บทที่306มันก็ไม่ใช่ว่าไม่มีทาง
บทที่ 306 มันก็ไม่ใช่ว่าไม่มีทาง
คำพูดของตำรวจจราจร ทั้งหมดล้วนแต่ไม่มีประโยชน์ และไม่มีความหมาย แม้กระทั่งพวกเขาอาจจะเตรียมคำพูด พวกนี้ไว้ล่วงหน้า และเสิ่นอีเวยก็ไม่ได้คิดแบบที่พูดจริงๆ
เป็นอย่างที่คิด หลังจากตำรวจจราจรพูดแบบนี้ ก็พูด ต่อว่า : “ดังนั้น การตัดสินคืองานของพวกผม ซึ่งงานของพวก ผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้เรื่องค่าชดใช้ต้องเป็นเรื่องส่วน ตัวที่พวกคุณต้องไปตกลงกันเอง อยากให้ทุกคนค่อยๆคุยกัน ไม่มีเรื่องอะไรที่จัดการไม่ได้ พวกผมยังมีงานอื่นที่ต้องทำ ขอตัวก่อนนะครับ
ตำรวจจราจรที่พูดประโยคนี้ส่งสายตาให้เพื่อนร่วมงาน ทั้งสองคนออกจากที่เกิดเหตุเหมือนนัดกันมาล่วงหน้า
เสิ่นอีเวยมองตามหลังของพวกเขาทั้งสองที่ค่อยๆไกล ออกไป ไม่มีค่าพูดใดในใจ พวกนั้นแสดงเก่งกว่าฉัน กนะเนี่ย! อยากออกไปจากตรงนี้ก็ยังพูดจาเป็นทางการ ตอน นี้นักแสดงทุกคนตีบทแตกหรือยัง?
แต่ตอนนี้จะทำอย่างไรดี? อย่างน้อยที่สุดตำรวจจราจรก็ไปแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงตนเองเผชิญหน้ากับผู้ชายใส่แว่นที่เป็นตัวต้นเหตุคอยคุมเชิง
อยู่
เมื่อตำรวจจราจรสองคนนั้นไปแล้ว เป็นเวยจึงยกมือขึ้น เช็ดน้ำตาแห่งความน่าสงสารที่ไหลออกมาจากดวงตาทั้งสอง ข้าง ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเธอแสดงละครให้กับตำรวจสองคนนั้น ดู ตอนนี้ทุกคนจากไปหมดแล้ว จึงไม่มีอะไรต้องแสดงต่อ
ผู้คนเห็นตำรวจจราจรจากไปแล้ว ก็คิดว่าไม่มีเรื่องน่า สนใจให้ดูต่อ ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับ
เสิ่นอีเวยและซ่งลู่เหยียนยืนอยู่ข้างถนน ทั้งสองต่างต้อง หน้ากัน ถึงแม้ในใจต่างรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังเล่นละคร แต่ กลับไม่เปิดโปงอีกฝ่าย เรื่องราวในวันนี้ เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่า เป็นสงครามการต่อสู้ทางจิตวิทยา รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เล่น
“คุณพูดมา เรื่องนี้สรุปจะเอายังไง? ” เสิ่นอีเวยกอดอก ถามซึ่งเหยียนอย่างอ้อมๆ ท่าทางของเธอหยิ่งยโสมาก บวก กับชุดกระโปรงสีดำที่สวมใส่ ดูแล้วเหมือนกับหงส์ดำที่สูงส่ง
ที่จริงเรื่องราววุ่นวายมาจนถึงตอนนี้ ซึ่งเหยียนก็เริ่ม อ่อนล้า เพราะคุณนายเชิงคนนี้รับมือได้ยากจริงๆ แต่เรื่องใน วันนี้ ดันเป็นภารกิจที่เจ้านายของตนเองมอบหมาย ดังนั้นจึง ต้องทําให้สําเร็จ
“อะแฮ่มๆ ซึ่งลู่เหยี่ยนไอเสียงเบา เสิ่นอีเวยรู้ว่าอีกฝ่าย ต้องการพูด จึงหันหน้าไปมองทางเขา
“คุณเสน ในเมื่อเรื่องราวมาถึงตอนนี้ ผมก็ไม่ต้องการจะ ทำให้พวกเราเสียเวลาอีกต่อไป ผมมีเพียงประโยคเดียวคือ วันนี้คุณต้องจ่ายค่าชดใช้ ไม่ต้องเจรจาอีกต่อไป ผมจัดการ เรื่องนี้แทนเจ้านายของผม
เรื่องนี้ เสิ่นอีเวยสังเกตเห็นมาตั้งนานแล้ว ดังนั้นจึงไม่พูด มาก และถึงแม้ฝั่งตรงข้ามจะพูดเอาจริงเอาจังขึ้นมาอย่าง กะทันหัน เธอก็ไม่ตกใจ
ถึงแม้จะมีคำกล่าวว่าการเสียเปรียบคือวาสนา แต่ตนเอง ก็ไม่ควรเสียเปรียบ เธอจะไม่ยอมเสียเปรียบเด็ดขาด นี่คือข้อ จํากัดและหลักการของเธอ ไม่มีใครสามารถทำลายได้
เหมือนสี่ปีก่อนหน้านี้ เธอตัดสินใจเดินทางไปประเทศ อังกฤษ เพราะต้องการจัดการความรู้สึกของตนเอง ปล่อยวาง เรื่องราวทั้งหมด เธอจากไปโดยไม่กล่าวคำร่ำลา แม้ว่าขณะนี้ กำลังเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่เมืองนี้ แต่เธอก็ไม่เสียใจ กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่ในตอนนี้มองดูแล้ว อีกฝ่ายไม่มีท่าทีจะประนีประนอม ดังนั้นตนเองก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอีกต่อไป
เป็นอีเวยคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นจริงจัง ทันที แววตาเผยให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยว : “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันจะพูดกับคุณตรงๆว่า ฉันไม่มีเงินจริงๆ ฉันเป็นแค่คน จนๆ คนหนึ่ง ไม่มีเงินสิบล้านให้คุณ
วันนี้มองดูแล้วมีทางแก้ปัญหาเพียงสองทาง ถ้าไม่ลดค่าชดใช้ให้เหมาะกับสภาพคล่องทางกระเป๋าเงินของฉัน คุณก็ไป ฟ้องศาลแทน ให้ฉันได้รับโทษตามกฎหมาย
ซึ่งลู่เหยียนไม่คิดว่าจะเป็นอีเวยพูดประโยคนี้ออกมา เขา
ยิ้มมุมปาก โชคดีที่ไม่ว่าเธอจะมาไม้ไหนเขาก็สามารถรับมือ ได้ เพราะเขาเตรียมการไว้ล่วงหน้า
ซ่งลู่เหยียนเดินเข้าไปใกล้เงินอีเวณหนึ่งก้าว พูดว่า คุณเส้น ความจริงแล้ว หากคุณไม่มีเงิน เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะ ไม่มีวิธีแก้ไข”
เงินอีเวยรู้สึกดีใจ แต่ยังคงทำใบหน้านิ่งเฉย ในตอนนี้ ตามหลักการทางจิตวิทยาแล้ว ห้ามเปิดเผยความรู้สึกของ ตนเองให้อีกฝ่ายแม้แต่นิดเดียว
“วิธีอะไรหรอคะ? “เธอถามเบาๆ
“คุณเสิ่น เปลี่ยนที่คุยกันเถอะ “ซึ่งลู่เหยียนพูดเสียงต่ำ
เงินอีเวยรู้สึกไม่ปลอดภัย ถอยหลังหนึ่งก้าว เธอพูดอย่าง
แปลกใจ: “ที่ไหนหรอ? ฉันเพิ่งจะยื่นข้อเสนอให้คุณกับ
ตำรวจจราจรสองคนนั้นเอาฉันไปขายแลกเงินชดใช้ เมื่อสักครู่
คุณไม่ยอมเอ่ยปากพูดอะไรออกมา ตอนนี้สองคนนั้นไปแล้ว
คุณเพิ่งจะต้องการขายฉันหรือไง?
ตอนพูดประโยคนี้ เสิ่นอีเวยยืนกอดอก แสดงท่าทาง ปกป้องตนเอง เธอมองซ่งเหยี่ยนด้วยแววตาหวาดระแวง หลังจากพูดไม่ออกอีกครั้ง เขาพูดเพื่อให้คุณนายเพิ่งรู้สึกคลายกังวล “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ เพียงแต่เพราะว่าที่นี่คนมอง เยอะ ไม่เหมาะที่จะคุยธุระ ทางด้านนั้นมีร้านกาแฟ ผมขอเลี้ยง กาแฟสักแก้วคุณได้ไหมครับ?
มองดูท่าทางที่ปรากฏตรงหน้า ถึงแม้ประธานเพิ่งจะสั่ง อย่างชัดเจนว่าวันนี้จะต้องสำเร็จตามเป้าหมายเท่านั้น ไม่ต้อง สนใจว่าคุณเสิ่นจะมองว่าตนเองเป็นคนยังไง แต่ส่งลู่เหยี่ยนม องดูแล้ว ตนเองยังสามารถจัดการได้อยู่
ถึงแม้ว่าตอนนี้เขากำลังช่วยทำธุระให้กับประธานเชิง แต่ คนที่ดำเนินการติดต่อโดยตรงกับคุณนายเพิ่งก็คือตนเอง ตอน นี้ความสัมพันธ์ของพวกเขายังไม่ได้เปิดเผยความจริง แต่รอ จัดการเรื่องราวเสร็จแล้ว คุณนายเชิงคนนี้ต้องจำได้ขึ้นใจว่า วันนี้ตนเองทําท่าทางไม่ดีกับเธอ ถึงตอนนั้นคนที่จะพบกับ หายนะก็คือตนเอง
ไม่แปลกใจเลยจริงๆ เขายังคงรู้สึกกลุ้มใจ ทำไมหลินอ ต้องโยนภาระหน้าที่ที่ได้รับจากประธานเพิ่งมาให้เขาทำด้วย
แต่เรื่องราวต่างมาถึงในตอนนี้แล้ว เขายังจะทำอะไรได้
อีกนะ?
เสิ่นอีเวยมองซ่งเหยียนอย่างเย็นชา เธอคิดอย่าง รอบคอบและพูดว่า “ ได้ ไป
วันนี้ฉันจะลองดูสิว่าผู้ชายคนนี้จะมาไม้ไหนอีก
ทั้งสองนั่งลงในร้านกาแฟที่เงียบสงบและมีความเป็นส่วน ตัว บรรยากาศโดยรอบ คลอไปด้วยเสียงเพลง ทั้งสองคนยืน คุยอยู่ด้านนอกเป็นเวลานาน ร่างกายจึงเต็มไปด้วยเหงื่อ อากาศเย็นในร้านกาแฟทําให้ความคิดของเสิ่นอีเวยและซ่งลู่ เหยี่ยนโล่งขึ้น
แท้จริงแล้วผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลวร้าย เสิ่นอีเวยสามารถมอง ออก เพียงแต่ตอนนี้สิ่งเดียวที่สามารถแน่ใจได้คือ คนที่อยู่ เบื้องหลังซ่งเหยียนต้องไม่ใช่คนที่แน่นอน เสิ่นอีเวยวิจารณ์ ในใจ
เสิ่นอีเวยจิบกาแฟเบาๆ ตอนวางแก้วลงสายตามองเห็น เอกสารสีขาวปรากฏในสายตา
เธอถามคนที่นั่งตัวตรงอยู่ตรงข้ามเธอด้วยความสงสัย
ทันที : “นี่คืออะไร? ”
ซึ่งลู่เหยียนเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ สิครับ” – “คุณลองเปิดอ่านดูก่อน
เงินอีเวยยืนมือออกไปรับ เมื่อเปิดดู เอกสารหน้าแรกว่าง เปล่า ไม่มีตัวหนังสือใดๆ แต่เมื่อพลิกอีกหน้า ตัวหนังสือพิมพ์ ใหญ่ที่เขียนว่าข้อตกลงการแต่งงานใหม่ก็ปรากฏขึ้นมาทันที
เธอหยุดอ่านชั่วคราว เพียงแค่ตัวอักษรเริ่มต้นก็เพียงพอที่ จะทำให้ในใจของเสิ่นอีเวยเกิดเครื่องหมายคำถามมากมาย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ