บทที่296เขาเป็นลูกสาวของฉันกับคนอื่น

บทที่ 296 เขาเป็นลูกสาวของฉันกับคนอื่น

เพิ่งเจ๋อเฉิงได้ฟังคำพูดของเงินอีเวย สายตาก็ตกหล่นลง แล้วค่อย ๆ ทำการจัดท่าทางและเสื้อผ้าตัวเองแล้วพูดว่า “ได้ คุณจะมาวัดกับผมใช่ไหม ? งั้นผมก็ต้องบอกคุณจริง ๆ แล้ว เหมียนเหมียนเป็นลูกของผม ผมมีสิทธิ์ที่จะดูแลเธอ หากคุณ อยากเห็นเขา ก็ฟังผมหน่อยก็แล้วกัน ไม่แน่ผมอาจจะยกเลิก การขายบริษัทหัวนก็ได้ หากไม่อยากจะเห็นเธอ ออกจาก ประตูเลี้ยวขวาก็เป็นลิฟต์ เชิญครับคุณหญิงเส้น

เสิ่นอีเวยได้เผชิญหน้ากับผู้ชายที่มีท่าทางเหนือกว่าตัวเอง ชั้นหนึ่ง ในหัวสมองก็คิดอะไรสับสนไปหมด เธอก็เงียบไปสัก ครู่หนึ่ง แล้วก็ค่อยเปิดปากพูดออกมา ซึ่งในนั้นมีความน่ากลัว ภายใต้รอยยิ้ม “ไม่เจอกันไม่กี่ปี ฝีปากคุณก็ยังคงไม่เปลี่ยน เลยนะ แต่ฉันก็มีคำถามจะถามคุณให้ชัดเจน คุณใช้อะไรคิด ว่าเหมียนเหมือนเป็นลูกที่ฉันเกิดกับคุณ ?”

เสิ่นอีเวยพูดเสร็จ ก็ยืนอยู่ข้างกำแพง แว่นตาดำที่อยู่บน มือหมุนไปหมุนมา

เพิ่งเจ๋อเฉิงได้ยินแล้วก็รู้สึกมีความตระหนก แล้วก็ได้มองไปยังเล่นอีเวย์เป็นพิเศษ สายตามีความเย็นชา “คุณอธิบายให้ ผมชัดเจนหน่อยสิ กับคำพูดที่คุณพูดเมื่อสักครู่นี้หมายความว่า อะไร ?

รบรากันมานาน เสิ่นอีเวยรู้นิสัยเพิ่งเจ๋อเฉิง ผู้ชายคนนี้ เป็นคนที่เจ้าอารมณ์ หากโมโหขึ้นมาก็อาละวาดใหญ่แน่นอน แต่หาก โมโหแบบเงียบ ๆ แต่ในใจก็มีความคิดอันชั่วร้ายซ่อน อยู่

การเผชิญหน้ากับเพิ่งเจ๋อเฉิงเสิ่นอีเวยไม่กลัวนั้นเป็นเรื่อง ที่ไม่จริง แต่เธอก็ไม่ใช่เหมือนห้าปีก่อนที่รักผู้ชายคนนี้อย่างหัว ปักหัวป่าจนไม่สนใจอะไร

การเผชิญหน้ากับผู้ชายที่บีบบังคับเธอกลับประเทศ ยืน หยัดที่จะขายบริษัทหัวขุ่น ซึ่งตัวเองนั้นก็เพิ่งได้ข่าวมาเมื่อ เดือนที่แล้ว เรื่องนี้ไม่ได้มีการได้รับการไถ่ถามจากเพิ่งเจ๋อเฉิง สักประโยค ผู้ชายคนนี้ ก็ตัดสินเช่นนี้ได้ลงคอ เหมือนกับ บริษัทหัวขุ่นเป็นของเขาซะงั้น

เสิ่นอีเวยก็โมโหมากจากที่ได้ยินข่าวนั้น เพราะบริษัทหัว นไม่ใช่ของเพิ่งเจ๋อเฉิง แต่เป็นของแม่เธอ ผู้ชายคนนี้มีสิทธิ์ อะไรมาขายบริษัท

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เสิ่นอีเวยมีนิสัยที่เปลี่ยนไปมาก ดังนั้นเธอ ไม่อาจจะอดทนจนเหลืออด

ดังนั้นเธอกลับมาแล้ว กลับมาเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้ ซึ่งเป็นคนที่ให้ความหวังและความผิดหวังกับเธอ
ยังมีบริษัทหัวปูน ที่เธอจะต้องน่ากลับคืนมา

เงินอีเวยยิ้มอย่างยโสว่า “ความหมายประโยคนี้คุณฟัง ไม่ออกหรือ ? ทำไมจะต้องแกล้งโง่ด้วย ? ตอนนั้นไปอยู่ อังกฤษไม่นานก็รู้ว่าตัวเองนั้นท้องแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่า ฉันนั้นท้องกับคุณ

พอพูดถึงตรงนี้ มือก็จับแว่นกันแดดอย่างแน่นหนา ประโยคสุดท้าย เธอก็พูดอย่างชัดเจนว่า “คุณชายเชิง ฉัน ขอร้องว่าอย่าอะไรมากมายนักเลย หรือว่าผู้หญิงในโลกใบนี้ เป็นของคุณงั้นหรือ ?

ทันใดนั้นอากาศก็เงียบไปในทันที เสิ่นอีเวยพูดต่อไปว่า “ตอนที่จะออกมานั้น ฉันได้เกิดสัมพันธ์สวาทกับผู้ชายคนอื่น เหมียนเหมียน เป็นลูกของฉันกับคนอื่น

ทั้งห้องทำงานก็เหมือนกับห้องน้ำแข็งอย่างไรอย่างนั้น

เพิ่งเจ๋อเฉิงก็เริ่มหรี่สายตา เหมือนกับกำลังพิจารณาในคำ พูดของเสิ่นอีเวยว่าจริงหรือเท็จ

นานอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ได้ค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ ๆ เ นอีเวย “คุณพูดอีกครั้งซิ

เสิ่นอีเวยก็ต่อสู้ด้วยสายตา แล้วพูดกับเพิ่งเจ๋อเฉิงว่า “ฉัน พูดว่า เหมียนเหมียนเป็นลูกสาวของฉันและชายอื่น ฉันกับเธอ ไม่มีสัมพันธ์อะไร” พูดเสร็จก็ได้พูดต่ออีกว่า “คุณฟังชัดเจน หรือยัง ? “
เพิ่งเจ๋อเฉิงเงียบไปสักครู่ แล้วก็ได้มีน้ำเสียงที่เยือกเย็น เหมือนกับโมโหจนถึงขั้นขีดสุด

“ตอนไหน ?”

“สี่ปีที่แล้วฉันรู้ว่าตอนที่พ่อแม่ฉันนั้นถูกให้ร้ายจนเสียชีวิต คุณยังจำได้ใช่ไหม ? ตอนนั้นฉันได้รู้เรื่องราวทั้งหมดก็ไม่อาจ จะรับมันได้ เสียใจเป็นอย่างมาก ก็เลยอยากจะระบายอารมณ์ ดังนั้นก็ได้ให้เพื่อนพาไปผับแห่งหนึ่ง ใช่แล้ว เป็นผับที่มีชื่อ เสียงที่สุดในเมืองนี้”

เงินอีเวยก็ได้เดินเข้ามาใกล้อีกนิดหนึ่ง แล้วก็รู้สึกว่าลม หายใจของเพิ่งเจ๋อเฉิงรดอยู่ด้านหน้าของเธอ

เธอนั้นได้ใช้มือไปจับเนกไทของผู้ชายคนนี้ เพิ่งเจ๋อเฉิง ได้ก้มหน้าลง เสิ่นอีเลยก็ได้ยกขาขึ้น แล้วก็ค่อย ๆ เอนไปยัง ข้าง ๆ หูเขา แล้วก็ใช้เสียงเสน่ห์พูดว่า “คุณชายเชิง คุณพูด ในค่ำคืนนั้น ผู้หญิงที่มึนเมาคนเดียว ท่ามกลางวงเต้นรำจะ เลือกผู้ชายคนหนึ่ง แล้วสองคนนั้นมากันทำอะไรล่ะ ? คิดไม่ ยากหรอก ใชไหม ?”

พอพูดเสร็จ เงินอีเวยก็ไม่ได้รอเพิ่งเจ๋อเฉิงสวนกลับมา ก็ได้ทําตัวออกห่างจากเขาในทันที แล้วก็ยังคงเป็นเงินอีเวยที่ สง่าผ่าเผยเช่นนั้นเหมือนเดิม

เพิ่งเจ๋อเฉิงใช่น้ำเสียงที่น่ากลัวว่า “เงินอีเวย ไม่คิดว่าคุณ จะกล้าทำอะไรในลับหลังผมในค่ำคืนนั้น ความกล้าของคุณมัน กล้าดีขนาดนี้ตอนไหนนะ ?”
ผู้ชายคนนี้ก็ยังเป็นเช่นนี้เหมือนเดิม ไม่เคยที่จะไปครุ่นคิด ว่าเธอนั้นผู้จริงหรือเท็จ แต่เป็นสิ่งที่เขายังไม่ได้อนุญาตแล้วก ลับไปทำในสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้น

เสิ่นอีเวยยิ้มแล้ว ก็ไม่ได้ไปต้องการค่าตอบอะไร เพราะว่า เธอนั้นไม่ได้สนใจอะไร

เงิน เวยยิ้ม แล้วใช้สายตาที่ดูถูก “คุณชายเชิง ทำไมถึง รีบร้อนด้วยอารมณ์จังล่ะ ? ฉันก็ไม่ได้พูดเป็นอื่นเลย ฉันเพียง แค่อธิบายเรื่องจริงแค่นั้นเอง แค่บอกว่าเหมียนเหมือนไม่ใช่ ลูกของฉันกับคุณ ไม่งั้นพอถึงเวลาจะมาวุ่นวายอีก เป็นเช่นนั้น คงไม่ดีแน่นอน ใช่ไหมคะท่าน ? เพียงแต่เพิ่งเจ๋อเฉิง ฉันกลับ รู้สึกว่า คุณก็เป็นผู้คนที่น่ากลัวคนหนึ่ง ไม่ว่าจะต่อกับตัวเอง หรือคนอื่น”

เพิ่งเจ๋อเฉิงอยากจะยังพูดอะไร แต่กลับถูกเสิ่นอีเวยตัดบท เสียเช่นนั้น “พอละ ไม่อยากคุณจะพูดอะไร ฉันก็ไม่อยากจะฟัง ทั้งนั้น ไม่มีเวลามากพอที่จะไร้สาระ บอกฉันมาว่าเหมือนเหมีย นอยู่ที่ไหน ”

เพิ่งเจ๋อเฉิงก็กลับมีเสียงหัวเราะขึ้นในทันที “ท่าทางของ คุณเช่นนี้ ยังอยากจะเจอเหมียนเหมียน

เสิ่นอีเวยสูดหายใจอย่างลึก

เธอนั้นได้สูดหายใจเข้าไป แล้วก็ยิ้มอย่างจืดชืด แต่ก็ใน เมื่อเช่นนี้ ก็ยังไม่อาจจะปิดบังอารมณ์ตื่นเต้นของเธอได้ “คุณ จะไม่คืนเหมียนเหมือนให้กับฉัน ? หรือว่าจะให้พ่อของเขาไปหาเธอล่ะ ? ”

เพิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้พูดอะไร กำลังคิดอยู่ว่าเส้นเวยกำลังคิด อะไร แต่เขาก็ไม่อาจจะไม่ยอมรับได้ว่า เขาและเธอนั้นไม่ได้มี สัมพันธ์สวาทมาสี่ปีแล้ว

ห้วงเวลาสี่ปี เป็นช่วงเวลาที่เปลี่ยนผู้คนไปมากมาย

ซึ่งครั้งนี้ทำให้เพิ่งเจ๋อเฉิงนั้นกลับรู้สึกว่าตัวเองนั้นก็มีบาง อย่างที่หมดสภาพเสียแล้ว แต่ครั้งนี้ยังมีบางเรื่องเขาจะต้อง จําเป็นไปทํา