บทที่427 สําหรับเรื่องราวที่แท้จริงของสวี่อันฉิง
บทที่ 427 สำหรับเรื่องราวที่แท้จริงของสอนนิ่ง
“เสิ่นอีเวย ฉันไม่เคยเชื่อเรื่องโชคชะตา แต่เรื่องราวที่เกิด ขึ้นมานี้ทำให้ฉันต้องเชื่ออย่างไม่มีทางเลือกเลย ดังนั้นครั้ง แรกที่ฉันนั้นรู้จักกับสวีอันฉิงฉันก็ได้ระวังตัวไว้แล้ว เธอได้ใช้วิธี ที่ฉันแคร์ที่สุดมาบังคับฉัน ฉันรู้ว่าอย่างน้อยเรื่องนี้มีแต่ฉัน เท่านั้นที่เป็นผู้ถูกกระทำ
หลังจากได้ฟังชื่อสวีอันถึงที่เพิ่งเจ๋อเฉิงเอ่ยขึ้นมา ก็เลยทำ ให้เสิ่นอีเวยนั้นรู้สึกสั่นและตกใจ
“ไม่รู้ว่าคุณยังจำได้ไหมเรื่องราวความสัมพันธ์อันดีระ หว่างเสิ่นฮุ่ยและสวีอันฉิงเมื่อไม่กี่ปีก่อน สวีอันฉิงได้ถูก ครอบครัวของเธอนั้นส่งไปยังต่างประเทศ ไปศึกษาด้าน กฎหมาย เพิ่งเจ๋อเฉิงถาม
เสิ่นอีเวยก็ทำท่างง เพราะเรื่องนี้ เธอนั้นไม่ได้รู้อะไรสัก
นิดเลย
“เรื่องมันก็ช่างบังเอิญเหลือเกิน ตอนที่เธอกำลังเรียนอยู่ นั้น กลายเป็นทนายส่วนตัวของเซียอวีเจียง ซึ่งเป็นคนที่บ้าน ของเซียอวีเจียงจัดสรรมาให้ สวีอันฉิงคนนี้ มีข้อบกพร่องในด้านความเป็นคนอย่างมาก ในด้านการทำงานวางแผนต่าง ๆ นั้นไม่ได้เรื่องสักนิด แต่ในด้านกฎหมายนั้นมีพรสวรรค์เป็น อย่างมาก ดังนั้นบ้านของอวี่เจียงก็เลยเชื่อเธอโดยปริยาย
“แม้กระทั่งตอนที่อเจียงจะลาโลกนี้ไป เรื่องปัญหาต่าง ๆ ก็ให้สวีอันจึงมาจัดการรับผิดชอบแทนเขา ก็หมายความว่า นอกจากสวีอันนิ่งแล้ว ไม่มีใครจะรู้ได้เลยว่าพินัยกรรมนั้น เขียนอะไรไว้ แต่สำหรับฉันนั้น จะขอเพียงแค่ได้รับการอภัยจา กอวีเจียง”
เพิ่งเจ๋อเฉิงพอพูดถึงตรงนี้ ก็หยุด แล้วก็ได้ก้มหัวลงเล็ก น้อย แล้วเหมือนมีการแสดงท่าทีที่เสียใจ
ฝนตกยิ่งอยู่ยิ่งแรง เสิ่นอีเวยก็ถูกเสียงของน้ำฝนนั้นทำให้ จิตใจรู้สึกมีความสับสนวุ่นวาย ซึ่งในหัวสมองเธอนั้นก็ปรากฏ ภาพที่เพิ่งเจ๋อเฉิงได้อธิบายออกมาอย่างชัดเจน ในใจก็ได้ เพียงแต่ถอนหายใจ แล้วก็เงยหน้าขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจ เหตุผลแล้วพูดว่า “ดังนั้นพินัยกรรมของเซียอเจียงก็อยู่ในกำ มือของสวีอันฉิง แล้วเธอก็ใช้วิธีนี้ในการมาบังคับคุณ ?”
เพิ่งเจ๋อเฉิงก็เงยหน้าขึ้นมา สายตาที่จริงใจ แล้วก็พูดออก มาอย่างถอนหายใจว่า “ใช่”
สองคนนี้มองหน้ากัน เสิ่นอีเวยก็ไม่ได้พูดอะไรทำให้เพิ่ง เจ๋อเฉิงนั้นเริ่มสำรวจสภาพจิตใจข้างในของเธอแล้วพูดขึ้นมา ว่า “อีเวย เรื่องนี้คุณเป็นคนที่แรกที่รู้เรื่อง คุณจะต้องรู้ว่าฉันนั้น ไม่ได้เรื่องขึ้นมาหลอกคุณ เรื่องของอวี่เจียงเป็นปกในใจของฉัน ซึ่งหลายปีที่ผ่านมายังไม่ได้รับการแก้ปมเลย ถ้าหากไม่ใช่ เรพาะว่าพินัยกรรมอยู่ในมือของสวีอันนิ่งแล้วล่ะก็ ฉันกับผู้ หญิงคนนั้นจะไม่มีวันที่จะยุ่งเกี่ยวอะไรกันเลย
“ทำไมเมื่อก่อนไม่บอกฉันล่ะ ?” เสิ่นอีเวยถาม
“เพราะฉันคิดว่าเรื่องราวพวกนี้จะต้องได้รับการก้ไขอย่าง รวดเร็ว ฉันไม่อยากจะให้คุณไปคิดอะไรมากมาย และความ สัมพันธ์ของผมและสวีอันฉิงก็ไม่เคยมีเรื่องราวที่ผิดต่อ คุณธรรม เรื่องข่าวปลอมที่คุณเห็นพวกเราอยู่ที่ประเทศไทยนั้น เป็นเพราะว่าเธอนั้นได้โทรศัพท์หาผม ให้ผมไปอยู่เป็นเพื่อน เธอที่อเมริกาสักระยะเวลาหนึ่ง แต่ผมไม่ได้ตอบรับกลับไป ดัง นั้นเธอก็เลยได้สร้างข่าวปลอมนี้ขึ้นมา
หลังจากฟังคำอธิบายของเซิ่งเจ๋อเฉิงเรียบร้อยแล้ว เสี นอีเวยก็มีความรู้สึกยิ่งอยู่ยิ่งแย่ สนง…..ทำไมเป็นคนที่เลว ร้ายได้ถึงระดับนี้นะ ? ไม่ว่าคุณจะมีการกระทำต่อกับฉันเอง หรือเพิ่งเจ๋อเฉิง กลับเลือกการกระทำที่ไม่เลือกว่าสิ่งใดถูกหรือ ผิด
แต่ว่า……..
เสิ่นอีเวยมีสายตาที่สับสนแล้วมองไปยังเพิ่งเจ๋อเฉิง “สวี อันนึงก็คนที่เลวทรามขนาดนี้ แต่ทำไมผู้ชายที่คุยกับเธอนั้น ทำไมเธอกลับเชื่อถืออย่างไม่มีข้อกังขาล่ะ ? ”
เพิ่งเจ๋อเฉิงเหมือนกับได้รับข้อความผ่านสายตาของเธอ แล้วก็ได้ไปนั่งใกล้เสิ่นอีเวยมากขึ้น แล้วก็ได้มองใบหน้าขาวดังหยกของเงินอีเวย ในใจก็รู้สึกตื่นเต้น เดิมที่อยากจะยื่นมือ ออกไปแล้วจับให้แน่น ๆ แต่กลับกลัวเธอนั้นสะบัดออก สุดท้ายก็เลยไม่ด้ทำอะไร
“คุณฟังฉันพูดนะ ฉันนั้นเคยปรากฏพร้อมกันในที่ที่ เดียวกัน เวลาเดียวกันกับสวีอันจิง แต่ไม่ใช่เป็นเพราะฉันนั้น ยินยอม เพราะตอนนั้นมีเรื่องหนึ่งที่เธออยากให้ผมออกหน้าให้ ดังนั้นเธอก็เลยเสนอเงื่อนไข เพราะว่าอยากจะรู้เรื่องพินัยกรรม ของเชียอวีเจียง ก็เลยจำเป็นต้องตอบรับไป
เสิ่นอีเวยเหมือนกับถูกคำพูดของผู้ชายคนนี้ “จำเป็นต้อง ทิ่มแทงเข้าในใจ เธอขมวดคิ้วขึ้น แล้วก็มองไปยังผู้ชายคนนั้น อีกครั้งหนึ่ง
“จำเป็นต้อง….ดังนั้นฉันก็จะเข้าใจว่าที่ฉันอยู่กับคุณมา หลายปี คุณก็ยังมีช่วงเวลาที่จําเป็นต้อง” อีกเช่นกัน ใช่ไหม ? เช่น พ่อแม่ของฉันนั้นถูกพ่อของคุณทำร้ายจนตาย ดังนั้นเพื่อที่ จะเติมเต็มฉัน ก็เลยจำเป็นต้องดูแลฉันอย่างไม่ยินยอมใจใช่ ไหม ? ”
เพิ่งเจ๋อเฉิงก็มีสีหน้าที่ค่อยหน้าไม่ดีนัก แล้วกำลังจะ อธิบายต่อไป แต่เสิ่นอีเวยกลับตัดบทแล้วพูดว่า “คุณไม่จำเป็น จะต้องรีบร้อนมาอธิบาย เพราะในใจฉันนั้นเข้าใจอยู่ว่า เมื่อ สามารถบรรลุจุดประสงค์ของตนเองได้ก็จะกลับลำกลับกลอก ซึ่งเหมือนกับการทำงานของคุณอย่างชัดเจน
เพิ่งเจ๋อเฉิงมีสายตาที่ตั้งใจ ไม่ได้มีความโกรธแต่อย่างใดเขารู้ ในใจของเธอนั้นยังมีคำพูดอีกมากมายที่จะพูดออกมาซึ่ง คำเหล่านั้นเป็นตัวแทนความรู้สึกที่ไม่โอเคของเธอ เขาไม่ สามารถให้เธอนั้นเก็บไว้ในใจอีกต่อไป
เพิ่งเจ๋อเฉิงก็ตอบไปว่า “ผมรู้ คุณยังมีคำพูดในใจ ทั้งหมดนี้ฉันจะตั้งใจฟังมัน
เงินอีเวยตกใจ ผู้ชายคนนี้ ให้พูดตามเลยตามเลยหรือ ว่ากำลังปลุกระดมในของเธอกัน ?
แต่ ณ เวลานี้ แม้กระทั่งเธอเองนั้นก็ไม่อาจจะจัดการเรื่อง ราวได้มากมายได้ เพราะในใจของเธอนั้นก็ยังมีปัญหาอยู่เช่น กัน เหมือนกับภูเขาไฟที่จะระเบิดออกมา ซึ่งไม่อาจจะบังคับได้ แล้ว
“คุณพูดคุณจะตอบรับเรื่องของสวีอันฉิง ก็เพราะว่าพินัย กับของคุณชายเซียยอยู่ในมือเธอ “แลกเปลี่ยนเงื่อนไข คำนี้ ฉันสามารถเข้าใจได้ แต่ฉันที่อยู่ในใจฉันจะแบ่งแยกยังไงล่ะ ? เพิ่งเจ๋อเฉิง คุณจะทำอย่างไรให้ฉันนั้นเชื่อในตัวคุณ วันนี้คุณ มาตั้งใจตั้งใจต่อหน้าฉัน ไม่ใช่คุณสร้างภาพ ไม่ใช่เพราะว่า ยังมีข้อขอร้องอีกหรือ ? ”
เสิ่นอีเวยกับน้ำเสียงที่ค่อนข้างบังคับจิตใจเป็นอย่างมาก เพิ่งเจ๋อเฉิงกลับมีสภาพจิตใจที่เงียบสงบ ในเสื้อสูทของเขานั้น สั่นไม่กี่รอบ เขารู้ว่านั่นคือเสียงโทรศัพท์ของหลินอวี้ ซึ่งกำลัง จะถ่ายทอดวิดีโอในการประชุม
ช่วงนี้เขากำลังยุ่งเกี่ยวกับการซื้อขาย เดิมที่หลังจากงานเลี้ยงเสร็จแล้วก็จะประชุมทางวิดีโอ แต่ในทางโรงแรมบอกว่า
มีผู้หญิงคนนั้นเกิดเรื่องขึ้นมา ดังนั้นเขาก็เลยรีบไปพาผู้หญิง
คนนั้นออกมา ก็เลยเอาเรื่องการประชุมทางวิดีโอนั้นเลื่อนไป
อย่างไม่มีกำหนด หลังจากที่โทรศัพท์สั่นนั้น เขาก็เลยนึกถึง
เรื่องนี้ขึ้นมา
แต่ตอนนี้มาดู ๆ แล้ว ก็คงไม่แคร์อะไรแล้ว วันนี้จุด ประสงค์ของเขาก็มีเพียงหนึ่งแล้ว ก็คือให้ผู้หญิงที่อยู่ต่อหน้า ของเขานั้นเชื่อในตัวเขา เพียงแต่เท่านี้ ไม่มีอะไรอื่นอีก
“อีเวย พวกเรารู้จักกันมานานขนาดนี้ คุณก็คงจะเข้าใจ ในนิสัยผมนะ วันนี้ทั้งโลกนี้นอกจากคุณก็ไม่มีใครอีกแล้ว สวี อันนิ่งก็เป็นอีกอย่างหนึ่งไป เพราะว่าผมอยากจะเอาสิ่งสำคัญ ไปจากเธอ คุณกับพินัยกรรมของอวี่เจียงก็คือสิ่งที่จะช่วยผม พินัยกรรมนั้นเป็นเรื่องราวอดีต ส่วนคุณคืออนาคตของผม
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ