นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่280หากเธอกล้าวิ่งอีกละก็



บทที่280หากเธอกล้าวิ่งอีกละก็

บทที่ 280 หากเธอกล้าวิ่งอีกละก็

“เงินเหยียนซึ่งถูกเซียวหันถึงซื้อตัว เพื่อให้เขาบอกเรื่อง งานเลี้ยงของตระกูลเซิ่งในวันนั้นบอกกับเขา แน่นอนว่าเรื่องนี้ ก็ต้องบอกกับเธอด้วย เรื่องนี้แหละที่เป็นสาเหตุให้ฉันต้องจับ ตัวเขาเอาไว้

เสิ่นอีเวยฟังแล้วก็ยังไม่เข้าใจสมองเหมือนอยู่ในกลุ่ม หมอก: “ฉันรู้แล้วจะยังไง? หากฉันรู้เรื่องแล้วทำไมคุณถึงโกรธ เงินเหยียนซึ่งล่ะ? เอาจริงคุณไม่ต้องโกรธเขาขนาดนี้ก็ได้ เพราะว่าไม่มีเขา สักวันฉันก็ต้องตรวจสอบความจริงเรื่องนี้เอง อยู่แล้ว”

สายตาที่อบอุ่นของเพิ่งเจ๋อเฉิงค่อยลดระดับลงจนเย็นยะ เยือกแทนที “จะไปหาความจริงมาจากไหนกัน? เซียวหัน : งงั้นหรอ?”

เสิ่นอีเวยถึงกับตกตะลึงไปสักพัก จนโมโหอยู่ในใจ : “เอาตามที่คุณเข้าใจ แต่หากจะพูดให้ถูก ระหว่างฉันกับเชียว หันถึงเป็นความรู้สึกที่บริสุทธิ์ใจต่อกัน แต่ฉันเองก็อยากจะจ่าย ค่าตอบแทนกับเขาเหมือนกันแต่เขากลับไม่รับมันไว้ เรื่องนี้ก็ ไม่ได้กระทบอะไรกับจุดที่ฉันยืนอยู่อยู่แล้ว
“เธอมองว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาเป็นความ สัมพันธ์ที่ร่วมมือกันแต่เขากลับไม่คิดแบบนั้น เสิ่นอีเวย เธอ อายุก็ปาเข้าไปยี่สิบกว่าแล้ว คิดไม่ออกอีกหรือไง?

เงินอีเวยคิดว่าความโกรธที่อยู่ในช่องท้องของเธอใกล้จะ ระเบิดออกมาแล้ว เหตุผลแรกคือหล่อนก็คิดว่าการที่หล่อน เบี่ยงเบนประเด็นคำถามของเขาแล้ว เพิ่งเจ๋อเฉิงจะไม่ลากกลับ ไปสถานการณ์ที่กดดันเธอแบบนั้นอีก หากเป็นแบบนั้นหล่อนก็ ค่อยสบายขึ้นมาหล่อน หากแต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือผู้ชายคนนี้ ยังคงเป็นแบบเดิม ซึ่งดูท่าทางแล้วไม่มีทีท่าว่าจะเป็นท่าทีแต่ อย่างใด

เหตุผลที่สองก็คือสิ่งที่หล่อนไม่เข้าใจก็คือทำไมเพิ่งเจือ เฉิงเวลาคุยกับหล่อนถึงไม่ลืมการเยาะเย้ยกับหล่อนบ้างนะ? เดิมทีท่าทีก็เริ่มผ่อนคลายลงบ้างแล้วแต่กลับเริ่มทำให้ สถานการณ์ตึงเครียดอีกแล้ว

ทว่า ในใจของเงินอีเวยเริ่มวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียขึ้น มาจนในที่สุดตัดสินใจได้ว่าจะไม่สนใจผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ อีกแล้ว สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกก็คือจัดการปัญหาที่อยู่ตรง หน้าให้มันชัดเจนถึงจะได้เป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด

“หรือว่าคุณไม่อยากให้ฉันรับรู้เรื่องที่แท้จริงกันแน่?” ในที่ สุดเสนอเวยก็ถามขึ้นมาจนได้

หากหล่อนดูไม่ผิดละก็ หลังจากที่หล่อนถามคำถามนั้น ออกไปแล้ว สายตาของเพิ่งเจ๋อเฉิงถึงกลับเคร่งขรึมลงไปนิด
สักพักเขาถึงได้ตอบกลับ : “ใช่ ที่เธอพูดไม่ผิด ฉันไม่ อยากให้เธอรู้ความจริงเรื่องในงานเลี้ยงวันนั้น

เงินอีเวยเริ่มโมโหขึ้นมาเลยถามกลับ : “ทำไมกัน?” เพิ่งเจ๋อเฉิงฟัวน้ำเสียงที่โมโหของเสิ่นอีเวยออกแต่เขา กลับไม่ได้สนใจ

“เพราะฉันกลัว”

ประโยคที่พูดออกมาราวกับโลกทั้งใบเงียบสนิท

ใจเสนอเวยเต้นกับคำนั้น ฉันกลัวคำๆนี้ ตัวเองได้ยินคำๆ นี้มาจากปากเพิ่งเจ๋อเฉิงงั้นหรอ? หล่อนแทบไม่อยากจะเชื่อได้แต่ส่งสายตาตั้งเข้าถามเขา

ไปถามเพิ่งเจ๋อเฉิงแทน

ส่วนสายตาของเพิ่งเจ๋อเฉิงนั้นราวกับเข้าใจสิ่งที่อยู่ในใจ ของหล่อนเลยถามกลับ : “ทำไม คิดไม่ถึงเลยใช่ไหมว่าคน อย่างฉันก็มีเวลาที่หวาดกลัวกับเขาด้วย?

เงินอีเวยได้แต่พยักหน้าตอบรับแต่พอพยักหน้าตอบรับไป เลยถึงได้ตั้งสติได้ว่าตัวเองไม่ควรถูกผู้ชายคนนี้จูงจมูกง่ายๆ

“งั้นคุณกลัวอะไร?” เธอถามเขากลับ

เพิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้ตอบเธอทันที เขาจ้องมองดวงตาของเสี นอเวยอยู่นาน นานจนในที่สุดก็ตอบกลับมา : “ฉันกลัวว่าเธอ จะโทษว่าเป็นเพราะตระกูลเซิ่ง ความจริงที่กลัวที่สุดก็กลัวว่าเธอจะโทษว่าเป็นฉัน เพราะงั้นก่อนหน้าที่เซียวหนถึงจะซื้อตัว เขา ฉันก็ใช้เงินปิดปากเขาไปตั้งแต่แรกว่าอย่าให้หลุดปาก เรื่องคืนนั้น ในงานเลี้ยงของตระกูลเพิ่งบอกให้ทุกคนได้รับรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอ ฉันอยากจะให้เรื่องนี้มันถูกซ่อนไว้ ตลอดไป หากเป็นอย่างนั้นได้ เธอจะได้ไม่รู้สึกความจริงที่มัน โหดร้ายแบบนั้น ความโหดร้ายนั่นมันจะได้ไม่ทำร้ายเธอ

คำพูดของเพิ่งเจ๋อเฉิง เสิ่นอีเวยแทบไม่คยคิดมาก่อนเลย ความอบอุ่นหรอ? มันเป็นความอุ่นจริงๆ ทว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้ รู้จักเธอมาตั้งแต่เริ่มต้นเลย สิ่งที่หล่อนต้องการ หล่อนไม่เคย คิดที่อยู่ดีกินดีรอคอยเวลาให้ผ่านไปวัน แต่สิ่งที่หล่อนต้องการ คือความจริง แม้ว่าการที่เข้าใกล้ความจริงนั้นมันจะทำให้ได้ รับความเจ็บปวดจนเลือดไหลทะลักจนเป็นแผลไปทั่วก็ตามที

จนถึงในเวลานี้ เสิ่นอีเวยถึงได้สติขึ้นมาว่า ระหว่างเธอ กับเพิ่งเจ๋อเฉิงความคิดต่างๆ ช่างห่างไกลกันเหลือเกิน หาก เวลานานไปหรือคงไม่มีทางปกติได้ตลอดไป

“แต่ว่าเพิ่งเจ๋อเฉิง ฉันไม่สามารถรับความรู้สึกของคุณไว้ แบบนั้นไว้ได้” ในที่สุดหล่อนก็พูดทำร้ายจิตใจคน

มันจะเป็นยังไงล่ะ? ใครจะมาสนอกสนใจรอยบาดแผลทุก รูขุมขนของหล่อนกัน ขนาดผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ยังไม่เคย สนใจเลยสักนิด

แต่สิ่งที่เสิ่นอีเวยคิดไม่ถึงก็คือ ในชีวิตของตัวเธอสามารถ เห็นหัวใจที่แตกสลายในดวงตาของเพิ่งเจ๋อเฉิงถึงแม้ว่าจะเป็นแค่แวบเดียวก็ตาม

แต่ตอนนี้ สายตาของเพิ่งเจ๋อจึงกำลังทิ่มแทงหัวใจเส นอีเวยแทน แต่แล้วมันยังไง?

ตอนนี้มันสายไปแล้ว สายไปจริงๆแล้ว

“เงินอีเวย เธอไม่ต้องรับความรู้สึกของฉันก็ได้ ฉันมีวิธีที่ ทำให้เธอรับความรู้สึกฉันได้ เธอเข้าใจฉันดี” น้ำเสียงของเพิ่ง เจ๋อเฉิงแสดงออกถึงการและการเตือน

น้ำเสียงเยือกเย็นแบบนี้มันทำให้เสิ่นอีเวยอึ้งไปสักพัก แวบเดียวหล่อนก็เข้าใจ แต่ว่า เพิ่งเจ๋อเฉิงคนที่ไม่มีความ อดทนกับหล่อนเลยถึงเป็นเชิงเจ๋อเฉิงคนปกติดังเดิม

หรือว่าเป็นเพราะคืนนี้เพิ่งเจ๋อเฉิงปฏิบัติตัวกับหล่อน เปลี่ยนไป มันทำให้หล่อนรู้สึกผิดไป เพราะอันดับแรกเขา ค่อยๆพูดกับตัวหล่อนดีๆ เคารพในความคิดของตัวเอง เริ่ม ปฏิบัติตัวดีแปลกๆกับหล่อน

ทุกอย่างมันเป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่หรอ? ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า สามนาทีก่อนหน้ายังอบอุ่นอยู่ ตอนนี้เริ่มพูดเตือนหล่อนอีก

เสิ่นอีเวยจ้องมองเชิงเจ๋อเฉิงแล้วยิ้มกลับอย่างเยือกเย็น : “ฉันเข้าใจคุณที่สุด ผลลประโยชน์บนตัวคุณ ความหยิ่งของ คุณ หลายปีที่ผ่านมาคนที่ได้รับกรรมที่สุดถ้าไม่ฉันจะใครล่ะ?”

ตอนที่เสิ่นอีเวยพูดประโยคนี้ออกมานั้น ในสายตาของ หล่อนเต็มไปด้วยหัวใจที่แหลกสลาย แต่สิ่งที่เพิ่งเจ๋อเฉิงเห็นกลับเห็นว่าสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ใส่ใจนั้นมันคือการเยาะเย้ย

“เธอพูดอีกครั้ง ?” เขาขู่แบบจริงจัง

เงิน เวยเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนบนผนัง เวลากปา เข้าไปห้าทุ่มแล้ว หล่อนไม่อยากจะต่อปากต่อค่ากับเซ็งเจ๋อเฉิง เลยพูดขึ้นมา : “ฉันจะกลับไปที่ห้องนอนแล้ว ฉันเหนื่อยแล้ว อยากพัก

แต่เพิ่งเจ๋อเฉิงที่กำลังหัวร้อนจะปล่อยเธอให้ไปง่ายๆได้ยัง ไง? เสิ่นอีเวยที่กำลังลุกขึ้นได้ครึ่งตัวกลับถูกเขากดลงไปแทน

คนที่อยู่ด้านบนเปล่งเสียงที่ดังชัดเจนออกมา : “เธอนี่ช่าง ไม่เชื่อฟังเอาซะเลย

เขายังไม่รอให้เงินอีเวยตั้งตัว ริมฝีปากก็ประกบลงมา แล้ว ลมหายใจที่เป่าลงมาอย่างดุดันของเขาบริเวณริมฝีปาก ของตัวเองขยับราวกับพายุเข้า

มือทั้งสองข้างของเธอถูกมือข้างหนึ่งของเพิ่งเจ๋อเฉิงกด แน่นไว้บนหัว การกระทำแบบนี้ทำให้เสื่นอีเวยเข้าใจ แต่ว่า เธอหรี่ตาก็เห็นว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงนั้นยืนขึ้นแล้วว่าเขากำลังแกะ กระดุมเสื้อเชิ้ตออกด้วยความเร็วแล้วหล่อนก็พลิกตัวหลุดจาก เขาจนตัวเองหล่นลงบนพื้น ถึงแม้ว่าจะหล่นลงพื้นขนแพะสีขาว ก็ตามก็ยังไม่ค่อยรู้สึกเจ็บเท่าไหร่

เสิ่นอีเวยหันไปทางประตูเพื่อวิ่งหนีออกไป แต่วิ่งได้สอง ก้าวก็ถูกเพิ่งเจ๋อเฉิงลากกลับมา ด้านหลังของหล่อนถูกเขากอดเอาไว้ แวบเดียว เสิ่นอีเวยก็ถูกเขาอุ้มขึ้นมา

แต่ครั้งนี้ หล่อนกลับไม่ถูกโยนลงบนเตียง เพราะว่า ทิศทางที่เพิ่งเจ๋อเฉิงมุ่งหน้าไปคือห้องน้ำ

ในใจเสิ่นอีเวยเริ่มเครียดหนักขึ้น “คุณจะทำอะไร

ดวงไฟที่เปิดให้ความอบอุ่นในห้องน้ำถูกเปิดขึ้น เมื่ นอีเวยถูกเพิ่งเจ๋อเฉิงจับวางไว้ที่ฝักบัว ยังไม่ทันจะพูดอะไรขึ้น มาก็ได้ยินเสียง “ซา

น้ำอุ่นๆก็ร่วงไหลลงมา เสื้อผ้าและผมของหล่อนก็เปียก

ทันที

สมองของหล่อนว่างเปล่า หล่อนตั้งใจว่าจะเดินไปปิดน้ำ แต่เพิ่งเจ๋อเฉิงกลับเข้ามาขวางตรงหน้าไว้เสียก่อน

ละอองน้ำก่อจะเป็นกลุ่มหมอก ในตอนนั้นแทบมองไม่เห็น ใบหน้าของอีกคนได้ถนัดนัก ยิ่งเสียงที่ดังซู่ซ่า เสียงคนที่ พูดขึ้นมายังถูกกลบเสียงจนฟังไม่รู้เรื่อง

ทว่าสิ่งที่เสิ่นอีเวยได้ยินเสียงเพิ่งเจ๋อเฉิงที่พูดออกมาซัดจน ก็คือ

“หากเธอกล้าวิ่งหนีอีก ฉันจะจัดการเธอที่นี่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ