บทที่191เปลี่ยนชุดคนไข้ให้เพิ่งเจ๋อเฉิง
บทที่191 เปลี่ยนชุดคนไข้ให้เพิ่งเจ๋อเฉิง
เธอไม่เพียงส่งเพิ่งเจ๋อเฉิงไปพบแพทย์อย่างปลอดภัย เท่านั้น แต่ตลอดทางเธอยังต้องเอาชนะจิตใจระหว่างตนเองกับ ผู้ชายคนนี้ที่ไม่ลงรอยกันเลยในเวลาปกติ ตอนนี้เธอทำได้ สําเร็จด้วยความยากลำบาก แต่ยังถูกหมอตำหนียกใหญ่
เธอไปยั่วยุใครเข้าให้หรือ?
คุณบอกว่าคุณเป็นหมอรักษาโรคและช่วยชีวิตคนก็พอ ทำไมตอนนี้ถึงมาต่อว่าเรื่องชีวิตของคนอื่นอีกเล่า ความโกรธ ที่อัดแน่นอยู่ภายในจิตใจของเสิ่นอีเวยได้ระเบิดออกมาหลัง จากการต่อว่าของหมอ
หลังจากที่แพทย์พูดจบ เสิ่นอีเวยก็เอามือทั้งสองกอดอก แล้วพิงกับกำแพงอย่างไม่สนใจใยดีและพูดเบาๆ ว่า “คุณหมอ พูดจบหรือยังคะ? ถึงเวลาที่ฉันจะแสดงความเห็นบ้างล่ะ คุณ เองก็อย่าตะคอกใส่ฉันแบบนี้ ฉันมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีกับ เขา คืนนี้ที่ส่งเขามาที่โรงพยาบาลก็นับว่าเป็นความเมตตาของ ฉันแล้ว ฉันไม่ใช่คนรับใช้ของเขา และไม่จำเป็นต้องอยู่คอย เฝ้าเขาทุกนาที คุณว่าถูกไหม?”
เสิ่นอีเวยนั้นเหนื่อยมากแล้วจริงๆ เธอรู้สึกอย่างชัดเจนว่า ตอนที่เธอพูดเมื่อครู่นั้น แม้แต่ลมหายใจก็ยังไม่มั่นคง เหมือนตัวเธอกำลังเหยียบอยู่บนปุยฝ้าย เท้าล่องลอยไม่แตะพื้น จิตใจ รู้สึกว่างเปล่า เธอไม่รู้ว่าเป็นอะไร รู้เพียงว่าสภาพร่างกายของ ตนเองนั้นอ่อนแอลงเรื่อยๆ
พอหมอได้ฟังคำพูดของเสิ่นอีเวย เขาก็ไม่ได้หยุดการ ตรวจรักษาเพิ่งเจ๋อเฉิงที่อยู่ในมือ แต่ปากนั้นก็ยังไม่หยุดพูด เช่นกัน เขาเอ่ยถามว่า “พวกคุณสองคนไม่ใช่สามีภรรยากันเห รอ?”
เงินอีเวยตอบ “เราเป็นสามีภรรยากัน
“ก็นั่นแหละ ในเมื่อเป็นสามีภรรยากันปกติก็ย่อมนอนบน เตียงเดียวกัน สามีของคุณเป็นไข้เกือบสี่สิบองศาแล้ว อย่าบอก นะว่าคุณไม่ได้สังเกตเห็นเลยในตอนแรก
เสิ่นอีเวยได้ฟังคำพูดของหมอแล้วก็รู้สึกขบขัน เธอลาก เก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ เข้ามาแล้วนั่งลง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “คุณหมอคะ คุณพูดแบบนี้มันเป็นสูตรสำเร็จเกินไป ในโลกนี้มีคู่สามีภรรยา หลายคู่ที่มีความสัมพันธ์ไม่ดี ถ้าหากความสัมพันธ์ของพวกเขา พังลงก็คงจะไม่ได้นอนเตียงเดียวกันเสมอไปหรอกนะ?”
เมื่อเงินอีเวยพูดจบ เธอก็เห็นหมอหยุดการกระทำในมือ ของเขา จากนั้นจึงหันมามองพิจารณาเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ใน ดวงตาปรากฏสายตาที่ดูราวกับเห็นสัตว์ประหลาด ต่อมาก็ไม่ ได้ต่อปากต่อคํากับเงินอีเวยอีก
ในใจของเสิ่นอีเวยรู้สึกขบขัน แต่ก็อดกลั้นไว้ไม่หัวเราะ ต่อหน้าหมอ สายตาเมื่อครู่ของหมอคนนี้เธออ่านเข้าใจแล้วเขารู้สึกว่าตนเองไม่ใช่คนธรรมดา ดังนั้นจึงหยุดพูดในที่สุด
แต่เสิ่นอีเวยกล้าสาบานได้เลยว่าทุกๆ คำที่เธอพูดออกมา นั่นคือความจริง ไม่ได้โกหกแม้แต่ค่าเดียว ความสัมพันธ์ฉัน สามีภรรยาของเธอกับเพิ่งเจ๋อเฉิงนั้นไม่ดีตั้งแต่แรก อาจกล่าว ได้ว่าหากดูตามระดับความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ของพวกเขาที่ผ่าน มา ไม่ว่าจะเป็นการเอาใจใส่ที่ฝ่ายไหนแสดงออกมาก็ตามก็ สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผล แต่สิ่งเดียวนอกเหนือจากนี้นั่นก็ คือความรักที่มีต่ออีกฝ่ายจึงได้กระทำเช่นนี้
แต่มันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ในใจของเงินอีเวณนั้น กระจ่างในข้อนี้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเชิงเจ๋อเฉิงปฏิบัติต่อ เธอ
หลังจากการตรวจเสร็จสิ้นลงแล้ว หมอก็บอกกับเงินอีเวย ว่า ถึงแม้จะเป็นอาการปอดบวมแทรกซ้อน แต่ยังไม่ถือว่าอยู่ ในระดับรุนแรง ดังนั้นต่อมาจึงย้ายเพิ่งเจ๋อเฉิงจากห้องฉุกเฉิน ไปยังแผนกผู้ป่วยในและเข้าพักในห้องผู้ป่วยธรรมดา
ทั้งหมดนั้นไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เมื่อเรื่องราวได้ดำเนินมา จนถึงขั้นนี้ เสิ่นอีเวยถึงจะโล่งใจได้ในที่สุด
เมื่อเห็นผู้ชายร่างใหญ่อย่างเพิ่งเจ๋อเฉิงถูกพยาบาลสอง คนดูแลตรงนี้คนหนึ่งส่วนอีกคนหนึ่งจดบันทึกเสิ่นอีเวยก็รู้สึก ขบขันเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าประธานบริษัทเชิงชื่อที่ปกติดูสูงส่ง จะมีช่วงเวลาที่ถูกคนอื่นควบคุมจัดการด้วย
เสิ่นอีเวยเอนพึงประตูมองดูบรรดาพยาบาลทำงานจนเสร็จ จากนั้นจึงกล่าวว่า “ขอบคุณ” ให้พวกเธอทีละคน
อายุของนางพยาบาลทั้งสองดูไม่เยอะมาก ล้วนเป็นสาว น้อยที่ยังดูวัยรุ่นอยู่ เสิ่นอีเวยยังสังเกตอย่างรอบคอบว่าสาว น้อยผมสั้นหนึ่งในสองนางพยาบาลนั้น ได้แอบชำเลืองมองเชิง เจ๋อเฉิงหลายครั้งตอนที่ทำการบันทึกข้อมูลของเขาเมื่อครู่ และ สุดท้ายใบหน้าเธอก็แดงขึ้นเล็กน้อย
พยาบาลทั้งสองคนหันหลังกลับมาและหนึ่งในนั้นก็นชุด คนไข้ลายน้ำเงินขาวชุดหนึ่งให้กับเงินอีเวย
รบกวนช่วยเปลี่ยนให้คนไข้ด้วยนะคะ” เสิ่นอีเวยพยัก หน้าเล็กน้อยแล้วรับไป
ทั้งสองเดินไปที่ประตู กระซิบกระซาบกันเหมือนกำลังพูด คุยปรึกษาอะไรบางอย่าง เงินอีเวยแอบเงี่ยหูฟังด้วยความ อยากรู้อยากเห็นอย่างมาก จนได้ยินหนึ่งในนั้นกระซิบบอกอีก ฝ่ายว่า “ผู้ชายคนนี้หล่อมาก
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ฉันเองก็สังเกตเหมือนกัน ถ้าภรรยาของ เขาไม่ได้อยู่ข้างๆ ฉันยังอยากจะมองอีกสักหน่อย
เส็นอีเวย “…”
เธอรู้สึกจิตใจห่อเหี่ยวและรู้สึกว่ามันน่าขัน เป็นเพราะเธอ อายุมากแล้วหรือว่าสาวน้อยวัยรุ่นพวกนี้คิดบวกเกินไป? คำ พูดโจ่งแจ้งแบบนี้เอาเก็บไว้พูดคุยกันส่วนตัวไม่ดีกว่าเหรอ? ทำไมจะต้องทำให้ตัวเองซึ่งเป็นภรรยาของครอบครัวนี้ได้ยิน ด้วย?
ไม่รู้ว่าทำไมหลังจากได้ยินการพูดคุยเกี่ยวกับเพิ่งเจ๋อเฉิง จากพยาบาลทั้งสองเมื่อครู่ เสิ่นอีเวยก็รู้สึกไม่ค่อยยินดีเท่าไร ทั้งๆ ที่พวกเธอชื่นชมว่าสามีของตนหน้าตาหล่อเหลา ทำไมใน ใจของตนจึงไม่มีความสุขเลย? แม้กระทั่งในบรรยากาศยังมี กลิ่นเปรี้ยวอย่างรางเลื่อน
ความจริงเสิ่นอีเวยรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อครู่นี้ แต่ก้นบึง หัวใจของเธอไม่เคยยอมรับว่าเธอทิ้ง
เรื่องนี้จะต้องเก็บเอาไว้ในใจของตัวเอง มิฉะนั้นถ้าผู้ชาย ที่กำลังนอนหมดสติอยู่บนเตียงรู้เข้า ก็ไม่รู้ว่าจะมีความสุขแค่ ไหน ไม่แน่ว่าอาจจะได้หัวเราะเยาะตนเองยกใหญ่
เงินเลยไม่อยากให้เพิ่งเจ๋อเฉิงรู้ ว่าจนป่านนี้แล้วเธอยัง จะมาหึงหวงพยาบาลสาวสองคนนี้
เมื่อมองไปที่ชุดผู้ป่วยในมือของเธอ เนื้อผ้าเบาและนุ่ม นวล ให้สัมผัสที่สบายมาก เธอดึงเก้าอี้ออกมาตัวหนึ่งแล้วนั่ง ลงข้างเตียงของเพิ่งเจ๋อเฉิง จากนั้นก็เริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขา
เสิ่นอีเลยรู้สึกว่าความรู้สึกนี้มันแปลกมาก
เธอไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเธอจะต้องมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ เพิ่งเจ๋อเฉิงถึงสองครั้งในช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมง มันทั้งน่าเศร้า และตลกมาก เสิ่นอีเวยบอกไม่ได้ว่าอุณหภูมิร่างกายของเพิ่ง เจ๋อเฉิงเหมือนกับตอนแรกหรือเปล่า ก่อนจะออกมาตนเองก็ให้ เขากินยาลดไข้มาแล้ว พอมาถึงโรงพยาบาลหมอก็ดำเนินการ บางอย่างให้แล้วเช่นกัน
หลังจากที่เสิ่นอีเวยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เพิ่งเจ๋อเฉิงเรียบร้อย แล้ว ก็ค่อยๆ เอาผ้าห่มสอดเข้าที่ไหล่ทั้งสองข้างของเขา
เธอดูเวลาที่แสดงบนอุปกรณ์ที่อยู่ข้างหัวเตียงของเพิ่งเจอ เฉิง มันเป็นเวลาตีห้าแล้ว ขณะที่พาเพิ่งเจ๋อเฉิงมาถึงโรง พยาบาลและพูดคุยกับหมอคนนั้น เสิ่นอีเวยก็รู้สึกง่วงนอน จริงๆ รู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังจะล้มลงในวินาทีถัดไป
แต่ตอนนี้ทุกอย่างได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ทุกอย่างของเพิ่งเจอ เพิ่งได้ถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว สมองของเงินอีเวยปลอดโปร่ง อย่างยิ่ง ความง่วงเหงาหาวนอนในร่างกายก็หายไปในชั่วพริบ ตา ไม่รู้ว่าทำไมในตอนนี้จิตใจของเงินอีเวยจึงรู้สึกว่างเปล่า
มันเหมือนหัวใจที่กำลังรุ่มร้อนถูกปิดผนึกไว้ในกล่องที่ มิดชิด ไม่รู้ว่าใครเอามีดมากรีดกล่องใบนั้นให้ลมหนาวพัด ลอดผ่านรอยแยกเข้าไป หัวใจเย็นยะเยือก โดยฉับพลัน ไม่มี ความรู้สึกโกรธอีกเลยแม้แต่นิดเดียว
เนื่องด้วยเรื่องเวลาเสิ่นอีเวยตระหนักดีว่าสภาพแวดล้อม โดยรอบนั้นเงียบเกินไป เธอไม่ชอบโรงพยาบาลมาแต่ไหนแต่ ไร เพราะสุขภาพของเธอไม่ดี เจ็บป่วยออดๆ แอดๆ มาตั้งแต่ เด็ก ดังนั้นจึงต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น
การให้น้ำเกลือหรือฉีดยาอะไรเหล่านี้ มันเป็นเรื่อง ธรรมดามากสำหรับเงินอีเวย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ