมอสิ”

แต่ชั่วพริบตานั้น

สีหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็มืดมนลงไป

“เสิ่นอีเวย ฉันไม่ได้พูดเล่นกับเธอนะ อย่ามาเสียเวลาฉันตรงนี้ ฉันถามเธอครั้งสุดท้าย

เรื่องที่เธอป่วยนั้นยังมีใครอีก”

ฉินโม่รู้ด้วย เสิ่นอีเวยคิดแบบนี้ในใจ แต่ปากกลับลังเลว่าจะพูดหรือไม่พูด

ตามสถานการณ์ของตนเอง

ท่าทีของเซิ่งเจ๋อเฉิงในตอนนี้คงแค่อย ากจะรู้ความน่าเชื่อถือของเขาในหัวใจเ

ธอเท่านั้น

เขาอาจไม่มีความหมายอื่นก็ได้

ถึงจะบอกเขาไปแล้วเขาก็ไม่ทำเหมือน เด็กไปหาเรื่องฉินโม่หรอก

คิดแบบนี้

เสิ่นอีเวยก็เตรียมจะบอกเซิ่งเจ๋อเฉิง

“ฉินโม่ก็รู้ด้วย”เสิ่นอีเวยพูดขึ้น

ชั่วขณะนั้น

บรรยากาศระหว่างพวกเขาเงียบสงัดขึ้

นทัน

นานๆเซิ่งเจ๋อเฉิงถึงจะเอ่ยปากพูดขึ้น” ตามความหมายของเธอ เธอยอมเอาเรื่องที่เธอป่วยหนักไปบอก ผู้ชายแปลกหน้าก็ไม่ยอมบอกฉันงั้นหร

อ” พอฟังคำพูดของเขา

เสิ่นอีเวยก็ไม่ดีใจขึ้น

รีบตอบกลับ“เขาไม่ใช่ผู้ชายแปลกหน้า แต่เป็นเพื่อนของฉัน”

เซิ่งเจ๋อเฉิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที เสียงที่พูดก็ดังขึ้น”อย่ามาพูดถึงคนนี้กั บฉันอีก

นี่ทำไมเธอจะไม่พูดเขาเป็นผู้ชายของเ ธอล่ะ”

สีหน้าของเสิ่นอีเวยไม่น่าดูทันที ไฟแห่งความโกรธในใจก็ลุกขึ้น เธอไม่เคยคิดเลยว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงจะพูด คำไร้สาระแบบนี้ออกมาได้

“เซิ่งเจ๋อเฉิง

นายอย่าทำเหมือนเด็กเลย”

เขาเป็นถึงประธานใหญ่ของบริษัทเซิ่ง ซื่อ

คิดไม่ถึงเลยว่าก็มีด้านที่เหมือนเด็ก

เสิ่นอีเวยตกใจเป็นใหญ่ เห็นได้ชัดว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงไม่อยากจะตอ

บคำถามนี้ของเธอ เขามองดวงตาของเสิ่นอีเวย แล้วถามต่อ”ฉินโม่รู้เรื่องนี้ได้ยังไง เธอไปบอกเขาเองหรอ”

ปกติเสิ่นอีเวยเกลียดที่คนอื่นใช้น้ำเสียง ยกล้อคุยกับเธอมาก เพราะมันทำให้เธอรู้สึกว่าตนเองไม่ได้รั บเกลียด

ถ้าเป็นคนอื่นเธอก็ไม่ได้ถือสามาก แต่คนนี้เป็นเซิ่งเจ๋อเฉิง เป็นคนที่รักจากใจจริงมานาน ความไม่ให้เกียรติของเขาทำให้เธอเสี ยใจมากกว่าที่คนอื่นทำ “ทำไมฉันต้องบอกนายละ”เพราะความ เสียใจเธอเลยแสดงออกมา

เพิ่งเจ๋อเฉิงมองวิเคราะห์เงินอีเวช เส้น อีเวย นี่เธอแน่ใจนะ เธอลืมแล้วหรอว่าเธอเองยังต้องการค

วามช่วยเหลือของฉันอยู่

เสิ่นอีเวยนิ่งไปเล็กน้อย

สมองก็รีบทำงานทันที

แล้วใบหน้าที่น่าเกลียดของเส้นเหยียน

ซึ่งก็ค่อยๆปรากฏออกมาในสมอง เสิ่นอีเวยแอบด่าตนเองในใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้แสดงสีหน้าที่ตื่นเต้น ออกมา

ใช่แล้ว เพิ่งเจ๋อเฉิงพูดไม่ผิด เรื่องที่เสิ่นเหยียนซึ่งมาขอเงินจากเธอ บ่อยๆนั้นยังต้องการให้เขาไปช่วยแก้ไ

ขอย สำหรับเสิ่นอีเวย

เธอก็ไม่อยากให้ชีวิตของเธอต้องไปเกี่ ยวพันกับคนอย่างเสิ่นเหยียนซึ่ง ดังนี้ตอนนี้เธอไม่มีทางอวดดีต่อหน้าเข

า มีแต่อดทนเอาไว้

เสิ่นอีเวยเตรียมคำพูดในใจแล้วค่อยๆพู ดขึ้น”นายยังจำได้ไหมกี่เอนก่อน มีครั้งหนึ่งฉันไปห้องคนไข้ของเสิ่นหุ้ย

พอได้ยินคำว่าเงินหย เพิ่งเจ๋อเฉิงก็อวดขมวดคิ้วไม่ได้ และจุดนี้เสิ่นอีเวยก็จับได้ชัดเจน

อย่างที่เอาไว้ไม่ผิด

เวลามันผ่านไปนานขนาดนี้ ในใจของเขายังคงมีแต่เสิ่นหุ้ยคนเดียว แต่เวลานี้เสิ่นอีเวยไม่มีแรงจะไปคิดอะไ รอีก

เธอพูดต่อ”ตอนนั้นฉันเข้าห้องคนไข้ขอ

งเธอ

กำชับลูกน้องของนายที่ดูแลเสิ่นหุ้ยว่า อย่าเอาเรื่องที่ฉันเข้าห้องคนไข้ของเสิ่

นหุ้ยบอกนาย

แต่ลูกน้องของนายจงรักต่อนายมาก ฉันเพิ่งนั่งลงเก้าอี้ข้างๆเตียงของเสิ่นหุ้ ย พวกเขาก็โทรไปให้นายแล้ว”

เสิ่นอีเวยมองเห็นสีหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิง ค่อยๆเปลี่ยนขึ้น

เลยรู้ว่าเขาน่าจะนึกเรื่องวันนั้นได้แล้ว

“ตอนนั้นนายก็พูดดุฉันในโทรศัพท์ของ ลูกน้องของนาย

ถ้าฉันเดาไม่ผิดนะตอนนี้นายคงจำได้แ ล้วใช่ไหม ตอนนั้นนายเร็วมาก

แค่แป๊บเดียวก็มาถึงโรงพยาบาลแล้ว นายให้ฉันออกไปจากห้องคนไข้ของเสี นหุ้ย แล้วฉันก็ทะเลาะกับนาย ตอนนั้นนายกลัวเราเสียงดังอาจจะไม่ดี ต่อเสิ่นหุ้ยเลยลากฉันไปทางเดินข้างน อกห้งคนไข้

หลังนายปล่อยมือที่บีบคอฉันแล้วก็เข้า ตอนนั้นฉันเจ็บปวดมากเลยนั่งยองบนพื้

ไปดูเสิ่นหุ้ย

น ไม่นานก็เจอกับฉินโม่

วันนั้นเขาไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาล พอดี เจอฉันแล้วก็มาคุยกับฉันไม่กี่คำ ฉันกลัวนายออกมาจากห้องแล้วเห็นแบ บนี้จะอึดอัด

เลยพูดกับเขาไม่กี่คำก็ไปแล้ว ตอนนั้นในมือฉันจับใบผลการตรวจอยู่

ตอนที่ทะเลาะกับนายฉันก็จำมันในกำมื อแน่นๆ กลัวนายจะเห็นมัน ก็กลัวฉินโม่จะเห็นมันด้วย

ดังนั้นหลังที่ฉันไปแล้วฉันก็ทิ้งใบผลตร

วจลงถังขยะ”

เมื่อฟังถึงนี่

เซิ่งเจ๋อเฉิงก็เม้มปากแน่นขึ้น

คิ้วก็ขมวดเล็กน้อย

ดูเหมือนอารมร์ไม่ดีมาก

แต่เสิ่นอีเวยไม่ได้สนใจอีกแล้ว

ในเมื่อเขาอยากรู้ งั้นก็บอกเขาไปเลย

“หลังนั้นมีวันหนึ่ง เขามาหาฉัน

ก็คือวันนั้นที่นายพบเห็นว่าฉันกับเขานั่ง ฉันเองก็เพิ่งรู้ในตอนนั้นว่าวันนั้นที่ฉันทิ้

ดื่มชาที่บ้าน

ตอนนั้นเขามาถามอาการป่วยของฉัน

งในผลตรวจลงถังขยะนั้น

เขาสะกดรอยตามฉัน

เพราะเขาเห็นว่าฉันดูแปลกๆ แล้วก็เห็นฉันทิ้งกระดาษลงถังขยะพอดี เขาเลยไปหยิบมันขึ้นมาถึงรู้ว่าฉันป่วย เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหล่ะ”

ตอนที่พูดเรื่องนี้

น้ำเสียงของเสิ่นอีเวยล้วนเป็นแบบไม่แ

ยแสตลอด

น้ำเสียงเธอในแบบนี้ทำให้เซิ่งเจ๋อเฉิงรู้ สึกไม่พอใจมาก

ถ้าเป็นเมื่อก่อนให้เธอมาอธิบายเรื่องแ

บบนี้

ตอนที่เธอพูดเธอมักจะเสริมคำว่า ‘นาย ต้องเชื่อฉัน’เข้าไปเพื่อยืนยันหัวใจของ

เธอ

แต่คราวนี้เขาปรากกว่าเสิ่นอีเวยไม่ได้เ สริมเข้าไป 195727262_318425066519156_8967901106323667298_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ