นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่181 สิ่งที่เจิ้งอวิ๋นชวนก่อเหตุไว้



บทที่181 สิ่งที่เจิ้งอวิ๋นชวนก่อเหตุไว้

สาวน้อยชาวจีนชื่อว่า ผางเจียเม่ย

มิตรภาพระหว่างเด็กสาวทั้งสองเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ

ไม่ว่าจะไปที่ไหน

พวกเธอแทบจะไปด้วยกันทุกที่

แต่มีอยู่วันหนึ่งความคิดของทั้งสองไม่ตรงกัน เรื่องเกิดขึ้นในช่วงเย็นของฤดูร้อน

วันนั้นเสิ่นอีเวยไม่มีเรียน จึงอยู่ที่บ้านเฉยๆ ผางเจียเมย เลิกเรียนตอนหกโมงเย็น

เธอชวนเส้นอีเวยไปบาร์

โดยให้เหตุผลว่าอยากหาอะไรท้าทายทำแต่ก็ถู กเ นอีเวยปฏิเสธ

ถึงแม้ว่า

ตั้งแต่เล็กจนโดพ่อแม่ของเธอจะได้เข้มงวดกว ดขันให้อยู่ในค่านิยมแบบโบราณ

แต่ก็ไม่รู้ว่าทําไม

เ น เวยเป็นคนที่ไม่ชอบสภาพแวดล้อมที่มีเสี ยงดัง และจ้อกแจ้กจอแจอย่างบาร์หรือดิสโก้ ไม่ใช่เพราะเธอขี้กลัว หรือรู้สึกว่าไม่สนุก

เพียงแค่เธอเกลียดสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังแ

บบนั้นแค่นั้นเอง แม้ว่าตอนนั้น

เงินอีเวยจะยังวัยรุ่นอยู่

แต่เธอก็คิดเสมอว่าคนเราควรจะหาเวลาว่างอยู่

ในสถานที่ที่เงียบสงบบ้าง

ดังนั้นเธอจึงไม่เคยไปพวกบาร์เหล้าเลย

การที่ต้องต้องเผชิญหน้ากับคำชักชวนของยาง

เจียเม่ยกว่าสองชั่วโมง

ในที่สุดเสิ่นอีเวยก็รับปากทั้งสองก็ขับรถไปที่บา

แถวๆบ้าน

บุคลิกของผางเจียเม่ย

เป็นประเภทที่เปิดกว้างมาก

แบบที่ว่าไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน

ดังนั้นนิสัยที่เหมือนกระต่ายน้อยสีขาวของเงิน

อีเวย

ก็ยิ่งเด่นชัดยิ่งขึ้นเมื่อไปกับเพื่อนคู่หูอย่างผางเ

จียเม่ย

อาจเป็นเพราะวันถัดมาเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ในคืนนั้นจึงมีนักเรียนจำนวนมากในบาร์ เงินอีเวยคิดว่ายังไงในบาร์ส่วนใหญ่ก็เป็นนักเรี ยน น่าจะไม่มีคนไม่มีอยู่ในนี้ บวกกับแอลกอฮอล์ที่มีอยู่ในกระแสเลือดของเ

ธออีกเล็กน้อย

ความระมัดระวังตัวของเธอที่มีในตอนแรกก็เริ่ม

อ่อนลง

เสิ่นอีเวยเต้นไปกระโดดไปตามการนำของนางเ

เม่ย

ทั้งสองสนุกสนานอย่างสุดเหวี่ยงจนไม่รู้ตัวว่าโ ดนใครบางคนจ้องเป็นเป้าหมายอยู่

นิสัยของหนุ่มสาวชาวยุโรปและอเมริกาส่วนให ญ่เปิดกว้างยั่งเห็นและคุ้นเคยกับผู้หญิงที่มีนิสัย เปิดกว้าง

ชายหนุ่มมองปราดเดียวก็จ้องเล่นงานหญิงสาว ที่ดูออกว่าเพิ่งมาสถานที่แบบนี้เป็นครั้งแรกอย่า งเล่นอีเวย

ในสภาพแวดล้อมที่อีกกระทึกครึกโครมขนาด

คนที่ดูเงียบๆจะดึงดูดความสนใจได้มากกว่าคน ที่กำลังสนุกสนานครื้นเครง โต๊ะที่ตั้งอยู่ในซอกหนึ่งของสถานที่แห่งนั้นมีซา ยหนุ่มลูกครึ่งนั่งอยู่

เขากำลังจ้องมองเสื่นอีเวยอยู่อย่างไม่กระพริบ ตา ดังนั้นตอนที่เขาส่งคนไปคุยกับผางเจียเมีย เขาก็มือไวใสยาลงไปในแก้วเหล้าของเงินอีเว

หลังจากบรรลุตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ ชายทั้งสองก็เดินไปนั่งสบายๆที่โต๊ะตรงมุมเดิม สังเกตปฏิกิริยาของเสิ่นอีเวยต่อไป

แต่ไม่มีใครคาดคิดว่า เรื่องในตอนท้าย ผางเจียเม่ยเป็นคนดื่มเหล้าแก้วที่มีปัญหานั้นเสี ยเอง แม้ว่าแสงไฟในบาร์จะมีสีสันฉูดฉาด แต่สถานที่ด้านในก็สลัวมากจึงมองอะไรได้ไม่ค่ อยชัดเจนเท่าไร

สาวน้อยกระโดดโลดเต้นสนุกสนานสุดเหวี่ยงเ ต้นไปเต้นมาเลยกระดกเหล้าซะหมดแก้ว ตอนที่เสิ่นอีเวยกำลังจะห้ามผางเจียเมียก็กระด

กแก้วเหล้าเข้าปากหมดแล้ว หลังจากดื่มเหล้าไปสิบนาทีร่างกายของผางเจ็ ยเม่ยก็เริ่มมีปฏิกิริยาแปลกๆเกิดขึ้น ที่จริงแล้ว “ยา” ที่ใส่ลงไปในแก้วเหล้านั้น

ไม่ใช่ยานอนหลับเพียงแต่ทำให้เกิดอาการปวด

ท้องและเวียนศีรษะ

วัตถุประสงค์ของชายลูกครึ่งคนนั้นเพียงแต่อยา กเห็นคนที่ทำเป็นผู้ดีอย่างเสิ่นอีเวย

โดนแกล้งเท่านั้น

หลังจากนั้นจะได้ฉวยโอกาสไปทักทายทําดีด้ว

แต่พอเขาเห็นว่าเหล้าแก้วนั้นถูกคนอื่นดื่มผิด หนุ่มลูกครึ่งก็หมดอารมณ์เล่นต่อ

เมื่อเงินอีเวยเห็นความผิดปกติของผางเจียเมีย ก็ตกใจ ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมาก

เธอรีบพยุงผางเจียเมีย

ขึ้นรถแล้วมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลทันที

หลังจากทรมานสังขารไปๆกลับๆโรงพยาบาลอ ยู่สองวัน แล้วเห็นผางเจียเมียทรมานอย่างหนัก เงินเวยยอมไม่ได้

พวกเธอเริ่มรู้ตัวว่าในคืนวันนั้นถูกวางยาใส่ในแ กัวถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

นิสัยของผางเจียเมียดูเหมือนเป็นคนน่าจะเอาเรื่ องคน แต่พอเกิดเรื่องจริง

ๆกลับเป็นคนที่กลัวน้นกลัว ความคิดของหล่อนคือ พวกเธอเป็นแค่หญิงสาวตัวเล็ก

ๆอยู่ต่างบ้านต่างเมืองแถมไม่มีญาติในอังกฤษ

ถ้าเกิดไปมีเรื่องกับพวกมาเฟียเจ้าถิ่นจะลำบากเ

ปล่าๆ

ดังนั้นเลยบอกกับเสิ่นอีเวยให้ลืมเรื่องนี้ไปซะไม่ ต้องไปตามหาว่าใครเป็นคนทํา

แต่เงิน เวยยอมไม่ได้

ผางเจียเมียเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอที่เจอในอั

งกฤษ

ยิ่งคิดว่าคนที่ต้องดื่มเหล้าในแก้วนั้นควรจะเป็นเ

ธอ

ผางเจียเมียเป็นคนรับเคราะห์แทนเธอไว้ในใจก็

ยิ่งนักโมโหมากขึ้น

เสิ่นอีเวยสัญญาผิวเผินกับผางเจียเมียว่าจะปล่อ ยเรื่องนี้ไปไม่เข้าไปยุ่งอีก

แต่เธอแอบไปติดต่อกับรุ่นพี่ที่รับหน้าที่ดูแลบาร์ เหล้าแห่งนั้น รุ่นพี่เป็นชาวอังกฤษ เขารู้จักที่และคนแถวนั้นเป็นอย่างดี เขารับปากช่วย เงินอีเวยเปิดย้อนดูกล้องวงจรปิดในบาร์คืนนั้น

หลังจากตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด และตรวจสอบข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต

เสิ่นอีเวยก็รู้แล้วว่า

คนที่ใส่ยาลงในแก้วของเธอชื่อว่าไซรัสเป็นลูก ครึ่งชาวอเมริกันเชื้อสายจีนชื่อภาษาจีนว่าเจิ้งอ

วั่นชวน

เป็นคนที่มีฐานะดี ตระกูลใหญ่ ช่วงนั้นกำลังศึกษาอยู่ที่อังกฤษ

เงินอีเวยเป็นคนที่ไม่เคยกลัวคนที่มีครอบครัว

มิหลังใหญ่อยู่แล้ว

ดังนั้นเมื่อเธอรู้ตัวตนของเจิ้งอวิ๋นชวน เธอจึงไม่มีความหวาดกลัวหรือตกใจใดๆ

ความเห็นของเธอในตอนนั้น

เจิ้งอวิ๋นชวนเป็นพวกอันธพาลอย่างไม่ต้องสงสั

คนหนึ่ง

รังแกผู้หญิงเรื่องแบบนี้ถ้าเธอไม่เอาคืนซะบ้าง คงไม่มีทางทําใจเย็นได้ ที่จริง เสิ่นอีเวยไม่ใช่คนที่แค้นฝังหุ่น แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวพันถึงเพื่อนรักของเธอ รวมไปถึงความปลอดภัยของครอบครัวของพวก

เธอ

ดังนั้นเธอต้องเอาคืนหนุ่มลูกครึ่งเสเพลคนนั้นซ

ะบ้าง

ตอนนั้นเ นอีเวย

ก็ไม่รู้ว่าไปเอาความกล้าบ้าบิ่นมาจากไหน เธอเอาเงินไปจ้างพวกเด็กเกเรของโรงเรียนกลุ่ มหนึ่ง พวกนั้นนั่งรออยู่หน้าบาร์หลายคืน

ในที่สุดก็รอจนถึงโอกาสที่เจิ้งอวิ๋นชวนออกมาสู

บบุหรี่ข้างนอกบาร์

พวกนั้นจับเจิ้งอวิ๋นชวนมัดอย่างหนาแน่นและปี ดตากึ่งลากกึ่งหามเขาไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง

เจิ้งอวิ๋นชวนถูกปิดตาไว้

จึงไม่รู้ว่าใครเป็นคนจับเขามัดมา

ได้แต่คํานวณจากแรงที่เขาถูกพลักว่าน่าจะเป็น กลุ่มผู้ชายกลุ่มหนึ่ง

เขาไม่เคยคิดว่า

หลังจากที่เปิดกระสอบที่คลุมหัวของเขาออกเส

ร็จ สิ่งที่เขามองเห็นด้านหน้าจะเป็นใบหน้านวลเนี

ยนขาวสะอาด

นาทีนั้นสีหน้าของเจิ้งอวิ๋นชวนตกตะลึงอย่างสุ

ดขีด

สาวน้อยคนนี้เป็นคนที่เขาวางยาใส่ในแก้ว

ตอนอยู่ในบาร์คืนนั้นนี่หน่า?

มองท่าทางดูท่าจะมาเพื่อแก้แค้น

เจิ้งอวิ๋นชวนจดจําการสนทนาของเขากับสาวน้อ

ยในคืนนั้นได้ทั้งหมด

เวลานั้นเองเขาทั้งรู้สึกโกรธและตลกหญิงสาว

ตรงหน้าอายุแค่สิบเก้า

ความโมโหทำให้แก้มที่อิ่มเอิบของเธอแดงฉาด

เขาสาบานเลยว่า ถ้ามือไม่ได้ถูกมัดไว้ เขาต้องอดไม่ได้ที่จะเข้าไปขยี้แก้มแดงๆของเธ

อเล่น

ในเวลานั้นความคิดของเจิ้งอวิ๋นชวน

มองเห็นเสิ่นอีเวยเป็นเพียงสาวน้อยตัวเล็ก ๆ

เท่านั้น

ลืมไปเลยว่าตัวเองมีอายุมากกว่าเธอเพียงแค่ส องปี เสิ่นอีเวยในอายุสิบเก้า รูปร่างเบาะบาง แต่แรงไม่ได้น้อยตามตัว

เจิ้งอวิ๋นชวนยังไม่ทันได้ดึงสติกลับมาก็ถูกสาวน้

อยตรงหน้าจักผมขึ้นมา

เสียง เยือกเย็นของเงินอีเวยลอยมาจากบนหัว ของเขา: “แกคือไซรัส หรือ

เจิ้งอวิ๋นชวนใช่ไหม? ในบาร์คืนนั้น แกใช่ไหม ใส่ยาแปลกๆลงในแก้วเหล้าของฉั

น?”

คนที่โดนจิกผมอยู่

พูดภาษาจีนสําเนียงไม่ได้เรื่องตอบเธอ ท่าทางยอมรับอย่างเปิดเผยดี: “ใช่ฉันเอง แด่เธอ …”

เสิ่นอีเวยไม่ให้โอกาสกับเจิ้งอวิ๋นชวนพูดประโย คต่อไป เธอพูดตัดบททันควัน: “ได้

ในเมื่อฉันจับไม่ผิดคน

ถ้าอย่างนั้นฉันจะเริ่มแล้วนะ”

น้ำเสียงของเสิ่นอีเวยราบเรียบแต่กลับทำให้เจิ้ง อวิ๋นชวนขนหัวลุก “เธอ เธอจะทำอะไร?”

ไม่ได้รับคำตอบใดๆทั้งสิ้น สิ่งที่ต้อนรับเขาคือปากกามาร์คเกอร์ เสิ่นอีเวย ถอดเสื้อของเขาออก

เธอบรรเลงฝีมือวาดเขียนลงบนตัวและหน้าของ ตอนแรกเขาคิดว่าสิ่งที่เขาได้รับคือโดนรุมกระทื

เขาลายพร้อยไปหมด

ไม่เคยคิดเลยว่าจะโดนสาวน้อยคนนี้ใช้วิธีนี้ในก

ารแก้แคันตน

G


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ