บทที่ 43 ฉันบอกให้คุณไปหรือยัง
เสิ่นอีเวย มองทั้งสองสนทนากันอย่างเมามัน เพิ่มตรงที่ เมื่อชั่วพริบตา เธอมองเห็นสายตาของเซิ่งเจ๋อเฉิงเต็มไปด้วย ความนับถือมองไปที่สวี่อันฉิงแวบหนึ่ง
แต่ไม่ว่ามันจะเป็นแววตาเพียงแวบเดียวเท่านั้นก็ตาม มัน ก็ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ
เสิ่นอีเวยหิ้วกระเป๋าไว้ด้านข้าง ยืนขึ้นอย่างสงบเสงี่ยม ยุ่งมากเลยค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
แล้วพูดกับเซิ่งเจ๋อเฉิงว่า : “ฉันรู้สึกว่าท่านประธานเพิ่งจะงาน
พูดจบเธอก็กำลังจะเดินไปที่ประตู แต่ยังไม่ทันไปเดินไป
ได้กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงเย็นชาของ เซิ่งเจ๋อเฉิง : “หยุด!”
เสิ่นอีเวย หยุดและหันหน้ากลับไปดู
“ฉันอนุญาตให้เธอไปได้แล้วหรอ?”
เสิ่นอีเวยไม่อยากทะเลาะกับเซิ่งเจ๋อเฉิงต่อหน้าสวี่อันฉิง เซึ่งเจ๋อเฉิง เพราะเธอไม่อยากให้หล่อนหัวเราะเอาได้ ดังนั้น เธอจึงไม่สนใจคำพูดของเซิ่งเจ๋อเฉิง และเดินตรงไปที่ประตู ออกไปทันที
แต่เสิ่นอีเวยประเมินเซิ่งเจ๋อเฉิงต่ำไป ตอนแรกเธอคิดว่า เพิ่งเจ๋อเฉิงอยู่ต่อหน้าลูกน้องคงไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไรกับเธอ ยังไงก็คงกลับไปถึงบ้านก่อนแล้วค่อยคุยกันเรื่องนี้
เส้นอีเวยไม่คิดไม่ฝันว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงจะลงมือคว้าเธอต่อหน้าสวีอันฉิง
เพียงชั่วครู่เมื่อตัวเธอถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขน เส็นอีเวย แทบจะยังไม่ทันได้มีเวลาตั้งตัว เธอจึงร้องอุทานออกมาอย่าง ตกใจ เธอจึงรีบคว้าแขนที่แข็งแรงของเซิ่งเจ๋อเฉิง ไว้โดยไม่รู้ ตัว
เพิ่งเจ๋อเฉิงกอดเสิ่นอีเวยไว้แนบอก แววตาเต็มไปด้วย ความเย็นชามองมาที่สวี่อันฉิง “แผนดำเนินงานวางไว้ที่นีก็
พอ เธอออกไปก่อนฉันมีเรื่องที่จะต้องจัดการก่อน”
เดิมทีแต่แรกที่เซิ่งเจ๋อเฉิงกอดเสิ่นอีเวยนั้นเองสีหน้าขอ
สวีอันฉิงก็ถอดสี
คนอื่นไม่ใช่ลือกันว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงเกลียดเสิ่นอีเวย ไม่ใช่หรือ! ทำไมดูจากสภาพการณ์ตอนนี้แล้ว เหมือนพ่อแง่แม่ งอนกันมากกว่าดูจะมีความสุขซะด้วยซ้ำ!
มาก
สวีอันฉิงพยายามสะกดไฟโกรธภายในใจพยักหน้าแล้ว
เปิดประตูเดินออกไป
หลังจากประตูถูกปิดเสิ่นอีเวยพยายามดิ้นให้หลุดจาก อ้อมแขนของเขา “คุณกำลังจะทำอะไรกันแน่!”
เพิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้พูดอะไรแล้วเดินเข้าไปใกล้โซฟาที่ เสิ่ นอีเวยเพิ่งจะนั่งเมื่อสักครู่ เขาวางเสิ่นอีเวยไว้บนโซฟามือทั้ง สองคว้ามือของเสิ่นอีเวยเพื่อให้เธอหยุดการเคลื่อนไหว แวว ตาพาดผ่านความอันตราย”วันนี้เธอกล้ามากที่ไม่เชื่อฟังฉัน เธอคิดสิว่าฉันจะทำอะไรกับเธอ!”
สมองของอีเวยก็นึกออกทันที
หรือว่า ผู้ชายคนนี้จะจัดการเธอตอนนี้ที่
เสิ่นอีเวยตกใจพลางพูดว่า: “เซิ่งเจ๋อเฉิง คุณไม่ได้ล้อ เล่นกับฉันใช่ไหม? ที่นี่มันห้องงานของคุณนะ คุณไม่อาย แต่ฉันอายนะ!”
เจ๋อเฉิงยิ้มอย่างเหี้ยมโหด: “ทำไมล่ะ ตอนนี้ถึงรู้จัก กลัว? เมื่อก็เห็นทำเก่งกับฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ ห้องทำงานของฉัน แล้วจะทำไม?
ในเวลานี้เองเจ๋อเฉิงจู่ๆก็ขยับริมฝีปากที่ชุ่มชื้นของเขา ไปที่ใกล้ๆหูเสิ่นอีเวย: “ถึงยังไง เมื่อคราวที่แล้วเรายังเคย ลองในรถเลย ทำไมเธอลืมไปแล้วเหรอ?”
คำพูดของเชิ่งเจ๋อเฉิงทำให้สีหน้าเสิ่นอีเวยแดง แดง เสียจนเหมือนจะมีเลือดหยดออกมาจากหน้าของเธอเพราะ ความเขิน เธอไม่อยากคุยเรื่องแบบนี้กับเซิ่งเจ๋อเฉิงไปมาฉวย
โอกาสตอนที่เจ๋อเฉิงจับข้อมือเธอไว้แตะไปที่ระหว่างขาของ
เขาเต็มแรง
เสิ่นอีเวยสวมรองเท้าส้นสูงแหลมเตะไปที่หนึ่งไม่รู้ว่าเธอ จะนึกถึงเซิ่งเจ๋อเฉิงหรือเปล่าว่ามันทำให้เขาชอกช้ำขนาดไหน เพิ่งเจ๋อเฉิงปวดจนต้องคุกเข่ากองอยู่ที่พื้น อีเวยฉวย โอกาสนี้วิ่งออกไปนอกประตูไม่หันมามองเขาสักนิดเลย
พอออกมาจากห้องเสิ่นอีเวยเห็นหลินอียังยืนรออยู่ช้างๆ สีหน้าตื่นตระหนกอะไรไม่ถูกของสีหน้าของหลิน
ในเอง เจ้านายเขากำลังบนโซฟาหน้าไปความเจ็บปวดอย่าง
ไปตัวเธอดินหรือลอย
อีเวยแต่ข้อมือขวารู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา เธอก้มมองของเธอไม่รู้ว่าไปเอาแผลนี้มาจากไหน พอนึกถึงเมื่อครู่ที่เธอแรงดิ้นจากอ้อมแขนของเจ๋อเฉิงก็คงจะโดนกระดุมข้อมือ
เหมือนใครบางคนพูดอยู่ที่ห้องข้างๆ เหมือนว่าจะเป็น
กำลัง
เธอเอียงหูฟังอย่างใจจดใจจ่อเหมือนว่าพวกหล่อนกำลัง นินทาเรื่องรับฟังอย่างระมัดระวังและฟังและพบว่าว่าเธออยู่ ที่แท้สามคนนั้นพูดเรื่องเดียวกันเลย ข่าวนินทาว่าร้ายก่อนหน้า นี้เพิ่งผ่านไป ตอนนี้เธอก็ได้ยินอีก
“นี่ พวกเธอรู้มั้ย? ฉันได้ยินมาว่าวันนี้ ประธานเซิ่งอา รมณ์ไม่ค่อยดีนะ โทรหาภรรยาของเขาตั้งหลายรอบแต่ไม่มีคน
รับสาย ประธานเชิ่งก็เลยโกรธใหญ่เลย” ต่อมาก็มีเสียงผู้หญิงอีกคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา แกมเยาะเย้ย: “ห้า โกหกหรือเปล่า? จะมีคนที่กล้าไม่รับสาย
ของประธานเพิ่งได้อย่างไร?”
เสียงที่เพิ่งพูดเมื่อสักครู่พูดต่อว่า: “ฉันจะโกหกพวกเธอ ทำไม? ผลสุดท้ายพวกเธอรู้ไหม ประธานเพิ่งโมโหจัด จนส่ง คนออกไปจับตัวมา คุณนายเซิ่งก็เลยถูกกักไว้ที่บนถนนแล้วก็ โดนนิ้วมาที่นี่แล้วแหละ”
“ว้าว! ประธานเชิ่งไม่เสียชื่อที่ได้รับฉายาว่าประธานจอม เผด็จการ คุณนายเชิงคงชอบที่สามีของเธอทำกับเธอแบบนี้ ล่ะมั้ง?
เสิ่นอีเวยที่อยู่ในห้องน้ำถัดมาแทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่ รีบปิดปากตัวเองทันที แล้วฟังพวกหล่อนนินทาต่อ
“อย่างนั้นเธอก็เดาผิดแล้ว พวกเธอคิดว่าคนอื่นจะคิด เหมือนพวกเราเหรอที่ชอบเรื่องทำนองประธานเผด็จการจัดการ กับภรรยาสุดสวย? ดูเหมือนว่าคุณนายเพิ่งจะไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร ตอนอยู่ในห้องประชุมก็หักหน้าประธานเซิ่ง ตอนหลัง เหมือนพวกเขาจะทะเลาะกันด้วย ได้ยินมาว่าคุณนายเซิ่งเตะ ประธานเชิ่งไปที่หนึ่งด้วยแล้วก็รีบวิ่งออกไปจากห้องทำงาน! ”
“หะ ต่อหน้าพวกเราท่านประธานเชิ่งไม่เคยทำเป็นวาง อำนาจยังมีคนกล้าไม่รับโทรศัพท์เขาแล้วยังแตะเขาอีก? เลย นิน่า ไม่มีความโกรธต่อหน้าเราเสมอมีใครบ้างที่ไม่เพียงแต่ หยิบโทรศัพท์ของเขา แต่ยังตะโกนใส่เขา? คุณนายเซิ่งคนนี้ กล้าดีมาจากไหนกันแน่ ไม่ให้ความเคารพท่านประธานเซิ่งสัก นิด ถ้าฉันได้แต่งงานกับผู้ชายที่รวยและหล่อเหมือนท่าน ประธานเซิ่ง แม้ฉันนอนหลับฝันหวานก็ยังต้องตื่นเพราะต้อง หัวเราะอย่างมีความสุข”
เห็นเพื่อนร่วมงานทำหน้าเพ้อฝัน ผู้หญิงที่คาบข่าวมาเล่า ให้ฟังหัวเราะเยาะ: “เธอนี่ เพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่ได้ไม่นาน เธอก็ เลยไม่รู้ เมื่อก่อนคุณนายเชิงก็เคยทำงานอยู่ที่นี่พักหนึ่งนะ ก่อนหน้าเมื่อสองปีก่อนเขาเพิ่งจะแต่งงานกันแต่พวกเขาชอบ ทะเลาะกันตอนอยู่บริษัท พวกเราเห็นมาหลายครั้งแล้วคุณ นายเซิงคนนี้ไม่ได้เป็นคนง่ายๆอย่างที่พวกเธอคิดหรอกนะ ผู้ หญิงคนนี้ทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้แต่งงานกับท่านประธานเพิ่ง จ้างคนไปรุมตีพี่สาวของตัวเอง สุดท้ายพี่สาวเลยกลายเป็นเจ้า หญิงนิทรา ตอนนี้ยังต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่เลย! ”
เสียงถอนหายใจและอุทานส่งผ่านเข้าหูของเสิ่นอีเวย หัวใจของเธอพาดผ่านความรู้สึกแปลก ๆ ราวกับว่ากลับไปอยู่ ในเหตุการณ์ที่เพิ่งเจ๋อเฉิงขอบทำอยู่บ่อยๆ เรื่องเมื่อสองปีก่อนกรอกเข้าไปในหูของเธอทำให้เธอรู้สึกผิดต่อเสิ่นหุ้ยอย่างมาก
อารมณ์ของเสิ่นอีเวยแย่ลงเรื่อยๆ ตอนนี้เธออยากจะพุ่ง ตัวไปกลางวงพวกที่นินทาเธออยู่ เธออยากจะอธิบายเรื่องที่ เกิดขึ้นใจจะขาด: เรื่องทั้งหมดไม่ได้เหมือนอย่างที่พวกเธอคิด ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นผู้เคราะห์ร้าย เหมือนกัน!
อัพเดทครั้งหน้า: 15 พ.ย. 2019 จะมาในเร็วๆนี้ โปรดอดใจรอก่อน-
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ