บทที่457ยังเป็นผู้ชายหน้าด้านเหมือนเดิม
บทที่ 457 ยังเป็นผู้ชายหน้าด้านเหมือนเดิม
หลินอมองอากัปกิริยาสิ่งที่เป็นอีเวยกำลังทำอยู่พลางใช้ สายตามองไปทางเชิงเจ๋อเฉิงแทน ส่วนเพิ่งเจ๋อเฉิงที่เห็นสายตา เหมือนสงสัยอะไรสักอย่างของเขาเลยขมวดคิ้วแน่น “ยังชักช้า อยู่อีกหรอ?”
หลินอวี้รีบเร่งทำเอกสารในการเข้าพักที่นี่ให้เสร็จอย่าง เร่งด่วนเพราะกำลังถูกเขาเร่งอย่างชัดเจน
ทั้งสองห้างอยู่ชั้นเดียวกันแต่ไม่ได้ติดกัน เพิ่งเจ๋อเฉิงพาเสี นอีเวยเข้าห้องสุดท้ายของทางเดิน ส่วนห้องของหลินอนั้นอยู่ ตรงกลางของชั้นได้
ยามเมื่อเข้าด้านในห้องแล้ว เสิ่นอีเวยก็กระโดดออกจาก อ้อมกอดอย่างเร่งรีบจนเกือบที่จะยืนไม่ตรง เธอตกใจมาก พลางหันไปมองผู้ชายข้างๆที่ทำหน้านิ่งๆอยู่: “คุณจะทำอะไร?
เพิ่งเจ๋อเฉิงเหล่ตาขึ้นมองเธอแทน “ยังไงทำอะไร?
“แล้วทำไมต้องมาอยู่ห้องเดียวกันด้วยล่ะ?” เสิ่นอีเวยถา มกลับเพราะเรื่องนี้มันเป็นอุกอาจเห็นได้ชัด
ใครสักคนที่เพิ่งจะรอดตายจากอาการหวาดกลัวจากที่ ไกลแสนไกลมาได้ ในยามนี้ที่ต้องมาเผชิญหน้ากับผู้ชายที่ นิสัยเผด็จการอย่างนี้ นิสัยคิดเล็กคิดน้อยของเสิ่นอีเวยเริ่ม กลับมาทีละนิด
“หรือสาเธอไม่ได้ยินที่เถ้าแก่เนี้ยะพูด? มันเหลือแค่สอง ห้อง เธออยากจะนอนห้องนั้นคนเดียว งั้นจะให้หลินอไปนอน ข้างถนนงั้นหรอ?” น้ำเสียงของเขาล้อเลียนเธออยู่นิดๆ
เงินอีเวยถึงกับตะลึงงัน ผู้ชายคนนี้ทำไมตอนนี้กลับให้ ความรู้สึกแปลกประหลาดไป?
เดิมที่คิดว่าจะไม่ตอบอะไรซะแล้ว แต่ว่ากลับมาคิดอีกที ถ้าตอนนี้ไม่ตอบเหมือนว่าตัวเองกำลังทำตัวไร้เหตุผลอยู่ เสี นอีเวยคิดสรรหาค่าอยู่ในแล้วเอ่ยขึ้นมา “พวกคุณสองคนเป็น ผู้ชายนี่หน่า นอนห้องเดียวกันก็ได้
“ฉันไม่ชินกับการนอนกับคนอื่นบนเตียงเดียวกัน เพิ่งเจอ เฉิงพูดอย่างเย็นชา แล้วเริ่มถอดเนคไทด์ที่คอเสื้อออก เสี นอีเวยถึงได้สังเกตเห็นว่าเขาเหนื่อยล้าเต็มทน ใต้ตากลับมี รอยคล้ำเป็นวงกว้าง ดูก็รู้ทันทีว่าคงไม่ได้นอนพักผ่อนสักเท่า ไหร่
“แต่ในห้องนี้ก็มีแค่เตียงเดียว” เสิ่นอีเวยเริ่มพูดต่อ เพิ่งเจ๋อเฉิงหันไปทางเธอแต่กลับไม่ได้พูดว่าอะไร เสิ่นอีเวยรู้ตัวทันทีว่าตอนนี้ตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่เขินอายกับสภาพที่เป็นอยู่ สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้านี้เธอไม่ คาดคิดว่าก่อนเลยว่ามันจะเกิดขึ้นมาได้ เดิมทีการที่ถูกผู้ชาย คนหนีช่วยเธอให้หลุดรอดมาได้นั้นมันก็ดูไม่เป็นความจริงไป แล้ว แถมตอนนี้ต้องมานอนห้องเดียวกับเขาอีก
สมองเสิ่นอีเวยถึงกลับหยุดคิดไปทันที
ช่วงที่เธอกำลังครุ่นคิดว่าต่อไปจะเอายังไงดี เสียงของเพิ่ง เจ๋อเฉิงกลับดังแทรกขึ้นมาแทน “เธอต้องรู้ว่าฉันใช้พลังงาน มากแค่ไหนที่ช่วยเหลือเธอออกมาได้ ไม่ใช่ว่ายอมให้เธออยู่ คนเดียวแล้วให้เรื่องมันเกิดขึ้นมาอีก
น้ำเสียงของเขาซ่อนเร้นความหนาวเหน็บเอาไว้ก้อนใหญ่ ทีเดียว เมื่อพูดจบ อุณหภูมิบรรยากาศโดยรอบเหมือนลดต่ำ
ลง
เสิ่นอีเวยกับเขาสบตากันอยู่สักพักแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรขึ้น เธอทำราวกับกำลังพินิจพิจารณาความหมายในคำพูดของเขา
อยู่
“ทำไม?” เธอเหมือนเริ่มตั้งตัวได้ทีละนิด น้ำเสียงที่ที่ แสดงอาการในเวลาถามออกมานั้นเริ่มกล้าทีละนิด
“ทำไมถึงช่วยฉัน?” เธอถามสิ่งที่ใจเธออยากถามออกมา โดยตลอด แต่หัวใจของเธอเองกลับเต้นโครมครามควบคุมไม่ อยู่จริงๆ
เพิ่งเจ๋อเฉิงยืนนิ่งเงียบแต่สายตาที่สื่อออกมานั้นซึ่งเป็นเฉียบมันทำให้คนที่พบเห็นไม่อยากจะเข้าใกล้ด้วยซ้ำ นอีเวยคิดเองเออเองเข้าใจว่าสายตาที่ฝ่ายตรงข้ามสื่อออกมา นั้นมันเป็นการปฏิเสธที่จะตอบคำถามเธอ
เธอพูดต่อทันที “คุณไม่ใช่ยุ่งอยู่กับเรื่องซื้อกิจการอยู่ หรอ? ตามหลักแล้วระยะนี้เป็นเวลาที่คุณจะงานรัดตัวไปไหนไม่ ได้เลย ทว่าทำไมถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้ล่ะ? อีกอย่าง คุณกับ หานนี้เพิ่งเกี่ยวข้องอะไรกัน? เรื่องที่ช่วยฉันออกมานั้นพวกคุณ ดูเหมือนว่าร่วมมือกันอยู่
พอสติสตังค์เริ่มกลับมา สติสัมปชัญญะก็ค่อยกลับมา เรื่อยๆ การพูดออกมาทีละคำทีละประโยคนั้นดูมีน้ำหนักมาก มันยากนักที่ใครจะปล่อยผ่านไม่สนใจความคิดของเธอ
เพิ่งเจ๋อเฉิงมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า เธอสวมใส่เสื้อเชิ้ตสี ขาว ส่วนกระดุมคอเสื้อสองเม็ดนั่นหายไปตั้งนานแล้ว หากใช้ กับผมสีดำมาเย็บให้เข้ากัน ก็สามารถพอพูดได้ว่าไม่ได้โป๊ได้ บ้าง
ไหล่เรียวบางยังมีรอยช้ำเลือดอยู่นิดๆ เธอแก่นแก้วขนาด ไม่ได้ใส่ตัวเองเลยสักนิดถึงไม่รู้เลยหรือไงว่าตัวเองได้รับบาด เจ็บอยู่?
ยิ่งได้ยินที่เธอเรียกชื่อ “หานฉีเฟิง” ออกมา เขายิ่งขมวด คิ้วขึ้นแถมน้ำเสียงกลับเย็นชาหนักกว่าเก่าหลายเท่า “คืนนั้นที่ ฉันเข้าไปในห้องของพวกเธอ เธอกับหานนี้เพิ่งทำอะไรกัน อยู่?”
เงินอีเวย ใจเต้น สมองกลับไปคิดทบทวนความทรงจําใน คืนวันนั้น จนหน้าเธอแดงระเรื่อขึ้นมาทันที
ยิ่งได้เห็นใบหน้าของเพิ่งเจ๋อเฉิง คนๆนั้นดูท่าทางโกรธ
จริงๆ เสิ่นอีเวยไม่สบายใจเธอพยายามอึ้งอยู่นานจนใน ที่สุดก็พูดออกมา “เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวข้องกับคุณ?
เขารู้สึกเหมือนถูกเธอใส่อารมณ์เยาะเย้ยอยู่: “ครั้งนี้ฉัน ช่วยชีวิตเธอ แต่เธอกลับตอบคำถามแบบนี้กับฉันมันสมควร ไหม?”
เงินอีเวยเดิมทีคิดอยากจะตอบกลับ: ฉันไม่ได้ให้คุณมา
ช่วยฉันนี่
แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร การที่ได้คิดถึงเรื่องที่ตัวเธอเองหนี ออกมาจากห้องนั้นได้ แล้วเป็นเขาที่มาคว้าแขนเธอไว้ในยาม นั้น เสิ่นอีเลยกลับพูดไม่ออกแทน
สุดท้ายแล้วอารมณ์ที่อัดอั้นอยู่ภายในใจทำได้แค่อธิบาย ออกมาอย่างเรียบง่ายแทน: “คืนนั้นเราสองคนไม่ได้ทำอะไร กัน”
“เรางั้นหรอ? เธอกลับเขาต่างไม่รู้จักมักจี่กัน ทว่าตอนนี้ ต่างเรียกแทนตัวกันว่าเราหรอ?” น้ำเสียงของเขาแสดงอาการ ไม่พอใจอย่างออกนอกหน้า เสิ่นอีเวยได้ยินอย่างชัดเจน
“นี่มันก็แค่วิธีพูดเท่านั้นแหละ ฉันกับหานฉีเฟิงก็ไม่ได้รู้จัก กันนี่”
ไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้นงั้นหรอ?
เพิ่งเจ๋อเฉิงตั้งคำถามอยู่ในใจ ส่วนสายตาเย็นชากลับเพ่ง มองอยู่ที่ร่องรอยบนลำคอระหงของเงินอีเวยที่ไม่สามารถ ปิดบังเอาไว้ได้ ลำคอขาวเนียนละเอียดแต่กลับมีรอยจูบเล็ก ใหญ่เต็มไปทั่ว ด้วยเวลาหลายวันที่ผ่านมานี้มีบางรอยได้จาง ลงไปบางแล้ว
แต่ว่าดูไปแล้วก็มีความรู้สึกอบอุ่นและลึกลับ อีกทั้งยัง ให้ความรู้สึกล่อแหลมเข้าตา
หน้าผากของเพิ่งเจ๋อเฉิงแสดงออกถึงความโมโหขึ้นมา
เขาเดินเข้าใกล้เงินอีเวยจนระยะใกล้มาก จนเสิ่นอีเวยสามารถ ได้รับรู้กลิ่นลมหายใจบนร่างกายของเขา
น้ำเสียงของเพิ่งเจ๋อเฉิงนั้นเหมือนจะต้องรู้ทุกอย่างให้ เข้าใจอย่างชัดเจน: “ถ้าบอกว่าไม่ได้ทำอะไร งั้นเธออธิบายว่า
มารอยจูบบนคอของเธอมันเกิดขึ้นมายังไง
เงินอีเวยถึงกลับอึ้งทันที พอเขาพูดจบเธอถึงรีบเอามือ ลูบคลำบริเวณลำคอของตัวเองทันทีตามที่เขาพูด ถึงได้ นึกออกว่าในคืนนั้นหานฉีเฟิงเขาใช้แรงรุนแรงไปหน่อยจน ทำให้รอยจูบบนลำคอของเธอนั้นผ่านมาหลายวันเลยยังไม่ ค่อยจางหายไปสักเท่าไหร่
ใบหน้าของเธอเริ่มร้อนผ่าว แล้วเริ่มพยายามดึงคอเสื้อ ของตัวเองเอามาปิดมันไว้แทน: “ทำไมฉันต้องอธิบายให้คุณ เข้าใจด้วยล่ะ?”
คำพูดเย็นชาของประโยคนี้มันทำให้บรรยากาศระหว่าง คนสองคนตึงเครียดไปถึงจุดเยือกแข็ง ตอนเธอเงยหน้าขึ้นไป มองเขานั้น หัวใจของเงินอีเวยเหมือนกำลังเตรียมทำสงคราม เย็นอยู่เพราะว่าสายตาของเพิ่งเจ๋อเฉิงที่สื่อออกมานั้นมันช่าง เย็นชาจนน่ากลัว
เสิ่นอีเลยกลับรู้สึกว่า ถ้าตัวเองพูดเพิ่มอีกสักประโยค ผู้ชายคนนี้คงโยนเธอออกไปทิ้งไว้ที่ถนนข้างนอกอย่างไม่ต้อง สงสัยทำเหมือนกับว่าคืนนี้ไม่ได้เป็นคนช่วยเธอออกมา
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ