บทที่390กินเสร็จแล้วใช่ไหมงั้นเรามา ต่อเรื่องของเราดีกว่า
บทที่ 390 กินเสร็จแล้วใช่ไหมนั้นเรามาต่อเรื่องของเราดีกว่า
นี่เป็นเรื่องหนึ่งที่เสิ่นอีเวยไม่คิดที่จะบอกเพิ่งเจ๋อเฉิง
“การประเมินคุณภาพของบริษัทเครื่องประดับ Aute ทำไมต้องให้มาถึงมือบริษัทเราด้วย?” คามนี้ถือว่าเป็นประเด็น หลักที่เธอจะถามเขา
“เพราะว่าบริษัทของพวกเธอมีความสามารถแถมอุปกรณ์ ก็ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านระดับมาตรฐานการทำงานของ พนักงานหรืออุปกรณ์ตามๆ ก่อนหน้านี้บริษัท Aute เพิ่งเข้า ตลาดหลักทรัพย์ได้ไม่นาน ยิ่งต้องมีใบรับรองที่สามารถ ประเมินคุณค่าของเครื่องประดับอย่างมาตรฐานที่สุด
คำตอบของเพิ่งเจ๋อเฉิงพูดเป็นขั้นเป็นตอนไม่มีอะไร ตกหล่น
เสิ่นอีเวยฟังแล้วก็ไม่รู้ว่าเกิดความรู้สึกอะไรขึ้นมามันพูด ไม่ถูก มีทั้งเขินอาย มีทั้งหมดหวัง แถมยังมีความรู้สึกบาง อย่าง…ที่ไม่สามารถพูดออกได้อย่างชัดเจนว่ามันเป็นความ รู้สึกแบบไหน
เสิ่นอีเวช โมโหที่ไม่สามารถหาคำพูดตกหล่นที่เขาพูดออกมาได้เลย ที่แท้ การที่เขาเลือกบริษัทของเธอไม่มันไม่อะไร เกี่ยวข้องกับเธอสักนิดเลยหรอ แท้จริงแล้วตัวเองคิดเองเออ เองอยู่ฝ่ายเดียว
เงินอีเวยได้แต่เสียใจเอามาก เสียใจเพราะเธอถาม คำถามนั้นออกไป แต่ตอนนี้ดีขึ้น ได้สติกลับคืนมาเพราะเมื่อ ครูเหมือนถูกสาดน้ำเย็นใส่หน้าอย่างจัง
“นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่ง ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งก็เพราะว่าเธอ เพิ่งเจ๋อเฉิงพูดเสริมในตอนท้าย
ใบหน้าของเธอแดงร้อนผ่าว ใจเต้นตึกตัก หมายความว่า ไง? หรือว่าผู้ชายคนนี้เข้าไปนั่งในใจเธอเลยรู้ว่าเธอกำลังคิด อะไรอยู่งั้นหรอ? เสิ่นอีเวยถึงกับสูดลมหายใจเข้าออก
“เกี่ยว เกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ?” เสิ่นอีเวยรู้สึกได้ว่าน้ำเสียง
ของตัวเองกำลังสั่นอยู่
เพิ่งเจ๋อเฉิงยืนขึ้นพร้อมทั้งจ้องมองเสิ่นอีเวยด้วยดวงตาที่ ส่งสายตาอย่างเอาจริงเอาจัง
หากฉันจําอะไรไม่ผิดไป การตรวจสอบเครื่องประดับของ
บริษัทของพวกเธอ เธอเป็นคนรับผิดชอบโดยตรงใช่ไหม? งั้น ดีเลย ฉันจะได้ติดต่อเธอเรื่อยๆเกี่ยวกับปัญหาเรื่องพวกนี้
เงินอีเวยขมวดคิ้วแน่น เตรียมตัวพูดตอบเขา แต่กลับ
โดนเขาพูดแทรกขึ้นมาก่อน
“นอกจากนั้นแล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง คำพูดตามสุภาษิตที่ว่า การทำงานแทนคนอื่นมันง่ายแต่ต้องคอยระมัดระวังงาน ของเขาให้ดีด้วย ฉันหวังว่าเรื่องที่พูดออกมานี้เธอจะรับข้อ เสนอนี้ไว้นะ ฉันเอาความจริงใจของฉันเข้ามาแลก ฉันก็หวังว่า เธอคงไม่ตั้งใจที่จะปฏิเสธให้ฉันเป็นคนนอกสายตาไปได้
เงินอีเวยฟังจบแล้วเกิดอารมณ์ไม่ค่อยจะถูกใจสักเท่าไหร่ เลยพูดปฏิเสธไป: “เหมือนคุณจะพูดบางอย่างผิดไปหรือป่าว? ความจริงใจของคุณที่พูดมานั้น คุณเป็นตั้งใจทำมันเอง ไม่ใช่ ฉันไปบีบบังคับคุณเอาไว้ คุณไม่มีสิทธิอะไรที่มาบีบบังคับให้ ฉันยอมรับเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว
สีหน้าของเพิ่งเจ๋อเฉิงเคร่งขรึมอยู่นานพลางเอ่ยขึ้นมาด้วย น้ำเสียงเย็นยะเยือก : “เธอพูดอีกครั้ง?
อารมณ์ที่พลุ่งพล่านของเธอแปรเปลี่ยนเป็นแย่มาก เธอ เอาแต่ผลุบตาลงแล้วเอ่ยขึ้นมาด้วยอารมณ์เฉื่อยชาแทน : “คุณกลับไปเถอะ ฉันอยากพักแล้ว
เธอกล้าไล่คนกลับบ้านหรอ? เพิ่งเจ๋อเฉิงใช้สายตาดุดัน จ้องมองเธออย่างไม่พอใจ
เพิ่งเจ๋อเฉิงจ้องมองใบหน้าหญิงสาวที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก เขาเขยิบเข้า ใกล้บริเวณด้านข้างของหญิงสาวแล้วเอ่ยถาม : “ใช่สิ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง เสิ่นอีเวยเธอตอบฉันมาตรงๆ
ในยามนั้น เพิ่งเจ๋อเฉิงหรี่ตาลงแล้วใช้สายตาที่สื่อความ อันตรายออกมาอย่างชัดเจน
“อะไร?” เธอถามเขากลับทันที
“ครั้งก่อนที่เหมียนเหมียนมี meeting กับแฟนคลับ ลูก บอกกับทุกคนว่ากำลังช่วยเธอหาแฟนอยู่ เรื่องนี้เธอเป็นคน บอกลูกหรือลูกคิดเองกันแน่?” จากน้ำเสียงที่เธอฟังมานั้น อารมณ์ของเขาดูแย่มาก
เงินอีเวยถึงกับตะลึงงงงัน หล่อนพยายามนึกถึงเรื่องที่มี meeting กับแฟนคลับในวันนั้น
ต่อหน้าเพิ่งเจ๋อเฉิง หล่อนไม่สามารถบอกได้ว่าเรื่องนี้มัน ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเธอ เหมียนเหมือนเป็นคนคิดเรื่องนี้ขึ้นมา
เอง
สักพัก เงินอีเวยถามเขากลับอย่างระแวดระวัง : “แล้วคุณ คิดจะทําอะไร?”
เพิ่งเจ๋อเฉิงได้แต่หัวเราะแห้งๆ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ เธอแค่บอกกับฉันมาว่า เธออยากจะมีแฟนหรือเหมียนเหมือน เป็นตัวตั้งตัวตีหาแฟนให้เธอกันแน่?
“ไม่เกี่ยวกับคุณนี่?” เสิ่นอีเวยโมโหจนเบ้ปากอย่างดูถูก
“ถ้าเป็นความคิดของเธอ เธอตายแน่ หากเป็นความคิด ของเหมียนเหมียนเธอจะต้องเอาลูกมาให้ฉัน” น้ำเสียงของเพิ่ง เจ๋อเฉิงช่างราบเรียบและมุ่งมั่น
ความเครียดที่อยู่ในใจของเงินอีเวยเริ่มคุกรุ่น: “คุณจะทำ
อะไรเหมียนเหมือน
เพิ่งเจ๋อเฉิงยิ้มนิดๆแล้วตอบคำถามเธอ : “เธอไม่จำเป็น ต้องมากีดกันฉัน ยังไงเหมียนเหมียนก็เป็นลูกสาวแท้ๆของฉัน ฉันไม่มีทางทำร้ายลูกสาวฉันได้หรอก ฉันแค่อยากให้รู้เข้าใจ ว่าคนที่จะมาเป็นแฟนแม่ จะมาเป็นพ่อของเขา ในโลกใบนี้มี แต่ฉันคนเดียวเท่านั้น
น้ำเสียงเซิ่งเจ๋อเฉิงแน่วแน่อย่างเห็นได้ชัดเหมือนเขา ตัดสินใจมาดีแล้ว เสิ่นอีเวยไม่รู้เลยว่าเขาเอาความกล้าบ้าบิ่น มาจากไหน แถมยังคิดว่าเธอที่เป็นแม่ของเหมียนเหมือนจะยก ลูกสาวให้เขา
เธออยากจะพูดทับไปอีกประโยคว่า : “คุณค่ะ คุณเหมือน เข้าใจอะไรผิดไปแล้ว ในโลกใบนี้คนที่ไม่เหมาะจะเป็นพ่อของ ลูกก็คือคุณนั่นแหละ
ทว่าเสิ่นอีเวยรู้ดีอยู่แก่ใจว่าในยามนี้เธออยู่ในสถานะเสีย เปรียบ หากว่าทําอะไรพลาดไปแล้วเขาเกิดโมโหขึ้นมาอีก คน ที่จะพลาดท่าเสียทีคือหล่อนเอง เลยเงียบเอาไว้ดีกว่า
เงินอีเวยหลับตาลงแล้วเอ่ยตอบเขาแทน “เหมียนเหมือน เป็นลูกของฉัน ฉันไม่มีทางที่จะยกลูกให้คุณแน่ๆ
เพิ่งเจ๋อเฉิงหัวเราะแห้งๆ : “พูดแบบนี้แสดงว่าความคิดที่ จะหาแฟนให้เธอเนี่ยเป็นความคิดของเจ้าตัวเล็กละ ใช่ไหม?
เสิ่นอีเวยจ้องมองเชิงเจ๋อเฉิงตาเขม็ง แล้วไม่เอ่ยไม่กล่าว ใดออกไป เธอไม่อยากจะสนใจเขาอีกต่อไปแล้ว เลยลุกขึ้น ยืนแล้วเริ่มเก็บชามกับตะเกียบที่วางอยู่บนโต๊ะ
ทว่าเมื่อมือของเธอเพิ่งจะสัมผัสกับตะเกียบก็ถูกมือของ เขาจับไว้แน่น
เสิ่นอีเวยถึงกับสงสัยว่าเขาจับทำไมเลยเงยหน้าขึ้นก็พบ ว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงจ้องมองเธออย่างเงียบๆ
“คุณจะทำไม?” หล่อนถามอย่างไม่พอใจ
มุมปากเพิ่งเจ๋อเฉิงแสยะยิ้มขึ้นนิดๆ : “ก่อนทานข้าวพวก เรากำลังทำอะไรอยู่เธอคงไม่ลืมไปแล้วใช่ไหม? ตอนนี้เธอก็ กินอิ่มแปล้แล้ว ควรจะมาต่อเรื่องของเราดีกว่าไหม?
ในสมองของเงินอีเวยถึงกับมีเสียงดัง “เปรี๊ยะ” พอคิดได้ เธอเริ่มก้าวเท้าเตรียมวิ่งอย่างไว ทว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงที่แขนยาวเป็น เมตรกลับคว้าแขนเธอไว้แน่นจนวิ่งไม่พ้น
“พี่คะ นี่มันห้องครัวนะ! คุณประสาทไปแล้วหรือไง? ดวงตาของเธอเริ่มลุกโชนจากกองไฟ เธอโมโหจนเอาชาม ตะเกียบที่วางอยู่บนโต๊ะเขวี้ยงปาใส่หน้าเขา
น้ำเสียงของเพิ่งเจ๋อเฉิงเหมือนกำลังแก้เผ็ดเธออยู่: “อ้า ที่เธอพูดมาแบบนี้มันหมายความว่าถ้าไม่ใช่ที่ห้องครัวก็ได้ หมดใช่ไหม?”
เมื่อเขาพูดจบ เขาก็อุ้มเงินอีเวยขึ้นมาทันที โดยที่เริ่ นอีเวยยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
“ว้าย!” เธอส่งเสียงกรี๊ดดังลั่น แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเธอสัก
เพิ่งเจ๋อเฉิงที่กำลังอุ้มเธอเดินขึ้นชั้นบนนั้นพูดไปก็เดินหน้า ต่อไป! “ฉันแนะนำเธออย่างหนึ่ง ตอนนี้อย่าดิ้นเลย ไม่งั้นเดี๋ยว ฉันจะจัดการเธอให้รุนแรงมากกว่าเดิมอีก
เงินอีเวยรู้ดีว่าผู้ชายคนนี้เวลาอยู่บนเตียงแล้วเขาเป็น แบบไหน เธอถึงได้เชื่อฟังไม่กระตุกกระดิกเลยสักนิด
ในสมองของเธอกำลังครุ่นคิดหาวิธีเอาตัวรอด แต่ว่าการ ที่อยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่นของเพิ่งเจ๋อเฉิงนั้นมันเหมือนความ คิดตกอยู่ในวังวน
ช่วงที่เพิ่งเจ๋อเฉิงกำลังเปิดประตูห้องนอนนั้น ชั้นล่างกลับ มีเสียงเด็กน้อยเสียงดังลั่น
“หม่า หนูกลับมาแล้วค่ะ!
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ