บทที่449ก็แค่ผู้หญิงคนเดียว
บทที่ 449 ก็แค่ผู้หญิงคนเดียว
หลังจากพูดประโยคนั้นจบ เพิ่งเจ๋อเฉิงก็หันตัวกลับทันที และไม่หันกลับมามองเธออีกเลย ทว่าหลินอวี้ที่เดินตามหลังมา แววตาของเขานั้นประหลาดใจอยู่ไม่น้อยแต่กลับไม่ได้พูดอะไร ต่อ
เพียงเพราะเขาเป็นลูกน้องของเพิ่งเจ๋อเฉิง หากเพิ่งเจ๋อเฉิง ไม่ได้เอ่ยอะไรขึ้นมา เขาก็ไม่มีทางที่จะแย้งอะไรได้
เมื่อคำพูด “ไม่ใช่” มันออกมาจากปากเพิ่งเจ๋อเฉิงนั้น
อารมณ์ของเสิ่นอีเวยแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งสงบขึ้นมาเยอะ
ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอใช้สิทธิ์อะไรมาเรียกร้องให้เขายอม ช่วยเธอล่ะ?
ที่มาคราวนี้บางทีเขาอาจไม่ได้มาหาเธอก็ได้ เขาคงกำลัง หาคนอื่นอยู่ เรื่องที่ว่าต้องการตามหาตัวเธอนั้นมันก็แค่ละครที่ จัดฉากขึ้นมาหรือหาเรื่องสนุกๆทำบ้างก็แค่นั้น
คนที่พูดประโยคนี้ในยามนั้นมันช่างดูจริงใจ ทว่าในโลก ใบนี้มีแค่เธอนี่แหละที่โง่งมงายเชื่อคำพูดบ้าบอนั่นของเขา แถมยังถ่อมาถึงภูเขาจิ๋วเหมิงมาขอพรจากพระ เพื่อขอคำตอบ
ให้ตัวเอง
เสิ่นอีเวยได้แต่หัวเราะเยาะตัวเองอยู่ในใจ นัยย์ตากลับ ซ่อนเร้นความรู้สึกขมขื่นเอาไว้
ทว่า ในเวลาที่เธอสงบนิ่งอยู่นั้น เสิ่นอีเวยกลับรู้สึกว่า หัวใจของตนเองเหมือนถูกใครควักมันออกมา มันเจ็บจุกอก ใช่สิ เธอควรรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ผู้ชายคนนี้เขาเป็นคนเลือด เย็นที่สุดมาตั้งแต่เกิดแล้ว เขาไม่รักเธอเลยสักนิดทั้งๆที่เขามี ตัวเลือกตั้งมากมายก่ายกอง จะฝ่าฟันเพื่อมาช่วยชีวิตเธอได้ ยังไง?
หัวใจเสิ่นอีเวยเต้นโครมครามจนเจ็บจี๊ด มันเจ็บปวด ทรมานจนตาเธอเริ่มแดงและมีอาการน้ำตารื้นขอบตาซึ่ง อาการเหล่านี้ทำให้คนเดาอารมณ์ของเธอที่ซ่อนเร้น ในขณะนี้ ไม่ออก
เหตุการณ์นี้มีแค่หานฉีเฟิงที่สามารถดูปฏิกิริยาของเสี่ นอีเวยออก
ช่วงเวลาที่เพิ่งเจ๋อเฉิงหุ้นตัวกลับไปนั้น ท่านฉันก็พูดขึ้นมา ทันทีน้ำเสียงดูเหมือนว่ากำลังดีอกดีใจ : “ไม่ใช่ก็ดีแล้ว ไม่ใช่ ก็ดีแล้ว….เมื่อครู่ผมยังลำบากใจอยู่เลย ถ้าผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่ ท่านตามหาตัวอยู่ แล้วผมจะพูดยังไงกับหานฉีเฟิงดี!”
เพิ่งเจ๋อเฉิงได้ยินคำพูดประโยคนี้ของท่านฉินถึงกลับ สนใจขึ้นมาทันที เขาค่อยๆหันศีรษะกลับมา สันกรามด้านข้าง นูนเป็นเส้นตรง น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยออกมานั้นช่างเยือกเย็นจับ ความรู้สึกของอารมณ์ไม่ถูก : “ประโยคนี้หมายความว่ายังไง?”
เสิ่นอีเวยฟังสิ่งที่พวกเขากำลังพูดคุยสนทนากันอยู่ แถม เธอรู้ดีว่าเดี๋ยวท่านฉินจะพูดอะไรต่อ เธออยากจะหยุดการกระ ทำของพวกเขาได้แต่คิดอยู่ในใจ แท้จริงแล้วเธอทำมันไม่ได้ เลย เธอคิดทบทวนอีกครั้ง ยังไงผู้ชายคนนั้นก็เข้าใจเธอผิดไป แล้วจะบังคับหรือธิบายอะไรให้เขาฟังต่อก็คงไม่มีประโยชน์อัน ใดอยู่ดี
ทว่าท่านฉันอ่านความหมายนัยย์ตาของเพิ่งเจ๋อเฉิงที่พายุ เริ่มก่อตัวทีละนิดของเขาไม่ออก เขาพูดเองเออเอง : “คุณเพิ่ง ผมพูดแบบเปิดเผยเลยแล้วกันไม่ต้องปกปิดกันแล้ว ผมตกลง ปลงใจยกผู้หญิงคนนี้ให้เขาไปแล้ว แถมยังมีเงื่อนไขว่าใคร หน้าไหนก็ห้ามแตะ
คำพูดสุดท้ายของท่านฉันคล้ายคลึงกับการประกาศความ หมายออกมาตรงๆ แต่เพิ่งเจ๋อเฉิงกลับไม่ได้เล่นเกมด้วย เขา แค่ตอบอย่างไร้อารมณ์ว่า : “งั้นหรอ?”
หานฉีเฟิงไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธคำถามของเขาเลยได้ แต่ก้มหน้าก้มตาแทน
เสิ่นอีเวยจ้องมองหานนี้เพิ่งอยู่ดีๆกลับมีความรู้สึกว่า เขา เป็นผู้ชายที่ดูแข็งๆ ทว่าเวลาที่อยู่ต่อหน้าเพิ่งเจ๋อเฉิงทำไมถึง ทำตัวต่ำต้อยด้อยค่าพินอบพิเทาได้ มันดูยากมากที่จะเห็นเขา
เป็นแบบนี้ไปได้
ทว่ากลับมาคิดอีกทีก็ไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้ประหลาดใจไปสักนิด เพราะในยามนี้เพิ่งเจ๋อเฉิงแผ่รังสีอำนาจเพิ่มขึ้น เรื่อยๆ เธอไม่เคยเลยสักครั้งที่ใครก็ตามตกอยู่ในสถานการณ์ ที่อยู่ตรงหน้ากลับไม่รู้สึกถูกกดดันจากรังสีที่แผ่มาจากตัวเขา
เพิ่งเจ๋อเฉิงหันตัวเดินมุ่งหน้าไปทางประตูในเวลานั้น ท่าน ฉันก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วทําท่าทางเหมือนหมาเลียแข็งเลียขา – “คุณเพิ่ง หากผู้หญิงคนนั้นสำคัญกับคุณมากแล้วละก็ ความ จริงคุณสามารถบอกรายละเอียดเกี่ยวกับหล่อนให้ผมทราบ ถิ่นนี้เป็นถิ่นผม ผมมีคนของผมอยู่ทุกซอกทุกมุม ไม่แน่นะอาจ ตามตัวหญิงสาวที่คุณกำลังตามหาอยู่จนเจอ
คนอื่นต่างฟังคำพูดของพี่ใหญ่เขาพูดแบบนี้ขึ้นมา เพราะ ฉะนั้นต้องแสดงความจงรักภักดีต่อหน้าเพิ่งเจอเพิ่งเข้าไว้ สอง คนที่ติดตามท่านฉินมาถึงกับตบอกตัวเองพร้อมเปล่งเสียง: “ใช่แล้ว ๆ เจ้านายของเรามีอำนาจมากมายมหาศาล…
“อีกอย่าง คุณเพิ่งหากคุณเพิ่งเอ่ยชื่อหล่อนขึ้นมา พวกเรา รับปากว่าจะหาหล่อนเจอแน่นอน!
“อย่าพูดถึงผู้หญิงคนเดียวเลย ให้สิบคนร้อยคนพวกเราก็ พามายืนต่อหน้าคุณได้ ฮ่าๆๆ….
ท่านฉินกับเหล่าลูกน้องต่างพูดพล่ามเชื่อมั่นโอ้อวดใน ความสามารถของตัวเองไม่หยุด ทว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงกลับไม่คิด เคียดแค้นหาเรื่องพวกเขาเลย
ตอนที่พวกเขาพูดลามปามไม่หยุดนั้น เพิ่งเจ๋อเฉิงใช้ สายตาเย็บเฉียบดั่งใบมีดมองผ่านพวกเขา คนที่กำลังพูดจาเรื่อยเปื่อยในยามนั้นต่างหยุดกึกในทันที ทุกคนต่างไม่กล้า เดินออก บรรยากาศในห้องเก็บเงียบวังเวงขึ้นมาทันที
“ไม่ต้องหรอก ก็แค่ผู้หญิงคนเดียว ฉันไม่จำเป็นต้องใช้ ความพยายามมานะบากบั่นขนาดนั้น” น้ำเสียงช่างซ่อนความ หมายเฉียบขาด คำพูดของเขามันกรีดเข้าไปในหัวใจของเสี่ นอีเวยเป็นรอยลึกทุกคำพูด
เพิ่งเจ๋อเฉิงพูดประโยคนี้จบก็หันตัวกลับทันที หลินอและ ผู้ติดตามที่อยู่ด้านหลังรีบเดินตามหลังอย่างรวดเร็ว
เงินที่เห็นเห็นเงาด้านหลังสีดำๆของคนๆนั้น หัวใจเธอ ราวกับระเบิดออกมาจนกลายเป็นหลุมลึก ราวกับมีลมเย็นๆ ไหลผ่านไปมา
ท่านฉินและเหล่าลูกสมุนเห็นเหตุการณ์นั้นก็รีบโค้งคำนับ ให้คนที่เดินนำหน้าเพื่อเป็นการทำความเคารพเขาก่อนกลับ
หลายนาทีต่อมา เสียงถกเถียงกันที่ตั้งอยู่ด้านนอกก็ มลายหายไปตรงสุดทางเดิน ทว่าเหลือแค่หานเพิ่งที่ไม่ได้ ห่างไปไหน
เหลือหานฉีเฟิงกับเสิ่นอีเวยอยู่สองคนในห้อง หานเพิ่ง เดินไปปิดประตู ทว่าบรรยากาศโดยรอบกลับเงียบสนิทจนน่า กลัวแทน
ทั้งคู่ต่างเงียบกันอยู่นาน ไม่มีใครเอ่ยปากพูดสักคำ สักพัก กลับมีเสียงหานฉีเฟิงดังขึ้นมา : “ทำไมเมื่อครู่นี้คุณไม่เรียกเขาไว้ให้เขาช่วยคุณล่ะ?”
เสิ่นอีเวยถึงกลับตกใจว่าเขารู้เรื่องว่าเธอกับเซิ่งเจ๋อเฉิง รู้จักกันหรอ?
เธอเงยหน้าพร้อมใช้นัยย์ตาเย็นชาจ้องมองหานนี้เพิ่งอ ย่างสงบ แถมโกหกหน้าด้านๆว่า “ฉันไม่รู้จักคนๆนั้น ทำไม ต้องไปขอร้องให้เขามาช่วยด้วยล่ะ?”
หานฉีเฟิงถึงกับต้องก้มหัวไปแล้วหัวเราะเบาๆแล้วเอ่ยขึ้น มา : “อย่ามาโกหก ผมรู้ว่าคุณรู้จักเขา
“ถ้างั้นแล้วไง?” เสิ่นอีเวยเริ่มใช้น้ำเสียงเชือดเฉือนถาม เขากลับทันที
“ไม่ว่าไง แต่เขาก็แกล้งทำเหมือนไม่รู้จักคุณเช่นกัน งั้น มันก็หมายความว่าคุณก็เป็นคนสำคัญสำหรับเขามาก น้ำ เสียงของหานนี้เพิ่งดูมั่นอกมั่นใจเอาซะเหลือเกิน มันก็บังเอิญ มั่นใจเท่านั้นแหละ เขาทำท่าทางจนเสิ่นอีเวยรู้สึกว่าฝ่ายตรง ข้ามกำลังหยอกเธออยู่
เธอเอ่ยปากถามอย่างไม่ไว้หน้า: “คุณเก่งกล้าขนาดนั้น เชียว? คุณบอกว่าพวกเรารู้จักกันก็ต้องรู้จักกันตามที่คุณพูดยัง งั้นหรอ? นี่ หานเชิงคุณทำนายดวงชะตาด้วยหรอ? “
หากคุณดูดวงได้จริง ช่วยดูให้ฉันหน่อยได้ไหม ทำไมชีวิต ฉันถึงได้ตกระกำลำบากขนาดนี้
เสิ่นอีเวยไม่รู้ตัวเลยว่าอารมณ์เครียดที่เธอพยายามปิดปิดความจริงที่อยู่ใจ มันทำให้เธอทำท่าทางเป็นเด็กน้อยไปทันที ความรู้สึกนั้นมันไม่สนใจถึงความรู้สึกของคนอื่นเลย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ