นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่428หรือว่าจะให้โอกาสเขาอีกครั้งหนึ่ง



บทที่428หรือว่าจะให้โอกาสเขาอีกครั้งหนึ่ง

บทที่ 428 หรือว่าจะให้โอกาสเขาอีกครั้งหนึ่ง

ไหล่ของเสิ่นอีเวยก็เหมือนมีอะไรอื่น ๆ มาวางไว้บนไหล่ เธอ นั่นก็คือมือของเพิ่งเจ๋อเฉิงที่มาจับ

เสียงที่อ่อนนุ่มของเขา เหมือนกับเด็กน้อยที่ออดอ้อน “ผม ไม่อยากจะโกหกคุณ ก่อนที่ผมจะเอาพินัยกรรมจากสวีอันจึง ผมกับสวีอันนึงก็น่าจะต้องมีการสัมผัสกันบ้างเล็กน้อย เสี่ยว เวย…. ”

ซึ่งเจ๋อเฉิงก็กำลังจัดการสายตาและอารมณ์ของตัวเอง เพื่อที่จะให้ฟังไปแล้วรู้สึกมีความสงบมากขึ้น “ผมรู้ คุณนั้น ผ่านการทรมานมาอย่างมากมาย หรืออาจจะไม่อาจจะหลุดพ้น ออกจากสิ่งที่ผมทำร้ายคุณ ผมก็เช่นกัน ดังนั้นขอให้คุณนั้น เข้าใจผม ใช่ไหม”

เพิ่งเจ๋อเฉิงก็มองไปยังสายตาของเล่นอีเวย แต่ท่าทาง กลับไม่ใช่ขอร้องเธอเพื่อให้ได้คำตอบเช่นนั้น

เวลาผ่านไป เงินอีเวยก็ไม่ได้พูดอะไร ระยะเวลานี้เธอนั้น ก็ไม่อยากจะหลอกตัวเอง ตอนที่เพิ่งเจ๋อเฉิงนั้นกำลังมองหน้า เธออยู่นั้น เธอก็ยอมรับแล้วว่าค่อย ๆ เริ่มที่จะค่อย ๆ ยินยอมเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะ ชัดเจนเหมือนตอนแรก

ในใจก็เริ่มมีความอึดอัด แต่

ไม่ได้

เพิ่งเจ๋อเฉิงนั้นพูดถูก ใครไม่เคยผ่านอดีตมาล่ะ ? ตัวเอง นั้นก็ยังเคยถูกความทุกข์ระทมกับคนที่ระรานไม่เลิก เพิ่งเจอ เฉิงนั้นแข็งแกร่ง แต่ก็ยังมีความอยากกระหายในใจ ยังมีสิ่งที่ ตัวเองนั้นอยากจะดูแลและอยากได้อยู่เช่นกัน หรือเรานั้นจะให้ โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่ง

ณ เวลานี้ เพิ่งเจ๋อเฉิงก็เอ่ยปากขึ้นทันใด “ผมไม่ใช่จะเอา คำตอบจากคุณตอนนี้ แต่ครั้งนี้ คุณสามารถให้เวลาตัวเองที่ มากพอ ตัดสินใจที่จะเริ่มใหม่กับผม ดีไหม ?”

เสิ่นอีเวยตกใจ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วก็ตัดริมฝีปากตัว

เอง

นานชั่วครู่หนึ่ง เพิ่งเจ๋อเฉิงนั้นก็ดูเหมือนเธอนั้นไม่มีท่าทีที่ จะให้คำตอบอะไรเลย ก็เลยถามไปว่า “งานเลี้ยงคืนนี้ คุณรู้จัก เขาหรือ ? ”

เสิ่นอีเวยตอบว่า “ไม่รู้จัก

เพิ่งเจ๋อเฉิงเหมือนคิดอะไรอยู่แล้วก็พยักหน้า เสิ่นอีเวย เลยเห็นถึงสายตาของเขาแล้วถามว่า “มีอะไรหรือเปล่า ?

“ไม่มี” ผู้ชายเก็บอารมณ์ เก็บจนไม่มีสีหน้าใดใด

“ดึกแล้ว คืนนี้ก็อยู่ที่นี่แล้วกันนะ

เสิ่นอีเวยก็รู้สึกลังเลใจอยู่สักครู่หนึ่ง ในอารมณ์ที่ไม่นิ่งนอนใจซึ่งยังไม่อาจจะแก้ไขถึงสภาพการณ์ตอนนี้ได้ สองคน อยู่ด้วยกันบางทีอาจจะรู้สึกเขินอายอย่างยิ่ง คิดแล้วคิดอีกก็ เลยปฏิเสธไป “ไม่แล้วล่ะ ฉันอยากจะกลับไปดูแลเหมียนเห มียน รบกวนคุณไปส่งฉันหน่อยได้ไหม ?

เพิ่งเจ๋อเฉิงมองสายตาเธอแล้วก็ตอบกลับไปว่า “ได้สิ ไป กันเถอะ”

พอออกมาหน้าบ้าน ฝนก็เพิ่งจะหยุดไป อารมณ์ของเสี นอีเวยที่ไม่ค่อยดีนัก กลับมีความสงบมากยิ่งขึ้น รถก็เริ่มเล่น ออกไป

พอหลังส่งเสิ่นอีเวยเสร็จ ณ เวลานั้นก็ตีหนึ่งแล้ว ก็เลย หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็เห็นสิบกว่าสายของหลินอวี้ เขาก็เลยโทร ไป

“การซื้อครั้งนี้คงไม่อาจจะสำเร็จได้ ก็เตรียมแผนการขั้น

ต่อไปเถอะ ” เพิ่งเจ๋อเฉิงก็สั่งออกไป

หลินอวี้ทำงานกับเซิ่งเจ๋อเฉิงมานาน แน่นอนก็ต้องรู้ถึง นิสัยของเขาเป็นอย่างดี ดังนั้นการเป็นผู้ช่วยที่ดีหากไม่ใช่เรื่อง ที่มีความสำคัญมากขนาดนั้น เถ้าแก่ก็คงไม่ปฏิเสธการรับ โทรศัพท์ที่สำคัญเช่นนี้ ดังนั้นหลินอวก็ไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป

“ผู้ชายคนนั้นจัดการหรือยัง ? ” เพิ่งเจ๋อเฉิงถาม

หลินอตอบกลับไปว่า “เรียบร้อยแล้ว

“การคาดการณ์ของท่านนั้นไม่ผิดเลย ผู้ชายคนนั้นก็คือคนที่เงินฮุย ให้มาทำร้ายคุณนายเชิง

“ดีมาก คุณก็ไปจัดการเองละกัน ฉันไม่อยากได้ชีวิตเขา แต่อยากให้เขารู้ถึงความน่ากลัวของเรื่องราวนี้” เพิ่งเจ๋อเฉิงใช้ น้ำเสียงที่เยือกเย็น ซึ่งทำให้กลับสู่สภาพปกติที่น่ากลัวและเย็น ชา

เสิ่นอีเวยที่เมาในคืนนั้น ตอนที่เพิ่งเจ๋อเฉิงได้ยินว่าเป็น ยกลับมาแล้ว แล้วพูดเรื่องราวที่ทำให้เธอนั้นอับอาย ในหัว สมองของเขานั้นก็ได้แต่อดทน และไม่อาจจะระบายออกมาได้

เสิ่นอีเวยเคยถูกโดนโจมตีอย่างหนัก ใครก็ไม่อาจจะ รับรองได้ว่าการรักษาที่หายได้ของเธอนั้น แล้วกลับมาประเทศ บ้านเกิด ไม่รู้ว่าจะทำอะไรที่ไม่ดีไม่ร้ายกับเสิ่นอีเวย แต่สิ่งที่ ทำร้ายเธอนั้นก็คือพ่อแม่ของเงินอีเวย แต่ตอนนี้พ่อแม่ของเธอ นั้นไม่อยู่แล้ว แน่นอนว่าจะต้องหันกลับมาทำร้ายเงินอีเวยอ ย่างแน่นอน

ดังนั้นหลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เขาก็เลยส่งคนไปสะกด รอยตามของเงินฮุย และไม่ให้เธอนั้นไปเจอกับเงินอีเวยสอง ต่อสอง แต่ครั้งนี้ ชัดเจนว่าเขานั้นพลาดไปแล้ว

แต่ผู้ชายคนนั้นแสดงละครได้เก่งมาก จนกระทั่งถูกเขาจับ ได้แต่ก็ยังยืนกรานขาเดียว ตัวเองพูดว่าเป็นเพราะตัวเองนั้น ดื่มมากไปก็เลยไปทำอนาจารเช่นนั้น เพิ่งเจ๋อเฉิงแน่นอนว่าไม่ เชื่อเขาอย่างที่สุด

ตอนที่ส่งเสิ่นอีเวยไปที่บ้านตระกูลเซิ่งนั้น ก็ได้กำชับหลินอว่า ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรก็ตาม คะยั้นคะยอต้นตอออกมาให้ได้ เป็นดังที่คิด ไม่ทำให้เขานั้นผิดหวัง

เงินฮุ่ย ดูแล้ว ฉันก็คงจะไม่ไว้มือคุณอีกแล้ว

เพิ่งเจ๋อเฉิงก็เลยได้แบ่งชีวิตของเสิ่นอีเวยเป็นสองอย่างก็ คืออดีตกับปัจจุบัน ช่วงนี้เธอนั้นรู้สึกว่าแม้แต่เวลานั้นก็ผ่านไป อย่างรวดเร็ว ซึ่งกำลังรอคำตอบจากเธอ

วันนี้เป็นวันหยุดของเธอซึ่งอยู่ที่บ้าน และเป็นโอกาสดีที่ เหมียนเหมียนไม่ได้ถ่ายทำอะไร ก็เลยออกไปเที่ยวกัน ตอนที่ ออกมาจากโรงหนัง ก็ได้มองไปยังจอโฆษณาอันใหญ่ที่กำลัง ฉายอยู่

เงินอีเวยก็กำลังหาร้านอาหารที่อร่อยอยู่ แล้วได้ยินตอนที่ มีคนกำลังถามความคิดเห็นของเหมียนเหมียนอยู่นั้น ก็ได้ยิน เสียงผู้หญิงคนนั้นพูดออกมาว่า “คุณแม่ นั่นคือคุณพ่อใช่ ไหม ?”

เพราะว่าสิ่งรุมเร้ามากมาย ข้อความในเนื้อหาก็มี มากมายเช่นกัน เสิ่นอีเวยก็ตกใจจนโทรศัพท์จับไม่ติดมือ ตอนที่เหมียนเหมียนกำลังชี้มือไปอยู่นั้น เป็นเวยก็ยืนที่ออยู่ เช่นนั้นไม่ไปไหน ผู้ชายที่ยืนอยู่ในหน้าจอโฆษณา ใส่ชุดสูท ท่าทางเคร่งขรึม ใบหน้าที่ตั้งใจนั้น ไม่ใช่เพิ่งเจ๋อเฉิงแล้วเป็น ใคร

เสิ่นอีเวยก็หันกลับไปมองผู้หญิงคนนั้น ตาของเหมียนเหมืยนก็ขยายใหญ่ขึ้น ทำให้เธอนั้นก็ตกใจอยู่ชั่วครู่หนึ่ง เพราะว่า ไม่คิดว่าผู้หญิงน้อยคนนี้มีอารมณ์ที่กระตือรือร้นเช่นนี้

เงินอีเวยถามเหมียนเหมียนว่า “เหมียนเหมียน รู้จักคน นั้นใช่ไหม ?”

สาวน้อยพยักหน้าแล้วพูดว่า “รู้จัก เขาคือคุณพ่อไง”

เสิ่นอีเลยรู้สึกอยากจะร้องไห้ “ทำไมถึงคิดว่า เขาคือพ่อล่ะ

?”

เหมียนเหมียนก็ละสายตาจากหน้าจอนั้นแล้วมามองเสื่ นอีเวย แล้วพูดอย่างตั้งใจว่า “เพราะว่าคุณแม่ชอบเขาไงล่ะ”

ครั้งนี้เป็นอีเวยเหมือนจะระเบิดออกมา แล้วก็พยายามกด

อารมณ์ตัวเองไว้ “เหมียนเหมียนรู้อย่างไรว่าแม่ชอบเขาล่ะ ?”

เสิ่นอีเวยได้มองไปยังนิ้วอันอ้วน ๆ ของเหมียนเหมียน

เพื่อให้เงินอีเวยนั้นใกล้เข้ามา แล้วก็ได้เอาปากไปอยู่ข้าง ๆ หู หลังจากนั้นสองวินาที ก็ได้พูดออกมาอย่างช้า ๆ ชัด ๆ “เพราะว่ามีคืนหนึ่งคุณแม่ได้นอนหลับแล้วละเมื่อออกมา

เพราะก็ตะโกนชื่อของคุณพ่อออกมาไงล่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ