นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่240รอยฟกช้ำเลือดบน แขน



บทที่240รอยฟกช้ำเลือดบน

แขน

บทที่ 240 รอยฟกช้ำเลือดบนแขน เซิ่งเจ๋อเฉิงจัดการนำตัวเสิ่นอีเวยเอาไว้ ข้างคนขับเรียบร้อยแล้ว

หลังจากที่เขานั่งตำแหน่งคนขับรถ ระหว่างทางที่ขับรถออกมาจากจุดนั้นป ระมาณห้าสิบเมตรได้

ในรถทั้งสองก็ยังคงไม่มีการเอื้อนเอ่ย คำใดๆออกมา

เสิ่นอีเวยหันศีรษะออกไปนอกรถ ด้านนอกท้องฟ้ามืด ลมหอบละอองฝนพัดเข้ามา เพราะว่าด้านล่างของราวเหล็กนั้นเป็นม หาสมุทรการที่ทอดมองภูเขาที่ไกลสุด ลูกหูลูกตาออกไปนั้น ช่วงระหว่างกลางนั้นเหมือนมีอะไรมาข วางกั้นเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง

ก็เหมือนกับในสมองของเสิ่นอีเวยในเว ลานี้ที่ความคิดพลุ่งพล่านไปทั่ว เซิ่งเจ๋อเฉิงในคืนนี้ทำไมทำแบบนี้กับห ล่อนขึ้นมาได้นะ? หล่อนไม่เข้าใจจริงๆ

เซิ่งเจ๋อเฉิงในคืนนี้สำหรับเสิ่นอีเวยแล้ว เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนที่หล่อนไม่รู้จัก เอาซะเลย ไม่น่าใช่ ผู้ชายคนนี้ ไม่มีทางมาอ่อนโยนกับหล่อนแน่ๆ สักพักรถค่อยๆจอดบริเวณหน้าประตูข

องวิลล่า

หลังจากที่เสิ่นอีเวยเข้าห้องนอนของตั วเอง ลงแรกทหลอนทาคอล็อกประตูทอง จากนั้นก็เตรียมตัวอาบน้ำ วันนี้หล่อนเหนื่อยจริงๆ ใจก็เหนื่อย ร่างกายก็เหนื่อยแสนเหนื่อย ก่อนที่หล่อนจะเข้าห้องน้ำ หล่อนแอบฟังว่าบริเวณด้านนอกประตู นั้นมีการเคลื่อนไหวอะไรหรือเปล่า แต่ด้านนอกประตูกลับเงียบสนิท เซิ่งเจ๋อเฉิงกำลังทำอะไรอยู่กันแน่นะ

ใจของเธอแทบจะอดคิดไม่ได้เลย แปบเดียวเธอก็ดึงสติกลับมาได้ดังเดิม ใครจะไปสนเขาล่ะ? ตอนนี้ก็กลับมาถึงบ้านแล้ว ผู้ชายคนนั้นจะทำอะไรมันก็ไม่ได้เกี่ยว

กับเธอแล้ว

หากให้พูดต่อ

เมื่อครู่เธอก็ล็อกประตูห้องนอนเรียบร้อ ยแล้ว

หากเขาอยากจะมาคุยเรื่องนั้นกับตัวเอ งต่อก็คงไม่ต้องถึงขนาดทุบประตูเข้าห้ องเข้าตัวเองหรอกน่า?

คิดได้ถึงตรงนี้

มีบางสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้นั่นก็คือความห นักใจของตัวเองในคืนนี้มันผ่อนคลายขึ้ น จะพูดยังไงก็ตาม

เซิ่งเจ๋อเฉิงเป็นคนเริ่มเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจ นจบ

ขอแค่ตอนนี้ตัวเธอเองไม่ต้องเห็นหน้าเ ขาก็ถือว่าขอบคุณมากแล้ว

บริเวณในห้องอาบน้ำมีขนาดใหญ่ก็จริง แต่การที่เปิดลมให้อุณหภูมิในห้องอบอุ่ นนั้นมันทำให้ในห้องไม่หนาวเลยสักนิ ด หลังจากที่เสิ่นอีเวยถอดเสื้อผ้า หล่อนก็ยืนใต้ฝักบัวสายน้ำอุ่นก็ไหลลง มาด้านล่างสมผสกับผิวขาวเนียนละเอีย ดของหล่อน

รูขุมขนบนเรือนร่างก็ค่อยๆขยายจนสบ

ายตัว

อุณหภูมิของน้ำร้อนในเวลานี้มันทำให้ ความรู้สึกเหนื่อยล้าหายบนร่างกายไปเ

ป็นปลิดทิ้ง

ทว่าหลังจากที่ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายล งแต่กลับเหมือนไม่มีความรู้สึกใดๆขึ้นม

าแทนที่

เสิ่นอีเวยค่อยๆทรุดลงไปนั่งกับพื้นห้อง นา

บริเวณพื้นห้องน้ำถูกน้ำอุ่นรดอยู่ตลอด เลยไม่มีความรู้สึกหนาวใดๆ หล่อนจึงนั่งอยู่ตรงนั้นตลอด ละอองสายน้ำอุ่นที่ไหลรินลงมาจากฝัก บัวสัมผัสบริเวณใบหน้า ดวงตาของหล่อนเองอย่างเรื่อยๆ ด้านหน้าหล่อนกลายเป็นไอน้ำบางๆเป็ นชั้นๆ

บางทีอาจเพราะเหนื่อยเกินไปก็ได้ หล่อนแทบแยกไม่ออกเลยว่าแท้จริงแ ล้วเป็นไอน้ำหรือน้ำตากันแน่ แล้วทำไมต้องร้องด้วยล่ะ?

ไม่น่าจะใช่นะ…

ความคิดที่อยู่ในใจของเซิ่งเจ๋อเฉิงไม่เ หมือนเมื่อก่อนที่อะไรก็แล้วแต่ต้องเป็น เรื่องที่เกี่ยวกับเสิ่นหุ้ยเท่านั้น แล้วทำไมตอนนี้หล่อนไม่ดีใจขึ้นมาล่ะ?

สำหรับตัวเองแล้วมันน่าจะเป็นเรื่องที่ดี อีกเรื่องหนึ่งไม่ใช่หรอ?

เสิ่นอีเวยไม่รู้ตัวเลยว่านั่งที่พื้นนานเท่า ไหร่แล้ว จนหลอนดงสติกลับมาโดนนอุณหภูมิบ นเรือนร่างของเธอกลับไม่ได้ร้อนเหมือ นเมื่อครู่แล้ว แถมยังรู้ล็กหนาวขึ้นมานิดๆ

เสิ่นอีเวยค่อยๆยืนขึ้นอย่างช้าๆ หลังจากเช็ดตัวเสร็จแล้วก็ใส่เสื้อผ้า แล้วส่องกระจก หล่อนต้องการไดร์ผม

ช่วงที่ใช้มือขวาหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมานี่ แหละถึงได้รู้สึกเจ็บแปลบๆขึ้นมา หล่อนถลกแขนเสื้อชุดนอนผ้าไหมถึงไ ด้เห็นว่าที่ต้นแขนขามีรอยช้ำเป็นสีแ ดงอยู่สองจุด

เสิ่นอีเวยค่อยๆขมวดคิ้ว หล่อนคิดไม่ออกจริงๆว่าไม่โดนอะไรม าตอนไหนกัน

หล่อนยื่นต้นแขนมาด้านหน้าเล็กน้อยบ รเวณรอยฟกชานนแล้วค่อยๆกดลงไป มันเจ็บขึ้นมาทันที ความเจ็บแบบนี้ …. มันเหมือนดูคุ้นๆ

สมองของเสิ่นอีเวยค่อยๆคิดติดจรวด สักพัก

หล่อนถึงได้คำตอบรอบฟกช้ำที่ต้นแขน ด้านขวาอยู่ในใจที่มันไม่ชัดเจนสักเท่าไ

หร่

เอ่อ

สาเหตุน่าจะมาจากเซิ่งเจ๋อเฉิงใช้แรงฉุ ดกระชากลากูเธอให้ขึ้นรถ ตอนที่อยู่ที่ถนนเลียบชายทะเลแน่ๆ จนเกิดเป็นรอยฟกช้ำขนาดนี้ได้

ในตอนนั้นสถานการณ์เกิดขึ้นโดยไม่ทั นได้ตั้งตัวแถมเธอยังพยายามใช้แรงต่ อต้านสะบัดให้หลุดจากเขาอีก เลยไม่ทันได้คิดเรื่องพวกนี้ว่าจะเกิดเรื่ องแบบน

ช่วงเวลานั้นก็ไม่ได้สนใจเรื่องที่ผิดปก ติใดๆ

แต่ตอนนี้

ตัวตนหล่อนกลับคืนมาปกติแล้ว

ใจก็เริ่มผ่อนคลายลงแล้ว ความรู้สึกเจ็บบริเวณแขนก็เริ่มปวดมาก ขึ้นจนทนไม่ไหวแล้ว

เสิ่นอีเวยค่อยๆดูรอยฟกช้ำอย่างละเอีย

ดูแล้วว่ารอยช้ำนั่นไม่ได้ช้ำหนักหรือเจ็

บหนักเท่าไหร่

แต่ว่าคงไม่ได้หายง่ายๆแน่

หล่อนเลยปล่อยแขนเสื้อลง

ช่วงที่กำลังไดร์ผมอยู่นั้นตัวเองรู้สึกเห มือนว่าได้ยินเสียงคนเคาะประตู จนถึงตอนที่เป่าผมแล้ววางไดร์ลงแล้ว ถงใดค่อยๆฟังเสียงมันดังมาจากด้านน อกประตู มีคนเคาะประตูจริงๆด้วย หล่อนเกิดสงสัยขึ้นมาหรือว่าเป็นเซิ่งเจ๋ อเฉิง?

เขาเคาะประตูห้องของตัวเองทำไมกัน? เสิ่นอีเวยก้มศีรษะลงสำรวจรอยแยกขอ งผ้าคลุมอาบน้ำของตัวเอง เมื่อคิดอีกทีเอาเสื้อโค้ทคลุมทับอีกรอ บดีกว่า หลังจากนั้นจึงได้เดินไปเปิดประตู

ตอนที่เปิดประตูห้องสิ่งแรกที่เธอเห็นก็ คือจานข้าว ข้าว…ที่มันหน้าตาเหมือน ข้าวผัดไข่

เสิ่นอีเวยถึงกับแปลกใจไปสักพัก จึงได้เงยหน้าสบตาเซิ่งเจ๋อเฉิงแล้วถา มเขาอย่างสงสัย : “นี่คืออะไร?” การแสดงออกทางสีหน้าของเชิงเจอเฉ งยังคงเย็นชาอยู่เช่นเดิม น้ำเสียงที่เขาตอบช่างราบเรียบ เขาก็แทบไม่แสดงออกอารมณ์ใดๆออ กมา : “ดูไม่ออกหรอ? รู้แล้วยังจามอีก”

หลังจากพูดเสร็จเขาแทบไม่รอให้เงินอี เวยได้ทันตั้งตัวอะไรก็ถือวิสาสะเดินถือ ข้าวผัดไข่จานหนึ่งเดินดื่มๆเข้าห้อง เดินพรวดเข้ามาขนาดเสิ่นอีเวยอยาก จะเอามือกั้นเอาไว้ยังขวางไม่ทันเลย

“เฮ้ย คุณทำอะไรเนี่ย? เสิ่นอีเวยเกิดอาการรีบพูดถามออกมา

เวลานี้เอง

เสิ่นอีเวยถึงได้เข้าใจหลักการง่ายๆระห

ว่างทั้งคู่คือ ถ้าอยากให้หล่อนกับเพิ่งเจ๋อเฉิงหยุดก ารทะเลาะกันวิธีนั่นก็คืออย่าให้พวกเขา ทั้งสองคนอยู่ห้องเดียวกัน

ไม่งั้นละก็

ทะเลาะกันเสียงดังสนั่นหวั่นไหวแน่ๆ เรื่องนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยแหละ จนเสิ่นอีเวยจำขึ้นใจ

เซิ่งเจ๋อเฉิงเดินไม่หยุดเท้าเลย ได้แต่เหล่มองเสิ่นอีเวยด้วยหางตาแต่ไ ม่ได้เอ่ยอะไร

เสิ่นอีเวยเริ่มอึดอัดใจแต่ก็รู้สึกโกรธ

ผู้ชายคนนี้ตอนนี้เป็นอะไรไปแล้วนะ? เรื่องที่เกิดขึ้นมาในคืนนี้มันไม่เคยเกิดขึ้ นมาก่อนเลย?ห้องนอนห้องนี้ก็เป็นของ เธอ

เธอไม่เคยอนุญาตให้เขาเข้ามาในห้อง เขาใช้ตรรกะอะไรเนี่ยถึงเข้า อยากไปก็เดินออกไปนเลยหรือ? เล่นอีเวยรู้สึกตลก

“ฉันจะนอนแล้ว”

หล่อยเอ่ยปากพูดอย่างไร้อารมณ์ น้ำเสียงแหนีบไล่เขาอยู่เนืองๆ

คุณไม่เคารพวิธีหรือข้อเสนอแนะของฉั นเลยหรอ? งั้นฉันก็จะต่อต้านบ้าง เสิ่นอีเวยคิดอยู่ในใจ

เดิมทีหล่อนคิดว่าตัวเองก็แสดงจุดยืนที่ ชัดเจนขนาดนี้แล้ว

อย่างน้อยเพิ่งเจ๋อเฉิงคงรับรู้บ้างไม่มา กก็น้อยแหละ?

ทว่าเมื่อมองเซิ่งเจ๋อเฉิงอีกครั้ง ข้าวผัดที่อยู่ในมือของเขากลับวางบนมุ มของโต๊ะไม้แล้ว

จากนั้นก็ลากเก้าอี้เข้ามานั่งเองเลย แล้วก็เอามือกุมหน้าอกแล้วจ้องมองเสี นอีเวย เมื่อมองเขาแล้วช่างดูดีมาก

เสิ่นอีเวยก็จ้องมองเซิ่งเจ๋อเฉิงกลับอย่

างเงียบๆ

เซิ่งเจ๋อเฉิงแทบไม่แสดงอารมณ์ใดๆอ อกมา แต่เสิ่นอีเวยรู้สึกใจหวิวๆแทน

จนถึงเวลาที่หล่อนเกือบจะอ้าปากพูดอ อกมา เซิ่งเจ๋อเฉิงก็เอ่ยขึ้นมาก่อน:

“เธอจะนอนก็ควรหาอะไรรองท้องก่อน นอน”

น้ำเสียงราบเรียบ

ดูเหมือนไม่สนใจและก็ไม่เยาะเย้ย มันช่างยากแก่การได้พบเจอ

เสิ่นอีเวยเบะปาก

หล่อนคิดอย่างละเอียดแล้ว วันนี้ยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย ถึงแม้ว่าตอนอยู่ที่โรงพยาบาลจะนอนก็ ตามแต่ว่าก็ยังรู้สึกกินกำลังไปครึ่งหนึ่ง
201277753_1437672646608713_3031921584964927598_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ