บทที่432ลบรูปนั้นออกไปซะ
บทที่ 432 ลบรูปนั้นออกไปซะ
เงินอีเวยก็เดินถึงร้านค้า เจ้าของร้านก็เป็นผู้ชายวัยกลาง คน ที่กำลังดูโทรทัศน์อยู่
เงินอีเวยก็ได้เงยหน้าขึ้น กำลังดูข่าวที่กำลังฉายออกมา ว่า บริษัทเชิงชื่อล้มเหลวกับการจัดซื้อ เลยทำให้ขาดทุนหลาย สิบล้าน
เงินอีเวยตกใจ ล้มเหลวในการจัดซื้อ ? ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอ นั้นเห็นเป็นครั้งแรกตั้งแต่ผู้ชายคนนี้ออกมาโลดแล่นในวงการ นี้ ซึ่งทำให้เธอนั้นดูอยู่เป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอสมควร
แล้วเจ้าของร้านก็ถามไปว่า “คุณจะมาซื้ออะไร ?
พอเจ้าของร้านถามเช่นนี้ เธอนั้นก็กลับมามีสติ แล้วพูดว่า “น้ำหนึ่งขวด มาม่าหนึ่งกล่อง
เสิ่นอีเวยรับมาแล้วพูดว่า “ขอบคุณ” แล้วก็เดินออกไป
ความจริงแล้วมาหุบเขาจิ๋วเหมิงครั้งนี้ ก็อยากจะให้สภาพ จิตใจสงบลง ซึ่งบอกได้ว่า การที่เพิ่งเจ๋อเฉิงมาพูดสภาพเช่นนี้ ทำให้จังหวะชีวิตเธอนั้นเปลี่ยนไป แล้วเมื่อสักครู่นี้ที่ได้ยินข่าว เลยทำให้เธอนั้นมีความวุ่นวายเพิ่มขึ้นในใจ
เสิ่นอีเวยก็เลยเดินถือของขึ้นไปยังชั้นสอง ซึ่งมีความ เงียบสงบมาก ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ท่าเธอนั้นรีบเดิน เข้าไปยังห้องของเธอ
พอปิดประตู แล้วเปิดไฟ ก็รู้สึกถึงความไม่ถูกต้อง
ในห้องมีความมืดมิด ไม่เห็นอะไรเลย เพราะว่าใน สถานการณ์เช่นนี้ ทำให้สัมผัสทางการได้ยินนั้นยิ่งมีความ ว่องไว
เสิ่นอีเวยสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วในตอนนั้นเธอนั้นก็รู้สึก กระสับกระส่าย เพราะว่าเธอนั้นได้ยินถึงเสียงของคน ๆ หนึ่ง
เสิ่นอีเวยก็เหมือนเลือดจะขึ้นถึงหัวสมองไปแล้ว เหมือน เธอนั้นถูกลูกศรธนูแทงเข้าตรงที่หัวใจ แล้วก็กำลังจะขาดใจ
ในห้องนั้นมีคนไม่ได้กระทำอะไร เสิ่นอีเวยก็กลั้นหายใจ แล้วก็ทำให้ตัวเองนั้นสงบขึ้นมา แล้วในหัวสมองก็สับสน วุ่นวายไปหมด ลูกบิดประตูนั้นคงจะอยู่ที่ด้านขวามือ ในสภาพ ที่มืดมิดเช่นนี้ เธอก็กำลังจะยกมือขึ้น แล้วก็ไปตรงที่สวิตช์ไฟ
เธออาศัยความจำของเธอว่าใกล้จะถึงแล้ว แต่ในตอนนี้ นี่เองทำให้เธอนั้นรู้สึกมีความตกใจกลัวเป็นอย่างมาก
เสิ่นอีเวยก็สั่นไหวในใจ ทำให้การกระทำนั้นหยุดลง แล้ว ก็เหงื่อไหลออกมาอยากมากมาย
และในตอนนี้ ร่างกายของเสิ่นอีเวยทั้งหมดรวมทั้งความ รู้สึกนั้นก็รวมกันอยู่ตรงที่คอ รู้สึกถึงความไม่เป็นตัวของตัวเอง
ในความมืดมิดคนนั้นก็เลยเริ่มออกแรง โดยชนมาที่เสี่ นอีเวย แล้วก็มีเสียง “เพลง” ดังออกมา ซึ่งได้ล็อกประตู เรียบร้อยแล้ว
หลังจากนั้น เสิ่นอีเวยได้สัมผัสตรงนั้นก็รู้แล้วว่า คนนั้น คือผู้ชายคนหนึ่ง
ขณะที่เสิ่นอีเวยยังไม่ได้มีการตอบโต้นั้น ไฟก็เปิดขึ้นมา
ดื้อ ๆ เสียแล้ว
พอไฟสว่างขึ้นมานั้น เป็นอีเวยก็ปิดตาลง เพราะว่า เนื่องจากแสงไฟนั้นทำให้เธอแสบตา
มีดในมือของผู้ชายคนนั้นก็ไม่ออกห่างจากคอเสิ่นอีเวย เลย เสิ่นอีเวยตอนที่ลืมตา ณ ตอนนั้นเอง ก็ได้มองเห็นนาฬิกา ของชายชุดสูทคนนั้น ในใจนั้นเกิดความตกใจในทันใด
เป็นเขา ผู้ชายชุดสูทที่แปลกประหลาดคนนั้น พอเปิดไฟแล้ว เสิ่นอีเวยก็ได้เห็นสภาพทั้งหมด
เสื้อผ้าสีขาวของเธอนั้นก็ว่างอยู่บนกระเป๋าของเธอ คอมพิวเตอร์ และพาวเว่อแบงก์นั้นก็ถูกรื้อจนเรี่ยราด เสื้อผ้า ในกระเป๋าก็ถูกรื้อทิ้ง
สิ่งที่เสิ่นอีเวยเห็นอยู่นั้นก็คงจะเป็นฝีไม้ลายมือของผู้ชาย คนนี้ ซึ่งเธอก็ได้ยิ้มแสยะในใจ แล้วก็คิดว่าคาดการณ์ไม่ผิด เลย ผู้ชายคนนี้ที่แท้แล้วก็คือคนเลว
ในใจของเสิ่นอีเวยที่คิดไว้ว่าผู้ชายคนนี้จะบุกเข้ามาก็คือเรื่องจริง ตอนแรกเธอนึกว่าจะได้เปรียบ แต่สุดท้ายแล้วผู้ชาย คนนั้นกลับพูดออกมาว่า “เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน
เสียงของผู้ชายคนนี้ค่อนข้างหน้า แต่ไม่ได้ไม่น่าฟัง ตอน ที่เธอนั้นพบกับเขาที่บนรถนั้นก็ได้ยินเสียงของเขาแล้ว ผู้ชาย คนนี้ให้เงินอีเวยมีความรู้สึกถึงความสับสน ซึ่งตัดสินจากนิสัย และน้ำเสียง ดูไปแล้วก็ไม่ใช่คนที่ร้ายกาจอะไรขนาดนั้น แต่สิ่ง ที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้ก็คือเขานั้นบุกมายังห้องของเธอ
ให้มือถือกับเขา ?
เงินอีเวยตกใจ แล้วก็ไม่ตัดสินใจจะให้ แต่ก็คิดไปคิดมา ว่าจะผ่านตรงนี้ไปยังไง ออกมาข้างนอกไม่ได้อยู่ในบ้าน ก็จะ ต้องเจอความอันตรายเช่นนี้ จะให้สิ่งเดียวที่ติดต่อกับผู้อื่นได้ มาให้เขางั้นหรือ ?
เสิ่นอีเวยก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรแล้วก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วก็ สีหน้าของเธอที่ไม่ได้ตกใจอะไร “คุณผู้ชาย ฉันและคุณไม่เคย รู้จักกันมาก่อน ล้วนเป็นคนแปลกหน้า ฉันก็ไม่ได้รู้ว่าทำไมคุณ ถึงมองฉันเช่นนั้น ฉันไม่ได้ให้ร้ายคุณ ละไม่จำเป็นจะต้องให้ มือถือกับคุณ
น้ำเสียงและความหมายเช่นนี้ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามนั้น โกรธยิ่งขึ้น ซึ่งเสิ่นอีเวยก็เข้าใจในส่วนนี้ดี แต่เป็นสิ่งที่เธอนั้น ตั้งใจ เพราะว่าจึงจะรู้ถึงความเป็นมาของผู้ชายคนนี้
ผู้ชายพูดออกมาว่า “ฉันต้องการเพียงรูปถ่ายนั้น
เงินอีเวย รูปภาพอะไร ?
มีดเล่มนั้นก็ได้เข้าใกล้คอของเธอมากยิ่งขึ้น แล้วผู้ชาย คนนั้นพูดว่า “แกล้งโง่กับฉัน ? ”
เงินอีเวยก็ตกใจ แล้วก็พูดออกมาว่า “ไม่ใช่ ฉันไม่มี
พอพูดออกมา ก็มีรูปภาพนั้นลอยมายังบนหัวของเธอ ซึ่ง เธอรู้ว่าความหมายของผู้ชายคนนี้คืออะไร
เงินอีเวยก็เลยหลับตา แล้วก็ปรับสภาพอารมณ์ แล้วก็พูด
ว่า “คุณเอามีดออกจากตัวฉันก่อน แล้วฉันจะรีบลบทันที
ถ้าเสิ่นอีเวยไม่ฟังผิดแล้วล่ะก็ ผู้ชายคนนี้ยิ้มแสยะแล้วพูด ว่า “เมื่อกี้ไม่ใช่มาแกล้งโง่กับฉันหรือ? ทำไมตอนนี้คิดมาได้ แล้วล่ะ? “
หรืออาจเป็นเพราะว่าทำงานการออกแบบมานาน ทุกครั้ง ที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็จะเป็นการดูเนื้อหา เนื้องาน ข้อมูลต่าง ๆ เมื่อสักครู่ ผู้ชายคนนี้บอกว่ารูปภาพ ครั้งแรกก็คือรูปภาพที่ เป็นกระดาษ ดังนั้นก็เลยรู้สึกงุนงง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ