บทที่124ยาที่คุณกินลงไปคือยาอะไร
บทที่ 124 ยาที่คุณกินลงไปคือยาอะไร
เสิ่นอีเวยยืนอยู่ข้าง ๆ เตียงนอน ยืนมองคนที่อยู่บนเตียง อย่างเยือกเย็น และถอนหายใจแบบไม่มีเสียงสักนิดเดียว แต่ ในใจของเธอกลับมีความรู้สึกที่ไม่เหมือนปกติ ความจริงแล้ว มันคืออะไรกันแน่แม้กระทั่งตัวเธอเองก็ยังไม่สามารถเข้าใจ อย่างชัดเจนได้เลย
ในห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหล้าอย่างรุนแรง มองเห็นสภาพ ที่ตนเองถูกทับอยู่บนเตียงแล้วตัวดีกว่าตัวเองนั้นไม่สามารถที่ จะนอนที่นี่ได้แล้ว แต่ว่าเขาก็ไม่อยากจะไปห้องนอนของเซิ่งเจ๋อ เฉิง เลยเดินลงบันไดมาเพื่อเตรียมตัวจะไปนอนบนโซฟาเพื่อ แก้ไขปัญหาที่นอนในคืนนี้
เสิ่นอีเวยเอนตัวลงไปบนโซฟาในห้องรับแขกที่เต็มไป ด้วยความมืด มิด ทันใดนั้นก็นึกถึงเรื่องที่เชียวหันถึงได้ให้เธอดู รูปภาพพวกนั้น ที่แห่งนั้นก็คือที่ สี่ปีที่แล้วพ่อและแม่เคยมาเข้า ร่วมงานเลี้ยง ณ ที่นี่ ร่างกายของเธอนั้นเพลียเป็นอย่างมากแต่ ว่ากลับนอนไม่หลับในหัวสมองปรากฏภาพของพ่อและแม่อยู่ เนื่อง ๆ
ในใจของเธอไม่มีความกลัวแม้แต่นิดเดียว แต่กลับรู้สึก ถึงการไม่มีที่พึ่ง บทที่124ยาที่คุณกินลงไปคือยาอะไร
บทที่ 124 ยาที่คุณกินลงไปคือยาอะไร
เสิ่นอีเวยยืนอยู่ข้าง ๆ เตียงนอน ยืนมองคนที่อยู่บนเตียง อย่างเยือกเย็น และถอนหายใจแบบไม่มีเสียงสักนิดเดียว แต่ ในใจของเธอกลับมีความรู้สึกที่ไม่เหมือนปกติ ความจริงแล้ว มันคืออะไรกันแน่แม้กระทั่งตัวเธอเองก็ยังไม่สามารถเข้าใจ อย่างชัดเจนได้เลย
ในห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหล้าอย่างรุนแรง มองเห็นสภาพ ที่ตนเองถูกทับอยู่บนเตียงแล้วตัวดีกว่าตัวเองนั้นไม่สามารถที่ จะนอนที่นี่ได้แล้ว แต่ว่าเขาก็ไม่อยากจะไปห้องนอนของเซิ่งเจ๋อ เฉิง เลยเดินลงบันไดมาเพื่อเตรียมตัวจะไปนอนบนโซฟาเพื่อ แก้ไขปัญหาที่นอนในคืนนี้
เสิ่นอีเวยเอนตัวลงไปบนโซฟาในห้องรับแขกที่เต็มไป ด้วยความมืด มิด ทันใดนั้นก็นึกถึงเรื่องที่เชียวหันถึงได้ให้เธอดู รูปภาพพวกนั้น ที่แห่งนั้นก็คือที่ สี่ปีที่แล้วพ่อและแม่เคยมาเข้า ร่วมงานเลี้ยง ณ ที่นี่ ร่างกายของเธอนั้นเพลียเป็นอย่างมากแต่ ว่ากลับนอนไม่หลับในหัวสมองปรากฏภาพของพ่อและแม่อยู่ เนื่อง ๆ
ในใจของเธอไม่มีความกลัวแม้แต่นิดเดียว แต่กลับรู้สึก ถึงการไม่มีที่พึ่ง งานเลี้ยงในค่าคืนนั้นของตระกูลเชิ่ง แท้ที่จริงแล้วเกิด
อะไรขึ้นกันแน่ ?
สมองของเสิ่นอีเวยจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่ในที่สุดก็หลับไป
เสียแล้ว
ในคืนที่ไม่มีความฝันเลย
วันที่สองเป็นวันหยุด เสิ่นอีเวยไม่จำเป็นจะต้องไปทำงาน ดังนั้นตอนที่เธอตื่นขึ้นมาขณะนั้นเวลาก็เก้าโมงกว่าแล้ว
แต่ว่าห้องรับแขกก็ยังคงไม่มีคนอยู่เลย
พอตื่นจนได้สติเสิ่นอีเวยก็เลยคิดถึงเรื่องที่เกิดเมื่อคืน เธอ ได้ใส่รองเท้าแตะและค่อย ๆ เดินขึ้นไปด้านบนตึก พอเปิดห้อง นอนเข้าไปพบว่ากลิ่นเหล้านั้นยังไม่ได้หมดไปจากห้องเลย เลย ทำให้คิ้วขมวด เธอเลยได้ทำการเปิดหน้าต่างออกทั้งหมด
พอหันกลับไปมอง เพิ่งเจ๋อเฉิงก็ได้ไปนอนบนเตียงของเธอ เสิ่นอีเวยรู้สึกขยะแขยงขมวดคิ้ว ทันใดนั้นในความทรงจำของ เธอเชิ่งเจ๋อเฉิงในเมื่อคืนนั้นเวลาไหนที่เขาโหดร้ายขนาดนี้
เมื่อก่อนเพิ่งเจ๋อเฉิงเป็นผู้ชายที่ยโสอวดตนคนหนึ่ง พูดได้ ว่าไม่เคยมีใครเห็นเขาในสภาพที่อ่อนแอเช่นนี้ เพราะว่าตลอด มาเขาสามารถที่จะบังคับอารมณ์ของตนได้เสมอ จึงขอใช้คำ ว่าเก็บซ่อนความอดทนมาอธิบายสำหรับชายคนนี้คงเหมาะสม
ที่สุดแล้ว
แต่ว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงในเมื่อคืนในความคิดของเสิ่นอีเวยคือว่า งานเลี้ยงในค่าคืนนั้นของตระกูลเชิ่ง แท้ที่จริงแล้วเกิด
อะไรขึ้นกันแน่ ?
สมองของเสิ่นอีเวยจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่ในที่สุดก็หลับไป
เสียแล้ว
ในคืนที่ไม่มีความฝันเลย
วันที่สองเป็นวันหยุด เสิ่นอีเวยไม่จำเป็นจะต้องไปทำงาน ดังนั้นตอนที่เธอตื่นขึ้นมาขณะนั้นเวลาก็เก้าโมงกว่าแล้ว
แต่ว่าห้องรับแขกก็ยังคงไม่มีคนอยู่เลย
พอตื่นจนได้สติเสิ่นอีเวยก็เลยคิดถึงเรื่องที่เกิดเมื่อคืน เธอ ได้ใส่รองเท้าแตะและค่อย ๆ เดินขึ้นไปด้านบนตึก พอเปิดห้อง นอนเข้าไปพบว่ากลิ่นเหล้านั้นยังไม่ได้หมดไปจากห้องเลย เลย ทำให้คิ้วขมวด เธอเลยได้ทำการเปิดหน้าต่างออกทั้งหมด
พอหันกลับไปมอง เพิ่งเจ๋อเฉิงก็ได้ไปนอนบนเตียงของเธอ เสิ่นอีเวยรู้สึกขยะแขยงขมวดคิ้ว ทันใดนั้นในความทรงจำของ เธอเชิ่งเจ๋อเฉิงในเมื่อคืนนั้นเวลาไหนที่เขาโหดร้ายขนาดนี้
เมื่อก่อนเพิ่งเจ๋อเฉิงเป็นผู้ชายที่ยโสอวดตนคนหนึ่ง พูดได้ ว่าไม่เคยมีใครเห็นเขาในสภาพที่อ่อนแอเช่นนี้ เพราะว่าตลอด มาเขาสามารถที่จะบังคับอารมณ์ของตนได้เสมอ จึงขอใช้คำ ว่าเก็บซ่อนความอดทนมาอธิบายสำหรับชายคนนี้คงเหมาะสม
ที่สุดแล้ว
แต่ว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงในเมื่อคืนในความคิดของเสิ่นอีเวยคือว่า เขาคือสัตว์ประหลาดที่ดุร้าย เขาโมโหใส่เธอ บังคับเธอ แม้ กระทั่งบีบรัดแขนของเธออยากให้เธอรู้สึกถึงความเจ็บปวด แต่ ว่าทั้งหมดนี้ก็คือแสดงถึงเขาที่กำลังจะระบายความในใจ
แต่ว่าเสิ่นอีเวยไม่มีวิธีอะไรเลย ตอนตัวเธอเด็ก ๆ นั้น ไม่ใช่เพราะเพิ่งเจ๋อเฉิงก็คงไม่ได้มีชีวิตที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ และพอคิดถึงตอนนั้นที่เขาทำกับเธอ ความเจ็บปวดของเธอนั้น เติมเต็มขึ้นมาเรื่อย ๆ ดังนั้นเสิ่นอีเวยใด้เพียงแต่นำความไม่ดี เหล่านี้มารู้สึกต่อตัวเขา เพียงเท่านี้จึงทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาอีก สักหน่อย
ในมุมมองของเขา นี่คือสิ่งที่เพิ่งเจ๋อเฉิงควรจะได้รับ
ดังนั้นในค่ำคืนที่แล้วเธอเลยไม่ได้ไว้หน้าเขาแม้แต่นิด เดียวเพื่อที่จะเปิดความเจ็บปวดภายในใจให้เขาได้รับรู้ ทำให้ เขารู้สึกถึงวิญญาณของแม่เขาที่จากไป
เสิ่นอีเวยก็ได้แต่มองหน้าตาคนที่นอนบนเตียงนอนอย่าง เงียบ ๆ พอผ่านไปหนึ่งคืนสีหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็เริ่มไม่เหมือน คนเมา เรือนร่างของเขาก็เริ่มมีการขยับ พอนำเสื้อสูทตะวันตก ถอดออกไป เขาคนนี้ก็เสมือนผู้ชายที่ไม่ได้มีการป้องกันอะไร เลย
เสิ่นอีเวยก็ได้ออกจากห้องนอนแล้วลงไป โทรศัพท์ที่วาง อยู่บนชุดน้ำชาก็ได้ดังขึ้น พอเอาขึ้นมาดู ก็หลินอวีที่โทรมา
“ฮัลโหล ผู้ช่วยหลิน” น้ำเสียงของเสิ่นอีเวยมีความเพลีย
“สวัสดีค่ะ คุณหญิงเสิ่น ตอนนี้คุณหญิงอยู่ที่บ้านตระกูล เขาคือสัตว์ประหลาดที่ดุร้าย เขาโมโหใส่เธอ บังคับเธอ แม้ กระทั่งบีบรัดแขนของเธออยากให้เธอรู้สึกถึงความเจ็บปวด แต่ ว่าทั้งหมดนี้ก็คือแสดงถึงเขาที่กำลังจะระบายความในใจ
แต่ว่าเสิ่นอีเวยไม่มีวิธีอะไรเลย ตอนตัวเธอเด็ก ๆ นั้น ไม่ใช่เพราะเพิ่งเจ๋อเฉิงก็คงไม่ได้มีชีวิตที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ และพอคิดถึงตอนนั้นที่เขาทำกับเธอ ความเจ็บปวดของเธอนั้น เติมเต็มขึ้นมาเรื่อย ๆ ดังนั้นเสิ่นอีเวยใด้เพียงแต่นำความไม่ดี เหล่านี้มารู้สึกต่อตัวเขา เพียงเท่านี้จึงทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาอีก สักหน่อย
ในมุมมองของเขา นี่คือสิ่งที่เพิ่งเจ๋อเฉิงควรจะได้รับ
ดังนั้นในค่ำคืนที่แล้วเธอเลยไม่ได้ไว้หน้าเขาแม้แต่นิด เดียวเพื่อที่จะเปิดความเจ็บปวดภายในใจให้เขาได้รับรู้ ทำให้ เขารู้สึกถึงวิญญาณของแม่เขาที่จากไป
เสิ่นอีเวยก็ได้แต่มองหน้าตาคนที่นอนบนเตียงนอนอย่าง เงียบ ๆ พอผ่านไปหนึ่งคืนสีหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็เริ่มไม่เหมือน คนเมา เรือนร่างของเขาก็เริ่มมีการขยับ พอนำเสื้อสูทตะวันตก ถอดออกไป เขาคนนี้ก็เสมือนผู้ชายที่ไม่ได้มีการป้องกันอะไร เลย
เสิ่นอีเวยก็ได้ออกจากห้องนอนแล้วลงไป โทรศัพท์ที่วาง อยู่บนชุดน้ำชาก็ได้ดังขึ้น พอเอาขึ้นมาดู ก็หลินอวีที่โทรมา
“ฮัลโหล ผู้ช่วยหลิน” น้ำเสียงของเสิ่นอีเวยมีความเพลีย
“สวัสดีค่ะ คุณหญิงเสิ่น ตอนนี้คุณหญิงอยู่ที่บ้านตระกูล เชิงใช่ไหมคะ
“ฉันอยู่ค่ะ ทำไมหรือ ?”
น้ำเสียงของหลินอวี้เรียบง่ายและมีมารยาท “เป็นแบบนี้ ค่ะ วันนี้ประธานเชิ่งมีกิจกรรมการเดินทาง โดยความจริงแล้ว กำหนดเวลาไว้ที่ 9 โมงเช้า แต่ว่าเมื่อสักครู่นี้ได้ทำการติดต่อ ไปหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่มีการรับสายใด ดังนั้น…ดิฉันก็เลย โทรหาคุณหญิงเพื่อสอบถามสถานการณ์ค่ะ”
เสิ่นอีเวยคิดอยู่สักครู่ และตอบไปว่า “เซิ่งเจ๋อเฉิงเมื่อคืน
ดื่มหนักจนเมา ตอนนี้ยังไม่ตื่นเลย การเดินทางของเขาคงจะ ต้องยกเลิกไปก่อน ตอนนี้เธอน่าจะควรเตรียมตัวอย่างอื่นก่อน นะ”
ในสายโทรศัพท์หลินอี้ก็เงียบไปสักพักแล้วบอกว่า “รับ ทราบค่ะ ขอบพระคุณคุณหญิงเสิ่น”
การสนทนาของสองคนก็ได้จบเพียงเท่านี้
หากพูดถึงคนอย่างเชิงเจ๋อเฉิงคนนี้ ในวันธรรมตาเช่นนี้ ย่อมไม่มีวันหยุดติดต่อกันถึงสองวัน ดังนั้นวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ ไม่มีความหมายอะไรของเขา แต่ว่าเมื่อคืนกลับดื่มไปมากมาย เมาไปทั้งคืน
แต่ว่าเสิ่นอีเวยรู้สึกแปลกใจ ตลอดมาชายคนนี้เป็นคน เงียบ ลุ่มลึก สุขุม เห็นงานใหญ่เป็นสำคัญ เหมือนกันกับเช่นนี้ เพื่องานส่วนตัวของตัวเองเลยทำให้มีผลกระทบไปถึงการ ทำงานในวันที่สอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอเห็นเป็นครั้งแรก เชิงใช่ไหมคะ
“ฉันอยู่ค่ะ ทำไมหรือ ?”
น้ำเสียงของหลินอวี้เรียบง่ายและมีมารยาท “เป็นแบบนี้ ค่ะ วันนี้ประธานเชิ่งมีกิจกรรมการเดินทาง โดยความจริงแล้ว กำหนดเวลาไว้ที่ 9 โมงเช้า แต่ว่าเมื่อสักครู่นี้ได้ทำการติดต่อ ไปหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่มีการรับสายใด ดังนั้น…ดิฉันก็เลย โทรหาคุณหญิงเพื่อสอบถามสถานการณ์ค่ะ”
เสิ่นอีเวยคิดอยู่สักครู่ และตอบไปว่า “เซิ่งเจ๋อเฉิงเมื่อคืน
ดื่มหนักจนเมา ตอนนี้ยังไม่ตื่นเลย การเดินทางของเขาคงจะ ต้องยกเลิกไปก่อน ตอนนี้เธอน่าจะควรเตรียมตัวอย่างอื่นก่อน นะ”
ในสายโทรศัพท์หลินอี้ก็เงียบไปสักพักแล้วบอกว่า “รับ ทราบค่ะ ขอบพระคุณคุณหญิงเสิ่น”
การสนทนาของสองคนก็ได้จบเพียงเท่านี้
หากพูดถึงคนอย่างเชิงเจ๋อเฉิงคนนี้ ในวันธรรมตาเช่นนี้ ย่อมไม่มีวันหยุดติดต่อกันถึงสองวัน ดังนั้นวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ ไม่มีความหมายอะไรของเขา แต่ว่าเมื่อคืนกลับดื่มไปมากมาย เมาไปทั้งคืน
แต่ว่าเสิ่นอีเวยรู้สึกแปลกใจ ตลอดมาชายคนนี้เป็นคน เงียบ ลุ่มลึก สุขุม เห็นงานใหญ่เป็นสำคัญ เหมือนกันกับเช่นนี้ เพื่องานส่วนตัวของตัวเองเลยทำให้มีผลกระทบไปถึงการ ทำงานในวันที่สอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอเห็นเป็นครั้งแรก พอถึงตอนเย็นเสิ่นอีเวยก็เตรียมตัวทำกับข้าวยามเย็น เซึ่ง เจ้อเจ๊งก็ค่อย ๆ ลงมาจากห้องนอน ดูเหมือนว่าเขาน่าจะอาบ น้ำเสร็จแล้ว เผ้าผมมีความชุ่มชื้น แต่ก็เหมือนมีผมบางเส้นขี้ฟู
เสิ่นอี้เฟยไม่ได้มองเขามากนัก เลยกลับไปยุ่งเรื่องของตัว เธอเอง แต่ว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงกับเสียงเดินเท้าของเขายิ่งอยู่ยิ่งใกล้ ในใจของเธอก็รู้สึกมีความหงุดหงิด ในความคิดของเธอความ สัมพันธ์ของสองคนยิ่งอยู่ยิ่งเร่าร้อนมากยิ่งขึ้น แต่ทางที่ดีที่สุด คือทั้งสองฝ่ายต่างเห็นอีกฝ่ายเป็นอากาศดีที่สุด ใครก็ไม่สร้าง ปัญหาให้ใคร
แต่ว่า เพิ่งเจ๋อเฉิงก็ยังไม่ยินยอมที่จะเลิกลา
“หลินอวี้โทรมาหาแล้วพูดว่า เป็นคุณบอกว่ากผมดื่มเมา และให้เขาจัดการการทำงานในวันนี้หรือ ?” เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ยังคง สำเนียงที่เยือกเย็น
เสิ่นอีเวยไม่ได้สนใจอะไรเขา แม้แต่หัวก็ยังไม่หันไปหา
แต่ว่ากลับมาเสียงที่แหลมคมทะลุไปยังหูของเธอ “คุณมี สิทธิ์อะไรมาทำหน้าที่แทนผม ?”
ทันใดนั้นเสิ่นอีเวยถูกคำพูดนี้เลยโมโหขึ้นมา แต่ว่า ใบหน้าก็ยังรักษาสภาพความสุขุม แล้วเธอก็หันกลับมา สายที่ แหลมคมก็มองแต่เพิ่งเจ๋อเฉิง “คุณก็รู้สึกว่าจะดูว่าตนเองนั้น สูงส่งเหลือเกิน ชั้นก็ไม่ได้อยากจะทำอะไรแทนคุณหลอก เพียง แต่ว่าชั้นรู้สึกสงสารผู้ช่วยหลินแค่นั้นเอง คนอื่นก็มารอคุณผู้ บริหารตั้งแต่เช้า ก็ยังทำโทรศัพท์หาคุณตั้งหลายสาย แต่ผล พอถึงตอนเย็นเสิ่นอีเวยก็เตรียมตัวทำกับข้าวยามเย็น เซึ่ง เจ้อเจ๊งก็ค่อย ๆ ลงมาจากห้องนอน ดูเหมือนว่าเขาน่าจะอาบ น้ำเสร็จแล้ว เผ้าผมมีความชุ่มชื้น แต่ก็เหมือนมีผมบางเส้นขี้ฟู
เสิ่นอี้เฟยไม่ได้มองเขามากนัก เลยกลับไปยุ่งเรื่องของตัว เธอเอง แต่ว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงกับเสียงเดินเท้าของเขายิ่งอยู่ยิ่งใกล้ ในใจของเธอก็รู้สึกมีความหงุดหงิด ในความคิดของเธอความ สัมพันธ์ของสองคนยิ่งอยู่ยิ่งเร่าร้อนมากยิ่งขึ้น แต่ทางที่ดีที่สุด คือทั้งสองฝ่ายต่างเห็นอีกฝ่ายเป็นอากาศดีที่สุด ใครก็ไม่สร้าง ปัญหาให้ใคร
แต่ว่า เพิ่งเจ๋อเฉิงก็ยังไม่ยินยอมที่จะเลิกลา
“หลินอวี้โทรมาหาแล้วพูดว่า เป็นคุณบอกว่ากผมดื่มเมา และให้เขาจัดการการทำงานในวันนี้หรือ ?” เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ยังคง สำเนียงที่เยือกเย็น
เสิ่นอีเวยไม่ได้สนใจอะไรเขา แม้แต่หัวก็ยังไม่หันไปหา
แต่ว่ากลับมาเสียงที่แหลมคมทะลุไปยังหูของเธอ “คุณมี สิทธิ์อะไรมาทำหน้าที่แทนผม ?”
ทันใดนั้นเสิ่นอีเวยถูกคำพูดนี้เลยโมโหขึ้นมา แต่ว่า ใบหน้าก็ยังรักษาสภาพความสุขุม แล้วเธอก็หันกลับมา สายที่ แหลมคมก็มองแต่เพิ่งเจ๋อเฉิง “คุณก็รู้สึกว่าจะดูว่าตนเองนั้น สูงส่งเหลือเกิน ชั้นก็ไม่ได้อยากจะทำอะไรแทนคุณหลอก เพียง แต่ว่าชั้นรู้สึกสงสารผู้ช่วยหลินแค่นั้นเอง คนอื่นก็มารอคุณผู้ บริหารตั้งแต่เช้า ก็ยังทำโทรศัพท์หาคุณตั้งหลายสาย แต่ผล ปรากฏว่าคุณก็นอนจนไม่รู้เรื่องเสมือนคนตาย ชั้นรู้ว่าตลอด ดมาผู้ช่วยหลินเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาตลอด ดังนั้นเลยเพียงแต่ ให้ผู้ช่วยหลินจัดการเตรียมการให้เรียบร้อยแค่นั้นเอง ดังนั้น ยังไม่รู้อีกหรือ ? และสิ่งนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอเลย”
สำเนียงของเสิ่นอีเวย แม้ไม่ได้มีอารมณ์อย่างใด แต่ว่า สามารถเห็นจากการพูดได้ ทันใดนั้นใบหน้าของเพิ่งเจ๋อเฉิงก็ เริ่มเปลี่ยนไปน่าเกลียดกว่าเดิม แต่ว่าเสิ่นอีเวยก็ไม่ได้กลัว แม้แต่นิดเดียว แต่ยังคงมองหน้าเข้าด้วยความไม่กลัว
เพิ่งเจ๋อเฉิงขยับคิ้วของตน สายตาที่เต็มไปด้วยความ อันตราย “เมื่อสักครู่นี้คุณพูดว่า….คุณชอบหลินอวี้ ?”
เสิ่นอีเวยก็ไม่มีคำจะพูด เพราะรู้ว่าเขาเข้าใจผิดอีกแล้ว เลยไม่ได้คุยอะไรกับเขา
“หลินอวี่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับคุณ คุณทำไมต้อง ชอบเขาล่ะ ? คุณมีผู้ชายมากมายยังไม่พออีกหรือ ?”
เสิ่นอีเวยเกิดอารมณ์แล้วพูดว่า “เซิ่งเจ๋อเฉิงดูแล้วคุณนี่ยัง คงไม่สร่างเมาสินะ คุณคิดว่าทุกคนจะเป็นเหมือนคุณหรือ ? หลินอวี้เป็นผู้ช่วยคนมาก็นานมากแล้ว คุณมีสิทธิ์อะไรในการที่ จะย่ำยีเขา ? ”
เธอรู้สึกว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่สามารถที่จะพูดอะไร ด้วยเหตุได้
เพิ่งเจ๋อเฉิงก็ได้ยิ้มแสยะแล้วพูดว่า “ผมก็เป็นเพียงแต่ถูก คนหักหลัง ยังมีอีก หลินอวี้อยู่กับผมมาตั้งนาน คนอย่างเขาฉัน ปรากฏว่าคุณก็นอนจนไม่รู้เรื่องเสมือนคนตาย ชั้นรู้ว่าตลอด ดมาผู้ช่วยหลินเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาตลอด ดังนั้นเลยเพียงแต่ ให้ผู้ช่วยหลินจัดการเตรียมการให้เรียบร้อยแค่นั้นเอง ดังนั้น ยังไม่รู้อีกหรือ ? และสิ่งนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอเลย”
สำเนียงของเสิ่นอีเวย แม้ไม่ได้มีอารมณ์อย่างใด แต่ว่า สามารถเห็นจากการพูดได้ ทันใดนั้นใบหน้าของเพิ่งเจ๋อเฉิงก็ เริ่มเปลี่ยนไปน่าเกลียดกว่าเดิม แต่ว่าเสิ่นอีเวยก็ไม่ได้กลัว แม้แต่นิดเดียว แต่ยังคงมองหน้าเข้าด้วยความไม่กลัว
เพิ่งเจ๋อเฉิงขยับคิ้วของตน สายตาที่เต็มไปด้วยความ อันตราย “เมื่อสักครู่นี้คุณพูดว่า….คุณชอบหลินอวี้ ?”
เสิ่นอีเวยก็ไม่มีคำจะพูด เพราะรู้ว่าเขาเข้าใจผิดอีกแล้ว เลยไม่ได้คุยอะไรกับเขา
“หลินอวี่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับคุณ คุณทำไมต้อง ชอบเขาล่ะ ? คุณมีผู้ชายมากมายยังไม่พออีกหรือ ?”
เสิ่นอีเวยเกิดอารมณ์แล้วพูดว่า “เซิ่งเจ๋อเฉิงดูแล้วคุณนี่ยัง คงไม่สร่างเมาสินะ คุณคิดว่าทุกคนจะเป็นเหมือนคุณหรือ ? หลินอวี้เป็นผู้ช่วยคนมาก็นานมากแล้ว คุณมีสิทธิ์อะไรในการที่ จะย่ำยีเขา ? ”
เธอรู้สึกว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่สามารถที่จะพูดอะไร ด้วยเหตุได้
เพิ่งเจ๋อเฉิงก็ได้ยิ้มแสยะแล้วพูดว่า “ผมก็เป็นเพียงแต่ถูก คนหักหลัง ยังมีอีก หลินอวี้อยู่กับผมมาตั้งนาน คนอย่างเขาฉัน ต้องเชื่ออยู่แล้ว แต่ฉันไม่ค่อยอยากจะเขื่อมั่นในตัวผู้หญิง
อยากคุณ
ผู้หญิงอย่างคุณ
เส้นอีเวยเดิมที่จะไม่แคร์ความรู้สึกและความคิดที่เชิ่งเจ๋อ เฉิงมีแต่เธอ แต่ในใจของเธอก็ไม่สามารถเอาห้าคำที่ติดอยู่ใน ใจนี้ออกมาได้
เธอจึงสูดหายในลึก ๆ และกดทับความรู้สึกของตนเอง
“เซิ่งเจ๋อ เฉิน ชั้นไม่อยากจะมีปัญหาต่อปากต่อคำกับคุณทุกวัน ต่อไปนี้พวกเราไม่ยุ่งต่อกัน ดีไหม ? ”
พอพูดคำนี้ไปอารมณ์ที่เสิ่นอีเวยจะทำอาหารก็ไม่มีเสีย แล้ว ปล่อยของจากมือตนเองแล้วกำลังคิดจะเดินขึ้นไปบนห้อง
นอน
พอเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เสียงของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็ได้ปรากฏอยู่
บนหลังของเธอ
“เมื่อคืนเธอกินยาอะไรลงไป ? ”
ก้าวเดินของเสิ่นอีเวยเลยหยุดลง ต้องเชื่ออยู่แล้ว แต่ฉันไม่ค่อยอยากจะเขื่อมั่นในตัวผู้หญิง
อยากคุณ
ผู้หญิงอย่างคุณ
เส้นอีเวยเดิมที่จะไม่แคร์ความรู้สึกและความคิดที่เชิ่งเจ๋อ เฉิงมีแต่เธอ แต่ในใจของเธอก็ไม่สามารถเอาห้าคำที่ติดอยู่ใน ใจนี้ออกมาได้
เธอจึงสูดหายในลึก ๆ และกดทับความรู้สึกของตนเอง
“เซิ่งเจ๋อ เฉิน ชั้นไม่อยากจะมีปัญหาต่อปากต่อคำกับคุณทุกวัน ต่อไปนี้พวกเราไม่ยุ่งต่อกัน ดีไหม ? ”
พอพูดคำนี้ไปอารมณ์ที่เสิ่นอีเวยจะทำอาหารก็ไม่มีเสีย แล้ว ปล่อยของจากมือตนเองแล้วกำลังคิดจะเดินขึ้นไปบนห้อง
นอน
พอเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เสียงของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็ได้ปรากฏอยู่
บนหลังของเธอ
“เมื่อคืนเธอกินยาอะไรลงไป ? ”
ก้าวเดินของเสิ่นอีเวยเลยหยุดลง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ