นายเป็นแค่สามีเก่า

ตอนที่ 34 คุณไม่มีสิทธิ์พูดถึงเธอ



ตอนที่ 34 คุณไม่มีสิทธิ์พูดถึงเธอ

เสิ่นอีเวยแกล้งเป็นไม่ได้ยิน และเดินตรงออกจากประตู ห้อง แต่มีเสียงออดอ้อนดังขึ้น”เสิ่น ตูเหมือนเธอจะไม่ฟังคำพูด

ของคุณนะค่ะ”

เมื่อเสิ่นอีเวยได้ยินประโยคที่ทำให้คนอยากสะอิดสะเอียน เธอก็หันหลังกลับและเดินตรงไปยกคางของผู้หญิงที่อยู่ในอ้อม กอดเซิงเจ๋อเฉิง เห็นได้ชัดว่าเสิ่นอีเวยกำลังข่มขวัญเธอ

บนใบหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงเผยสีหน้าเล่ห์เหลี่ยมขึ้น”ทำไม ถึงกลับมาเร็วจังล่ะ ทำเรื่องกับเซียวหันถึงเป็นยังไงบ้าง?”

เมื่อได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยการเสียดสี ขนตาของเสี่ นอีเวยก็สั่นเทา อันที่จริงเธอได้ปฏิเสธเชียวหันถึงเพราะหลัก มนุษยธรรม แต่เขากลับประชดประชันกันอย่างเลือดเย็นที่นี้ ตอนแรกติดอยากอาละวาด แต่จู่ๆเสิ่นอีเวยกลับรู้สึกวิงเวียน ศีรษะขึ้นมา

หลังจากผ่านการตรวจสอบวินิจฉัยพบว่าเป็นเนื้องอกตับ ช่วงเวลานี้มาเสิ่นอีเวยก็ยังไม่ได้ไปโรงพยาบาลเพื่อดำเนินการ ตรวจสอบอีกครั้งเลย อีกอย่างก็เพิ่งเกิดเหตุการณ์สะเทือนใจ ด้วย เลยทำให้อารมณ์ของตัวเองแย่ทรุดลง

วินาทีที่รู้สึกวิงเวียนศีรษะ เสิ่นอีเวยถึงจะสำนึกได้ว่าตอนนี้ ตัวเองเป็นคนป่วยอยู่ และมีโอกาส…ตายได้ ดังนั้นเธอจะไปโต้ เถียงอะไรกับพวกเขาก็หนักหนาล่ะ?

แต่สิ่งที่เห็นอีเวยคิดไม่ถึงก็คือ เซิ่งเจ๋อเฉิงจะไม่ชอบเธอก็ไม่เป็นไร แต่เขาเคยพูดว่ารักเฉินหุ้ยมาโดยตลอดไม่ใช่หรอ? แล้วทำไมตอนนี้ถึงมานอนพิงกับผู้หญิงคนอื่นบนเตียงเดียวกัน ด้วยล่ะ?

เสิ่นอีเวยรู้สึกเข้าใจยาก

“เซิ่งเจ๋อเฉิง คิดไม่ถึงว่าตอนนี้คุณจะหลอกลวงจนถึงขั้นนี้

ได้!”

ชั่วพริบตาสีหน้าของผู้ชายที่อยู่บนเตียงเปลี่ยนเริ่มมืด ครี้ม และเขาก็พูดคำสามพยางค์แฝงด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง อย่างรุนแรง”ไปให้พ้น”

เมื่อผู้หญิงที่อยู่บนเตียงเห็นท่าทางเสิ่นอีเวยถูกฉีกหน้า ในใจก็เกิดความรู้สึกสะใจขึ้นมา เมื่อเห็นเซิ่งเจ๋อเฉิงไล่เสี่ นอีเวยไปให้พ้น เธอก็รีบพูดซ้ำเติมข้างๆว่า”ได้ยินหรือยัง? เฉิ งบอกให้เธอไปให้พ้น!”

“ผมให้คุณออกไปต่างหาก” เซิ่งเจ๋อเฉินแทบจะไม่กะพริบ

ตาเลย

วินาทีก่อนผู้หญิงคนนั้นยังยิ้มแย้มเบิกบาน แต่วินาทีนี้ รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของเธอกลับแข็งที่อ เธอเลิกตากว้างหัน หน้ามองเซิ่งเจ๋อเฉิง”เฉิง เมื่อกี้คุณพูดอะไรนะค่ะ..”

“ผมบอกให้คุณไสหัวไปไง คำพูดเดิมอย่าให้ผมพูดเป็น

รอบที่สามนะ!”

สาวผมลอนถูกความเคือง โกรธของเซิ่งเจ๋อเฉิงทำตกใจ เธอรีบเดินลงจากเตียง และหยิบเสื้อของตัวเองบนพื้น ก่อนจะออกจากห้อง ขณะที่เดินผ่านเสินอีเวย เธอยังจ้องมองเสิ่นอีเวย แวบหนึ่งอย่างเคียดแค้น

เสิ่นอีเวยไม่รู้ว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงลงจากเตียงตอนไหน เธอรู้แค่ ว่าหลังจากที่ตัวเองหันหลัง แขนก็ถูกจับและเขวี่ยงลงบนเตียง

เสิ่นอีเวยรู้สึกแปลกใจ เพิ่งเจ๋อเฉิงไม่ใช่เสร็จกิจกับผู้หญิง

คนนั้นบนเตียงหรอกหรอ? ทำไมร่างกายช่วงล่างของเขาถึง สวมกางเกงอย่างเรียบร้อยล่ะ?

ดวงตาของเสิ่นอีเวยหรี่ลง ริมฝีปากอวบอิ่มก็เม้มด้วย เสี่ นอีเวยรู้ดีว่าตอนที่เขาโกรธเดือดตาลจะเกิดอะไรขึ้น

“เมื่อกี้คุณบอกว่าผมลวงหลอกหรอ?”

“หรือว่าไม่ใช่หรอ? สาเหตุที่คุณมีทำตัวน่ารังเกียจกับฉัน มาตลอดสองปีมานี้ ไม่ใช่เพราะคุณคิดว่าฉันทำร้ายพี่สาว หรอกหรอ? และที่คุณเก็บฉันไว้ข้างกายก็เพื่อทรมานคลาย ความโกรธแค้นเรื่องเธอไม่ใช่หรอ? เห็นได้ชัดว่าคุณรักเธอ มาก แต่คุณช่วยบอกฉันหน่อยว่า ผู้หญิงคนนั้นเมื่อกี้เป็นใคร! ทำไมคุณถึงอยู่ด้วยกันกับเธอได้?”

เพิ่งเจ๋อเฉิงแทบจะไม่เอาคำพูดของเสิ่นอีเวยเก็บมาใส่ใจ เลย”คุณไม่มีสิทธิ์พูดถึงชื่อของเสิ่นหุ้ย?”

น้ำตาของเสิ่นอีเวยไหลพรากออกมา”นับตั้งแต่เกิดมา หลายปี ฉันนึกว่าฉันแพ้แค่กับพี่สาว ใช่ เธอเก่งและโดดเด่นมา ตั้งแต่ไหนแต่ไร และยังดีกว่าฉันทุกอย่างด้วย แต่ตอนนี้ล่ะ ? พี่ สาวยังนอนสลบอยู่ที่โรงพยาบาล แต่คุณกลับมาทำบ้าอะไรกับผู้หญิงคนอื่น คุณทำกับเธอแบบนี้ได้ลงคอได้ยังไง?

ผมทำอะไรไปหรอ ต่อให้ผมทำเลยทำไมผมต้องมาบอก คุณอย่างชัดเจนด้วย แล้วตอนที่คุณไปกับเชียวหันถึง คุณเคย คิดถึงความรู้สึกผมบ้างไหม? ทำไมหรอ อยู่ต่อหน้าเขาต้อง แสดงความสามารถพิศสวาทของตัวเองหรอ?”

เมื่อเห็นเซิ่งเจอเสิ่นที่อยู่เบื้องหน้าโศกเศร้า เสิ่นอีเวยก็ สะดุ้งตกใจ เธอคิดมาเสมอว่าเพิ่งเจ้อเฉิงคงไม่สนใจ ถ้าหาก เธอกับผู้ชายคนอื่นมีอะไรกัน เพราะเขาแทบไม่รักตัวเองเลย

แต่เพราะเป็นของที่เขาไม่ได้รับ เขาเลยไม่ยอมให้คนอื่น ได้รับด้วย หลายปีมานี้เสิ่นอีเวยก็เข้าใจดีในส่วนนี้

แต่เมื่อสักครู่…เธอเห็นในแววขุ่นเคืองของเชิ่งเจ๋อเฉิงมี ความขุ่นเคืองของการสูญเสียของรักของตัวเอง และยังมีแวว ตาเสียหน้าด้วย เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าเหมือนตัวเองดูผิดไป

เป็นดังที่คาดการณ์ไว้ วินาทีต่อมา ทั่วทั้งร่างกายของเสี่

นอีเวยก็ถูกรังสีอำมหิตของเพิ่งเจ้อเฉิงปกคลุมไปหมดแล้ว เธอ กรีดร้องหลังจากล้มลงบนเตียง และเพิ่งเจ๋อเฉิงก็โน้มตัวจูบ จากนั้นเสิ่นอีเวยก็เบิกตากว้างสองข้าง

เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าการจูบของเซิ่งเจ๋อเฉิงครั้งนี้กับครั้งก่อน หน้านี้ไม่กี่ครั้ง และทุกๆครั้งยังเพิ่มความป่าเถื่อนมากขึ้นด้วย แต่ครั้งนี้เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าเชิ่งเจ๋อเฉิงเหมือนกับอยากจะครอบ ครองร่างกายของเธอ ดูเหมือนเขาปราณนาต่อเรือนร่างของ เธอ และไม่ได้ป่าเถื่อนเหมือนกับเมื่อก่อน
เสื้อผ้าของเสินอีเวยถูกเซิ่งเจอเฉิงกระชากออก ทำให้ ร่างกายเปลือยช่วงบนของเธอสั่นเทา จากนั้นมืออันเรียวยาว ทั้งสองข้างดึงแขนของเซิ่งเจ๋อเฉิงเข้ามา

เสิ่นอีเวยกัดอย่างแน่น เธอกัดใส่แขนของเซิ่งเจ๋อเฉิงหนึ่ง ที่เธอไม่ได้กัดเพราะโต้ตอบ แต่เพราะเคียดแค้น

เพิ่งเจ๋อเฉิงส่งเสียงร้องในลำคอ แต่มือยังคงกระทำต่อไป อย่างไม่หยุดหย่อน

เสิ่นอีเวยพยายามตะเกียกตะกายอย่างสุดกำลัง ทั้งใช้ แขนขา แต่เซิ่งเจ๋อเฉิงดึงเนคไทเส้นสีดำออกมา ขณะที่เสี่ นอีเวยตะเกียตะกายนั้น เขาก็ใช้เนคไทมัดมือทั้งสองข้างไว้

“เชียวหันถึงทำยังไงต่อคุณบ้าง? รีบบอกผมมา” เซิ่งเจ๋อ เฉิงส่งเสียงร้องที่แข็งที่อข้างหูของเสิ่นอีเวย เสิ่นอีเวยทนรับการ กดดันนี้ไม่ไหวแล้ว ทำให้ลำคอของเธอส่งเสียงร้องคร่ำครวญ

เสิ่นอีเวยพยายามพูดแก้ต่าง ถึงแม้จะรู้ว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงจะไม่ รับฟังก็ตาม ” คุณ…คุณอย่าเข้าใจฉันผิด ฉันกับท่านประธาน เชียวไม่ได้มีอะไรกัน…”

“อย่ามาล้อเล่น ผมได้รับสายโทรศัพท์จากเขาแล้ว เขา บอกว่าคุณได้รับบริษัทแห่งนั้นของแม่คุณแล้ว ได้รับง่ายดาย อย่างนี้เลย นอกจากนอนแล้วได้มาคุณจะทำอะไรได้!”

คำพูดของเพิ่งเจ๋อเฉิงเหมือนมีดแหลมคมหลายด้ามที่พุ่ง เข้ามาที่มแทงหัวใจของเสิ่นอีเวยจนแหลกละเอียด
เส้นอีเวยอยากจะอธิบาย แต่ทั่วร่างกายของเธอเจ็บปวด ไปหมด นอกจากถูกเชิ่งเจ๋อเฉิงล่วงเกิน เธอก็แทบจะไม่มี เรี่ยวแรงแล้ว

เสิ่นอีเวยสูญเสียการควบคุม ร่างกายช่วงล่างของผู้หญิง กำลังพยายามตะเกียตะกายออกจากความรุ่มร้อนภายในใจ ของเพิ่งเจ๋อเฉิงที่รุนแรง แผ่นหลังและหน้าผากที่เปลือยของเขา ชโลมเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ

การเผชิญหน้าต่อการจู่โจมของเซิ่งเจ๋อเฉิงอย่างนี้ ทำให้ ความต้องการต่อต้านของเสิ่นอีเวยลดเหลือครึ่ง เธอเกลียดตัว เองตอนเป็นแบบนี้ เธออยากสลัดออกจากที่นี้ แต่เธอทำไม่ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ