นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่ 73 เกิดอาการเจ็บป่วยอย่างฉับพลัน



บทที่73เกิดอาการเจ็บป่วยอย่างฉับ

พลัน

บทที่ 73 เกิดอาการเจ็บป่วยอย่างฉับพลัน

เซึ่งเจ๋อเฉิงโน้มตัวเข้ามางับติ่งหูของเสิ่นอีเวยอย่างจัง เสิ่ นอีเวยเจ็บจนน้ำตาซึมออกมา เสียงอันเฉียบขาดบาดแก้วหูเสี่ นอีเวย : “ฉันเตือนเธอแล้วนะ คราวหน้าถ้าจะมากับเขาอีกก็ไป ใช้นามสกุลเขาซะให้เต็มที่ไป เธอเป็นผู้หญิงของฉัน ไม่ใช่ผู้ หญิงของมัน เข้าใจไว้ซะด้วย? นี่เป็นครั้งแรกที่เตือนและก็เป็น ครั้งสุดท้ายด้วย”

เวลานั้นยิ่งเซิ่งเจ๋อเฉิงพูดอย่างนิ่งๆเย็นยะเยือก เสิ่นอีเวย ยิ่งกลัวมากขึ้น

“แต่ว่าวันนี้คุณไม่ได้ไปบริษัท ฉันก็แค่ลางานหนึ่งวัน เท่านั้นเอง ทำไมคุณไม่อนุมัติ?”

เพิ่งเจ๋อเฉิงยกคิ้วอันหล่อเหลาขึ้น : “ฉันเป็นเจ้าของบริษัท ซึ่งชื่อจะไปหรือไม่ไปมีแต่ฉันเท่านั้นที่จะบงการชีวิตได้ ส่วนเธอ มีคุณสมบัติอะไรถึงกล้ามาชักถามฉันได้? ไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ บริษัทหรือเปล่าเธอเป็นแค่พนักงานควรจะทำงานอยู่ที่บริษัท ที่ ฉันให้เธอมาที่เซิ่งชื่อไม่ใช่เอาเธอมาเป็นคนว่างงาน!”

เรื่องที่เสิ่นอีเวยเกลียดที่สุดก็คือเรื่องที่คนอื่นชอบเอาเรื่อง เธอไปบอกมั่วๆว่าเธอทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง แล้วยิ่งเป็นเพิ่งเจ๋อเฉิงยิ่งแล้วใหญ่ ใจของเธอยิ่งไม่สบอารมณ์เข้าให้แล้ว!

อารมณ์ที่หุนหันพลันแล่นของเสิ่นอีเวยเลยพลั้งปากไป

“มาถึงขนาดนี้แล้ว คุณก็ไล่ฉันออกเลย!”

เพิ่งเจ๋อเฉิงที่เพิ่งอารมณ์สงบลงกลับระเบิดอารมณ์โมโห ขึ้นมาเพราะเห็นสภาพของเสิ่นอีเวยที่กำลังหยิ่งผยองอยู่ “ที”

“เสิ่นอีเวย ใครนะที่กล้าทำให้เธอต่อต้านฉันได้? เธอคิด ว่าตัวเองมีความสามารถมากนักหรือไง ฉันจะบอกให้นะ เซึ่ง ชื่อเป็นแหล่งหลบซ่อนของผู้มีฝีมือต่างๆตำแหน่งผู้อำนวยการ ฝ่ายออกแบบของเธอมีคนจ้องมองอยู่มาก เธอไม่อยากทำก็รีบ ไสหัวไปเร็วๆ!”

การเดือดดาลของเซิ่งเจ๋อเฉิงในครั้งนี้เป็นโมโหจริงๆ ผู้ หญิงคนนี้! มาจนถึงขนาดนี้แล้วยังไม่หวงแหนเอาไว้อีก

สมองของเพิ่งเจ๋อเฉิงอยู่ดีๆก็นึกภาพตอนที่เสิ่นอีเวยคุยห ยอกล้อต่อกระซิกกับฉิน โม่ขึ้นมา เขายิ่งโกรธหนักว่าเดิม : “ขนาดเจอเรื่องอันตรายอยู่ข้างนอกยังไม่ยอมบอกฉัน แถมยัง คุยกับผู้ชายคนอื่นได้อย่างสบายอกสบายใจขนาดนั้น ทำไม หรือว่าฉินโม่นี่คือเทพแห่งการช่วยชีวิตของเธอหรอ?”

เสิ่นอีเวยถึงกับสะอีก เขาเริ่มเอาเรื่องเก่ามาถกขึ้นมาอีก แล้ว หล่อนไม่อยากถูกเถียงปัญหาที่มันมีเรื่องเข้ามาวุ่นวาย เยอะเกิน หล่อนแค่อยากกลับไปหาฉินโม่เพราะเขาเป็นคนที่ เชิญหล่อนมาดูนิทรรศการนี้ที่เพิ่งจะถูกหล่อนทอดทิ้งไว้ในงาน นั่นพูดแล้วก็รู้สึกเสียมารยาทมาก
หล่อนพยายามลงจากรถแต่เพิ่งเจ๋อเฉิงพยายามรั้งเธอเอา ไว้แต่ก็เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาพอดี เขาใช้สายตาเย็นชามองที่ เป็นอีเวยและรับสายโทรศัพท์

สีหน้าและใบหูที่แตงก่ำเมื่อสักครู่ของเขาหายเป็นปกติดั่ง สายน้ำที่หยุดไหลได้ไม่กี่วินาที เสิ่นอีเวยถึงกับตกใจคาดไม่ถึง ใบหน้าของผู้ชายคนนี้จะมีหน้ากากซ่อนไว้ทั้งหมดกี่ชั้นกันแน่

น่าจะเป็นหุ้นส่วนงานโทรศัพท์เข้ามา เสิ่นอีเวยได้ยินเสียง เพิ่งเจ๋อเฉิงตอบรับปลายสาย : “ได้ เดี๋ยวผมรีบไปทันที”

เสิ่นอีเวยถึงกับถอนหายใจโล่งอกในใจ ในที่สุดก็แยก จากผู้ชายคนนี้ได้สักที

หลังจากวางสาย เซิ่งเจ๋อเฉิงมองเสิ่นอีเวยด้วยสายตาเย็น ชา สีหน้าเรียบเฉยและหลุดโพล่งออกมาสองคำ: “ลงไป”

เสิ่นอีเวยเกลียดเขาจนอยากเข้าไปตบเขาตรงๆ น้ำเสียง ของเขาในตอนนี้เหมือนกับตอนที่บังคับให้ตัวหล่อนขึ้นมาบน รถ

หล่อนไม่ได้พูดอะไรต่อก็สะบัดกระโปรงลงจากรถ แต่พอ ก้าวเท้าลงพื้นได้หล่อนรู้สึกเจ็บจี๊ดบริเวณหน้าอก เสิ่นอีเวยได้ แต่กัดริมฝีปากไว้แล้วเงยหน้ามองเพิ่งเจ๋อเฉิงที่อยู่ในรถ

ส่วนเขาก็คงไม่อยากอยู่กับหล่อนเพิ่มอีกสักหนึ่งวินาที เพิ่งเจ๋อเฉิงแทบไม่ได้สนใจเลยว่าเสิ่นอีเวยเกิดอาการผิดปกติ รถเขาขับออกไปไกลมาก
ความเจ็บยิ่งทวีคูณขึ้นมาเรื่อยๆจนเสินอีเวยค่อยๆเซนั่งลง

กับพื้น

เสิ่นอีเวยคิดว่ามันคงเป็นอาการป่วยของเธอเอง

ในใจหล่อนหวาดกลัว พื้นของลานจอดรถมันช่างเย็นจน หาที่เปรียบไม่ได้ ตอนนั้นเองก็เหมือนกับในใจหล่อนที่มัน หนาวเหมือนกับพื้นที่ลานจอดรถ หล่อนสอดส่องสายตาไป รอบๆ รถจอดตั้งมากมายแต่กลับไม่มีคนสักคน

ในใจหล่อนรู้ว่าขอความช่วยเหลือไม่ได้ ได้แต่เอามือซ้า มกุมบริเวณตำแหน่งหน้าอกไว้ได้แต่โทษตัวเองที่วันนี้ตอนเช้า รีบไปหน่อยเลยลืมหยิบยาแก้ปวดหัวใจมาด้วย

หล่อนใช้มือสองข้างที่สั่นเทาควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋า เพื่อขอความช่วยเหลือจากฉินโม่ แต่ที่นี่เป็นชั้นใต้ดินชั้นที่สอง สัญญาณก็ขาดๆหายๆ โทรศัพท์แทบไม่สามารถโทรออกได้

อาการเจ็บปวดและการที่ไม่สามารถร้องขอความช่วย เหลือได้ทำให้เสินอีเวยรู้สึกเริ่มเลือนราง หล่อนรู้สึกว่าบนโลก ใบนี้เหลือแค่หล่อนคนเดียว ในสมองของเธออยู่ดีๆก็มีความ คิดที่น่ากลัวผุดโผล่ขึ้นมา หากไม่มีคนมาเจอตัวเองก็คงตายอยู่ ที่นี่แล้วมั้ง?

ร่างกายหล่อนสั่นสะท้านไปทั่วตัว หล่อนรู้ตัวว่าตัวเองคง อยู่ไม่ได้นานแต่ก็ไม่ได้อยากมาตายอย่างนี้

“คุณผู้หญิงคะ ขอโทษค่ะมีอะไรให้ช่วยไหมคะ?” เป็น เสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง
หัวใจหล่อนพองโตขึ้นมาเงยหน้าอย่างอ่อนล้าเต็มที่ สายตาตรงหน้าเห็นใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยเป็นสาวน้อยที่หน้าตา สะสวยใส่เสื้อผ้าเหมือนชุดทำงานของที่นี่น่าจะบังเอิญที่หล่อน จะมาขยับรถพอดี

เสิ่นอีเวยทำท่าเหมือนคว้าฟางเส้นสุดท้ายของชีวิตเอาไว้ แล้วเอ่ยขึ้น : “สะ สวัสดีค่ะ ฉันไม่ค่อยสบาย รบกวนคุณช่วยพา ฉันออกไปจากลานจอดรถได้ไหมคะ?”

เด็กสาวคนนั้นเห็นเหงื่อเย็นๆผุดไหลชีมลงด้านล่างกลัวว่า หล่อนจะอาการหนักกว่าเดิมเลยไม่ได้ถ่วงเวลาอะไร เธอพยุงเสี่ นอีเวยขึ้นมาแล้วพาออกจากลานจอดรถ

อากาศด้านนอกปลอดโปร่งมากเสิ่นอีเวนต์สูดหายใจเข้า เต็มที่ นาทีนั้นหล่อนดีใจที่ตัวเองยังไม่ตาย หล่อนหันหัวกลับไป ขอบคุณเด็กสาวคนนั้นแล้วนั่งพักตรงบริเวณแปลงดอกไม้

อาการเจ็บปวดเริ่มลดน้อยลง ด้วยสภาพตัวเองในตอนนี้ แล้วเสิ่นอีเวยพยายามชูมือขึ้นมานวดอยากตัวเองสบายขึ้นแต่ ก็ช่วยอะไรไม่ได้ อีกสักพักคงขับรถกลับบ้านไม่ได้ หล่อนหยิบ โทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่าสัญญาณกลับมาปกติตั่งเดิมแล้ว

เสิ่นอีเวยอยากโทรหาฉินโม่ขอร้องให้เขาช่วย แต่ในหัว กลับผุดสีหน้า โมโหของเซิ่งเจ๋อเฉิงแทนยิ่งตอนที่กำลังจะ โทรศัพท์ออกหล่อนกลับมาคิดดูว่าจะโทรหาเซิ่งเจ๋อเฉิงจริงๆ หรอ?

แล้วทำไมตัวเองต้องไปฟังเขาด้วยล่ะ เขาไม่ได้รักตัวเองตั้งแต่ต้น มันก็แค่การครอบครองที่น่าหัวเราะสำหรับเขาเท่านั้น แหละ แต่ว่าถ้าครั้งนี้หล่อนไม่ขอร้องให้เขาช่วย แล้วถ้าเขารู้ เรื่องนี้ขึ้นมาแทบไม่อยากคิดเลยว่าผลกรรมที่ตามมาจะเป็นยัง ไง

แต่ถ้าหล่อนบอกเพิ่งเจ้อเฉิงเรื่องอาการป่วยของตัวเองคง ปิดไม่มิดอีกต่อไป ไม่ หล่อนไม่อยากให้เพิ่งเจ๋อเฉิงรู้ หล่อนไม่ อยากให้โอกาสในการที่เขามาหัวเราะเยาะหล่อนได้อีก

หลังจากที่ชั่งใจเสร็จ เสิ่นอี้เหว่ยก็โทรศัพท์หาฉินโม่โดยไม่

ต้องคิดเลย

หลังจากเขารับสาย เสิ่นอีเวยยังไม่ได้เริ่มพูดสนทนา ฉิน โม่ที่อยู่ปลายสายก็เปิดปากขึ้นก่อน เสียงที่ออกมานั้นแสดงถึง การเป็นห่วงเป็นใยอย่างไม่สามารถควบคุมไว้ใต้ : “อีเวย คุณ อยู่ที่ไหน? เขาไม่ได้ทำอะไรคุณใช่ไหม?”

ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันพอได้ยินเสียงฉินโม่ในใจของเสี่ นอีเวยรู้สึกสงบขึ้นมาทันที

หล่อนสงบสติอารมณ์ลงแล้วพูดตอบ : “ไม่มีหรอก ตอนนี้ ฉันทนไม่ไหวแล้วคุณมาดูฉันหน่อยได้ไหม?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ