นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่196ที่แท้ความจริงก็เป็นเช่นนี้เอง



บทที่196ที่แท้ความจริงก็เป็นเช่นนี้เอง

บทที่196

ที่แท้ความจริงก็เป็นเช่นนี้เอง

ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถละเลยหลานชา ยที่เขารักมากคนนี้ได้

ด้วยความหวังว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงจะสามารถ สืบทอดธุรกิจของครอบครัวและนําพาไ

ปข้างหน้าได้

ผู้เฒ่าเซิ่งยังหวังว่าหลานชายของตนจ ะมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุขมาก

หลังจากได้ยินทุกสิ่งในตอนนั้นเสิ่นอีเว

ยรู้สึกประหลาดใจ

แต่ในขณะเดียวกันเธอก็สัญญากับคุณ

ปู่ว่าจะเก็บความลับนี้ไว้ ไม่ให้ใครพูดถึงมันรวมถึงเซิ่งเจ๋อเฉิงด้

วย

ดังนั้นคำถามทั้งหมดจึงย้อนกลับมาที่จุ ดเริ่มต้น ในเมื่อนอกจากเสิ่นอีเวยแล้ว

แม้แต่เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ไม่ทราบเกี่ยวกับแผ นการและพินัยกรรมของปู่

แล้วทำไมเขาถึงเสนอให้มีลูกกับเขาห

นึ่งคนทั้งๆ

ที่รู้ว่าชีวิตของคุณปู่กำลังใกล้จะหมดล

งไป?

คำตอบปรากฏขึ้นในใจของเสิ่นอีเวยแล้

วโดยบังเอิญ แต่เธอก็ไม่กล้าแน่ใจ

ไม่กล้ายืนยันจริงๆ

เนื่องจากเซิ่งเจ๋อเฉิงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ

แผนการของคุณปู่

ถ้าอย่างนั้นก็มีเพียงคำตอบเดียว แต่ระหว่างเธอกับเซิ่งเจ๋อเฉิงได้ปลูกเม ล็ดพันธุ์แห่งความไม่ไว้วางใจ

หลอกลวง

และทำร้ายซึ่งกันและกันเอาไว้แต่ไหน

แต่ไร

แล้วพวกเขาจะเดินไปถึงขั้นนั้นได้อย่าง

ไร?

ในเวลานี้ความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงได้หลั่งไ หลออกมาท่วมท้นหัวใจของเสิ่นอีเวย โชคชะตามักเล่นตลกกับผู้คนเช่นนี้เสม อ ทุกคนบนโลกล้วนหนีไม้พ้น

หลังจากได้ฟังคำอธิบายของเซิ่งเจ๋อเฉิ งแล้ว เสิ่นอีเวยก็ไม่ได้พูดจาอะไรเลย เธอไม่รู้จะพูดอย่างไรดี ความคิดในสมองของเธอประหนึ่งมีแต่ ความยุ่งเหยิง

ในที่สุดความอยากรู้อยากเห็นนั้นแข็งแ กร่งพอที่จะทำให้เสิ่นอีเวยเอ่ยปากถาม คำถามที่ใจปรารถนาออกไป

เธอมองดูเซิ่งเจ๋อเฉิงอย่างเงียบๆ แล้วเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“พินัยกรรมของคุณปู่ คุณน่าจะรู้แล้วใช่ไหม?

ใบหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงฉายประกายควา มประหลาดใจออกมา

สายตาของเขามองเสิ่นอีเวยด้วยความ ซับซ้อนราวกับว่าเขากำลังคาดเดาบาง สิ่ง

“ คุณรู้เรื่องพินัยกรรมของคุณปู่ได้อย่าง

ไร?”

น้ำเสียงของเซิ่งเจ๋อเฉิงนั้นบางเบา

เสิ่นอีเวยสูดหายใจลึกแล้วเล่าเรื่องที่คุ ณปู่บอกเธอในคืนนั้นที่สวนเล็กๆ ของบ้านพักตระกูลเซิ่งให้เซิ่งเจ๋อเฉิงฟ้ งอย่างละเอียด

จากการเล่าเรื่องของเสิ่นอีเวย

สีหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็ตึงเครียดขึ้นเรื่ อยๆ จนกระทั่งเสิ่นอีเวยพูดจบ อุณหภูมิที่มุมปากของเขาก็เย็นเฉียบ

เขาเงยหน้าขึ้นมองตาของเสิ่นอีเวยแล้ วถามว่า

“คุณก็เลยรู้ความจริงตั้งแต่ตอนนั้นเหร

อ?”

เสิ่นอีเวยพยักหน้าอย่างสงบเงียบโดยไ ม่แสดงสีหน้าใดๆ แต่ในหัวใจของเธอนั้นเย็นยะเยือก บางสิ่งบางอย่างระหว่างเธอกับเซิ่งเจ๋อ เฉิงกำลังจะกลับไปสู่จุดเริ่มต้น

หมดหนทาง ไร้เรี่ยวแรง แต่ก็ไม่มีทางแก้ไขเลยแม้แต่นิดเดียว

ในเวลานี้เธอไม่สามารถแม้แต่จะแสดง ออกทางสีหน้าใดๆ ได้

หัวใจของเสิ่นอีเวยนั้นสิ้นหวังแล้ว

“ทำไมคุณถึงไม่บอกผม”

เสียงที่เย็นชาของเซิ่งเจ๋อเฉิงดังขึ้นอีก ครั้ง

เสิ่นอีเวยกล่าวว่า

“คืนนั้นฉันสัญญากับคุณปู่ว่าจะไม่บอกใ ครเกี่ยวกับแผนการของเขา”

อุณหภูมิของอากาศดูเหมือนจะลดลงห ลายองศาในชั่วพริบตาเดียว เซิ่งเจ๋อเฉิงมองเสิ่นอีเวยอย่างเย็นชา แต่เขาไม่พูดอะไรอีกเลย

ทั้งสองนิ่งเงียบอยู่เช่นนั้น ไม่มีใครพูดอะไรอีกเลย ในที่สุดเสิ่นอีเวยก็เอ่ยปากถามขึ้นว่า “เซิ่งเจ๋อเฉิง ฉันมีอยู่หนึ่งคำถาม”

เซิ่งเจ๋อเฉิงไม่ตอบในทันที เขามองดูเสิ่นอีเวยอย่างเงียบๆ แต่ไม่สามารถมองเห็นอารมณ์ใดๆ จากในดวงตาของเขา

เสิ่นอีเวยเองก็ไม่ต้องการคาดเดาความ คิดของเขาเช่นกัน จึงพูดขึ้นมาเองว่า “อันที่จริงเรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว คุณเองก็รู้เนื้อหาในพินัยกรรมของคุณ ปู่แล้ว

คุณไม่จำเป็นต้องมีลูกเพื่อที่จะครอบคร องหุ้นส่วนของบริษัทเซิ่งซื่อ ดังนั้น

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้

เสิ่นอีเวยก็หยุดไปชั่วครู่

จากนั้นก็ดูเหมือนว่าเธอจะพยายามอย่า งมากเพื่อรวบรวมความกล้าอย่างยิ่งให ญ่

“ดังนั้นความจริงคุณก็ไม่จำเป็นต้องให้ ฉันมีลูกกับคุณ”

หลังจากพูดไปเช่นนี้แล้วเซิ่งเจ๋อเฉิงก็ม องมาด้วยสายตาที่เย็นชา

สายตาของเขาเหมือนมีดแหลมที่คมกริ

บและเย็นเฉียบ

แทงตรงเข้าไปยังหัวใจของเสิ่นอีเวย

“ไหนคุณพูดอีกครั้งซิ?

น้ำเสียงของเซิ่งเจ๋อเฉิงแฝงความดุดัน

แต่เสิ่นอีเวยนั้นไม่รู้สึกเกรงกลัว

เพราะเรื่องราวนั้นได้พัฒนามาถึงขั้นนี้แ

ล้ว

เธอจึงไม่มีอะไรที่ต้องกังวลและกลัวอี

กต่อไป

“ฉันพูดไม่ถูกเหรอ? คุณมักจะคิดว่าณปู่ต้องการให้คุณมีลูกเ พื่อที่จะได้ครอบครองหุ้นของบริษัทเซิ่ งซื่อมากขึ้น

ตอนนี้คุณก็ได้เห็นพินัยกรรมแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องมีลูกก็ได้ครอบครอง

ทุกอย่างที่คุณต้องการอยู่ดี ดังนั้นจะลำบากไปทำไมอีกล่ะ?”

เสิ่นอีเวยคิดว่าคำพูดของเธอพูดได้อย่า

งสมเหตุสมผล

เซิ่งเจ๋อเฉิงไม่น่าจะมีเหตุผลใดที่จะโต้

แย้งเธอได้

แต่ไม่มีใครรู้ว่าหัวใจของเธอนั้นเย็นเฉี

ยบ

เมื่อครู่ที่เธอพูดคำพูดเหล่านี้ออกมา

มือที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อของเธอสั่นอย่ างไม่สามารถควบคุมได้

ก่อนที่จะได้รู้เรื่องการถึงแก่กรรมของคุ ณปู่ของเธอ

เธอเอาแต่คิดหาวิธีที่จะพูดกับเซิ่งเจ๋อเ

ฉิงเพื่อบอกว่าเธอไม่สามารถตั้งครรภ์ไ

ด้ในตอนนี้

เมื่อเธอตกอยู่ในความสับสนและทำอะ

ไรไม่ถูก

พระผู้เป็นเจ้าก็เหมือนจะเล่นตลกกับเธ

ออย่างใหญ่โต

แต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนจะหยิบยื่น

บันไดให้กับเธอ

เธอไม่จำเป็นต้องมีลูกให้กับเซิ่งเจ๋อเฉิ

ด้วยเหตุผลนี้มันเพียงพอที่จะทำให้เธอ อธิบายให้เซิ่งเจ๋อเฉิงได้เข้าใจ และไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่าตนเอง นั้นไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ในตอนนี้อีกด้ แต่ในเมื่อสิ่งต่างๆ ได้รับการแก้ไขแล้ว

ทำไมในใจเธอถึงยังรู้สึกเป็นทุกข์อยู่

เสิ่นอีเวยไม่เข้าใจ

ผู้คนส่วนใหญ่ในบางครั้งยิ่งต้องการหลี กเลี่ยงปัญหามากเท่าไรก็ยิ่งต้องการ ทำให้มันชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น เสิ่นอีเวยก็เป็นเช่นเดียวกันในตอนนี้

“คุณเข้าใจสิ่งที่ฉันพูดไปเมื่อกี้หรือเปล่

?”

เสิ่นอีเวยเห็นเซิ่งเจ๋อเฉิงนิ่งเงียบไม่พูด จาจึงถามขึ้นมาอีกครั้ง

ทันทีที่พูดออกไปเธอก็พบว่าเสียงของ ตนเองนั้นสั่นไหวเล็กน้อย

สำหรับคำถามเรื่องการมีลูก เธอต้องการให้เซิ่งเจ๋อเฉิงให้คำตอบเธ ออย่างชัดเจน ไม่ใช่สิ บางทีสิทธิ์ในการจัดการเรื่องนี้ไม่ได้อยู่

ที่เพิ่งเจ๋อเฉิง

ร่างกายของเธอนั้นเป็นของเธอ มีหรือไม่มีลูก เธอเป็นคนตัดสินใจ

“ตอนนี้ผมไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้ ผมกำลังเตรียมตัวออกจากโรงพยาบา

เดี๋ยวคุณจะกลับบ้านหรือไปที่บริษัทก็ไ ด้” เซิ่งเจ๋อเฉิงเอ่ยปากอย่างเย็นชา

เสิ่นอีเวยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ประการแรกคือชายคนนี้บอกว่าเขาไม่ต้ องการคุยเรื่องนี้ในตอนนี้

ทำไมถึงไม่อยากคุยล่ะ? หรือว่าเรื่องนี้จะวิธีอื่นในการแก้ปัญหา?

ไม่มีทางหรอก

ประการที่สองก็เพราะเขาบอกว่ากำลังเ ตรียมตัวจะออกจากโรงพยาบาล เสิ่นอีเวยไม่มีเวลาคิดอะไรมากมายจึง พูดออกไปว่า “คุณเพิ่งจะหายไข้ เมื่อวานหมอบอกว่าต้องอยู่รอดูอาการ สักสองสามวัน ตอนนี้คุณยังออกจากโรงพยาบาลไม่ไ

เซิ่งเจ๋อเฉิงเงยหน้าขึ้นมองเสิ่นอีเวย ความตึงเครียดและความโกรธบนใบหน้ าของเขาเมื่อครู่ได้หายไปแล้ว เขาดูท่าทางสงบเสงี่ยมแทน

“หลังจากคุณปู่เสียก็ยังมีธุระที่ผมต้อง ตามไปจัดการอีกหลายเรื่อง ไม่อาจเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว” น้ำเสียงของเซิ่งเจ๋อเฉิงหนักแน่นเหมือ นจะไม่ยอมให้ปฏิเสธได้

แม้ว่าเสิ่นอีเวยจะรู้ว่าเขาพูดมีเหตุผล แต่ก็ยังยืนยันในความคิดของตัวเอง “คุณรู้หรือเปล่าว่าอาการไข้ของคุณครั้

งนี้รุนแรงแค่ไหน?

ยังมีอาการปอดบวมแทรกซ้อน!

ถ้าคุณไม่พักผ่อนมากๆ

ร่างกายของคุณจะพัง ”

เซิ่งเจ๋อเฉิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามขมวดคิ้ว

เล็กน้อย

เขากับเสิ่นอีเวยรู้จักกันมาหลายปีและแ ต่งงานกันเกือบสามปีแล้ว

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขารู้สึกว่าผู้หญิง คนนี้ดูเหมือนจะเป็นห่วงตนเอง

แต่สถานการณ์ในตอนนี้เร่งด่วนเป็นพิเ

ศษ

เขาจะคิดอะไรมากมายอีกต่อไปไม่ได้แ

ล้ว

“ฟังผมพูดนะ” เขาพูดเบาๆ เงินอีเวยไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดนําสามเ ของเซิ่งเจ๋อเฉิงถึงทําให้จิตใจของเธอ สงบลงได้

บาๆ
191580925_1379500385754260_989420815953816579_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ