บทที่361ความอบอุ่นของบรรดาเหล่า แฟนคลับ
บทที่ 361 ความอบอุ่นของบรรดาเหล่าแฟนคลับ
เงินอีเวยรีบเก็บการของตัวเองอย่างรวดเร็ว เธอมองไปที่ เวที วันนี้เหมียนเหมียนน้อยสวมชุดเต็มตัวแขนยาวดูสดใส และมีชีวิตชีวา แถมยังคาดแว่นกันแดดไว้บนหน้าผาก ให้ผู้คน ที่มองเห็นรู้สึกว่าเธอเท่มากๆ
หยางอันทรานเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเหมียนเหมือนน้อย นั่งตัวตรงอยู่ด้านซ้ายมือของเหมียนเหมียนน้อย ส่วนคนอื่น เป็นทีมงานเพียงไม่กี่คน
เนื่องจากเป็นครั้งแรกของบริษัทการบันเทิงเฟิงสิ่งที่มีการ จัดงานมีตแอนด์กรี๊ดให้กับดาราเด็ก ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าการจัด งานครั้งแรกผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ดังนั้นการจัดงานจึงมีเหมี ยนเหมียนน้อยและดาราเด็กคนอื่นอีกสองคน รวมเป็นดารา เด็กทั้งหมดสามคน โดยมีเหมียนเหมียนน้อยนั่งอยู่ตรงกลาง
เงินเลยมองลูกสาวที่ว่านอนสอนง่ายของตนเอง ไม่ว่าจะ มองอย่างไรก็รู้สึกว่าลูกของตนเองมีความปราดเปรื่องกว่า ดาราเด็กทั้งหมด
ที่จริงเธอสังเกตมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ความรู้สึกแบบนี้เสิ่นอีเวยเคยสัมผัสมันมาก่อนหน้านี้ เพียงแต่ตอนนั้น สภาพความเป็นอยู่ของตนเองกับสถานการณ์ของเหมียนเหมื ยนน้อยในตอนนี้ไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง
ในตอนนี้เหมือนเหมือนน้อยกับนักแสดงเด็กคนอื่นกำลัง นั่งบนเวทีอย่างน่าเอ็นดู ส่วนด้านล่างเวทีเต็มไปด้วยผู้คนที่ชื่น ชอบพวกเขา ทุกคนชูดอกไม้ที่ถืออยู่ในมือพร้อมกับป้ายไฟ ตะโกนเรียกพวกเขา ระดับความสนใจแบบนี้ นับว่าล้นเหลือ มากจริงๆ
นานมาแล้วตนเองเคยมีประสบการณ์ยืนบนเวที และถูก จับตามอง โดยผู้คนมากมาย ตอนนั้นตนเองยังอยู่กับเพิ่งเจือ เฉิง ตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาทั้งสองแต่งงานกัน ไม่ว่าเพิ่งเจ๋อเฉิง เข้าร่วมงานอีเวนต์หรืองานใดๆก็ตามจะต้องพาเธอไปด้วย เสมอ
ผู้ชายคนนั้นมีธุรกิจใหญ่โต เสน่ห์ของเขาทำให้คนแทบ จะเคลิ้มตาม ดังนั้นจึงต้องขึ้นไปกล่าวสุนทรพจน์ด้านบนอยู่ หลายครั้ง แต่ในตอนนั้น เธอเพียงยืนอยู่ข้างกายเขาอย่างเชื่อ ฟัง คอยฟังเขาแนะนำตนเองให้กับผู้คนในงานด้วยน้ำเสียงที่ แข็งกระด้าง
ถ้าเพิ่งเจ๋อเฉิงสนใจเธอ แต่เธอกลับรู้สึกถึงอุณหภูมิของ ความเย็นชาที่อยู่ในคำพูดของเขา ถ้าพูดว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงไม่ สนใจเธอ…นตอนนี้ทุกอย่างที่เขาทำมันเป็นเพราะอะไร?
เรื่องอื่นก็ยังดี แต่เรื่องที่ทำให้เสื่นอีเวยรู้สึกตกใจที่สุดมีสองอย่าง เรื่องแรกคือ ในระยะเวลาสี่ปีที่ตนเองจากไป คาดไม่ ถึงว่าเขาจะไปเยี่ยมพ่อแม่ของเธอตลอด ส่วนเรื่องที่สองคือ คาดไม่ถึงว่าเขาจะขอร้องให้เธอกับเหมียนเหมือนน้อยกลับไป อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลเพิ่ง
เธอไม่อยากพัวพันกับเขาอีกแล้ว เขาไม่ควรรีบรับเงิน ยออกจากโรงพยาบาลไปรักษาตัวที่คฤหาสน์ตระกูลเพิ่งใช้ ไหม? แต่ว่าเรื่องนี้ คาดไม่ถึงว่าจะไม่มีข่าวคราวสักนิดเดียว เสิ่นอีเวยรู้สึกประหลาดใจจริงๆ
ช่วงเดือนแรกที่เสิ่นอีเวยเพิ่งจะกลับมา เธอเคยแอบไป โรงพยาบาลที่เงินหุ้ยพักอยู่ เจตนาเดิมของเธอคือต้องการรู้ว่า แท้จริงแล้วพี่สาวของเธอฟันหรือยัง ดังนั้นตอนที่เธอเห็นว่า เงินหุ้ยไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาล จิตใจของเธอว้าวุ่นไปหมด
เนื่องจากเสิ่นอีเลยไม่รู้ว่าเป็นหุ้ยถูกเพิ่งเจ๋อเฉิงย้ายไปโรง พยาบาลอื่นแล้ว และเพราะเธอฟื้นแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องอยู่โรง พยาบาลอีกต่อไป
สําหรับเรื่องนี้ เธออยากถามเพิ่งเจ๋อเฉิงมาตลอด แต่ เนื่องจากตอนนี้ความสัมพันธ์ของสองคนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดัง นั้นเสิ่นอีเวยยังหาโอกาสถามไม่ได้
เรื่องนี้ติดค้างอยู่ในใจเสิ่นอีเวยมาตลอด ถึงแม้เธอจะ ใจร้อนอยากรู้ให้ได้ แต่เนื่องจากเวลาปกติเธอยุ่งกับงานและ การดูแลเหมียนเหมียนน้อย ดังนั้นเธอจึงสามารถหาเวลาไป คิดเรื่องนี้ได้
เงินอีเวยเป็นแม่ของเสิ่นเหมียนนักแสดงเด็กที่มีชื่อเสียง เป็นธรรมดาที่จะถูกนักข่าวบันเทิงและปาปารัสซี่ถ่ายภาพ ดัง นั้น ในวันนี้เพื่อที่เสิ่นอีเวยจะได้ทำตัวกลมกลืนกับผู้คน ไม่เปิด เผยตนเอง เมื่อสักครู่ตอนจอดรถเพื่อลงไปซื้อป้ายไฟ จึงซื้อ หมวกปีกกว้าง ให้ตนเอง ด้วยความกว้างของปีกหมวกสามารถ ปิดหน้าผากและแก้มทั้งสองข้างของเธอ
วันนี้บนเวทีมีนักแสดงเด็กสามคน อีกสองคนเป็นเด็ก ผู้ชายและผู้หญิง ทั้งสองคนโตกว่าเหมือนเหมียนขึ้นมาหน่อย จึงได้เริ่มถ่ายละครโทรทัศน์เรียบร้อย
แต่เนื่องจากเหมียนเหมียนน้อยอายุยังน้อยมาก ดังนั้น งานหลักในปัจจุบันคือ โฆษณาที่สอดคล้องกับอายุและภาพ ลักษณ์ของเธอ ส่วนเรื่องการถ่ายละครโทรทัศน์หรือภาพยนต์ ต้องรอหลังจากนี้จึงจะได้รับเลือก
เรื่องราวเหล่านี้ ปกติหยางอันทรานจะบอกเธอทุกอย่าง เนื่องจากตอนนี้เป็นอีเวยเพิ่งจะได้งานในบริษัทใหม่ ซึ่งเป็น เหมือนการเปิดประตูสู่โลกใบใหม่ในการออกแบบเครื่อง ประดับ เวลาส่วนใหญ่จึงหมดไปกับการทำงาน
แต่เธอไม่ยอมขาดตกบกพร่องในคุณสมบัติของความเป็น แม่ ดังนั้นเธอยังคงรับรู้เรื่องราวในบริษัทและการถ่ายทำของ เหมียนเหมียนน้อยจากหยางอันทรานผู้จัดการส่วนตัว
สำหรับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของตนเองที่มีคนชื่นชอบ นับหมื่นคน เสิ่นอีเวยรู้สึกปลื้มอกปลื้มใจเป็นที่สุด
เธอถือป้ายไฟเบียดเสียดผู้คนพยายามแทรกตัวไปแถว ด้านหน้า เสียงของผู้คนในงานดังมาก ดังนั้นเงินอีเวยจึงไม่ ต้องกังวลว่าเสียงตะโกนของตนเองจะกลายเป็นที่สนใจ
“เหมียนเหมียนน้อย ในสถานการณ์ที่คึกคักเช่นนี้ เ นเลยรู้สึกฮึกเหิม จนควบคุมตนเองไม่อยู่ เธอหันไปทางเวที ตะโกนชื่อเหมียนเหมียนน้อย
ถึงแม้ว่าเสียงผู้คนจะจอแจ แต่ถึงอย่างไรพื้นของเวทีนั้น สูงกว่าพื้นของบรรดาแฟนคลับทั้งหมด ดังนั้นภาพเหตุการณ์ ด้านล่าง คนที่นั่งอยู่ด้านบนสามารถมองเห็นได้ชัดเจนอย่าง ง่ายดาย
เหมียนเหมียนน้อยสังเกตเห็นเงินอีเวยได้ชัดเจน ใบหน้า เล็กๆของเด็กน้อยแดงออกอย่างเขินอาย มองดูเหมือนแอ ปเปิ้ลสีแดงมันวาวน่ารัก เหมียนเหมียนน้อยนั่งเขย่งปลายเท้า บนเก้าอี้ มองไปทางเสิ่นอีเวย
เด็กน้อยน่ารักขยิบตาให้เงินอีเวย เพราะมันคือข้อตกลง เล็กๆน้อยๆระหว่างสองแม่ลูก หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สะดวก พูด ก็จะใช้วิธีการขยิบตาเพื่อเป็นการตอบอีกฝ่าย
เพียงแต่สิ่งที่เสิ่นอีเวณนึกไม่ถึงคือ เมื่อขยิบตา คนที่ได้รับ ไม่ได้มีเพียงเธอคนเดียว แต่คนอื่นที่ยืนข้างเธอที่เป็นแฟนคลับ ตัวยง คุณลุงคุณป้าแฟนคลับทั้งหลายต่างเข้าใจว่าเหมียนเหมื ยนน้อยขยิบตาให้ตนเอง
ในตอนนี้ กิจกรรมมาถึงช่วงถามตอบ
พิธีกรสาวถือไมโครโฟน ก้าวเข้ามาใกล้เหมือนเหมือน
น้อย ถามว่า “วันนี้แฟนคลับทุกคนต่างมารวมตัวกันในงานนี้ นั้นเป็นเพราะพวกเขาชื่นชอบหนูจนยากที่จะต้านทาน เหมือน เหมียนน้อยเป็นที่รักของบรรดาเหล่าแฟนคลับที่น่ารักมากมาย หนูมีอะไรอยากจะบอกกับพวกเขาหรือเปล่าคะ? ”
พิธีกรสาวมีบุคลิกสง่างาม เธอถามเหมือนเหมียนน้อย ด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ถ้าเป็นเวยมองไม่ผิด สายตาที่พิธีกร สาวมองเหมียนเหมียนน้อย คล้ายกับ……..มีสายตาแห่งความรัก ใคร่เอ็นดู
เห้อ ต้องโทษลูกสาวของบ้านเธอที่มีเสน่ห์ต่อผู้คนมาก เกินไป เงินอีเวยถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญาแต่แฝงไป ด้วยความสุข
“มีแน่นอนค่ะ! “เหมียนเหมียนน้อยพูดด้วยเสียงสดใส ผ่านไมโครโฟนคุณภาพดี ให้ทุกคนด้านล่างเวทีได้ยินกันถ้วน หน้า
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ