บทที่429ผู้ชายที่แสนจะแปลก
บทที่ 429 ผู้ชายที่แสนจะแปลก
คำพูดของเหมียนเหมียน ทำให้เงินอีเวณนั้นรู้สึกแข็งที่อ ไปเลย
เธอเข้าใจลูกสาวของเธอเองอย่างมาก ถึงแม้จะฉลาด ขนาดไหน แต่ก็ไม่อาจจะโกหกเธอได้เลย หลังจากที่เจอกับเชิง เจ๋อเฉิงนั้น เธอก็เริ่มที่จะทำให้อารมณ์เข้าสู่ช่วงปกติ แต่กลับ ถูกเหมียนเหมียนดึงขึ้นมาใหม่
แล้วในหลายวันต่อจากนี้ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานก็ เสื่อมถอยลงไป ซึ่งทำให้เงินอีเวยรู้สึกเป็นทุกข์ใจ
และในวันนี้ ตอนที่เธอนั้นกำลังไม่สบายใจ ก็ถูกอเล็กซ์ รู้สึกถึง
อเล็กซ์นั้นอยู่โต๊ะทำงานข้าง ๆ เธอ แล้วเหมือนมีความ คิดอะไรอยู่แล้วมองเธอ “เงินอีเวยเอ๋ย คนเราจะต้องปล่อยวาง การทำงานของคุณช่วงนี้ ดูไปแล้วเหมือนจะรีบร้อนอะไรสัก อย่าง
เสิ่นอีเวยก็ได้เอามือมาจับหน้าผาก แล้วก็พูดว่า “ฉันก็ ไม่มีทางเลือก แย่ ๆ มากเลยตอนนี้
อเล็กซ์ก็เห็นท่าทีที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก คนที่เฉลียวฉลาดอย่างอเล็กซ์และเมื่อรู้เรื่องของเสิ่นอีเวยกับเพิ่งเจ๋อเฉิงก็เลยออกอุบาย ขึ้นมาว่า “ฉันอนุญาตให้คุณนั้นหยุดการทำงานไปก่อน หลัง จากที่สะสางเรื่องส่วนตัวเสร็จแล้วก็ค่อยกลับมาทำงาน
เงินอีเวยก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วพูดว่า “จริงหรือเปล่า ? อเล็กซ์ตอบไปว่า “ฉันจะไปโกหกคุณทำไม ?
เล่นอีเวยก็เงียบไปหลายวินาที จริง ๆ แล้ว ช่วงนี้เรื่องราว ที่เธอนั้นเจอก็เยอะแยะมากมาย คงจะต้องหาเวลาว่างเสียบ้าง ไม่งั้นก็คงจะต้องอยู่เช่นนี้ตลอดไป
“งั้นก็ได้ ฉันขอลาหนึ่งอาทิตย์ เพียงพอแล้ว หลังจาก จัดการกับอารมณ์เสร็จ ก็จะต้องกลับมายิ่งใหญ่เหมือนกัน เ นอีเวยก็พูดออกไป
อเล็กซ์พูดว่า “อนุญาตสองอาทิตย์ เงินเดือนเหมือนเดิม พอฟัง เงินเดือนเหมือนเดิม ก็รู้สึกดีอกดีใจ
ในที่สุด เสิ่นอีเวยก็ได้บินไปหุบเขาจิ๋วเหมิง ที่นั้นมีวัดชื่อ ว่า ชิงเหยียนซื่อ ก่อนที่เธอจะไปอังกฤษ เธอก็ได้มาที่วัดนี้ เพื่อ ที่จะฟังธรรมะกับเจ้าอาวาสรูปนี้ ซึ่งทุกครั้งก็มีความสนิทสนม เป็นอย่างมาก
ห่างกันมาหลายปี ครั้งนี้ก็จะไปอีกแล้ว เสิ่นอีเวยก็มีความ รู้สึกไม่ค่อยจะสบายนัก
หุบเขาเหมิงเป็นสถานที่เล็ก ๆ อยู่ระหว่างสองเมือง แต่ ทางไปค่อนข้างลำบากมาก ดังนั้นครั้งนี้ก็ตัดสินใจจะอยู่หนึ่งวันหนึ่งคืน
เรื่องของเซิ่งเจ๋อเฉิงนั้น เป็นเวยก็ยังไม่สามารถให้คำ ตอบอะไรได้ ดังนั้นเธอหวังว่าพระพุทธองค์จะให้คำตอบกับเธอ เงินอีเวยก็นั่งเครื่องบินไปยังหุบเขาจิ๋วเหมิง ก็จะต้องนั่ง รถเข้าไปอีกต่อหนึ่ง
เสิ่นอีเวยก็นั่งอยู่ด้านท้ายของรถ แล้วก็เอาสิ่งนั้นวาง เรียบร้อย เพื่อความปลอดภัยก็ได้ถ่ายรูปเอาไว้อย่างชัดเจน
ทันใดนั้นเสียงกล้องถ่ายรูปนั้นก็ได้มีเสียง “แป๊ะ ๆ ที่ทะลุ ถึงหูออกมา เสิ่นอีเวยก็ตกใจ ซึ่งตอนนั้นที่เธอกำลังจะดูรูปที่ ถ่ายนั้นก็ได้พบว่า เมื่อสักครู่ที่ตัวเองนั้นถ่ายรูปรถอยู่นั้น เหมือนมีผู้ชายคนหนึ่งนั้นได้เข้ามา
พอมองละเอียนอีกครั้ง ผู้ชายคนนั้นเหมือนจะเข้ามาหา เธอ เงินอีเวยก็รู้สึกตกใจ เพราะว่าระยะห่างค่อนข้างไกล ดัง นั้นเธอไม่รู้ว่าชายคนนั้นเป็นใคร เห็นเพียงแต่เสื้อสูทสีดำแค่ นั้นเอง
ในหลายปีที่ผ่านมา เสิ่นอีเวยก็รู้สึกมีการป้องกันตัวเอง เป็นอย่างมาก เธอก็เลยได้หยิบโทรศัพท์อีกครั้งแล้วขยายดู รูปภาพ ซึ่งทำให้เธอนั้นแน่นอนใจว่าไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้ จึง จะวางใจลงได้
แต่วินาทีต่อไป เงยหน้าขึ้น ก็ได้มองเห็นชายคนนั้นอีก ครั้ง ซึ่งแปลกหน้าแปลกตาเป็นอย่างมาก
เงินอีเวยก็เลยตกใจ เธอไม่รู้ว่าเป็นชายคนนั้นหรือเปล่าที่ จะเดินเข้าใกล้เธอ ก็เพียงได้ยินแต่คนขับรถถามว่า “พวกคุณ จะไปไหน ? ”
ผู้ชายคนนั้นหันมายิ้มแล้วก็มองไปยังรอบ ๆ คันรถแล้วก็ บอกชื่อชุมชนที่ตัวเองจะไป เงินอีเวยก็เลยถอนหายใจออกมา หากไม่ใช่สถานที่ที่ตัวเองจะไปก็พอแล้ว ไม่งั้นก็ตัวเองก็จะต้อง คิดว่าเขาคนนั้นกำลังจับตามองเธออยู่
แต่หุบเขาจิ๋วเหมิงไปมาก็หลายรอบ ยังไม่เคยเห็นคนเลว
มากนัก
แต่เธอนั้นเห็นมีคนตามหลังผู้ชายคนนั้นหลายคน ก็เลย รู้สึกไม่ค่อยจะถูกต้อง เพราะว่าข้างหลังผู้ชายคนนั้นเป็นกลุ่มผู้ หญิง อายุก็น่าจะยี่สิบกว่า ๆ
เสิ่นอีเวยมองเห็นอย่างชัดเจน ผู้ชายชุดสูทคนนั้นก็เห็น สายตาของเธอที่กำลังมอง ก็เลยทำให้ชายคนนั้นเปลี่ยนสีหน้า ไป แต่ก็เหมือนกับปากนั้นพูดอะไรออกมาอย่างไม่ชัดเจน
ในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้ชายที่แปลกหน้ากลับยิ้มให้ ยังไง ก็รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย เสิ่นอีเวยในใจก็เก็บอารมณ์ให้ได้ มากที่สิ่ง ไม่อาจจะปล่อยละเลยได้
ผู้ชายคนนั้นก็ได้เดินผ่านที่นั่งของตัวเอง เสิ่นอีเวยก็เลย ได้ใช้สายตาที่เหลือนั้นเหลือบมองไป
ผู้ชายคนนั้นดูไปแล้วก็ไม่ได้น่ากลัว ดูตั้งแต่หัวจรดเท้าท่าทางสะอาดสะอ้าน เผ้าผมก็ดูดี ทำให้เสื่นอีเวยคิดถึงสี่คำก็ คือ นักธุรกิจ นาฬิกาผู้ชายคนนั้นใส่ก็คือยี่ห้อ อาร์มานี่ ซึ่งเป็น นาฬิกาชั้นเลิศ
แต่หลังจากมองกระเป๋าของเขาแล้วนั้น เป็นเวยก็รู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้ช่างแปลกประหลาดนัก
ถึงแม้ผู้ชายคนนั้นจะไม่มองสายตาเธออีกครั้ง แต่เงินอีเว ยก็รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย คิดไปกระทั่งไม่ใช่คนที่ดีอะไร เลยทำให้เธอนั้นจับโทรศัพท์ถ่ายชายคนนั้นไว้
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะทางจิตวิทยาไหม เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าผู้ชาย คนนั้นรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร เลยเก็บโทรศัพท์ไป ตอนที่กำ ลังจะหหลับตาพักผ่อน แต่ไม่มีใครรู้ ร่างกายส่วนประสาท สัมผัสของเธอนั้นมีความชัดเจนอย่างมาก ซึ่งได้มีการระวังถึง สภาพรอบข้างด้วย
และในเวลานี้ บริษัทเชิงชื่อชั้นที่ 24 ห้องทำงานของ ประธานบริษัท
หน้ากระจกบานใหญ่นั้นมีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ เพิ่งเจ๋อเฉิง ใส่ชุดสูทสีดำ ก็กระดุมเม็ดสีทองที่แสดงสะท้อนระยิบระยับ ภายใต้ความละมุนมัว
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ที่เต็มไปด้วย ความรีบร้อน
เพิ่งเจ๋อเฉิงก็หันไปแล้วก็พูดว่า “เข้ามา แต่สายตานั้นกลับไม่ได้เอาออกไปจากต่างหน้าบานนั้นเลย
คนที่เข้ามาก็คือหลินอวกับคิ้วที่ขมวด “ประธานเชิง มี เรื่องหนึ่งเกี่ยวกับคุณนายเชิง
ใจของผู้ชายคนนี้ก็เลยสั่นไปหนึ่งกระตุก
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ