นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่439ชอบใครคนไหนก็เลือกเต็มที่เลย



บทที่439ชอบใครคนไหนก็เลือกเต็มที่เลย

บทที่ 439ชอบใครคนไหนก็เลือกเต็มที่เลย

เสิ่นอีเวยก็ได้สำรวจสภาพรอบข้าง นอกจากอาคารหลัง เก่าที่อยู่ด้านหลังของเธอแล้ว รอบ ๆ ก็เป็นแต่พื้นที่แห้งแล้ง เนื่องจากเป็นค่ำคืนที่มืดมิด แล้วมีหมอกที่ปกปิดทัศนียภาพ เลยทำให้ทุกอย่างนั้นมองอะไรไม่ซัดไปหมด

อาคารนี้เก่าและทรุดโทรม หากคนธรรมดาผ่านมาก็จะไม่ มองเลยด้วยซ้ำ แล้วใครจะไปคิดล่ะว่าสถานที่คนที่ไม่มองมา กลับมีคนทำเรื่องราวที่แสนจะสกปรกเช่นนี้ ?

ไอ้อ้วนนั้นเนื่องจากได้รับการบาดเจ็บ ไอ้หนวดและเสี่ยว หลินจื่อ ก็ได้พยุงเดินไปข้างหน้า แล้วก็ตอนที่เดินผ่านเสิ่นอีเวย นั้น ไอ้อ้วนนั้นก็ได้หันมามองเธอ แล้วก็มองด้วยสายตาที่แค้น เคียดอาฆาต

ผู้หญิงนั้นถูกตะโกนให้เดินไปข้างหน้า ที่ต้องตะโกนแบบ นั้น ก็เพราะว่าในความคิดของเสิ่นอีเวยก็คือ ผู้ชายพวกนี้ดู พวกเธอนั้นเหมือนคนใช้เช่นนั้น มีเพียงแต่ชายชุดสูทนั้นดีกว่า หน่อยหนึ่ง

ตอนที่เดินไปอยู่นั้น เธอก็คิดถึงเพิ่งเจ๋อเฉิงขึ้นมา แล้วในตอนนี้ เธอนั้นก็ไม่อาจจะไม่ยอมรับได้เลยว่ารู้สึกเสียใจ ถ้า หาก ถ้าหากวันนั้นตอบรับเขาไป ก็คงจะไม่มีหุบเขาจิ๋วเหมิง และแน่นอนว่าคงไม่อยู่ในสภาพเช่นนี้

ถึงแม้ตอนนี้ดูไปแล้วในใจของเธอนั้นสามารถยอมรับและ รับสภาพได้ แต่หารู้ไม่ว่าในใจเธอนั้นเต็มไปด้วยความกลัว เสี่ นอีเลยไม่รู้ว่าข้างหน้านั้นเธอจะต้องพบกับโชคชะตาที่เป็นเช่น ไร

เธอกลัว กลัวว่าตัวเองเมื่อเข้าไปในอาคารนั้นแล้ว ก็ไม่ อาจจะออกมาได้อีก พอคิดถึงตรงนี้ ก็คิดถึงเพิ่งเจ๋อเฉิง ในใจ ก็รู้สึกละอาย สายตาก็แดงขึ้นมา แต่เธอก็กลับอดทนเอาไว้ ไม่ใช่น้ำตาไหลออกมา

เธอเพียงแต่หวังว่า…หวังว่าผู้ชายคนนั้นจะเหมือนเทพที่ สามารถปรากฏออกมาได้

เสิ่นอีเวยก็มีความคิดที่เลวที่สุดอยู่ในใจ เพราะว่าเธอนั้น เมื่อสักครู่นี้ก็ได้สังเกตอยู่นิดหน่อย ในนี้รวมถึงผู้หญิงที่อยู่ใน กลุ่มด้วย ไม่มีใครมีโทรศัพท์ แบบนี้ก็หมายความว่า พวก เธอนั้นก็เกือบไม่มีใครที่จะสามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้ เลย

ทุกคนก็ได้เข้ามาข้างใน เสิ่นอีเวยก็ได้อยู่การตกแต่ง ภายในก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก อาคารนี้ดูไปแล้วเป็นอาคาร ที่ทรุดโทรม แต่ข้างในนั้นเต็มไปด้วยความการตกแต่งที่ สวยงาม ช่างตระการตาเหลือเกิน
ดูไปแล้ว ที่นี่น่าจะเป็นรังของพวกมัน

ห้องโถงนั้นสีขาว ประดับกับโคมไฟระย้าที่งดงาม ทำให้ รู้สึกถึงความอลังการ ภายใต้โคมไฟระย้านั้นก็ได้มีโต๊ะยาว วางอยู่ที่ทำด้วยไม้ วางด้วยเครื่องชงชา ดูไปแล้วมีความ หรูหรามากมาย

เครื่องน้ำชานั้นก็มีโซฟาวางอยู่ แล้วก็มีชายวัยกลางคน นั่งอยู่ตรงนั้น อายุน่าจะประมาณห้าสิบกว่า เสิ่นอีเวยก็เดาว่า คนนี้น่าจะเป็น “คุณท่านฉินที่สาม

เธอนั้นเดาไม่ผิดเลย ชายชุดสูทคนนั้นนับได้ว่าเป็นคนที่มี อำนาจที่สุด ในรถนั้น แต่พอเห็นคุณท่านฉินที่สามนั้น ก็ให้ ความเคารพเป็นอย่างมาก

คุณท่านฉินที่สามนั้นก็ได้ใส่แว่นตาที่ดูไปแล้วเหมือนกับผู้ มีความรู้เช่นนี้ ใส่ชุดจงซานสีดำ ดูไปแล้วมีความสง่างาม เหลือเกิน

แต่เสิ่นอีเวยพอเห็นผู้หญิงที่อยู่ข้างๆคุณท่านฉินที่สาม กำลังป้อนผลไม้จากปากสู่ปาก ทำให้เธอนั้นหัวเราะเยาะในใจ ดูไปแล้วบนโลกนี้ก็มีคนแบบนี้อยู่มากมาย ด้านนอกดูไปแล้ว ช่างสง่า แต่ด้านในนั้นเต็มไปด้วยความบัดซบเลวสิ้นดี

มีบอร์ดี้การ์ดชุดดำมายืนด้านหลังคุณท่านฉินที่สาม ซึ่งดู ไปแล้วมีความดุดันมากมาย

“ฉีเฟิง งานครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง “คุณท่านฉินที่สามถามและกินผลไม้ไปด้วยพร้อมกัน ๆ

ตอนนี้ ชายชุดสูทก็ตอบไปว่า “ท่านสาม ครั้งนี้จัดการได้ อย่างราบรื่น ท่านวางใจได้

เงินอีเวยได้ยินแล้วก็ได้หันหน้าไป ผู้ชายคนนี้ที่แท้จริง แล้วชื่อเฟิง ชื่อเมื่อได้ยินไปแล้ว ให้ความรู้สึกถึงเป็นผู้ที่มี วัฒนธรรม คุณธรรม แต่ทำไมกลับทำเรื่องราวชั่วร้าย เลวร้าย ผิดมนุษย์กับคุณท่านฉินที่สามได้นะ

พอคุณท่านฉินที่สามได้ยินเช่นนี้ ก็มีความพึงพอใจเป็น อย่างมาก แล้วก็ได้ดันผู้หญิงสองคนนั้นออกมา แล้วก็มีการก ระทำที่ค่อนข้างป่าเถื่อน ดูไปแล้วเหมือนกับสองคนนั้นเป็นเศษ ขยะ ไม่มีความถนอมแต่อย่างใด

เงินอีเวยก็ขมวดคิ้ว แล้วก็มองทุกอย่างด้วยสายตาที่น่า

กลัว

คุณท่านฉินที่สามก็ลุกขึ้น แล้วก็เดินไปยังเฟิง สายตาที่ มีความแหลมคม มองไปยังเฟิง ณ ตอนนั้น ไหล่ของเฟิงก็ ถูกเขานั้นจบไหล่แล้วพูดว่า “ฉันมองคนไม่ผิดจริง ๆ ดูก็รู้ว่า งานครั้งนี้ที่ให้คุณทำนั้นจะต้องออกมาดีอย่างแน่นอน ฉันให้ คนนั้นไปจัดการงานฉลองแล้ว สักครู่พวกเราไปดื่มกันสักแก้ว สองแก้ว”

เพิ่งพยักหน้าเล็กน้อย ปากนั้นก็มีอาการยิ้มนิดหนึ่งแล้ว ก็พูดปฏิเสธอย่างนอบน้อมว่า “สำหรับเรื่องงานเลี้ยงก็ไม่ต้อง แล้วขอรับ ลำบากแล้ว การได้รับใช้ท่านนั้น การทำงานให้ท่านนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดแล้ว

“ไม่ไม่ไม่ ไม่มีเหตุผลแบบนี้” คุณท่านฉินที่สามพูดแล้ว โบกมือ “นี่คือสิ่งที่คุณต้องได้มัน ฉันจะต้องต้อนรับให้อย่างดี คุณไม่ต้องปฏิเสธแล้ว

เพิ่งได้ยินเช่นนี้ ก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ ก็เลยจำต้อง

ยอมรับไป

เสิ่นอีเวยได้ฟังคำพูดจากใจของเฟิงแล้ว ในใจก็คิดว่า คนนี้เป็นคนยังไงกัน

ตลอดการเดินทางที่ผ่านมา ถึงแม้เธอนั้นจะถูกผู้ชายคนนี้ ทำให้ลำบากใจ แต่ในใจก็กลับมีความรู้สึกแปลก ๆ อยู่เช่น นั้น ผู้ชายคนนี้ดูไปแล้วก็ไม่น่าจะใช่คนที่ชั่วร้ายอะไรขนาดนั้น

ถ้าจะต้องใช้คำพูดมาอธิบายคนนี้แล้วล่ะก็ ฉีเฟิงคนนี้ก็น่า

จะเป็นคนที่ป่าเถื่อนน่าจะเหมาะสมกว่า

เห็นจนเคยชินแล้วกับสถานการณ์และการหักหลังของคุณ

ท่านฉินที่สามคนนี้ จะมีใครให้ความจริงใจในการแสดงออก

มากขนาดนี้ล่ะ ? พอฟังคำพูดของเฟิงพูดเช่นนี้ ใบหน้าที่เต็ม

ไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ แล้วก็พูดออกมาว่า “ดี ฉัน

ชอบคนที่ตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์แบบนี้ งานเลี้ยงคืนนี้พวก

เราจะต้องดื่มให้สุด ๆ ไปเลย

ฉีเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย แล้วไม่ได้พูดอะไร แสดงถึงการ

ยอมรับ
“ใช่แล้ว ในเมื่อช่วยฉันสำเร็จการใหญ่นี้ งานเลี้ยงคือมี

ทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ฉันสามารถเติมเต็มความต้องการให้กับคุณ

อีกหนึ่งอย่าง พูดมาเลย อยากได้อะไร” คุณท่านฉินที่สามพูด ออกมา คุณท่านฉินที่สามนั้นมีน้ำเสียงที่สบายใจ ฉีเฟิงก็รู้สึก

นึกคิด แล้วก็ขมวดคิ้ว แล้วก็มองไปยังคุณท่านฉินที่สาม

คุณท่านฉินที่สามได้เห็นสายตาที่ไม่เหมือนเดิม เห็นเชิง นั้นมองมายังแถว ๆ เสิ่นอีเลย แล้วก็เข้าใจในทันที

คุณท่านฉินที่สามก็ได้เดินเข้ามาใกล้แล้วพูดว่า “มีอะไร หรือ ? ชอบคนไหน ? เลือกตามสบายใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ