นายเป็นแค่สามีเก่า

ตอนที่ 37 การห่วงใยที่แปลกประหลาด



ตอนที่ 37 การห่วงใยที่แปลกประหลาด

อีเวยจ้องมองเชิ่งเจ๋อเฉิง พร้อมหัวเราะเย็นชา”ไม่ใช่ ว่าถูกคุณบีบคั้นหรอกหรอ มีชีวิตเก็บกดแบบนี้ ฉันก็ต้องหา สถานที่ปลดปล่อยอารมณ์ให้คลายลงบ้างสิ!”

ประโยคว่า “หาสถานที่ปลดปล่อยอารมณ์ นี้ได้ยั่วโมโห เพิ่งเจ๋อเฉิงแล้ว

คนรับใช้ในห้องโถงได้แยกย้ายออกไปแล้ว เสิ่นอีเวยถูก ผลักตกลงบนโซฟา เธอรู้ดีว่าเหตุการณ์ต่อไปต้องเป็นการ ทะเลาะที่รุนแรงแน่

ในดวงตาอันตรายขึ้น”หาส ถานที่ปลดปล่อยหรอ คิดไม่ถึงเลยว่าคุณ

เสิ่นเหลวไหลอะไร

กัน!”

“ทำไมหรอ ที่ผมพูดมาไม่ถูกหรอ? ถ้าหากคุณไม่ได้อยาก ให้ผู้ชายช่วยปลดปล่อย แล้วไปสถานที่พับบาร์แบบนั้นทำไม กัน? ไหน บอกมาผม”

ข้อมืออันเรียวเล็กของเสิ่นถูกเจ๋อเฉิงบีบจับจน เจ็บ เธอพยายามสลัดออก และพูดขึ้นว่า”ฉันขอบอกคุณเลยนะ เพิ่งเจ๋อเฉิง คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งเกี่ยวกับฉันตั้งแต่ต้น การ แต่งงานครั้งนี้คุณเองก็รู้กว่าใครว่าเป็นแค่การบังหน้า! แล้ว เดือดแบบนี้ คุณทำให้ใครดูหรอ?”
ร่างกายของเพิ่งเจอเฉิงทับลงมาอย่างแรง”ถ้าเช่นนั้นก็มา ลองดูว่า ตกลงผมยุ่งกับคุณใต้หรือเปล่า?”

เสิ่นอีเวยเกลียดการทะเลาะแบบนี้ ไม่รู้ว่าเธอเอาเรี่ยวแรง มากจากใหน เธอผลักเพิ่งเจ๋อเฉิงออกไป ทำให้เซิ่งเจ๋อเฉิงไม่ เข้ามาระรานเธออีก

หลังจากเส้นอีเวยอาบน้ำล้างกลิ่นเหล้าเสร็จ เธอก็นอนบน

เตียงทันที

คืนนี้บางทีอาจจะเป็นเพราะแอลกอฮอล์ ทำให้เสิ่นอีเวย นอนหลับสนิทอย่างเพลิดเพลิน

เมื่อตื่นขึ้นมา เสิ่นอีเวยผมว่าบนตัวมีผ้าห่มบางๆ ผืนหนึ่ง ปกคลุมอยู่ เธอจำได้อย่างแม่นยำว่าหลังจากที่เมื่อคืนเธออาบ น้ำเสร็จก็นอนหลับทันที หรือว่า..จะเป็นเซิ่งเจ๋อเฉิงเป็นคนห่ม

ให้ตัวเอง

ไม่ เป็นไปไม่ได้ ความคิดนี้ถูกเสิ่นอีเวยสลัดทิ้งอย่าง รวดเร็ว เพราะเธอมั่นใจมากว่าเชิงเจ๋อเสิ่นไม่ทำเรื่องอ่อนโยน กับเธอแบบนี้แน่นอน โดยเฉพาะหลังจากเกิดเหตุการณ์ทะเลาะ กันอย่างดุเดือดของทั้งสองเมื่อคืน

เสิ่นอีเวยเดินลงชั้นล่าง และพบกับสาวใช้ที่กำลังทำความ

สะอาดห้องรับแขกอยู่

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณเสิ่น ”

เสิ่นอีเวยพยักหน้าเบาๆ
“เมื่อคืนคุณเงินไม่ได้ดืมซุปแก้เมาเลย ไม่รู้ว่าคุณนอน หลับสบายดีไหมค่ะ?” สาวใช้ถามตามมารยาท

เสิ่นอีเวยรู้สึกแปลกใจ ทำไมสาวใช้คนนี้ จู่ๆถึงเป็นห่วง เป็นใยเธอ?

“นอนหลับสบายดี มีอะไรหรือเปล่า?”

สาวใช้ยิ้มแย้มด้วยใบหน้าที่แอบแฝงด้วยสีหน้าประจบ สอพลอ และพูดว่า”อันที่จริงก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หลังจากที่คุณ ขึ้นห้องเมื่อคืน คุณผู้ชายก็ให้พวกเราทำซุปแก้เมา เขาพาขึ้น ไปให้คุณ แต่เหมือนว่าคุณนอนหลับอยู่ ซุปเลยไม่ได้เตะต้อง”

เสิ่นอีเวยสะดุ้งตกใจ เชิ่งเจ๋อเฉิงยกซุปแก้เมาให้เธอด้วย ตัวเองหรอ? ทำไมจู่ๆเขาถึงเป็นห่วงเป็นใยเธอล่ะ?”

ไม่รอให้เสิ่นอีเวยเข้าใจ สาวใช้ก็พูดขึ้นว่า”อันที่จริงฉัน คิดว่าคุณผู้ชายเหมือนจะเป็นห่วงคุณมากเลยนะค่ะ”

เสิ่นอีเวยรู้สึกผิดปกติ ตั้งแต่แต่งงานกับเซิ่งเจ๋อเฉิงมาสอง ปีกว่า ไม่เคยมีสาวใช้คนไหนพูดคุยกับเธอมากถึงขนาดนี้เลย เพราะพวกเขาถูกเพิ่งเจ๋อเฉิงออกคำสั่งไว้ไม่อนุญาตให้ใครพูด คุยกับเธอ และไม่อนุญาตให้ใครเรียกเธอว่าคุณผู้หญิงด้วย ดัง นั้นเลยถูกเรียกว่า “คุณเสิ่น” มาโดยตลอด

แต่จู่ๆวันนี้มีสาวใช้กลับเป็นห่วงเป็นใยเธอ ไม่ว่าเสิ่นอีเวย คิดยังไงเซึ่งเจ๋อเฉิงก็ยังมีท่าทางเย็นชาเหมือนเมื่อก่อน แต่เมื่อ คืน…คิดไม่ถึงว่าเขาจะยกน้ำซุปแก้เมาให้ตัวเอง
ดังนั้น ในสายตาของคนรับใช่แล้ว เธอได้รับความเอ็นดู แล้ว นางเอกได้รับความรักแล้ว พวกเขาเลยต้องมาประจบ สอพลอเพื่อมีผลประโยชน์ในภายภาคหน้า

แต่เสิ่นอีเวยไม่ได้สนใจและคิดไตร่ตรองเรื่องรายละเอียด อื่น แต่ความสนใจหลักของเธออยู่ที่เรื่องที่เชิ่งเจ๋อเฉิงยกซุปแก้ เมาให้ตัวเอง

หากพูดตามความจริงแล้ว ถึงแม้ภายนอกของเสิ่นอีเวยจะ ดูนิ่งเงียบ แต่ในใจตกใจหนักมาก

เพราะหลายปีมานี้เซิ่งเจ๋อเฉิงไม่เคยแสดงความเป็นห่วง เป็นใยต่อเธอเลย

เสิ่นอีเวยมองสาวใช้ด้วยสายตาเย็นชา”อันที่จริงเธอไม่ ต้องทำแบบนี้ก็ได้ ต่อไปเธอก็ทำตัวเหมือนเมื่อก่อนที่ปฏิบัติต่อ ฉัน”

ท่าทางที่เย็นชาของเสิ่นอีเวย อันที่จริงมีเหตุผล ถ้าหาก เธอจำไม่ผิด สาวใช้ที่ยืนอยู่ต่อหน้าตัวเองตอนนี้เป็นสาวใช้คน หนึ่งที่ดูถูกเธอที่สุดคนหนึ่ง ตอนที่เสิ่นอีเวยแต่งงานกับเซิ่งเจ๋อ เฉิง

แน่นอนว่าเธอจะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย เพราะคนที่ประจบ สอพลอแบบนี้ เสิ่นอีเวยไม่รู้สึกเสียดายแม้แต่น้อย

บนใบหน้าของสาวใช้เดี่ยวแดงเดี่ยวขาว เมื่อเห็นว่าเสี่ นอีเวยไม่สนใจเธอแล้วก็รีบเดินออกไปเลย

รถยนต์ที่อยู่บนถนนกว้างขับตรงไปเส้นทางของบริษัทไม่รู้ว่าเป็นเพราะอากาศร้อนอบอ้าวหรือเปล่า เสินอีเวยรู้สึกวิง เวียนศีรษะนิดหน่อย และมือก็เริ่มค่อยๆ หมดแรง

เธอนึกว่าเป็นเพราะแอลกอฮอล์ในร่างกายยังไม่ขับออก จนหมด เธอเลยสะบัดหน้ารวบรวมสติ เพื่อพยายามกระตุ้นตัว เองให้มีสติ แต่หลังจากผ่านไปไม่นาน ความรู้สึกวิ่งเวียนศีรษะ ก็ยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งความรู้สึกนี้มีอาการคล้ายกับ ตอนที่รู้สึกวิงเวียนศีรษะในห้องประชุมเลย

เสิ่นอีเวยรู สีกกระวนกระวาย เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ เธอ รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าและโทรหาโรง พยาบาล แต่สติกลับยิ่งเลือนราง เธอรวบรวมเรี่ยวแรงอันน้อย นิดเหยียบแบรกรถให้หยุดอย่างแรง

ก่อนที่สติจะหายไป หูของเสิ่นอีเวยเต็มไปด้วยเสียงบีบ แตรจากรถยนต์ข้างหลัง.

เสิ่นอีเวยอยู่ในโรงพยาบาล หลังจากผ่านมาสองวันหรือสี่ สิบแปดชั่วโมง เธอก็ฟื้นขึ้นจากการหลับไหล

วินาทีที่ลืมตาขึ้นมา เสิ่นอีเวยรู้สึกเหมือนกลับไปมีนงงเมื่อ ครั้งที่แล้ว แต่ครั้งนี้เธอรับรู้ได้ว่าอาการรุนแรงไม่เหมือนกัน และในห้องผู้ป่วยก็ว่างเปล่าไม่มีคน

บนหลังมือข้างซ้ายเกิดความรู้สึกเจ็บปวดขึ้นเล็กน้อย เมื่อ เสิ่นอีเวยก้มหน้ามองดูก็เห็นเข็มเสียบอยู่

สิ่นอีเว่ยต้องการอยากไปหาคุณหมอเพื่อสอบถาม สถานการณ์ร่างกายของตัวเอง เธอพาดเสื้อคลุมไว้บนไหล่ขณะที่มือเพิ่งเตะด้ามจับนั้น ประตูก็ถูกเปิดออกมา

คนที่เข้ามาคือคุณหมอที่ดูแลเคสของเสิ่นอีเวย เขาคือคุณ หมอลู่ เขาเพิ่งกลับมาจากเรียนเพิ่มเติมที่ต่างประเทศเมื่อปีที่ แล้ว ถึงแม้ยังอายุน้อย แต่ในสังคมวงการแพทย์ถือว่ามีระดับ ฝีมือที่มีชื่อเสียงมาก

หลังจากพบกับเซียวหันถึงในคืนนั้นที่ถูกเชิงเจ๋อเฉิงกระชา กโทรศัพท์มือถือ และสายโทรจากฉิน โม่ถูกตัดสายไปนั้น เสี่ นอีเวยก็ได้มาพบฉินโม่ และอธิษฐานสถานการณ์

เมื่อฉินโม่ทราบถึงอาการป่วยของเสิ่นอีเวย เขาก็ติดต่อ กับคุณหมอลู่คนนี้โดยตรงทันที เนื่องจากฉิน ไม่มีความสัมพันธ์ ระดับหนึ่ง ทำให้เสิ่นอีเวยกับคุณหมอลู่คนนี้พูดคุยถูกคอกัน

เมื่อคุณหมอสู่เห็นเสิ่นอีเวยก็สะดุ้งตกใจทันที”คุณเสิ่น ฟื้น แล้วหรอครับ? รู้สึกยังไงบ้าง?”

เสิ่นอีเวยยิ้มและพยักหน้าเล็กน้อย แต่สีหน้ากลับขาว ซีด”ยังรู้สึกวิงเวียนศีรษะนิดหน่อยค่ะ ส่วนตรงอื่นไม่น่าจะมี ปัญหาอะไร”

ปากของคุณหมอลู่ยกขึ้นเล็กน้อย เหมือนกับมือะไรจะพูด เสิ่นอีเวยรู้สึกเหมือนกับวันนี้คุณหมอลูกดูผิดปกติไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ