ตอน106อย่าพูดว่าออกไป
ตอนที่ 106 อย่าพูดว่าออกไป
เสิ่นอีเวยกลับมาถึงก็รีบไปโรงพยาบาลที่เคยเตรวจครรภ์ ครั้งที่แล้วเพื่อสอบถามสภาพร่างกายของตนเองว่าเป็นอย่างไร บ้าง
ภายในโรงพยาบาลก็ยังเป็นเหมือนแบบวันนั้นที่มา คน เยอะจนน่าทุกข์ใจ แต่เพราะว่าเสิ่นอีเวยได้นัดไว้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้น ในการเข้าพบกับคุณหมอคนที่แล้วนั่นก็คือคุณหมอเชียว มั่นจึงเป็นไปอย่างสบายๆ
พอนึกขึ้นว่าสวีอันฉิงเป็นเพื่อนกับคุณหมอท่านนั้น เสี่ นอีเวยรู้สึกแปลกประหลาดใจมาโดยตลอด คิดไม่ถึงว่านิสัยที่ แตกต่างกันของทั้งสองคนจะสามารถกลายเป็นเพื่อนที่รู้ใจกัน ได้
“คุณหมอเซียว ฉันมีเรื่องหนึ่งอยากจะถามคุณ” เสิ่นอีเวย
เริ่มพูด
เซียวมั่นที่อยู่ตรงข้ามก็พยักหน้า “คุณถามมาสิ”
“คุณรู้จักสวี่อันฉิงมั้ยคะ?”
รู้จัก พวกเราเป็นเพื่อนกัน ได้ยินเธอพูดว่าคุณทั้งสองคน ทำงานด้วยกันที่บริษัทเซิ่งชื่อใช่ไหม? ครั้งที่แล้วฉันยังพูดกับเธอเลยว่าคุณมาที่นี่ ฉันบอกเธอเรื่องที่คุณท้อง เป็นยังไงบ้าง เธอคงแสดงความยินดีกับคุณใช่ไหม?” เชียวมั่นยิ้มอย่าง เอื้อเฟื้อ
เสิ่นอีเวยยิ้มอย่างเจ็บปวดอยู่ข้างในจิตใจ ก่อนหน้านี้ ตอนที่สวีอันฉิงพูดให้เธอฟัง ในใจของเธอก็ยังคงมีความสงสัย แต่ว่าตอนนี้คุณหมอเชียวบอกเธอจากปากของคุณหมอเองว่า เป็นคนพูดให้สวี่อันฉิงฟัง ใจของเสิ่นอีเวยก็แทบจะโล่งอกขึ้น มาทันที
แม้แต่สวี่อันฉิงยังรู้เรื่องที่เธอตั้งครรภ์ ถ้าอย่างนั้นไม่แน่ ว่าเธออาจจะบอกคนอื่นต่อ ถ้าถึงเวลานั้น ไม่แน่ว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงก็ อาจจะรู้แล้ว
เสิ่นอีเวยนึกไม่ออกเลยว่าถ้าถึงเวลานั้นแล้วจริงๆเธอจะ ทำอย่างไร จู่จู่การนึกคิดของเธอก็ถูกคำพูดของคุณหมอเชียว ขัดไว้
“จริงๆแล้ว มีหลายคนที่ตั้งครรภ์ครั้งแรกแล้วก็มักจะตื่น เต้นแบบคุณ แต่ว่าคุณก็ไม่ต้องกังวลจนมากเกินไป ถ้าหากทำ ตามคำแนะนำของหมอก็จะไม่มีปัญหาอะไร แล้วก็ไม่ต้องมา ตรวจบ่อยๆแบบนี้”
เสิ่นอีเวยยิ้มอย่างเจื่อนๆ ในใจ นั้นเป็นเพราะว่าฉันกลัวไง ตอนนี้ฉันมีเพียงแค่เจ้าตัวเล็กในท้อง
แต่ว่าคำพูดเมื่อสักครู่นี้เธอไม่ได้พูดออกไป ในความเป็น จริงแล้วเธอก็รู้ตัวว่าเธอตื่นเต้นมากเกินไป ไม่มีใครที่จะคาดหวังไปมากกว่าเธอแล้วว่าเด็กคนนี้จะเกิดออกมาอย่างแข็งแรง ดังนั้นในใจมักจะกลัวว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เป็นทุกข์เป็น ร้อนกับสิ่งที่ตนเองจะได้และเสียไป
ระหว่างทางกลับบ้านเสิ่นอีเวยปวดหัวเป็นอย่างมาก ปัญหาที่คับขันที่สุดในตอนนี้คือจะทำอย่างไรถึงจะสามารถอุด ปากสวี่อันฉิงได้ ทำให้เธอไม่ต้องเอาเรื่องที่ตนเองท้องพูดออก มา เพราะว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เรื่องที่ตนเองท้องก็ไม่สามารถ บอกเซิ่งเจ๋อเฉิงได้อย่างแน่นอน
วันถัดมา เสิ่นอีเวยตรงไปเคาะประห้องทำงานของสวี่อัน
“ฉันมีเรื่องหนึ่งจะพูดกับเธอ” เสิ่นอีเวนต์พูดด้วยเสียงนิ่งๆ สวีอันฉิงมองเสิ่นอีเวยอย่างน่าสนใจมาก แล้วเอ่ยถาม
“เรื่องอะไร?”
“อย่าเอาเรื่องที่ฉันท้องพูดออกมาไปเรื่อยภายในบริษัท”
เมื่อสวีอันฉิงได้ยินก็ยิ้มมาทันที ทำไมจะไม่ได้หล่ะ? เธอ กลัวคนอื่นจะรู้ว่าเธอท้องแล้วหรอ?
เสิ่นอีเวยไม่อยากจะให้เรื่องนี้มาทำให้ตนเองสิ้นเปลือง กำลังและจิตใจมาก เธอจึงพูดอย่างไม่อ้อมค้อม “ตอนนี้พึ่งอยู่ ในระยะแรก ยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก ดังนั้นฉันจึงยังไม่ อยากจะบอกทุกคนให้รู้เร็วแบบนี้ แล้วอีกอย่าง”
พูดถึงตรงนี้ เธอก็มองไปที่สวี่อันฉิง แววตามีความยั่วยุอยู่
ฉิ่งเล็กน้อย
“แล้วฉันก็ยังอยากที่จะทำให้เซิ่งเจ๋อเฉิงตีใจและแปลกใจ ดังนั้นฉันจึงอยากจะบอกเพิ่งเจ๋อเฉิงด้วยตัวเองไม่ใช่ให้เขา ได้ยินจากคนอื่นในนี้”
สังเกตเห็นบนใบหน้าของสวี่อันฉิงมีความเกลียดชังอยู่ เล็กน้อย แต่ทันใดนั้น เธอยิ้มออกมา “อ้อ?
จริงๆแล้วก็เป็นแบบนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นเธอวางใจเถอะ ฉันจะช่วยเธอเก็บความลับ”
เสิ่นอีเวยรู้สึกแปลกใจ คิดไม่ถึงว่าเสิ่นอีเวยจะรับปากเธอ อย่างง่ายตาย
“เธอกลัวว่าคนอื่นจะรู้เรืองที่ตนเองท้องขนาดนี้ คงไม่ใช่ เป็นเพราะว่าเด็กในท้องของเธอไม่ใช่ลูกของเซิ่งเจ๋อเฉิงหรอก นะ?” สวีอันฉิงจู่จู่ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เหน็บแนมและคาด เดา
สีหน้าของเสิ่นอีเวนต์เปลี่ยนไปอย่างมาก แล้วจึงโต้แย้ง กลับไปว่า “เธอพูดชี้ชั้วอะไรกันเนี่ย?”
“หรือว่าไม่ใช่? ฉันดูเธอช่วงนี้ใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว แล้วยังกลัวเชิ่งเจ๋อเฉิงรู้ขนาดนี้ ตกลงแล้วเธออยากที่จะทำให้ เขาดีใจและแปลกใจหรือว่าเธอต้องการปิดบังเขากันแน่?”
เผชิญหน้ากับการใส่ร้ายป้ายสีอย่างไม่ทันตั้งตัว เสิ่นอีเว ยก็โกรธขึ้นมาอย่างฉับพลัน
เสิ่นอี้เวยคว้าคอเสื้อของสวี่อันฉิงไว้แน่น “ถ้าขึ้นเธอยัง กล้าพูดชี้ชั้วอีก เธอเชื่อมั้ยว่าฉันจะทำให้เธอตายอย่างไรก็ ไม่รู้? ความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาของฉันกับเซิ่งเจ๋อเฉิงจะดี หรือไม่ดี ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอแม้แต่น้อย เธอสามารถที่จะใส่ ร้ายป้ายสีฉัน แต่เธอไม่สามารถที่จะใส่ร้ายป้ายสีความรักและ ความผูกพันธ์ระหว่างฉันกับเขา อย่าทำให้ฉันได้ยินคำพูดพวก นี้อีกเป็นครั้งที่สอง”
ใช่ จริงๆแล้วเพิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้รักตนเอง ถึงเขาจะมีท่าทียัง ไงกับตนก็ไม่เป็นไรแต่ว่าเสิ่นอีเวยไม่สามารถที่จะทนให้คนอื่น มาซักถามข้อสงสัยถึงความรักที่ตนมีให้กับเซิ่งเจ๋อเฉิง ยิ่งใไป กว่านั้นแล้วคนคนนี้คือสวี่อันฉิง เสิ่นอีเวยคิดว่าเธอไม่มีค่าพอที่ จะถาม
แต่สวี่อันฉิงคุ้นชินแล้วกับการพูดจาอ่อนโยนไม่ทำร้าย
ใครของเสิ่นอีเวยเหมือนเมื่อก่อน จู่จู่ตอนนี้คาดไม่ถึงว่าจะมา เห็นเสิ่นอีเวยกล้าที่จะลงไม้ลงมือกับตนเอง ในเวลานี้ก็รู้สึก มึนงงเล็กน้อย ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่เสิ่นอีเวยมาที่บริษัทเซิ่งซื่อวัน นั้น ครั้งนี้คือครั้งที่สองที่สวีอันฉิงเห็นเสิ่นอีเวยต่อต้านตนเอง โดยตรง
ข้างในแววตาของเสิ่นอีเวยเยือกเย็นและเด็ดเดี่ยว ใน ขณะที่เธอกำลังจะคลายมือออก จู่จู่ประตูก็เปิดดันเข้ามา
ทั้งสองมองไปที่ประตูอย่างหน้าซีดพร้อมกัน ต่างก็ซะงัก งั้น คนที่เข้ามาคือ เพิ่งเจ๋อเฉิง
เสิ่นอีเวยยังไม่ได้ทำอะไร ฉวีอันจึงก็ร้องเสียงดังออกมา
ในเสียงเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและน้อยใจ ไม่มีท่าทางที่ กำเริบเสิบสานและระรานเหมือนที่ผ่านมาเมื่อกี้เลย “ผู้อำนวย การเงินอย่าทำแบบนี้เลย พวกเรามีอะไรก็ค่อยๆพูดกัน”
ฉวีอันฉิงพูดไปพลางชำเลืองมองเซิ่งเจ๋อเฉิงไปพลาง แวว ตาน้อยใจมากจนไม่มีอะไรสามารถเปรียบเทียบได้ เส็่นอีเวย คิดว่ารางวัลออสก้าทั้งโลกก็คงไม่พอที่จะมอบให้กับเธอ
ในแววตาของเซิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย แค่ยืน มองทั้งสองคนอยู่ที่ประตูอย่างเพิกเฉย
เสิ่นอีเวยค่อยๆปล่อยมือลง สวี่อันฉิงแกล้งทำเป็นสำออย ประคองจับโต๊ะทำงาน
“พวกเธอกำลังทำอะไรกัน” เสียงของเซิ่งเจ๋อเฉิงเย็นชา
เสิ่นอีเวยกำลังจะพูด แต่กลับถูกสวี่อันฉิงแย่งพูดก่อน “ประธานเซิ่น คุณอย่าโทษผู้อำนวยการเสิ่นเลยนะคะ เป็นเรื่อง ส่วนตัวระหว่างพวกเราสองคน อาจจะเป็นเพราะฉันทำให้เธอ ไม่พอใจ ดังนั้นในตอนนี้จึงทำให้เธออารมณ์ร้อน”
เสิ่นอีเวยมองสวี่อันฉิงอย่างเหลือเชื่อ ผู้หญิงคนนี้เป็นคน แบบไหน ทำไมถึงพูดเช่นนี้ได้?
เมื่อเสิ่นอีเวยหันมามองเซิ่งเจ๋อเฉิงอีกครั้ง เขาก็จ้องเธอ อย่างไม่กระพริบตาแล้ว คล้ายกับว่าจะสังเกตดูว่าบนใบหน้า ของเสิ่นอีเวยจะแสดงออกอะไรออกมา
“ความกล้าของเธอนี่ก็ยังคงเยอะอยู่นะ มีปัญหาอะไรก็ไป แก้ไขกันเอง ที่นี่คือที่ทำงาน คาดไม่ถึงว่าเธอจะกล้าลงไม้ลงมือ กับผู้จัดการสวี่”
ถึงแม้ว่าเสิ่นอีเวยจะไม่ได้ยินอารมณ์ใดๆจากน้ำเสียงของ เขา แต่ว่าเธอรับรู้ว่าในคำพูดของเขานั้นมีการปกป้องสวี่อันฉิ งอยู่ ในตอนนั้น ในใจก็รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก
เสิ่นอีเวยมองไปที่เพิ่งเจ๋อเฉิง ในใจเพรั่งพรูไปด้วยความ ทุกข์ระทม “ใช่ จริงๆแล้วควรที่จะแก้ไขกันเอง วันนี้ทำให้ ประธานเซิ่นเห็นความไม่รู้จักคิดของฉันต่อหน้า เป็นที่น่าขบขัน ของคุณจริงๆ”
อุณหภูมิในห้องทำงานก็คล้ายกับจะลดลงอย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่ที่สองคนแต่งงานกันมาถึงแม้ว่าความสัมพันธ์จะไม่ ค่อยดีนัก แต่ก็เข้าใจบุคลิกซึ่งกันและกันไม่มากก็น้อย เสี่ นอีเวยรู้ว่าหนึ่งในสิ่งที่เซิ่งเจ๋อเฉิงเกลียดมากที่สุดก็คือการ ได้ยินตนเองใช้น้ำเสียงอย่างเมื่อสักครู่นี้พูดกับเขา
แล้วก็เป็นไปอย่างที่คิด สีหน้าของเพิ่งเจ๋อเฉิงเปลี่ยนไป
จากปกติมาก
“รีบไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้”
คำพูดเย็นตาไม่กี่คำเข้าไปในหูของเสิ่นอีเวย สวี่อันฉิงที่ อยู่ข้างๆก็ยิ้มออกมาอย่างเบาๆ
เสิ่นอีเวยเจ็บปวดในใจ กัดฟัน มองตรงไปที่เซิ่งเจ๋อเฉิงแล้วเดินออกไป
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ