นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่ 262 ฉันอยากได้คำตอบเพียงหนึ่งเดียว



บทที่262ฉันอยากได้คําตอบเพียงหนึ่งเดียว
บทที่ 262 ฉันอยากได้คำตอบเพียงหนึ่งเดียว
คุณเคยเห็นสายตาของสัตว์ประหลาดไหม ?

นั่นคือเพิ่งเจ๋อเฉิง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อน ๆ สายตาของเขาที่แดงไม่ใช่เพราะอารมณ์ แต่เป็นเพราะ ความโมโหอย่างที่สุด

“เมื่อสักครู่คุณพูดอะไรนะ ? หากมีความกล้าก็พูดอีกครั้ง ” น้ำเสียงที่จริงจังที่ไม่เคยมีมาก่อนของเพิ่งเจ๋อเฉิง

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เสิ่นอีเวยกลับหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “เพิ่งเจ๋อเฉิง ชั้นรู้สึกว่าคุณไม่สามารถที่จะทำให้ชั้นโมโหได้ วันนี้ที่ชั้นมา ไม่ใช่มาหาเรื่อง แต่อยากได้เพียงคำตอบ

ตอนนี้ สายตาของเงินอีเวยก็มีแต่ความแวววาว เพิ่งเจอ เฉิงกับผู้หญิงที่อยู่ต่อหน้าเขานั้นกลับมีความรู้สึกเหมือนกับเต้น อยู่ตลอดเวลา

หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณอยากได้คำตอบอะไร ?”

เสิ่นอีเวยได้มองเพิ่งเจ๋อเฉิงแล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ เรื่อง ที่เกิดขึ้นช่วงนี้ และสิ่งที่ได้ยินจากเงินเหยียนซึ่ง เหมือนกับในหนังอย่างไรอย่างนั้น

“ชั้นแค่อยากจะถามคุณ กับสิ่งที่พ่อของคุณนั้นทำทั้งหมด ทุกขั้นตอนคุณรู้หมดใช่ไหม ?

ซึ่งในตอนนี้กลายเป็นความรู้สึกไม่สำคัญไปแล้ว สำคัญ เพียงแค่ค่าตอบ

“ใช่แล้ว” เพิ่งเจ๋อเฉิงพูดออกมา

เสิ่นอีเวยเหมือนกับถูกดึงกลับไปอยู่ในห้องแห่งความเย็น

“คุณรู้เรื่องนี้ครั้งแรกคือตอนไหน ? ” เสิ่นอีเวยถามต่อไป

ใบหน้าของเธอไม่ได้มีสีหน้าอะไรเลย แต่ไม่มีใครรู้ว่าเธอ กำลังเก็บกดอย่างเป็นที่สุดอยู่ในใจ แต่ในใบหน้าที่เงียบนิ่ง ที่สุด แต่กลับเต็มไปด้วยความน่ากลัว

“ก่อนที่พวกเราแต่งงานกัน ผมก็รู้มาก่อนแล้ว

เสิ่นอีเวยเดิมที่ไม่ใช่หายใจแบบปกติ แต่เมื่อฟังแล้

วก็แทบจะหยุดหายใจ เพราะเธอคิดว่าเขาจะสำนึกผิดแล้วไม่ กล้าที่จะตอบอะไรที่ไม่ดีออกมา

แต่ตอนนี้คืออะไรล่ะ ?

ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า ไม่มีความกลัวอะไรใด ๆ ท่าทางของ เขากลับเหมือนปกติทุกอย่าง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

ดังนั้นผู้ชายคนนี้มีจิตใจที่แข็งแกร่งเหมือนหิน ไม่มีอะไร

มาทําลายได้เลย
ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น คนที่ทำให้เขานั้นโมโหแน่นอนว่า ไม่ใช่ตัวเอง เสิ่นอีเลยตอนนี้ก็ยืนหยัดที่จะดำเนินความคิดของ ตัวเอง

แต่แปลกที่สุดก็คือ เมื่อถามคำถามเมื่อสักครู่นี้ เป็นอีเว ยกลับมีความเงียบมากที่สุดในใจ เป็นเพราะรู้คำตอบใช่ ไหม ?

หรืออาจจะใช่แบบนั้น

เงินอีเวยกับน้ำตาที่ไหลออกมา เดินหน้าไปยังเพิ่งเจ๋อเฉิง แล้วพูดว่า “ดังนั้น คุณหลอกชั้นมาสามปี สามปีเต็ม ๆ ใช่ไหม ?”

เพิ่งเจ๋อเฉิงได้ขมวดคิ้ว แต่สายตาก็ไม่ได้น่ากลัวเหมือน สักครู่นี้ แต่กลับเปลี่ยนมาเป็นสีหน้าที่ไม่ชัดเจน

ผู้ชายคนนั้นก็ตอบไปว่า “ผมก็ไม่ได้มีความหมายอยากจะ หลอกคูณหรอก”

สายตาของเงินอีเวยมีความแววใส ในขณะเดียวกันก็ทำ

ให้เพิ่งเจ๋อเฉิงรู้สึกเธอเหมือนกระจกเงา ซึ่งท่าทางการ แสดงออกของตัวเองนั้น ได้สะท้อนมาจากใบหน้าของเธอ ทั้งหมด

เพียงแต่เธอนั้นได้มองสายตาแบบนั้น เป็นครั้งแรกที่เพิ่ง เจ๋อเฉิงไม่กล้าจะมองต่อสู้

เมื่อได้มองสายตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเงินอีเวย เพิ่งเจ๋อเฉิงก็รู้สึกถึงสำนึกผิด ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้รู้สึกเต็มไปด้วยความอาลัยตายอยาก

แต่สิ่งที่ต้องยอมรับเลยก็คือเขาอยากจะเข้าไปกอดเสี นอีเวย เพื่อให้เขานั้นรู้สึกถึงความอุ่นใจ แต่กลับทำไม่ได้

ในตอนนี้เขากลับเข้าใจว่าความรักคือการแต่แตะแต่กลับ ทั้งหายไประหว่างทางเสียเช่นนั้น

เสิ่นอีเวยยิ้มด้วยความระทม สายตาที่แหลมคมเหมือนมีด ที่ต้องไปยังเพิ่งเจ๋อเฉิง

“ไม่ใช่จะปิดบังชั้นงั้นหรือ ? หรือว่าคุณจะพูดว่าคุณก็มี ความทุกข์ของตัวเองหรือ ? ดีเลย คุณก็พูดมาให้ชั้นฟังหน่อย

ความจริงแล้ว ในใจของเสิ่นอีเวยชัดเจนเป็นที่สุด ว่า คำถามที่ถามไปคือการบีบบังคงเพิ่งเจ๋อเฉิง แต่ความจริงแล้ว ในใจเธอนั้นเจ็บปวดกว่าหลายร้อยเท่า

ความรู้สึกเช่นนั้นก็คือ เศษแก้วที่อาบยาพิษแน่น ๆ แล้วมอบให้กับอีกฝ่าย ทำให้ในใจของเขามีบาดแผลลึกในใจ

แม้จะยิ้มด้วยความระทม เสิ่นอีเวยก็ทำได้เพียงเท่านั้น เพราะว่าในใจนั้นอดทนไม่ไหวแล้ว ทนไม่ไหวที่เพิ่งเจ๋อเฉิง หลอกเธอมาเต็ม ๆ สามปี

“เพราะว่าเขาพ่อของผมไงล่ะ” เพิ่งเจ๋อเฉิงตอบมาน้ำเสียง ปกติ ถึงแม้จะเป็นคำตอบตามที่เสิ่นอีเวยคาดไว แต่น้ำเสียงของเขากลับเต็มด้วยความปกติ

เธอเหมือนกับกำมือแน่น แล้วค่อยไปยังก้อนสำลี ที่ไม่

เจ็บไม่รู้สึกอะไร

เธอยิ้มแล้วพูดว่า “พ่อของคุณก็คือพ่อ แล้วพ่อของชั้น

ไม่ใช่พ่อของชั้นงั้นหรือ ? “

เสิ่นอีเวยเจ็บปวดใจเพิ่มขึ้นเรื่อย

เสียงที่ออกไปก็คือ ทำให้คนรู้สึกถึงใจสลาย

เพิ่งเจ๋อเฉิงส่ายหัวแล้วพูดว่า “ผมก็ไม่ได้หมายความเช่น

“แล้วคุณหมายความว่าอะไร ? พ่อของคุณทำแบบนี้ คุณ ก็รู้อยู่แก่ใจ แต่คุณทำอะไรบ้างล่ะ ? ” เสิ่นอีเวยถามซ้ำ ๆ เรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้โอกาสกับเชิงเจ๋อเฉิง

“หรือว่า…”

เงินอีเวยพูดถึงตรงนี้ แล้วก็หยุดลง กับน้ำตาที่อาบสอง

“หรือว่าเป็นเพราะฐานะที่ไม่อาจจะทำอะไรได้ใช่ไหม ?

คุณควรจะบอก น

ประโยคนี้ เป็นอีเวยแทบจะให้แรงตัวเองทั้งหมดพูดออก มาก เพราะว่าสองคนนี้ห่างกันใกล้มาก ดังนั้นเพิ่งเจอเพิ่งเห็น

น้ำตาของเธออย่างชัดเจน

แก้ม
ในใจรู้สึกตระหนก เพิ่งเจ๋อเฉิงเอามือไปจับไหล่ทั้งสอง

ข้างของเธอ สายตาของเธอก็หรี่ลงไป เหมือนกับกระต่ายที่

กําลังตกใจ

“พวะ”

ในห้องกลับมีเสียงที่ชัดเจน แต่ไม่ใช่เสียงอะไรเลย แต่ เป็นเสียงที่เสิ่นอีเวยใช้มือสะบัดมือของเขาออกไป

เงินอีเวยใช้แรงมากเช่นนั้น แต่ผู้ชายกลับรักษาความ สงบ เหมือนกับไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรเลย แต่สายตาของเขากลับ อ่อนลง

มือที่แสนที่จะขาวและนุ่มนวลนั้นทันใดก็แดงขึ้นมา แต่ ไม่มีใครเห็นถึง

“อย่ามาโดนตัวชั้น” เสิ่นอีเวยพูดด้วยเสียงที่ดังออกมา

และในตอนนี้ เพราะอารมณ์ของเสิ่นอีเวยที่ไม่อาจจะ ควบคุมได้ ไฟโทสะของเพิ่งเจ๋อเฉิงก็ได้ถูกจุดขึ้นมา

เสิ่นอีเวยเหมือนรู้สึกว่าเหมือนมีลมอะไรสักอย่างพัดเข้า มา แต่ก็ไม่ได้รอเธอนั้นรู้สึกกลับมา จูบของเพิ่งเจ๋อเฉิงก็ได้ ประทับลงบนปากของเสิ่นอีเวย

เต็มไปด้วยความโกรธ เต็มไปด้วยความหอม หลังของ

เธอนั้นแนบติดอยู่กับกำแพง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ