นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่ 137 ลื่นไถลล้มตรงบันไดหินจนได้รับบาดเจ็บ



บทที่137ลิ่นไถลล้มตรงบันไดหินจนได้

รับบาดเจ็บ

บทที่ 137 ลื่นไถลล้มตรงบันไดหินจนได้รับบาดเจ็บ

เสิ่นอีเวยพูดจบก็รีบก้าวเดินต่อไปด้านหน้าทว่าก้าวเท้าได้ ไม่ถึงสองก้าว แขนของเธอก็ถูกเสิ่นเหยียนซึ่งดึงยื่อเอาไว้

“เธอไม่มีเงินแต่เพิ่งเจ๋อเฉิงเขาน่าจะมีเงินนะ? พวกเธอเป็น สามีภรรยากัน หรือไม่คิดจะช่วยน้าไปเอาเงินที่เขามาให้ยืม หน่อยสิ? ฉันเป็นถึงอาแท้เธอนะ!”

เงินอีเวยถึงกับโมโหจนไปหมด ในสมองของเธอตอนนี้ กำลังจินตนาการถึงฉากที่เธอไปขอยืมเงินจากเพิ่งเจ๋อเฉิง ผู้ชายคนนั้นไม่รู้ว่าจะทำให้เธออับอายยังไง? ใครจะไปหาเรื่อง ใส่ตัวต่อหน้าต่อเขาอีก? อีกอย่างช่วงนี้ความสัมพันธ์ของพวก เขาทั้งสองก็แย่ขนาดนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะกล้าไปขอความช่วย เหลือจากเขาจริงๆก็ตาม เพิ่งเจ๋อเฉิงจะช่วยเหลือเธอจริงๆ หรือ?

เขาน่าจะกระวนกระวายใจที่เธออยู่ไม่ได้เป็นสุขมั้ง? ใน ใจเสิ่นอีเวยได้แต่ยิ้มแห้งๆ

การยิ้มแห้งๆเย็นชานี้มันปรากฏบนใบหน้าของเธอ : “อา คิดมากไปแล้ว หรือเธอยังไม่เข้าใจอีกหรอ? ตอนนี้ไม่ใช่ปัญหา ว่าฉันมีเงินหรือไม่มีเงินหรือเพิ่งเจ๋อเฉิงจะมีเงินหรือเปล่าไม่ว่า จะยังไงฉันก็ไม่ให้อายืมเงิน อาเงินเหยียนซึ่ง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าอาเป็นคนยังไงกัน ต่อไปอย่ามาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก”

เงินเลยหันศีรษะกลับเพื่อเดินตรงไปยังรถของตนเอง แต่ เงินเหยียนซึ่งไม่ยอมที่จะปล่อยมือจากแขนของหล่อน ด้วย อารมณ์ที่โมโหร้อนรน เธอตะโกนเสียงดังลั่น ! “อาทำอะไร ปล่อยมือ!”

การแสดงออกของเส้นเหยียนซึ่งเริ่มรุนแรงขึ้นพร้อมกับ พูดต่อทันที “อีเวย อาขอร้องช่วยอาหน่อยเถอะ? อาขอโทษ ตอนนั้นอายังเด็กไม่ค่อยรู้เรื่อง ไม่ควรทำกับพ่อแม่เธอแบบนั้น เลย ตอนนี้ช่วยอาหน่อยนะ!”

ทุกวันของถนนเส้นหลักเส้นนี้เป็นเส้นสัญจรที่หนาแน่น มาก คนที่ผ่านไปผ่านมาที่ถนนเส้นนี้ต่างเป็นคนทำงานของ บริษัทยักษ์ใหญ่ในหลายตึกแถวนี้ทั้งนั้น บางทีไม่ทันได้ตั้งตัวก็ อาจจะเจอคนรู้จักกันก็ได้ อีกอย่างบริษัทเชิงชื่อที่อยู่ทางเยื้อง ฝั่งตรงข้าม เสิ่นอีเลยกลัวเหลือเกินว่าหากคนเดินผ่านแล้วเห็น ว่าเธอกับผู้ใหญ่มีอายุหน่อยมาฉุดกระชากลากถูแบบนี้มันดูไม่ ค่อยดีกับเธอเท่าไหร่ เลยพยายามที่จะใช้เรี่ยวแรงแกะมือของ เงินเหยียนซิ่งออกจากแขนของตัวเอง

“ช่วยอาหน่อย! อาขอยืมเงินหน่อย เดี๋ยวรอบริษัทอาหมุน เงินได้ทัน อาจจะเอาเงินมาคืนจ่ายดอกเบี้ยคืนให้เท่าตัวดี ไหม!”

ในใจเสิ่นอีเวยโมโหขนาดหนัก เธอใช้พลังที่มีทั้งหมด ผลักเงินเหยียนซึ่งไปด้านข้างๆอย่างแรง การผลักเงินเหยียนซึ่งนั้นทำให้เขาติดกับต้นไม้ที่อยู่ด้านหลังแล้วลุกขึ้นมายืนได้ ปกติ แต่เสิ่นอีเวยที่ใส่รองเท้าส้นสูงและที่ที่เธอยืนอยู่นั้นด้าน หลังคือบันไดหินอ่อนหลายขั้น ข้อเท้าเธอพลิก ร่างกายลื่นไถล ลง

“โอ๊ย!”

เงินอีเวยร้องอย่างตกอกตกใจ

ดีที่บันไดหินอ่อนไม่ได้สูงอะไรมากนักและก็ไม่ได้มีหลาย ขั้น ในที่สุดเงินอีเวยก็เอนล้มลงบนพื้น เธอลื่นล้มไม่ได้เบาเลย ทั้งฝ่ามือ ข้อมือรวมถึงข้อเท้าต่างมีรอยถลอกนิดหน่อยและ เลือดสีแดงสดกำลังไหลออกมาเป็นหยดๆ

เงินอีเวยยืนขึ้นมาด้วยความยากลำบากและไม่ได้คำนึง ถึงผงฝุ่นที่เปรอะเปื้อนอยู่บนตัวเองเลย เพราะเธอกำลังมองเงิน เหยียนซึ่งด้วยหางตาว่าเขากำลังเดินดื่มๆมาทางเธอ

จากการลื่นล้มนี้เอง เสิ่นเหยียนซึ่งไม่ได้มีความหมายใดๆ อยู่ภายในใจของเสิ่นอีเวยเลย เงิน

เวยกลัว กลัวว่าในวันนี้จะเกิดเรื่องขึ้นที่ทำให้เขาใจร้อน รนจนทำพฤติกรรมทำร้ายร่างกายเธออะไรพวกนี้ก็ได้ เธอรีบ ตะโกนออกมาทันทีเพื่อหยุดเขาไว้ “อาอย่าเข้ามา

เงินอีเวยพยายามอดทนอดกลั้นกับความเจ็บปวดที่ ถาโถมเข้าสู่ร่างกายแล้วรีบวิ่งขึ้นบันไดหินไปเพื่อให้แทรก เข้าไปอยู่ในรถของตัวเองให้เร็วที่สุด ซึ่ง” เสียงประตูปิดดัง ลั่น จนรู้สึกสงบสติอารมณ์ได้บ้าง
ทว่ากระจกรถที่เปิดอยู่ตลอดเวลา ทำให้ได้ยินเสียงด้าน นอกของเงินเหยียนซิ่งที่ตะโกนมาหาเธอดังลั่น “ครั้งนี้เธอไม่ ช่วยฉัน ฉันจะมาหาเธออยู่เรื่อยๆ

ตอนนี้เป็นช่วงกลางวันแสกๆ แต่เสียงของเส้นเหยียนซึ่ง ที่เสิ่นอีเวยได้ยินได้ฟังนั้นมันเหมือนกับเสียงวิญญาณผีสะท้อน ไปมา หล่อนเลยเหยียบคันเร่งอย่างแรง หล่อนเลี้ยวรถดั่งธนู เพื่อรีบวิ่งรถให้ทะยานไปข้างหน้าเพื่อที่จะได้ออกจากสถานที่ เมื่อครู่นั้น โดยเร็ว

ภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามค่อยๆปรากฏขึ้นและห่างสายตา ไปตลอดทาง การขับรถบนท้องถนนทำให้จิตใจของสิ่นอีเวย ค่อยสงบลงมาได้ แต่ในใจก็ยังคงหวาดกลัวเรื่องที่เกิดขึ้นมา ภายหลังจากนี้ เธอคิดว่าครั้งนี้เป็นเหยียนซึ่งเขาไม่ได้ตามที่ คาดการณ์ไว้ งั้นคราวหน้าไม่แน่เขาอาจจะมาหาเธออีก หรือไปหาที่บริษัทเพิ่งซื้อเลย ถึงเวลานั้นตัวเองควรจะทำยังไง

เงินอีเวยเข้าใจอาของตัวเองคนนี้ทุกซอกทุกมุมเลย ตอน ยังเป็นวัยรุ่นชอบเล่นสนุกไปวันๆ แค่รู้ว่าถลุงเงินที่บ้านเท่านั้น จนวัยกลางคนชักจะเริ่มกดดันตัวเองขึ้นมาบ้าง เลยรู้ตัวว่าถึง เวลาที่จะต้องทำงานทำการอะไรสักอย่างขึ้นมาบ้างแล้ว

ตอนเริ่มทำก็ไม่ใช่ว่าจะไปได้ด้วยดีมันมืดแปดด้านไปทุก ทิศทุกทาง อีกอย่างทรัพย์สินที่บ้านก็กิน ใช้ไปจนไม่เหลืออะไร แล้ว เลยต้องใช้ชีวิตลำบากลำบนมาหลายปี ถือได้ว่าเป็นทุกข์ อยู่ไม่มากก็น้อย หลังจากนั้นไม่นานก็ถูกรางวัลลอตเตอรี่สถานะในบ้านเลยดีขึ้นมามาก ด้านเงินเหยียนซึ่งที่ได้รับ ประสบการณ์จากเมื่อก่อนเลยรู้ว่าต้องเอาเงินมาวางแผนทำ ธุรกิจในภายภาคหน้า แต่ด้วยนิสัยธรรมชาติของมนุษย์นั้นไม้ อ่อนดัดง่ายไม้แก่ดัดยาก การทำงานที่ชอบใช้ทางลัดมากกว่า การใช้แรงงานจริงนี่แหละถือว่าเป็นปัญหาหลักๆของเงินเหยี ยนซึ่ง มันส่งผลกระทบไปถึงบริษัทที่เปิดยังไม่ถึงสองปีของเขา ที่มันมีความเสี่ยงใกล้จะปิดตัวลง

คราวก่อนที่เสิ่นเหยียนซึ่งพูดมาในโทรศัพท์ก็แค่บอกว่า จะเอาเงินไปหมุนในบริษัทเท่านั้น แต่หลังจากการคุยในคราว นั้น เสิ่นอีเวยก็ให้คนไปสืบลับๆว่าสถานการณ์ของบริษัทเป็นเห ยียนซึ่งตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง สถานการณ์ไม่ดีเอาซะเลย เพราะไม่มีกำไรมานานสักพักแล้ว ส่วนทางด้านผู้ถือหุ้นต่างก็ ถอนหุ้นคืนกันเป็นแถว เส้นเหยียนซึ่งรับมือไม่ไหวกับ สถานการณ์ที่เป็นอยู่ได้อีกแล้วได้แต่รีบหาวิธีต่างๆ หรือเที่ยว ขอความช่วยเหลือไปทั่ว จนมาขอยืมเงินเธออีก

มีสุภาษิตที่เขาพูดกันอยู่ว่า เก็บเบี้ยใต้ถุนร้านดีกว่าการ ทุบหม้อข้าวตัวเอง เสิ่นอีเวยคิดถึงเรื่องที่เคยผ่านมา กลัวว่า คงจะอยู่ไม่เป็นสุขแล้วแหละ ทว่าในมุมมองของเธอนั้นสิ่งที่เป็น เหยียนซึ่งได้รับมันคือกรรมของเขาเอง หลายปีมานี้การทำ ธุรกิจที่ไม่ถูกต้องก็เหมือนจะได้รับกรรมตามที่เขาก่อมันไว้

เงินอีเวยคิดได้แบบนั้น บาดแผลบนร่างเรือนร่างก็ค่อยๆ

ทุเลาอาการเจ็บปวดลง

วิลลาของคุณนั้นอยู่กลางภูเขา สภาพแวดล้อมเงียบสงบเสิ่นอีเวยเลี้ยวรถด้านหลังเป็นมุมเลี้ยวที่สวยงามมาก รถจอด นิ่งสงบบริเวณหน้าประตูใหญ่หน้าบ้านของวิลลา

เสิ่นอีเวยรีบร้อนลงรถ รีบขนาดจนทำได้แค่สางผมที่ ยุ่งเหยิงให้เข้าทรงนิดหน่อย คราวที่แล้วเธอเคยมาเยี่ยมเยียน คุณปู่พร้อมกับเพิ่งเจ๋อเฉิง เพราะงั้นยามคนเฝ้าประตูเลยรู้จัก เธอ แค่หันมามองเธอแล้วพยักหน้าเบาๆ

เงินอีเวยเดินตรงขึ้นไปชั้นสองของวิลลาเพื่อเดินตรงไป ห้องนอนของคุณปู่ ตอนที่ผลักประตูเข้าไปกลิ่นยาฉุนถูกกระทบ เข้าโพรงจมูกอย่างจัง แวบเดียวเธอก็เห็นชายชราที่ผอมซูบ นอนเอนหลังอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ เธอก้าวเท้าเดินเข้าไป ใกล้ๆไม่กี่ก้าว มองเห็นเข็มที่สอดสายน้ำเกลือบนหลังมือที่ผอม แห้งเหี่ยวจนเห็นกระดูก น้ำเกลือยังคงไหลลงไม่ขาดสายหยุด แล้วหยดเล่า

ห้องขนาดใหญ่กลับไม่มีคนสักคน มันนิ่งเงียบ คุณก็ กำลังหลับสนิท เสิ่นอีเวยมองคนแก่มหายใจอย่างอ่อนแรงอยู่ บนเตียงนั้นไม่รู้เพราะว่ายาในห้องมันกลิ่นแรงไปหรือเปล่ามัน ทำให้จมูกของเธอแสบขึ้นมาเรื่อยๆ

วินาทีนั้นเหมือนน้ำตาจะไหลรินออกมา ชีวิตนี้มันช่าง เปราะบางจริงๆ

เสิ่นอีเวณนั่งอยู่ด้านหน้าเตียงเฝ้าดูคุณอยู่สักพักหนึ่งจน คิดได้ว่าตัวเองยังไม่รู้ว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง เลยยืนขึ้น เพื่อไปสอบถามเพิ่งเจ๋อเฉิงดูซักหน่อย หลังจากออกมาจากห้องของคุณก็เจอทางเดินที่กว้างขวางพอควรมันเหมาะมาก สำหรับคนชราพักอาศัย การตกแต่งการจัดเรียงสีของวิลลานั้น ค่อนข้างใช้สีเทาอันอบอุ่นไว้ก่อน แต่การที่แสงส่องสว่างได้ดี มากนั้นทำให้ทางเดินนี้ค่อนข้างสว่างเอามาก

เสิ่นอีเวยเดินตรงไปยังด้านหน้าจนมายืนหน้าประตูอีก ห้องหนึ่ง ประตูเปิดอ้าอยู่เล็กน้อย เธอยื่นมือไปผลักออกก็พบ คนๆหนึ่งที่กำลังนอนพักสายตาอยู่บนโซฟา

เขาคือเพิ่งเจ๋อเฉิง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ