ตอน95เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่
ตอนที่ 95 เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่
สวีอันฉิงรู้สึกประหลาดใจ เพราะไม่เคยคิดว่าคนอย่าง เซียวหันถึงจะมาขอความช่วยเหลือจากเขา เซียวหันถึงเห็น หน้าอันฉิงเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ แต่หันถึงก็ดูออกว่า อันฉิงคิดอะไรอยู่จึงพูดว่า คุณสวี่อย่าสำคัญตัวเองผิด เพราะผมไม่ได้ขอให้คุณช่วย แค่ต่างคนต่างได้ในสิ่งที่ตัวเอง ต้องการ ไม่มีใครเสียเปรียบหรือได้เปรียบ อันที่จริงผมก็ สามารถทำเองได้แต่ทำไมถึงยังมาร่วมมือกับคุณ นั้นก็เพราะ ผมคิดว่าการจะทำงานให้สำเร็จนั้นจะใช้วิธีอะไรก็ได้ไม่สำคัญ ขอเพียงแต่ให้บรรลุเป้าหมายก็พอ คุณก็คงจะเข้าใจในหลัก การนี้ดี ”
สวีอันฉิงมองไปที่เซียวหันถึงสักครู่ แล้วยิ้มออกมา ” เข้าใจอยู่แล้ว ไว้คราวหน้าขอให้ผู้จัดการเชียวให้คำ แนะนำด้วยนะคะ
เชียวหันถึงพยักหน้ารับจากนั้นหันไปมองที่เบาะหลัง สวีอันฉิงเปิดประตูรถ และเซียวถึงก็อุ้มเสิ่นอีเวยออกมา อย่างระมัดระวัง เหมือนกับกำลังอุ้มสิ่งของล้ำค่าที่หาได้ยาก
หันถึงอุ้มเสิ่นอีเวยเข้าไปในรถของตัวเอง แล้วหัน กลับมาพูดกับอันฉิงว่า ” เรื่องนี้ขอให้เรารู้กันแค่สองคนเท่านั้น ขอให้ร่วมมือกันด้วยดีนะ ”
พอพูดจบก็ไม่รอให้สวีอันฉิงตอบกลับ แล้วก็สตาร์ทรถ
ออกไป
เวลา 20:00 น.
ในฝันเสิ่นอีเวยรู้สึกปวดที่คอมาก เหมือนกำลังยืนอย่าง อยู่กลางอากาศ ทันใดก็ลืมตาตื่นขึ้นมา
มีเพียงแสงไฟอันริบหรี่ดวงเล็ก ๆ สีเหลืองอยู่ที่มุม หน้าต่าง เขามองไปรอบ ๆ รู้สึกไม่คุ้นกับสถานที่ จึงระมัดระวัง ตัวมากขึ้น
เสิ่นอีเวยอยากหาโทรศัพท์มือถือ แต่โทรศัพท์มือถือไม่ได้ อยู่กับตัว เขาก้าวลงจากเตียงโดยไม่ได้สวมรองเท้า เท้าก็ เหยียบไปที่พรมขนแกะสีขาวนุ่ม
” ตื่นแล้วเหรอ ” เป็นเสียงพูดของผู้ชาย
เสิ่นอีเวยรู้สึกตกใจ จึงหันไปตามเสียงพูด เขามองไปที่ กำแพง ตรงนั้นมีโซฟาเดี่ยวตั้งอยู่ ที่โซฟามีซายสวมเสื้อสีดำ กำลังนั่งอยู่ในความมืด
เสิ่นอีเวยนึกขึ้นได้ นั้นคือเสียงของเซียวหันถึง
ผู้จัดการเซียวหรือคะ ”
ลึก ๆ แล้วเสิ่นอีเวยรู้สึกตื่นเต้น เพราะไม่มั่นใจว่าเชียวหัน
ถึงเป็นคนดีหรือไม่
เสิ่นอีเวยได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ และเสียงฝีเท้า
ปั้ง !
ไฟในห้องก็สว่างขึ้น เียวหันถึงยืนอยู่ข้าง ๆ สวิตซ์ไฟ เสี่ นอีเวยใจเต้นแทบจะทะลุออกมาข้างนอก แล้วมองไปที่เซียวหัน ถึง ถามด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือว่า ” ที่นี่ที่ไหนคะ ทำไมฉันถึง มาอยู่ที่นี่”
เป็นครั้งแรกที่เสิ่นอีเวยได้เห็นเชียวหันถึงแต่งตัวแบบนี้ แต่ก่อนทุกครั้งที่เห็นเชียวหันถึงจะใส่ชุดสูทที่ดูเรียบร้อย ทำให้ คนที่เห็นแล้วรู้สึกดูเป็นคนเข้มงวดและน่าเกรงขาม แต่ตอนนี้ เขาใส่เสื้อไหมพรมสีดำกับกางเกงลำลอง ทำให้รู้สึกว่าเป็นคน น่าเข้าใกล้
เซียวหันถึงลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง แล้วมองเสิ่นอีเวย ด้วยความชอบพอ เป็นเพราะว่าเสิ่นอีเวยเพิ่งตื่นหน้าตาจึงยังดู งัวเงีย แต่ดวงตาที่กลมโตกลับมีความใสซื่อ เส้นผมที่ตกลงมา ปรกบนใบหน้าทำให้ดูแล้วอ่อนหวาน
เขียวหันถึงเอื้อมมือไป เพื่อจะช่วยจัดทรงผมให้กับเสี่ นอีเวย แต่เสิ่นอีเวยรีบหลบอย่างรวดเร็ว ” ฉันทำเอง ฉันทำเอง คะ ” มือของเซียวหันถึงเลยหยุดชะงักไปอยู่กลางอากาศ แต่ สีหน้าเขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรที่ถูกปฏิเสธแต่กลับหัวเราะเสียงดัง และไม่ได้พูดอะไร
” เธอจำเหตุการณ์ก่อนที่จะสลบไปได้ไหม ”
ในช่วงที่เชียวหันถึงถาม เสิ่นอีเวยก็เปิดผ้าห่มแล้วสำรวจดูตัวเอง ชุดเดิมที่ใส่อยู่ถูกเปลี่ยนไปแล้ว แล้วชุดนอนที่ใส่อยู่ เป็นของใครกัน
ตอนนี้ในใจของเสิ่นอีเวยมีความรู้สึกมากมายที่บอกไม่ ถูก เสิ่นอีเวยเงยหน้ามองไปที่เซียวหันถึง
จากสายตาและการกระทำของเสิ่นอีเวย เชียวหันถึงจึง เข้าใจทันทีว่า เสิ่นอีเวยต้องการจะถามอะไร แต่ไม่รู้ทำไม เชียว หันถึงก็รู้สึกอยากจะแกล้งเสิ่นอีเวย
” อิม ผมเป็นคนเปลี่ยนเสื้อให้คุณ ” เชียวหันถึงพูดด้วย
ใบหน้าที่จริงจัง
เสิ่นอีเวยเห็นท่าทางของเซียวหันถึงก็รู้สึกทันทีว่าเขาไม่ได้ พูดเล่น เวลานั้นเสิ่นอีเวนต์โมโหมาก พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำ
เดียว
” เออใช่แล้วล่ะ ผมอาบน้ำให้คุณด้วยนะ ”
เสิ่นอีเวยได้ฟังแบบนี้ ก็ไม่อยู่เฉย
เขาดึงผ้าห่มออกแล้วลงจากเตียง จากนั้นก็หาเสื้อผ้าของ ตัวเองไปทั่วห้องเพราะอยากจะรีบออกไปจากที่นี่ ไม่อยากอยู่ที่
นี่แม้แต่วินาทีเดียว
เมื่อเห็นใบหน้าที่โมโหของเสิ่นอีเวย เซิ่งเจ๋อเฉิงก็อด หัวเราะออกมาไม่ได้ จนกระทั่งเสิ่นอีเวยจับไปที่ลูกบิดประตู เชี่ยวหันถึงจึงพูดว่า “ ฉันโกหกเธอแหละ ผมให้คนรับใช้มาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณ”
เสิ่นอีเวยหยุดอยู่ที่เดิม พอรู้ตัวอีกทีตัวเองก็หันมาจ้อง เชียวหันถึงด้วยความโมโห
หลังจากโดนเซียวหันถึงแกล้ง เสิ่นอีเวยก็เริ่มตั้งสติได้ จึง คิดไปถึงเหตุการณ์ก่อนที่ตัวเองจะหมดสติ เซียวหันถึงโทรศัพท์ มาหา ซึ่งตัวเองก็เป็นคนขอให้เขาช่วย ตอนนี้พอเชียวหันถึงล้อ เล่นด้วยหน่อย ตัวเองกลับแสดงท่าทางที่ไม่เหมาะสมก็เลยรู้สึก ว่าตัวเองเสียมารยาท
” ฉันขอโทษนะคะ”
เชียวหันถึงยิ้ม ๆ แล้วบอกว่า ไม่เป็นไรหรอก ผมไม่ถือ” เสิ่นอีเวยลากเก้าอี้มานั่งฝั่งตรงข้ามเชียวหันถึง พูดอย่าง ไม่สบายใจว่า ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้ บอกฉันหน่อยได้ ไหม ตอนที่คุณไปช่วยฉันมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
สายตาของเสิ่นอีเวยมีความใสเป็นประกาย ตั้งใจมองไป ที่เชียวหันถิง เมื่อเชียวหันถึงถูกเสิ่นอีเวนต์มองด้วยสายตาแบบ นี้ ใจของเขาก็เต้นไม่เป็นจังหวะ เสิ่นอีเวยไม่รู้เลยว่าลึก ๆ แล้ว ในสายตาคู่นี้มีความปรารถนาอันแรงกล้า
สีหน้าของเซียวหันถึงนิ่งสงบ ” ปกติคุณมีศัตรูที่ใหนหรือ เปล่า หรือเพิ่งเจ๋อเฉิงไปเป็นศัตรูกับใคร เลยทำให้คนอื่นมาแก้ แค้นที่เธอแทน ตอนที่ผมไปถึง ชายผู้นั้นกำลังจะลากคุณขึ้นรถ พอผมช่วยคุณได้แล้ว ชายคนนั้นก็ขับรถหนีไป ”
เสิ่นอีเวยรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยเพราะเรื่องมันขาดช่วงไป หน่อย เลยไม่สามารถสืบต่อได้ เพราะถ้าจับผู้ชายคนนั้นได้ก็จะ รู้ที่มาที่ไปว่าเป็นอย่างไร รวมถึงเรื่องครั้งก่อนที่ตัวเองถูกใส่ ร้ายว่าเอาขวดยาของเสิ่นหุ้ยฉีดเข้าไปในอินซูลิน
เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเียวหันถึงยังรอคำตอบจากเขาอยู่ แต่เสิ่นอีเวยไม่อยากจะเล่ารายละเอียดเรื่องของตัวให้กับเซิ่ง เจ๋อเฉิงได้รู้ แล้วยังมีเรื่องอะไร ๆ ของเสิ่นหุ้ยจืออีก เสิ่นอีเวย เงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “ ฉันก็ไม่รู้เหตุการณ์อะไรนักหรอกคะ ” เพิ่งเจ๋อเฉิงก็คงจะไปทำให้ใครโกรธ คนอื่นก็เลยมาจับตัวฉัน ไปเพื่อข่มขู่เชิ่งเจ๋อเฉิงล่ะมั้ง
เสียงพูดของเสิ่นอีเวยยิ่งพูดยิ่งเบาลงเรื่อย ๆ เพราะแม้แต่ ตัวเองยังรู้สึกว่าเหตุผลนี้มันไม่เข้าท่าเท่าไร แต่ถ้าเรื่องที่เสี่ นอีเวยพูดไปเมื่อครู่เป็นเรื่องจริง แล้วเพิ่งเจ๋อเฉิงล่ะจะช่วยเขา หรือเปล่า แล้วเพิ่งเจ๋อเฉิงเองจะถูกข่มขู่ไหม
เชียวหันถึงจัดว่าเป็นคนฉลาด แค่มองก็รู้แล้วว่าเรื่องมัน คงไม่ง่ายขนาดนั้น ถึงเสิ่นอีเวยไม่ยอมพูด เชียวหันถึงก็ไม่ สนใจ เพราะเขาตัดสินใจแล้วว่าจะต้องได้ใจของเสิ่นอีเวยให้ ใต้ รอให้ถึงเวลาที่ได้ใจของเสิ่นอีเวยแล้ว ยังมีเวลาอีกมากที่ จะมาฟังเรื่องราวต่าง ๆ ของเสิ่นอีเวย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ