บทที่466ผมพาคุณกลับบ้านได้แล้วนะ
บทที่ 466 ผมพาคุณกลับบ้านได้แล้วนะ
มือที่ถือโทรศัพท์ของเพิ่งเจ๋อเฉิงชะงักไปทันที หลังจากที่ ได้ยินหล่อนพูด หันไปมองหญิงสาวตรงหน้า อาจจะเพราะเพิ่ง อาบน้ำ ผิวพรรณบนใบหน้าอาจจะถูกไอน้ำร้อนชะล้างมา ทำให้ในยามนี้ใบหน้าขาวอมชมพูอย่างเห็นได้ชัด เนียนนุ่ม ราวกับผิวของไข่ไก่ที่ปอกเปลือกออกแล้ว
บวกกับคำพูดอ่อนหวานเอาอกเอาใจของหล่อนเมื่อสักครู่ ในน้ำเสียงมีความประจบเอาใจ ในความทรงจำของเขา หล่อนไม่ได้ทำแบบนี้นานมากแล้ว อืม จะว่าไปแล้ววิธีนี้ก็ใช้ได้ ผลดีกับเขามากทีเดียว
การมองดูหญิงสาวที่แสนอบอุ่นและอ่อนโยนตรงหน้า เพิ่ง เจ๋อเฉิงทนไม่ไหวจริงๆ ถึงกลับยื่นมือออกมาลูบใบหน้านวล เนียนนั้น
นิ้วหัวแม่มือลูบไล้ไปบนหน้าผาก ไม่เพียงแค่ผิวที่รู้สึกก แต่ใจเองก็ยังรู้สึกจั๊กจี้
เวลานั้นเองทั้งสองต่างตกอยู่ในอารมณ์หวั่นไหว
เขาสูงกว่าหล่อนมาก เพิ่งเจ๋อเฉิงซ้อนใบหน้าหล่อนแล้ว ก้มลงไปจูบที่มุมหน้าผากของหล่อน ลมหายใจร้อนผ่าวรดลงละลายแล้ว
เนิ่นนาน หล่อนเสียงกระซิบเบาของเจ๋อ เฉิง: อีเวย ผมพากลับบ้านได้แล้วนะ
เงินอีเวย สั่น ยากจะความตื่นเต้น เธอออกเล็ก น้อยเพิ่มระยะห่างระหว่างตนเองและเขาก่อนจะเงยหน้ามา ดวงตาประกาย มุมปากรอยยิ้มน้อยๆ จริงเหรอ พวก เรากลับบ้านได้แล้วเหรอ คุณจัดการธุระเสร็จแล้วเหรอ
เพิ่งเจ๋อเฉิงหัวเราะมาเบาเขาหล่อน ย้อนถาม และไล่ตอบถามตามลำดับหล่อนถาม ด้วยเสียง ที่ยังคงอ่อนโยนจริงพวกเรากลับบ้านแล้ว จัดการ ธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ท่านฉินจับหานเฟิงล่ะยังไงบ้างเสิ่นอีเวยยังคงถามถามต่อ หยุดหายใจหายคอเลย
เพิ่งอดทน”ท่านฉันจับแล้ว คดีใหญ่ไปสังคม ตำรวจเพื่อเข้าไปไม่คนตายหรือบาดเจ็บ ภารกิจของฉีเฟิงตอนนี้คงไปหน่วยงานสังกัดอยู่แล้ว
เมื่อสักครู่ว่า เราในประโยคหล่อนพูดนั้นมันทำให้เพิ่งเจ๋อเฉิงสุขใจมาก ดังนั้นตอนนี้เขาจึงอารมณ์ดีมาก ดี จนกระทั่งแม้ว่าเสิ่นอีเวยยังคงเป็นกังวลเป็นห่วงเป็นใยใน ความปลอดภัยของหานนี้เพิ่งแต่เขาก็ไม่ได้ถือสาอะไร
เมื่อเสิ่นอีเวยได้รับรู้เรื่องราวรายละเอียดทั้งหมดจากปาก ของเพิ่งเจ๋อเฉิง ใจจึงสงบลงมาได้ ใช่แล้วเรื่องทุกอย่างสงบลง แล้ว พวกสามารถกลับไปได้อย่างสบายใจแล้ว
สำหรับหานฉีเฟิง ผู้ชายที่ซื่อสัตย์และจิตใจดีแบบนั้น เธอ ไม่มีโอกาสได้ร่ำลากับเขา เสิ่นอีเวยรู้สึกเสียดายเล็กน้อยแต่ก็ ไม่สำคัญหรอก คนบางคนฟ้าก็กำหนดมาให้ปรากฏตัวขึ้นใน ชีวิตใครคนหนึ่ง เมื่อร่วมชะตากรรมไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ทั้ง สองก็อาจจะไม่ได้พบกันอีกเลยก็ได้
และนี่ก็คือความเป็นไปของสรรพสิ่งบนโลกใบนี้
หล่อนชื่นชมในความกล้าหาญของเขา ต่อไปก็ขอให้เขามี แต่ความราบรื่น
สิ่งที่เสิ่นอีเวยไม่รู้ ก็คือบ่ายสองโมงตรงของวันนี้ ท่านฉัน กับพวกถูกตำรวจจับ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ทว่าระ หว่างเพิ่งเจ๋อเฉิงกับหานฉีเฟิงนั้นกลับเกิดบทสนทนาหนึ่งขึ้นมา แทน
ในตอนนี้ หานฉีเฟิงที่เพิ่งจะไปช่วยเหลือตำรวจจัดการ เผด็จศึกท่านฉินมา ดังนั้นเขาจึงบอบช้ำอ่อนเพลียมาทั้งตัว แต่ ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว กลับไม่ได้ทำให้ท่าที่สะอาดสะอ้าน เฉียบขาดของเขาหายไปเลย เขาพิงกำแพงแล้วจุดบุหรี่มวนหนึ่ง พลางหันไปพูดทีเล่นทีจริงกับเพิ่งเจ๋อเฉิงที่อยู่ตรงข้าม : “เจ้าหน้าที่เพิ่ง ให้ผมได้ไปบอกลาเธอหน่อยเถอะนะ”
หานฉีเฟิงเรียกเขาว่าเจ้าหน้าที่เพิ่ง เหมือนตอนสมัยที่พวก เขายังอยู่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ เขาเป็นหัวหน้าของหานนี้เพิ่ง สีหน้าท่าทางที่ฝึกฝนหานนี้เพิ่งอย่างเข้มงวดจริงจัง
ผ่านมาหลายปี ทั้งสองเดินบนเส้นทางที่แตกต่างกัน ความเฉียบคมสมัยหนุ่มๆตอนที่อยู่หน่วยปฏิบัติการพิเศษนั้น ไม่มีอยู่ในตัวของเซิ่งเจ๋อเฉิงนานแล้ว แต่คนที่กำลังสูบบุหรี่ ตรงหน้า ยังคงมีไหวพริบและมุทะลุเช่นเดิม
แต่น้ำเสียงของหานนี้เพิ่งที่พูดออกมาแบบตามใจชอบ แต่เหมือนจะต้องการให้อีกฝ่ายรับคำขอเขาอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่ก็ยังทำให้สีหน้าของเพิ่งเจ๋อเฉิงนั้นเคร่งขรึมขึ้นมา: “คุณ กล้าพูดอีกทีมั้ย”
แน่นอนว่าหานฉีเฟิงไม่กล้า จึงได้แต่ตามน้ำไปว่า “ผม แค่ล้อคุณเล่นเท่านั้นเอง”
วินาทีต่อมาต่างก็เบะปากไม่มีใครพูดจาอะไร ชายหนุ่ม ทั้งสองสบตากัน สุดท้ายเพิ่งเจ๋อเฉิงก็เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนว่า “นายก็ตั้งใจทำงานไป ฉันขอลาตรงนี้เลยแล้วกัน”
หานนี้เพิ่งคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำบอกลาจากปากของเชิง เจ๋อเฉิงก่อน เพราะปกติแล้วนิสัยเขาเป็นคนเย็นชาอย่างชัดเจน แม้ว่าเมื่อหลายปีก่อน เขาจะเป็นลูกน้องของเพิ่งเจ๋อเฉิงอเพียงแค่ไม่หนึ่งเดือนก็ตาม แต่เขาก็เป็นลูกน้องที่เขาภาค ภูมิใจที่สุด ถึงจะไม่ได้เจอกันหลายปี แต่ระหว่างพวกเขาสอง คนก็มีความเข้าอกเข้าใจบางอย่างที่พูดออกมาไม่ได้ ดังเช่น ภารกิจรวบตัวท่านฉินนี้
พอพูดจบประโยคเพิ่งเจ๋อเฉิงก็ไม่ได้หันมามองหานนี้เป็ งอีกเลย เขาหมุนตัวเดินกลับไปในทิศทางที่เขาจะไป
ส่วนหานนี้เพิ่งหยิบบุหรี่ออกจากปาก ขยี้ลงที่พื้น ยกมือ ขึ้นมาตะเบ๊ะตามธรรมเนียมทหาร เจ้าหน้าที่เพิ่ง รักษา สุขภาพนะครับ”
เพิ่งเจ๋อเฉิงที่เดินอยู่ข้างหน้าได้ยินเสียงเขา ไม่ได้หันกลับ มามอง เพียงแต่ยกมือขึ้นมาโบกไปมา
เมื่อหวนคิดถึงภาพที่เขาจากลาหานฉีเฟิง เขาก็รู้สึก ประทับใจอยู่บ้าง ที่เจ้านั่นเป็นนักสู้จริงๆ กล้าเอาตัวเข้ามาเป็น สายลับของอาชญากรคนสำคัญ นับว่าไม่เสียแรงที่เป็นลูกน้อง ที่เขาฝึกมากับมือ
เวลานี้ เมื่อมองหาหญิงสาวตรงหน้า ทำให้เกิดความรู้สึก หนึ่งขึ้นมา
เมื่อก่อนตอนที่เขายังอายุน้อยๆ ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ เขามักจะคิดว่าอำนาจที่อยู่ในมือคือสิ่งที่สัมผัสได้อย่างแท้จริง ดังนั้นเขาจึงไม่เสียดายที่จะยอมสละแรงกายและเวลาเพื่อให้ ได้มันมา
แต่สำหรับเซิ่งเจ๋อเฉิงตอนนี้ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ทำอะไรขอแค่ ได้อยู่กับหล่อน เรื่องอื่นใดก็ไม่สำคัญอีกต่อไป
พวกเรา กลับบ้าน ด้วยกัน
ในเวลานี้ คหกค่าที่เขาชอบที่สุดในชีวิตที่เหลืออยู่ ชาย หนุ่มดึงหญิงสาวเข้าไปในอ้อมกอดเบาๆ เขาใช้ปลายคางกดที่ เหนือศีรษะของหล่อนไว้ คลึงเบาๆอย่างทะนุถนอม
ในมุมที่หญิงสาวไม่สามารถมองเห็นนั้น มุมปากของชาย หนุ่มยกขึ้น
จนเกิดเป็นรอยยิ้มที่สบายใจที่สุดในช่วงหลายวันมานี้ ส่วนอีกด้านในใจเสิ่นอีเลยมีความกังวลเล็กน้อย
เธอกับเซิ่งเจ๋อเฉิงอยู่ที่นี่ตลอดช่วงหลายวันมานี้ หลังจาก ต่างฝ่ายต่างเผยความในใจแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ก็เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน แต่โชคดีที่เปลี่ยนไปในทางที่ดี ไม่มีอุปสรรคใดๆ แต่สิ่งที่เสิ่นอีเวยไม่มั่นใจก็คือ เมื่อกลับไปที่ บ้านของเขาเรื่องราวทั้งหมดนี้มันจะยังคงราบรื่นสวยหรูแบบนี้
เป็นเพราะอยู่ที่นี่ไม่ได้ยินเสียงรบกวนใดๆจากคน ภายนอก แต่เมื่อกลับไปแล้วก็ไม่แน่ หล่อนมีความรู้สึกของเห มียนเหมียนที่เธอต้องคอยดูแล แถมยังต้องเผชิญหน้ากับ สภาพที่พวกเขากลับมาคืนดีกันอีก
ตัวเอง จะทำได้มั้ย ในใจของเงินอีเวยยังไม่ค่อยแน่ใจ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ