นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่173งานเลี้ยงความร่วมมือของผู้ ลงทุนหล่อนก็เป็นคนลงมือ



บทที่173งานเลี้ยงความร่วมมือของผู้ ลงทุนหล่อนก็เป็นคนลงมือ

บทที่ 173 งานเลี้ยงความร่วมมือของ ลงมือ” ผู้ลงทุน หล่อนก็เป็นคน

เพิ่งเจ๋อเฉิงตั้งใจฟังการสนทนาในปากกาบันทึกเสียงสีหน้าค่อยๆเคร่งเครียดขึ้น แต่เป็นเวยรู้ดีว่าเขาไม่ได้โกรธที่ ฉันกล้ามาทำกับหล่อนได้ถึงขนาดนี้

แต่สิ่งที่เขาโมโหก็คือ คนในบริษัทเพิ่งเชื่อที่อยู่ในสายตา เขามาตลอดยังมีคนกล้าทำเรื่องพรรค์นี้ขึ้นมาได้ แล้วยิ่งเป็น คนที่เขาตั้งใจเลือกข้ามาเองอีก

เขาก็แค่รู้สึกว่าตัวเองเป็นถึงผู้นำยังถูกหักหน้าก็แค่นั้น

แหละ

เสียงที่บันทึกไว้ของจึงยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ ฉัน ชื่อเฟิง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องเข้ามายุ่งด้วย วันแรกที่เธอ มาทำงานที่นี่ก็คงดูออกแล้วว่าฉันกับเสิ่นอีเวยเป็นศัตรูกัน ฉัน อยากจะทำลายหล่อน ที่เธอพูดก็ไม่ผิดอะไร โครงสร้างและ แนวคิดการออกแบบฉบับนี้เดิมอยู่ที่หล่อน แต่ตอนนี้ตกมาอยู่ ที่มือฉันแทน ใครเป็นคนบอกให้หล่อนไม่มีปัญญารับผิดชอบ การออกแบบชุดแต่งงานนี้หล่ะ? ความรับผิดชอบการแข่งขัน ในครั้งนี้ตกมาอยู่ที่ฉัน ฉันบอกว่าอะไรก็ต้องเป็นแบบนั้น เธอแค่ทำตามที่ฉันบอก ถึงยังไง อย่าลืมซะหล่ะว่าความลับของ เธอมันอยู่ในมือฉันแล้ว !

น้ำเสียงของสอันงดูพออกพอใจเอาซะเหลือเกิน

เพิ่งเจ๋อเฉิงกดปุ่มหยุดไว้แล้วมองมาทางเส้นเวย สีหน้า เขาถามอย่างเคร่งขรึม : “ทำไมเป็นพวกหล่อน? ยังมีอีก สวอน จึงไปรับรู้ความลับอะไรของฉันจื่อเฟิงมา?”

เงินอีเวยไม่คิดที่จะตอบคำถามเขาเพราะจากสิ่งที่หล่อน เห็นคือ เขาเป็นคนตกปากรับคำให้สวอันจึงข้ามาทำงานใน บริษัทของเขาเอง ตอนนี้กลับมีเรื่องเกิดขึ้นใกล้ตัวเขานั่นเป็น เรื่องของเขา

หล่อนมองเขาอย่างไร้อารมณ์แล้วพูดโพล่งขึ้นมา : “คุณก็ ฟังต่อสิเดี๋ยวก็รู้เรื่องเองแหละใช่ไหม?”

เพิ่งเจ๋อเฉิงถูกหล่อนตอกหน้ากลับมาแต่เขาก็ไม่ได้เอามา

ใส่ใจที่จะหาเรื่องหล่อนต่อ

เขากดปุ่มฟังอีกครั้ง

เสียงแข็งกร้าวของฉินจื่อเพิ่งดังขึ้น : “แล้วถ้าฉันไม่ทำ ตามที่คุณสั่งหล่ะ? หัวหน้าสวี่ คุณรู้หรือเปล่าว่าสิ่งที่คุณทำอยู่ มันจะกลับมาเป็นเวรเป็นกรรมกับคุณ

สอันจึงได้แต่หัวเราะเยือกเย็นแล้วพูดต่อ: “ฉันจะบอกให้ นะคุณผู้ช่วย เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วแค่ทำตามที่ฉันบอกอย่า เพิ่งมาห่วงฉันก่อนเลยดีไหม? ฉันจะได้รับกรรมนั้นเป็นเรื่องของฉัน แต่เธอหากเอาเรื่องความลับระหว่างเราไปแพร่งพราย จนฉันตกงานหล่ะก็ ฉันก็ไม่รู้จริงๆว่าน้องชายแท้ๆของเธอ ที่นอนเป็นผักอยู่ที่โรงพยาบาลนั่นจะทำยังไงนะ?

น้ำเสียงสวอันจึงส่งสัญญาณข่มขู่อย่างเห็นได้ชัด

ฉันจื่อเพิ่งถามต่อ : “ทำไมต้องเป็นฉันด้วย? คนในบริษัท

ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉันมีตั้งมากมายก่ายกอง ทำไมจะ ต้องหาเรื่องมาให้ฉันด้วย? ”

“ก็เพราะเธอเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเสิ่นอีเวย ในบริษัท ใหญ่โตขนาดนี้คนที่หล่อนเชื่อสนิทใจน่าจะมีแค่เธอนี่แหละ เธอลองคิดดูนะ หากวันไหนหล่อนพบว่าตกหลุมกับตักเข้าแถม ยังเป็นผู้ช่วยที่หล่อนเชื่ออย่างสนิทใจ ใจหล่อนคงทุกข์ทรมาน พิลึก เธอคิดให้ละเอียดถี่ถ้วนมันทำนองนี้ไหมหล่ะ?”

ฉันชื่อเฟิงพยายามควบคุมน้ำเสียงที่กำลังโกรธอยู่เอาไว้ หล่อนเอ่ยขึ้นมา : “คุณนี่มันโหดร้ายจริงๆ

หลังจากนั้นไม่มีเสียงคนพูดต่อ ผ่านไปสักพักเสียงที่ บันทึกไว้ก็จบลงไป

เพิ่งเจ๋อเฉิงหยิบปากกาบันทึกเสียงไว้ สีหน้าเขาดูครุ่นคิด อย่างหนัก เขาหมุนปากกาสีดำด้ามเล็กๆไปมาด้วยนิ้วเรียว ขาว ดูแล้วมันเป็นความลึกลับที่ช่างน่าหลงใหลเสียจริง

เขาหันศีรษะไปมองเสื่นอีเวยและเลิกคิ้วเบาๆอย่างสนใจ

ใคร่ดีแล้วเอ่ยว่า : “ถ้าฉันฟังไม่ผิด สิ่งที่สองคนนั้นพูดถึง เหมือนไม่ได้พูดออกมาว่าเป็นเรื่องฉินจือเพิ่งไปทำอะไรกันมาถึงทำให้สวอันจึงจับได้ เธอไม่คิดจะบอกให้ฉันฟังสักหน่อย

หรอ?”

เงินอีเวยเบะปากได้แต่ตอบรับไม่ยินดียินร้ายใดๆ หลัง จากนั้นหล่อนก็บอกเรื่องทั้งหมดทั้งมวลให้เพิ่งเจ๋อเฉิงฟัง โดย เฉพาะอย่างยิ่ง

เรื่องที่สอันจึงเป็นตัวการที่ค้นหาประวัติของฉันจื่อเพิ่งอ

ย่างลับๆ

เพิ่งเจ๋อเฉิงฟังจบสีหน้าแววตาก็ไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาอีกตามเคย เหมือนกับว่าสิ่งที่เขารอคอยอยู่คือเรื่องที่เกี่ นอีเวยจะพูดต่อว่าเรื่องอะไร

“เพิ่งเจ๋อเฉิง เรื่องนี้ถือซะว่าฉันขอร้องคุณได้ไหม พฤติกรรมของฉันจื่อเฟิง ในบริษัทอื่นก่อนหน้านี้ถือว่าทำไม่ถูก ต้อง แต่ตั้งแต่ที่หล่อนเข้ามาทำงานในเชิงชื่อภายใต้การดูแล การทำงานของฉัน ฉันพอดูออกว่าเด็กสาวคนนี้แม้ว่าอายุยัง น้อยแต่การทำงานถือว่าเก่งมาก และยัง

“จนถึงตอนนี้ ฉันก็ยังหาไม่เจอหรือว่าหล่อนทำพฤติกรรม ที่ไม่ดีต่อฉันเลย ขนาดครั้งนี้หล่อนถูกสอันจึงข่มขู่ หล่อนเองนี่ แหละเป็นคนเลือกที่จะลาออก หลังจากนั้นค่อยมาคุยกับฉัน แล้วเล่าเรื่องราวให้ฉันฟัง

เพิ่งเจ๋อเฉิงขมวดคิ้ว : “ฉันจื่อเพิ่งยื่นใบลาออกกับเธอแล้ว หรอ? แล้วทำไมวันนี้หล่อนยังอยู่ที่บริษัทอีกหล่ะ?”

เสิ่นอีเวยสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วตอบคำถาม : “ใช่เรื่องมันเกิดขึ้นมาหลายวันก่อน วันนั้นฉันมีเรื่องมากมายเลยไม่ ได้สนใจสิ่งที่ผิดปกติของหล่อนเลยสักนิด หล่อนเป็นคนเอา จดหมายลาออกมาวางบนโต๊ะทำงานแล้วก็ออกจากงานไปเลย แต่หล่อนก็คงเสียใจที่ต้องลาออกไปเพราะหล่อนยังรู้เรื่องอีก เรื่องหนึ่ง แต่เรื่องนี้ ฉันก็ตั้งใจที่จะบอกกับคุณ แต่ว่า—-

พูดถึงตรงนี้ เสิ่นอีเวยก็หยุดพูด หล่อนจ้องมองเชิงเจ๋อเฉิง สายตาที่สื่อออกมาจากดวงตาช่างร้อนระอุ

เพิ่งเจ๋อเฉิงก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรได้แต่รอคอยให้หล่อนพูด ต่อไปเรื่อยๆ

เงินอีเวยพยายามใช้ความกล้าพูดต่อ : “แต่ว่าฉันไม่รู้ว่า ตอนนี้คุณเชื่อฉันหรือเปล่า”

ภายในดวงตาของเขากลับมีความประหลาดใจผุดขึ้นมา แต่มันแค่แปบเดียว สิ่งที่อยู่ในสายตานั่นกลับกลายเป็นการ เยาะเย้ยเข้ามาแทนที่

เขาจ้องมองเสิ่นอีเวยมุมปากๆค่อยคลายขึ้นมาแล้วพูด เยาะๆ : “ไม่คิดเลยจะมีสักวันที่เธอจะพูดไพเราะเสนาะหูขึ้นมา

ได้

เสิ่นอีเวยรับรู้ว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงกับถากถางตัวเองอยู่ แต่ว่า ตอนนี้ไม่อยากจะต่อสู้รบราฆ่าฟันกับเขา

น้ำเสียงของหล่อนดูเย็นชาอย่างเห็นได้ชัดแต่มันปกติดี “หากคุณอยากฟังจะพูดต่อ แต่ถ้าไม่อยากฟังฉันก็ไม่พูด
เพิ่งเจ๋อเฉิงถึงกับต้องหนีตามองเป็นเวย และใช้มือลาก เก้าอี้ทำงานตัวใหญ่นั้นมานั่งลงเหมือนรักษาอาการเอาไว้

เสิ่นอีเวยรู้ดีว่าท่าทางของเพิ่งเจ๋อเฉิงแบบนี้หมายถึงเขา พร้อมที่จะฟังต่อไป เลยได้เอื้อนเอ่ยขึ้นมา : “เรื่องที่เกิดขึ้นใน งานเลี้ยงผู้ร่วมหุ้นวันนั้น คุณน่าจะจำได้อยู่? ตอนนั้นคุณบอก ว่าฉันถูกเซียวหันถึงพาออกไปแถมตอนที่เปิดประตูยังเห็นภาพ บาดตาแบบนั้นอีก เพิ่งเจ๋อเฉิง ฉันถูกวางยา

เอาเข้าจริงตอนที่พูดว่า “งานเลี้ยงผู้ร่วมหุ้น” ความสดใส บนใบหน้าของเพิ่งเจ๋อเฉิงก็หม่นหมองลง เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเสี่ นอีเวยจะพูดเรื่องนี้

เสิ่นอีเวยเห็นการแสดงออกของคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าฝั่งตรง ข้าม ก็เดาได้ว่าเขาต้องมีอาการแบบนี้ แต่ยังไงหล่อนก็ต้องพูด

เพิ่งเจ๋อเฉิงเอ่ยปากพูดอย่างเย็นชา : “อ๋อ ฉันรู้ว่าตอนนั้น เธอถูกวางยา แล้วไงต่อ? หรือว่าเธอจะมาพูดเรื่องพวกนี้กับฉัน ถึงได้ทําท่าทางหนักหนาสาหัสเอาแบบนี้หรอ?”

เสิ่นอีเวยรับรู้ได้ทันทีว่าอารมณ์เหวี่ยงของเขาเริ่มกลับมา

แล้ว

“ที่ฉันถูกวางยา ก็เพราะในงานวันนั้นมีคนเอาอะไรมาว่า ใส่ในแก้วฉัน เป็นพวกเขาทำ สอันจึงเป็นคนบงการ น้ำเสียงเสิ่นอีเวยดูราบเรียบมากแต่หลายปีที่ผ่านมา ไม่ ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอะ เพิ่งเจ๋อเฉิงแทบไม่เคยที่จะเชื่อใจ

หล่อนเลย ที่วันนี้หล่อนเลือกที่จะมาบอกเรื่องกับเขาก็เพราะอยากตอบแทนนินจื่อเฟิง ก็แค่นั้นแหละ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ