บทที่ 67 ตำแหน่งของเสิ่นอีเวย
เมื่อคิดได้แบบนี้ เสิ่นอีเวยรู้สึกหายใจไม่ออก เรื่องที่เกิด ขึ้นเมื่อคืนเป็นเรื่องที่เกิดเหมือนกับเรื่องที่เกิดกับเสิ่นหุ้ยในปี นั้นเลย ตอนที่เซิ่งเจ๋อเฉิงรีบมาที่สถานที่ก่อสร้างเมื่อคืนนี้ เรื่อง ที่นั้นตัวเขาเองยืนดูอยู่เฉยๆก็ได้เพราะเมื่อก่อนเขาเคยบอก จากปากตัวเองว่า เขาอดใจรอไม่ไหวที่จะทำให้หล่อนได้รับบท เรียนที่แสนเจ็บปวดทุกข์ทรมานมากกว่าเสิ่นหุ้ยร้อยเท่า
แต่เขากลับเลือกที่จะช่วยตัวหล่อน
เมื่อนึกถึงตอนที่เขาใช้อารมณ์ถามผู้ชายคนนั้นที่ถอด กระดุมเธอออกเมื่อคืนวานยิ่งนึกถึงตอนที่ก้อนอิฐเปื้อนเลือด บนมือนั่น อารมณ์หล่อนก็เริ่มแปรปรวน
เซึ่งเจ๋อเฉิงช่วยเหลือเธอจริงๆ หรือเพราะว่าเขาคิดว่ามี เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ทรมานเธอได้คนอื่นห้ามลงมือแทน?
ความคิดของเสิ่นอีเวยยิ่งคิดยิ่งไปไกล ป้าเฉินพูดกับเธอ ตั้งนานแต่ไม่ตอบกลับเลยนึกว่าเธอคงซาบซึ้งกับเรื่องที่ คุณชายของตัวเองเลยพูดออกไป : “ระหว่างสามีภรรยาทะเลาะ กันเดี๋ยวก็ดีกัน คุณชายกับคุณเฉินรักกันและไม่พอใจกันขนาด นี้ ตอนนี้คุณก็ปรองดองกันดีแล้ว คุณอ่ะ ควรจะให้อภัยคุณชาย บ้าง”
“เราไม่พอใจอะไรกันหรอ?”
ป้าเฉินยังพูดไม่จบเสิ่นอีเวยก็พูดแทรกได้แต่อึ้งอยู่กับที่
ไม่รู้ว่าพูดอะไรผิดไป บทที่ 67 ตำแหน่งของเสิ่นอีเวย
เมื่อคิดได้แบบนี้ เสิ่นอีเวยรู้สึกหายใจไม่ออก เรื่องที่เกิด ขึ้นเมื่อคืนเป็นเรื่องที่เกิดเหมือนกับเรื่องที่เกิดกับเสิ่นหุ้ยในปี นั้นเลย ตอนที่เซิ่งเจ๋อเฉิงรีบมาที่สถานที่ก่อสร้างเมื่อคืนนี้ เรื่อง ที่นั้นตัวเขาเองยืนดูอยู่เฉยๆก็ได้เพราะเมื่อก่อนเขาเคยบอก จากปากตัวเองว่า เขาอดใจรอไม่ไหวที่จะทำให้หล่อนได้รับบท เรียนที่แสนเจ็บปวดทุกข์ทรมานมากกว่าเสิ่นหุ้ยร้อยเท่า
แต่เขากลับเลือกที่จะช่วยตัวหล่อน
เมื่อนึกถึงตอนที่เขาใช้อารมณ์ถามผู้ชายคนนั้นที่ถอด กระดุมเธอออกเมื่อคืนวานยิ่งนึกถึงตอนที่ก้อนอิฐเปื้อนเลือด บนมือนั่น อารมณ์หล่อนก็เริ่มแปรปรวน
เซึ่งเจ๋อเฉิงช่วยเหลือเธอจริงๆ หรือเพราะว่าเขาคิดว่ามี เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ทรมานเธอได้คนอื่นห้ามลงมือแทน?
ความคิดของเสิ่นอีเวยยิ่งคิดยิ่งไปไกล ป้าเฉินพูดกับเธอ ตั้งนานแต่ไม่ตอบกลับเลยนึกว่าเธอคงซาบซึ้งกับเรื่องที่ คุณชายของตัวเองเลยพูดออกไป : “ระหว่างสามีภรรยาทะเลาะ กันเดี๋ยวก็ดีกัน คุณชายกับคุณเฉินรักกันและไม่พอใจกันขนาด นี้ ตอนนี้คุณก็ปรองดองกันดีแล้ว คุณอ่ะ ควรจะให้อภัยคุณชาย บ้าง”
“เราไม่พอใจอะไรกันหรอ?”
ป้าเฉินยังพูดไม่จบเสิ่นอีเวยก็พูดแทรกได้แต่อึ้งอยู่กับที่
ไม่รู้ว่าพูดอะไรผิดไป สีหน้าของเสิ่นอีเวยเย็นช้านิดๆ : “ป้าเฉิน เรื่องระหว่างฉัน
กับเซิ่งเจ๋อเฉิงจะไม่พอใจอะไรกันก็เป็นเรื่องของเราเอง ป้าก็ เป็นคนใช้ของป้าตามปกติไปก็พอแล้ว ฉันรู้ใจฉันดีพอไม่ต้อง ให้ป้ามาสอนหรอก”
เสิ่นอีเวยเป็นคนมีหลักการตลอดซึ่งหล่อนรู้สึกมาโดย ตลอดว่าเป็นเรื่องของสามีภรรยาก็มีแค่สามีภรรยาเท่านั้นที่ เกี่ยวข้องขนาดพ่อแม่ยังยุ่งไม่ได้เลย แล้วยิ่งเธอได้ยินตอนที่ป้า เฉินพูดเรื่องเธอกับเสิ่นอีเวยขึ้นมาในใจที่มันอัดอั้นเริ่มปะทุมัน ขึ้นมา
เดิมทีเสิ่นอีเวยก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะต่อว่าอะไรป้าเฉินแต่พอได้ ยิน “คุณอ่ะ ควรจะให้อภัยคุณชายบ้าง”เลยอดไม่ได้ แต่งงานกันมาสองปีตัวเองยังทนเซิ่งเจ๋อเฉิงไม่พออีก
หรอ? ทั้งอารมณ์ความโกรธและโมโหหล่อนก็รับได้อย่างไม่มี ปากไม่มีเสียง ตอนนี้ได้ยินคนข้างๆพูดเหมือนตัวเองไม่รู้เรื่องที่ ทำให้เซิ่งเจ๋อเฉิงลำบากไปด้วยอีก
เสิ่นอีเวยรู้สึกว่ามันหายใจลำบากขึ้น
หล่อนเลิกคิ้วมองป้าเฉินแล้วถาม : “ฟังจากที่ป้าเล่ามา
ความหมายเหมือนว่าฉันจะมาสร้างความลำบากให้คุณชายใช่ ใหม?”
ป้าเฉินทาหน้าไม่ถูกแต่ดูจากสถานะภาพแล้วหล่อนทำ อะไรไม่ได้ : “ไม่ ฉันไม่ได้หมายความว่างั้น”
“ป้าเฉิน ฉันมีเรื่องจะบอกเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืน ก่อนที่เพิ่ง สีหน้าของเสิ่นอีเวยเย็นช้านิดๆ : “ป้าเฉิน เรื่องระหว่างฉัน
กับเซิ่งเจ๋อเฉิงจะไม่พอใจอะไรกันก็เป็นเรื่องของเราเอง ป้าก็ เป็นคนใช้ของป้าตามปกติไปก็พอแล้ว ฉันรู้ใจฉันดีพอไม่ต้อง ให้ป้ามาสอนหรอก”
เสิ่นอีเวยเป็นคนมีหลักการตลอดซึ่งหล่อนรู้สึกมาโดย ตลอดว่าเป็นเรื่องของสามีภรรยาก็มีแค่สามีภรรยาเท่านั้นที่ เกี่ยวข้องขนาดพ่อแม่ยังยุ่งไม่ได้เลย แล้วยิ่งเธอได้ยินตอนที่ป้า เฉินพูดเรื่องเธอกับเสิ่นอีเวยขึ้นมาในใจที่มันอัดอั้นเริ่มปะทุมัน ขึ้นมา
เดิมทีเสิ่นอีเวยก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะต่อว่าอะไรป้าเฉินแต่พอได้ ยิน “คุณอ่ะ ควรจะให้อภัยคุณชายบ้าง”เลยอดไม่ได้ แต่งงานกันมาสองปีตัวเองยังทนเซิ่งเจ๋อเฉิงไม่พออีก
หรอ? ทั้งอารมณ์ความโกรธและโมโหหล่อนก็รับได้อย่างไม่มี ปากไม่มีเสียง ตอนนี้ได้ยินคนข้างๆพูดเหมือนตัวเองไม่รู้เรื่องที่ ทำให้เซิ่งเจ๋อเฉิงลำบากไปด้วยอีก
เสิ่นอีเวยรู้สึกว่ามันหายใจลำบากขึ้น
หล่อนเลิกคิ้วมองป้าเฉินแล้วถาม : “ฟังจากที่ป้าเล่ามา
ความหมายเหมือนว่าฉันจะมาสร้างความลำบากให้คุณชายใช่ ใหม?”
ป้าเฉินทาหน้าไม่ถูกแต่ดูจากสถานะภาพแล้วหล่อนทำ อะไรไม่ได้ : “ไม่ ฉันไม่ได้หมายความว่างั้น”
“ป้าเฉิน ฉันมีเรื่องจะบอกเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืน ก่อนที่เพิ่ง เจ๋อเฉิงจะโทรมาที่บ้าน ฉันโทรศัพท์หาเขาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ว่า ตอนนั้นฉันไม่ได้เกิดเรื่องรุนแรงขึ้น เพราะว่าฉันกลัวว่าเขา กำลังยุ่งอยู่ กลัวว่าจะไปรบกวนเขาเข้า แต่ตอนนั้นฉันก็โดน สะกดรอยตามแล้ว เพราะงั้นป้าคิดว่าฉันจะไม่ให้อภัยแถมยัง มาก่อเรื่องให้เขาอีกใช่ไหม?”
การแสดงออกของเสิ่นอีเวยดูเคร่งขรึม สายตาก็จริงจัง ป้าเฉินมองหล่อนที่ปกติดีกับคนรับใช้ทุกคนแต่ทำไมตอนนี้ รู้สึกว่าตัวเองกำลังเริ่มกลัวหล่อนเข้าให้แล้ว ?
ป้าเฉินยิ้มอ่อนๆแล้วตอบ : “เมื่อกี้ที่ฉันพูดยังไม่หมด
ทำให้คุณเสิ่นโกรธ หวังว่าคุณจะไม่จำไว้ในใจ ฉันก็แค่คิด แทนคุณกับคุณชายเท่านั้นเอง”
เสิ่นอีเวยได้แต่คิดกับตัวเอง บนโลกใบนี้คิดแทนคนอื่น และทำเรื่องแทนคนอื่นดูเยอะไปแล้ว ขนาดเจ้าหน้าที่ที่ชื่อสัตย์ มากยังยากต่อการตัดสินเรื่องครอบครัวเลย ระหว่างเธอกับ หล่อนมันวนไปวกมาคนข้างๆจะมาแก้ไขได้ยังไง?
คิดได้ขนาดนี้ เสิ่นอีเวยรู้สึกได้ว่าตัวเองไม่ต้องไปหาเรื่อง กับป้าเฉิน อารมณ์ที่แสดงออกทางสีหน้าก็เริ่มอบอุ่นขึ้นมาบ้าง
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันกระทันหันไปหน่อยเลยไม่ทันคิด เรื่องที่เพิ่งเจ๋อเฉิงยกเลิกการคุยกับหุ้นส่วนเพื่อไปช่วยเหลือตัว เองยิ่งพูดตรงนี้ เขาจะขาดทุนเท่าไหร่?
ด้วยแผลที่ต้องทายาครึ่งวันทำให้เสิ่นอีเวยไปได้วางแผน ออกไปเดินข้างนอก หล่อนอ่านหนังสือคู่ในบ้านทั้งวัน ด้วย เจ๋อเฉิงจะโทรมาที่บ้าน ฉันโทรศัพท์หาเขาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ว่า ตอนนั้นฉันไม่ได้เกิดเรื่องรุนแรงขึ้น เพราะว่าฉันกลัวว่าเขา กำลังยุ่งอยู่ กลัวว่าจะไปรบกวนเขาเข้า แต่ตอนนั้นฉันก็โดน สะกดรอยตามแล้ว เพราะงั้นป้าคิดว่าฉันจะไม่ให้อภัยแถมยัง มาก่อเรื่องให้เขาอีกใช่ไหม?”
การแสดงออกของเสิ่นอีเวยดูเคร่งขรึม สายตาก็จริงจัง ป้าเฉินมองหล่อนที่ปกติดีกับคนรับใช้ทุกคนแต่ทำไมตอนนี้ รู้สึกว่าตัวเองกำลังเริ่มกลัวหล่อนเข้าให้แล้ว ?
ป้าเฉินยิ้มอ่อนๆแล้วตอบ : “เมื่อกี้ที่ฉันพูดยังไม่หมด
ทำให้คุณเสิ่นโกรธ หวังว่าคุณจะไม่จำไว้ในใจ ฉันก็แค่คิด แทนคุณกับคุณชายเท่านั้นเอง”
เสิ่นอีเวยได้แต่คิดกับตัวเอง บนโลกใบนี้คิดแทนคนอื่น และทำเรื่องแทนคนอื่นดูเยอะไปแล้ว ขนาดเจ้าหน้าที่ที่ชื่อสัตย์ มากยังยากต่อการตัดสินเรื่องครอบครัวเลย ระหว่างเธอกับ หล่อนมันวนไปวกมาคนข้างๆจะมาแก้ไขได้ยังไง?
คิดได้ขนาดนี้ เสิ่นอีเวยรู้สึกได้ว่าตัวเองไม่ต้องไปหาเรื่อง กับป้าเฉิน อารมณ์ที่แสดงออกทางสีหน้าก็เริ่มอบอุ่นขึ้นมาบ้าง
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันกระทันหันไปหน่อยเลยไม่ทันคิด เรื่องที่เพิ่งเจ๋อเฉิงยกเลิกการคุยกับหุ้นส่วนเพื่อไปช่วยเหลือตัว เองยิ่งพูดตรงนี้ เขาจะขาดทุนเท่าไหร่?
ด้วยแผลที่ต้องทายาครึ่งวันทำให้เสิ่นอีเวยไปได้วางแผน ออกไปเดินข้างนอก หล่อนอ่านหนังสือคู่ในบ้านทั้งวัน ด้วย ความกังวลอย่างห่วงๆ หล่อนตัดสินใจว่าตอนที่เซิ่งเจ๋อเฉิงกลับ มาบ้านในตอนกลางคืนนั้นจะถามเรื่องการร่วมหุ้นกัน
แต่มองนาฬิกาเวลาก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มเข้าไปแล้ว เพิ่งเจ๋อเฉิ งก็ยังไม่กลับมา หล่อนเลยตัดสินใจโทรศัพท์หาเขา
หล่อนนั่งอยู่บนโซฟาอย่างเงียบๆ โทรศัพท์ส่งเสียงดังอยู่ นานไม่มีคนรับสาย หล่อนกัดฟันกรอดๆและโทรไปเป็นครั้งที่
สอง
“ฮัลโหล?”
ตอนที่ได้ยินเสียงฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจน ณ เวลานั้น เสิ่ นอีเวยอึ้งไปสักพัก หล่อนเอาโทรศัพท์มาดูอีกที่และก็มั่นใจว่าที่ หล่อนโทรไปเป็นเบอร์โทรศัพท์ของเพิ่งเจ๋อเฉิงไม่ใช่ของสวี่อัน
ฉิ่ง
แต่เสียงนั่นเป็นเสียงของสวีอันฉิง เสิ่นอีเวยฟังอย่างชัดเจน เสิ่นอีเวยฟังรู้อย่างชัดเจน
ทำไมโทรศัพท์ของเซิ่งเจ๋อเฉิงอยู่ที่สวี่อันฉิงได้หล่ะ?
เสิ่นอีเวยเอาเรื่องที่คิดอยู่ในใจถามออกไปอย่างเกิด อารมณ์ น้ำเสียงตกใจมาก : “สวีอันฉิง ทำไมโทรศัพท์ของเซิ่ง เจ๋อเฉิงอยู่ที่เธอนั่นหล่ะ?”
เสิ่นอีเวยได้ยินเสียงหัวเราะของ สวีอันฉิง น้ำเสียง แสดงออกอย่างชัดเจนเลยว่ามีความสุขมาก : “อ๋อ ผู้อำนวย การเสิ่นนี่เอง วันนี้ไม่ได้มาทำงานหรอ? ท่านประธานอยู่กับ ฉัน” ความกังวลอย่างห่วงๆ หล่อนตัดสินใจว่าตอนที่เซิ่งเจ๋อเฉิงกลับ มาบ้านในตอนกลางคืนนั้นจะถามเรื่องการร่วมหุ้นกัน
แต่มองนาฬิกาเวลาก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มเข้าไปแล้ว เพิ่งเจ๋อเฉิ งก็ยังไม่กลับมา หล่อนเลยตัดสินใจโทรศัพท์หาเขา
หล่อนนั่งอยู่บนโซฟาอย่างเงียบๆ โทรศัพท์ส่งเสียงดังอยู่ นานไม่มีคนรับสาย หล่อนกัดฟันกรอดๆและโทรไปเป็นครั้งที่
สอง
“ฮัลโหล?”
ตอนที่ได้ยินเสียงฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจน ณ เวลานั้น เสิ่ นอีเวยอึ้งไปสักพัก หล่อนเอาโทรศัพท์มาดูอีกที่และก็มั่นใจว่าที่ หล่อนโทรไปเป็นเบอร์โทรศัพท์ของเพิ่งเจ๋อเฉิงไม่ใช่ของสวี่อัน
ฉิ่ง
แต่เสียงนั่นเป็นเสียงของสวีอันฉิง เสิ่นอีเวยฟังอย่างชัดเจน เสิ่นอีเวยฟังรู้อย่างชัดเจน
ทำไมโทรศัพท์ของเซิ่งเจ๋อเฉิงอยู่ที่สวี่อันฉิงได้หล่ะ?
เสิ่นอีเวยเอาเรื่องที่คิดอยู่ในใจถามออกไปอย่างเกิด อารมณ์ น้ำเสียงตกใจมาก : “สวีอันฉิง ทำไมโทรศัพท์ของเซิ่ง เจ๋อเฉิงอยู่ที่เธอนั่นหล่ะ?”
เสิ่นอีเวยได้ยินเสียงหัวเราะของ สวีอันฉิง น้ำเสียง แสดงออกอย่างชัดเจนเลยว่ามีความสุขมาก : “อ๋อ ผู้อำนวย การเสิ่นนี่เอง วันนี้ไม่ได้มาทำงานหรอ? ท่านประธานอยู่กับ ฉัน” ฟังน้ำเสียงส่อเสียดของสวี่อันฉิงแล้วในใจเสิ่นอีเวยเริ่มมี ปฏิกิริยาตอบโต้ หล่อนมองนาฬิกาแขวนกำแพง น้ำเสียงเงียบ หายไปหลายนาที: “ตอนนี้มันสี่ทุ่มกว่าแล้ว เธอบอกกับฉันว่า พวกเธอสองคนอยู่ด้วยกันหรอ?”
สวีอันฉิงหัวเราะเบาๆ : “ผู้ช่วยหลินวันนี้ออกไปดูงานข้าง
นอก ท่านประธานเชิงต้องอยู่กับลูกค้าคนสำคัญคนหนึ่งเลย เรียกฉันมาด้วย อ้อ ใช่แล้ว ท่านประธานเซิ่งดื่มเหล้าไม่ไหวละ เขาดื่มมากไป ตอนนี้ฉันกำลังจัดการทำความสะอาดเขาอยู่ หนะ”
ใจเสิ่นอีเวยรีบร้อนขึ้นมา : “ตอนนี้พวกเธออยู่ไหน?”
“ตึกป่านนี้แล้ว เธอยังออกมาหาพวกเราอีกหรอ? หีๆๆๆ รักสามีจริงๆเลย แต่ไม่ต้องกังวลไปนะเดี๋ยวฉันจัดการไปส่ง ท่านประธานที่โรงแรมเอง”
ยิ่งฟังคำว่าโรงแรมสองคำนี้ เสิ่นอีเวยถึงกลับระเบิดลงใน ทันที “สวีอันฉิงอย่ามาเล่นเกมกับฉันนะ! ถ้าเขาดื่มจนเมา หนักยังมีบอร์ดี้การ์ดคนอื่นอยู่ข้างตัวเขา เธอจะไปส่งเขาที่ โรงแรมได้ไง!”
สวี่อันฉิงที่คุยโทรศัพท์อยู่อีกด้านยิ้มอย่างภาคภูมิใจ : “งั้นฉันบอกกับเธอจริงๆเลยก็ได้ ท่านประธานพาฉันมาแค่คน เดียว”
อารมณ์ของเสิ่นอีเวยเปลี่ยนไปทั้งหงุดหงิดทั้งวุ่นวายใจ สี่ ทุ่ม ทำไมเพิ่งเจ๋อเฉิงถึงอยู่กับสวีอันฉิงได้! ดอนนี้หล่อนอยากรู้ ฟังน้ำเสียงส่อเสียดของสวี่อันฉิงแล้วในใจเสิ่นอีเวยเริ่มมี ปฏิกิริยาตอบโต้ หล่อนมองนาฬิกาแขวนกำแพง น้ำเสียงเงียบ หายไปหลายนาที: “ตอนนี้มันสี่ทุ่มกว่าแล้ว เธอบอกกับฉันว่า พวกเธอสองคนอยู่ด้วยกันหรอ?”
สวีอันฉิงหัวเราะเบาๆ : “ผู้ช่วยหลินวันนี้ออกไปดูงานข้าง
นอก ท่านประธานเชิงต้องอยู่กับลูกค้าคนสำคัญคนหนึ่งเลย เรียกฉันมาด้วย อ้อ ใช่แล้ว ท่านประธานเซิ่งดื่มเหล้าไม่ไหวละ เขาดื่มมากไป ตอนนี้ฉันกำลังจัดการทำความสะอาดเขาอยู่ หนะ”
ใจเสิ่นอีเวยรีบร้อนขึ้นมา : “ตอนนี้พวกเธออยู่ไหน?”
“ตึกป่านนี้แล้ว เธอยังออกมาหาพวกเราอีกหรอ? หีๆๆๆ รักสามีจริงๆเลย แต่ไม่ต้องกังวลไปนะเดี๋ยวฉันจัดการไปส่ง ท่านประธานที่โรงแรมเอง”
ยิ่งฟังคำว่าโรงแรมสองคำนี้ เสิ่นอีเวยถึงกลับระเบิดลงใน ทันที “สวีอันฉิงอย่ามาเล่นเกมกับฉันนะ! ถ้าเขาดื่มจนเมา หนักยังมีบอร์ดี้การ์ดคนอื่นอยู่ข้างตัวเขา เธอจะไปส่งเขาที่ โรงแรมได้ไง!”
สวี่อันฉิงที่คุยโทรศัพท์อยู่อีกด้านยิ้มอย่างภาคภูมิใจ : “งั้นฉันบอกกับเธอจริงๆเลยก็ได้ ท่านประธานพาฉันมาแค่คน เดียว”
อารมณ์ของเสิ่นอีเวยเปลี่ยนไปทั้งหงุดหงิดทั้งวุ่นวายใจ สี่ ทุ่ม ทำไมเพิ่งเจ๋อเฉิงถึงอยู่กับสวีอันฉิงได้! ดอนนี้หล่อนอยากรู้ ในสายโทรศัพท์กับมีเสียงสวีอันฉิงขึ้นมาอีก : “ฉันกับ
ท่านประธานกำลังยุ่งอยู่ ฉันไม่ว่างจะคุยกับเธอแล้ว!”พูดจบก็ ตัดสายทิ้ง ในสายโทรศัพท์กับมีเสียงสวีอันฉิงขึ้นมาอีก : “ฉันกับ
ท่านประธานกำลังยุ่งอยู่ ฉันไม่ว่างจะคุยกับเธอแล้ว!”พูดจบก็ ตัดสายทิ้ง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ