บทที่215ไม่ทราบวาคุณชายเจิ้ง มีความคิดวิธีใด
บทที่ 215
ไม่ทราบวาคุณชายเจิ้งมีความคิดวิธีใด
คําพูดที่เจิ้งอวิ๋นชวนพูดขึ้นมา เหมือนกับไม่ได้ใส่ใจอะไรในความหมา ยเลย
แต่ว่าเสิ่นอีเวยรู้ว่า
นิสัยอย่างเจิ้งอวิ๋นชวนคือยิ่งเป็นอย่างไ รก็จะยิ่งทำให้บรรลุถึงเป้าหมายของตัว เองยิ่งขึ้น
ที่เขาแสดงท่าทีที่กล้าต่อกรกับเซิ่งเจ๋อ เฉิงนั้นเพราะว่าเขารู้ฐานะและจุดยืนขอ
งเขาดี
ก็จริงอยู่ เจ๋งโปหงเป็นนักธุรกิจที่ผ่านร้อนผ่านห
นาวมามาก
และเจิ้งอวิ๋นชวนเป็นลูกคนเดียวของเข า แล้วจะไม่มีความปลื้มปีติได้อย่างไร
เสิ่นอีเวยรู้สึกไม่พอใจผู้ชายคนนี้เป็นอ ย่างมาก เลยเกิดความเกลียดในใจ แล้วมีท่าทีที่เยือกเย็นขึ้นมากกว่าเดิม
แต่ว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงกลับไม่มีท่าทีอะไร เหมือนกับเจอคนแบบเจิ้งอวิ๋นชวนมาม าก เลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย
แต่เสิ่นอีเวยกลับไม่กล้าที่จะคาดคะแน นว่าสองคนนั้นใครเหนือกว่าใคร ถึงแม้เธอจะเคยเห็นการต่อสู้แบบนี้มาม ากครั้งแล้วก็ตาม
แต่ว่าเมื่อผู้บริหารมีการพูดคุยต่อหน้าซึ่ งกันและกัน เธอไมเคยได้สัมผัสเลยสักครั้ง ถึงแม้เสิ่นอีเวยจะรู้ว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงนั้นเก่ง
ขนาดไหน
แต่ว่าหากเกี่ยวกับผลประโยชน์นั้น เขาก็จะทำงานด้วยความรอบคอบอย่าง เป็นที่สุด
ในตอนนี้เจิ้งอวิ๋นชวนก็ได้เริ่มพูดขึ้นมา” สิ่งที่ผมต้องการ
ไม่ใช่การขอโทษของคุณหญิงเสิ่น วันนั้นที่ผมพูดกับประธานเซิ่งก็คือพูดเ ช่นนี้จริง ๆ
ความหมายของผมก็คืออยากจะจบเรื่อ งนี้ด้วยความสงบและเรียบร้อย แต่ตอนนี้เหมือนจะไม่ได้เสียแล้ว ในเมื่อเป็นแบบนี้
เราก็มาพูดให้รู้เรื่องกันดีกว่า หากการขอโทษทำให้ผมสมใจ เรื่องการลงนามความร่วมมือก็อาจจะต ประธานเซิ่งและคุณหญิงเสิ่นก็ไปจากที่
กลงได้ภายในวันนี้
แต่หากผมไม่ประทับใจ
นี่ได้ และหลังจากนั้นก็….……….
พอพูดถึงตรงนี้เจิ้งอวิ๋นชวนก็ได้หยุดล
ง
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม เสิ่นอีเวยก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังเจิ้งอ วั่นชวน
“บริษัทเซิ่งซื่อก็จะไม่ได้รับโอกาสใดจา กบริษัทเจิ้งจื่ออีกต่อไป”
เสิ่นอีเวยตกใจอย่างหาสุดมิได้ เจิ้งอวิ๋นชวนพูดไปเมื่อสักครู่นี้ก็เหมือน กับการพูดร้ายแรงจนเกินไป
แต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คนที่ทางานในวงการธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ก็จะต้องทำให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่อง
เล็ก
ซึ่งเจิ้งอวิ๋นชวนที่เหมือนกับความโมโห ขึ้นสุดขีดเหมือนไฟเผาเรือนร่างเช่นนั้น เป็นสิ่งที่เสิ่นอีเวยเห็นครั้งแรก
มีคำพูดคำหนึ่งที่เคยบอกว่า มีเพียงแต่ผลประโยชน์ตลอดไป
ไม่มีเพื่อนที่ตลอดไป
เหตุผลเดียวกันคือนักธุรกิจก็ไม่ใช่ศัตรู ตลอดไปเช่นกัน
เพียงแต่เอาผลประโยชน์มาให้ตัวเองไ
ด้
ถึงแม้จะเจอกับความสัมพันธ์ที่ไม่ดีอย่า งไรก็สามารถที่จะประคองไปได้
แต่พอมาดูเจิ้งอวิ๋นชวนในวันนี้ เงิน เลยไม่รู้ว่าตัวเองนั้นเข้าใจอะไรผิ
ดไป
คนที่อาศัยบารมีพ่อของตัวเองแล้วมาอ แล้วคิดแทนพ่อของตัวเองอย่างเด็ดเดี่ ยวแล้วมาระรานเซิ่งเจ๋อเฉิงอีก
วดโก้ตนเองให้ดูใหญ่
ในสถานการณ์ที่บังคับอย่างชัดเจนขนา
ดนี้
ทำให้เสิ่นอีเวยมองไปยังเซิ่งเจ๋อเฉิงด้ว ยความตื่นตระหนก
อารมณ์ที่เลวร้ายของเซิ่งเจ๋อเฉิง เสิ่นอีเวยเป็นห่วงว่าเขาจะโมโหจนไปต่ อยเจิ้งอวิ๋นชวนเข้า
เจิ้งอวิ๋นชวนพอพูดจบไป เซิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้มีสีหน้าเปลี่ยนอะไรไ
ป
เพียงแต่สายตากลับเต็มไปด้วยความน่ าชวนสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ผ่านไประยะเวลาค่อนข้างนาน เชิงเจ๋อเฉิงก็ลืมตา น สายตาที่เต็มไปด้วยความน่ากลัว ท่าทางที่เต็มไปด้วยความสุขม
ทันใดนั้นเซิ่งเจ๋อเฉิงได้หลับตาลงครุ่น คิดอยู่
เสิ่นอีเวยก็เต็มไปด้วยความงุนงง เรื่องราวมันถึงขั้นเลวร้ายขนาดนี้เลยหรื
อ?
ผู้ชายคนนี้ลงไม่หลับตาเพื่อที่จะสงบจิ ตใจหรอกมั้ง ?
ขนาดลำคอยังมีเส้นเลือดที่แสดงให้เห็ นถึงความน่ากลัว
เหมือนกําลังตัดสินใจอะไรอยู่ เชิงเจ๋อเฉิงพูดด้วยความเย็นชาว่า “หากพูดตามความหมายของคุณชายเจี
งคือ
วันนี้ก็ต้องให้ภรรยาผมขอโทษแล้วล่ะ” เจิ้งอวิ๋นชวนกลับมีสีหน้าที่พอใจแล้วห ยักหน้า
“ขอโทษ คงไม่ได้” เชิงเจ๋อเฉิงตอบ
ห้าคำบนประโยคนั้น
มีเพียงแต่เสียงแห่งความราบเรียบไม่มี อารมณ์ความรู้สึกใดๆ
เพียงแค่ห้าคํานั้นทําให้เสี่นอีเวยในใจ นกลับมีความรู้สึกเจออะไรที่เลวร้ายมา
กๆ
ในหัวของเธอเหมือนมีอะไรบินไปบนม า และตอนนี้ได้เข้าใจสถานภาพของตอน นอย่างชัดเจน
เจิ้งอวิ๋นชวนคงอยากจะให้เธอขอโทษ
และใช้เรื่องของการลงนามเป็นเครื่องมื
อในการบังคับ
แต่เพิ่งเจ๋อเฉิงกลับไม่ตอบสนองความ ต้องการของเจิ้งอวิ๋นชวน
ขอโทษเรื่องเล็ก
การลงนามความร่วมมือเรื่องใหญ่ เสิ่นอีเวยมองไปยังเซิ่งเจ๋อเฉิง แต่เจิ้งอวิ๋นชวนกลับมีท่าทีที่สงบ เหมือนไม่รู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองพูดไปนั้นผิ ดตรงไหน
ในหัวของเสิ่นอีเวยเหมือนกับมีลำแสง อะไรผ่านไป ทันใดนั้นเธอคิดถึงเรื่องที่เจิ้งอวิ๋นชวน
พูดว่า หากการลงนามความร่วมมือระหว่างสอ
งฝ่ายนั้นไม่เกิดขึ้น ก็จะทำให้เซิ่งเจ๋อเฉิงเสียหายอย่างหนั
ก
หรือว่าผู้ชายคนนี้ไม่คิดคำนวณว่าจะเกิ ดความเสียหายกับตัวเองมากน้อยเท่าไ หร่เลยหรือ ?
ไม่ใช่น่ะสิ
เซิ่งเจ๋อเฉิงผาดโผนในแวดวงนี้ก็มานา การพูดคุยเรื่องธุรกิจไม่ให้ความสำคัญ
น ภาษิตกล่าวว่า
กับผลประโยชน์
จะให้ความสำคัญกับอะไร ?
และอีกอย่างหนึ่งคือเสิ่นอีเวยคิดว่าเพิ่ง เจ๋อเฉิงคงไม่ละทิ้งผลประโยชน์ของตน เองเพื่อที่จะมาคำนึงถึงความรู้สึกและค
วามปลอดภัยของเธอหรอก หากเป็นคนนั้นจริง ๆ ณ
เวลานี้คงเป็นคนที่นอนอยู่ที่โรงพยาบา ลเป็นถิงเจิน ไม่ใช่เธออย่างแน่นอน ซึ่งตรงนี้เสิ่นอีเวยก็รู้ตัวเองดี
แต่เจิ้งอวิ๋นชวนก็เป็นคนที่ไม่ยอมละถอ ยไปสักนิด เซิ่งเจ๋อเฉิงใช้คำง่าย ๆไม่กี่คำก็ทำให้เขานั้นเกิดอารมณ์โมโ หถึงขนาดนี้
เสิ่นอีเวยหันหลังไปหลับ เจิ้งอวิ๋นชวนก็มีสีหน้าที่แดงก่ำอย่างที่สุ
ด
ซึ่งไม่คาดคิดว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงจะตอบปฏิเ
สธเขาไป
“ดังนั้น
ประธานเซิ่งจะจัดการอย่างไรล่ะ ? จะให้ยกเลิกการลงนามความร่วมมือระ หว่างเราใช่ไหม ? คนที่เก่งกาจเช่นคุณ คงเข้าใจอำนาจของพ่อผมนะ”
เจิ้งอวิ๋นชวนที่พูดไปเมื่อสักครู่นี้น้ำเสีย งไม่เหมือนกับคนที่มีความมั่นใจเต็มร้อ ยขนาดนั้น สายตาที่บีบเล็กลง เป็นการทดสอบเซิ่งเจ๋อเฉิง คนคนนี้แท้จริงแล้วมีอะไร เขากลับไม่สามารถเดาออกมาได้เลย
เสิ่นอีเวยยิ้มออกเสียงที่ด้วยเย็นชา การยกเลิกการลงนามกลับไม่สามารถ ทำให้เซิ่งเจ๋อเฉิงมีปฏิกิริยาอะไรได้ เจิ้งอวิ๋นชวนก็เลยหยิบยกพ่อของตัวเอ งมาอ้าง
ผ่านไปห้าปีแล้ว
ก็ยังอาศัยใต้ร่มบารมีของพ่อ เสิ่นอีเวยก็ได้เพียงแต่ด่าเขาในใจ
เนื่องจากเซิ่งเจ๋อเฉิงยืนมาก็ค่อนข้างน าน เลยเริ่มมีการขยับตัว
หลังจากนั้นหนึ่งวินาที ก็ได้ไปลากเก้าอี้มาเพื่อนั่งลง
เซิ่งเจ๋อเฉิงหัวเราะเยาะเย้ยก่อนแล้วพู
ดว่า “ในความเข้าใจของผม
คนอย่างคุณชายเจิ้งที่ชอบเข้าออกสถา
นเริงรมย์บ่อยๆ
ซึ่งไปกับผู้หญิงที่มากหน้าหลายตา
คงไม่ใช่พวกโง่หรอกกระมั้ง
แต่ตอนนี้พูดกลับมา ผมก็เข้าใจผิดไป”
พอฟังคำพูดนี้
เกือบจะทำให้เสิ่นอีเวยก็หัวเราะออกมา ด้วยเสียงและน้ำที่พุ่งออกมา แสดงให้เห็นว่าต่อให้เซิ่งเจ๋อเฉิงผ่านเรื่ องราวไม่สบายไข้ขึ้นสูงและที่กำลังเสี
ยใจเรื่องงานศพของคุณตา
เสียพละกำลังไปมากเท่าไหร่แต่ก็เหมื อนกับไม่ได้รับผลกระทบอะไร
พอได้ยินที่เซิ่งเจ๋อเฉิงได้ทำการเสียดสี
เจิ้งอวิ๋นชวนก็มีท่าทีที่โมโหอย่างชัดเจ น “คุณหมายความว่าอะไร ?
ขณะที่พูดคำนี้
เขาก็ได้โยนบุหรี่ทิ้งลงไป และมีความอดทนไม่ไหวกับสิ่งที่ได้รับ
ณ ตอนนั้น
และในตอนนี้
เซิ่งเจ๋องเฉิงก็ได้พิงเอนไปยังพนักพิงอ
ย่างสบาย ๆ
เหมือนกับพี่ใหญ่อย่างไรอย่างนั้น
“คุณชายเจิ้งไม่เข้าใจหรือ ?
วันนี้ผมมาที่นี่
ตอนแรกที่มาก็ไม่ได้จะมาพูดถึงเรื่องค วามร่วมมือระหว่างสองบริษัท
ดังนั้นคุณมาบังคับผม ผมก็ไม่ได้ไปสนใจอะไร
เซิ่งเจ๋อเฉิงพอพูดถึงตรงนี้ก็เงียบไปสัก ครู และได้พูดออกไปอีกว่า “อ้อ ใช่แล้ว ผมลืมบอกคุณไป เมื่อวานผมบังเอิญได้รับอัลบั้มหนึ่งอัล บม
เนื้อหาก็มีคนหนึ่งได้อยู่ในห้องวีไอพีใ นร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ได้เล่นผงอะไรไม่รู้ที่ทำให้คนนั้นติดได้
ผมมองแล้วมองอีก
ก็รู้สึกจะเหมือนกับคุณชายเจิ้งอย่างไม่
มีผิดเพี้ยนเลย
ไม่ทราบว่าคุณชายเจิ้งมีความคิดเห็นกั บเรื่องนี้อย่างไร ?
เซิ่งเจ๋อเฉิงพอพูดจบ เงินอีเวยก็เหมือนกับรู้สึกว่ามีคนมามอ งและใช้สายตาที่เยือกเย็นมองมายังเธ อและเชิงเจ๋อเฉิง
ในหัวสมองเงินอีเวยก็เหมือนมีเสียง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ