บทที่152ทําไมตอนนั้นถึงทําเช่นนี้
บทที่ 152 ทำไมตอนนั้นถึงทำเช่นนี้
“คุณพูดว่าวันนั้นได้ยินเสียงของปืนหรือ ? ” เพิ่งเจ๋อเฉ งกับเสียงที่เต็มไปด้วยความเสาะหาอยากรู้
หน้าที่ไร้ความรู้สึกของเสิ่นอีเวยกล่าวว่า ” ใช่ “
เหมือนกับหหมัดที่ชกไปยังสำลีที่อื่นนุ่ม ความรู้สึกของเขา
เสมือนล้มทั้งยืนและสั่นมาก ๆ
“คุณรู้ได้ไงว่าเป็นผม
เงินอีเวยสะดุ้งไปชั่วครู่ เธอไม่อยากจะพูดว่าวันนั้นเธอได้ เห็นรถของเขามาก่อนแล้ว ดังนั้นเธอเลยมั่นใจอย่างสุด ๆ ว่า เสียงปืนนั้นมาจากเขา เลยทำให้เธอได้มีการเตรียมตัวไว้แล้ว ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “คุณไม่ใช่คิดเพราะว่า ในเวลานั้นชั้นเป็นห่วงคุณเลยวิ่งไปหาคุณใช่ไหม ? งั้นพูดแบบ นี้เถอะ หากอยู่ในเหตุการณ์เช่นนั้น ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่ใน สถานการณ์ที่อันตราย ณ ตอนนั้นชั้นก็คงวิ่งไปหมดนั่นแหละ”
เธอคิดว่าคำพูดที่พูดเมื่อสักครู่นี้มีความละเอียดรอบคอม เพราะว่าในความรู้และเข้าใจของเธอนั้น ไม่มีใครที่จะสามารถ ให้ศักดิ์ศรีของตนเองนั้นถูกทำร้ายจนจะถูกทำร้ายถึงที่สุด
แต่ว่าเธอกลับมองข้ามไป ผู้ชายที่อยู่หน้าเธอคือเพิ่งเจอเฉิง ซึ่งไม่ได้มีความสนใจความเจ็บปวดเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้
เพิ่งเจ๋อจึงได้กัดปากตนเอง แล้วหัวเราะอย่างสะใจ เขาได้ พยุงตัวเองขึ้นมาแล้วมองไปยังเธอด้วยสายตาที่สุขุม
“คุณคิดว่าผมรู้จักคุณวันนี้เป็นวันแรกหรือ ? หากในทาง กลับกันถ้าเป็นคนอื่นอยู่ในความอันตรายแน่นอนว่าคุณจะต้อง ช่วยเหลือ แต่ว่าในสถานการณ์ที่คุณท้อง……..เป็นห่วงเด็ก ในท้องขนาดนี้ ทำไมถึงทําให้ตัวเองนั้นตกไปอยู่ใน สถานการณ์เช่นนั้นได้ ? ”
คำพูดนี้ทำให้ในใจของเธอถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ
เธอพยายามบังคับจิตใจตน และอดทนต่อไป เธอแน่นอน ว่า….แน่นอนว่าจะไม่ให้ผู้ชายคนนี้รู้เด็ดขาดว่าเพราะว่าเธอ เป็นห่วงเขาเลยไม่ได้คิดถึงอะไรจึงไว้ไปหา
“หรือจะพูดว่า……..ตอนนั้นคุณได้สะกดรอยตามผมจริง ๆ ?” ก้าวเดินของเขาเริ่มมีความกระชับ
เธอจึงเงยหน้าขึ้นมา มองไปยังสายตาของเขาและพูด อย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ชั้นของพูดอีกหนึ่งรอบ ชั้นไม่ได้สะกดรอย ตามเธอ ดี ชั้นยอมรับ วันนั้นชั้นมั่นใจว่าเสียงปืนนั้นมายังทาง ของคุณ เพราะว่าก่อนหน้านั้นชั้นได้เห็นคุณ เห็นคุณขับรถมา ได้เคารพสุสานของพ่อแม่ของชั้น เห็นคุณกำลังจะขับรถลงเขา
เธอได้ยิ้มอย่างเยือกเย็น “นี่น่ะหรือยังเรียกว่าสะกดรอย ตาม ? ในสถานการณ์แบบนั้น ชั้นขอเขาว่าคุณคงไม่กล้าที่จะ พบหน้าชั้นหรอก”
หน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือด และไม่ได้พูดอะไร แต่สายตากลับมองเสื่นอีเวยตลอดเวลา
ทำไมตอนนั้นถึงมา ? ไม่ใช่เพราะว่าเป็นห่วงผม ? ”
ความคิดเธอได้หยุดไปชั่วครู่ เธอไม่ได้คิดเลยว่าเขาจะพูด แบบนี้ออกมาได้
เนื่องจากแสงไว้เป็นเหตุ ดวงตาของเธอก็เลยเต็มไปด้วย แสงระยิบระยับ แม้แต่เพิ่งเจ๋อเฉิงก็ไม่สามารถที่จะแยกแยะได้ ว่านั่นเป็นแสงหรือน้ำตาของเธอ
“ต่อให้ตอนนั้นเป็นห่วงแล้วจะทำไมล่ะ ? ตอนนี้พูดไปก็ ไม่มีประโยชน์แล้ว ถ้าหากว่า……
เสียงของเธอทันใดนั้นก็หยุดลง ไม่มีใครรู้ว่าเธอใช้พลัง มหาศาลในการกำหมัด เธอได้สูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ “ถ้า หากว่าการตอบแทนที่ชั้นวิ่งไปหาคุณแล้วต้องเสียลูก ไป……….นคงไม่อยากแน่นอน
ในใจสับสนว้าวุ่น ไม่สามารถที่จะบังคับความเสียใจ จน กระทั่งรู้สึกว่าเหมือนถูกของแหลมคมแทงลงกลางใจเธอ
เสิ่นอีเวยรู้อย่างชัดเจนว่าเมื่อสักครู่นี้โกหกเขา
วันนั้นในสุสาน เธอรู้ตัวดีว่าในท้องมีเด็กอยู่ เธอก็กลัวแต่ ว่าเมื่อได้ยินเสียงปืนในตนนั้นก็ไม่ได้มีความลังเลใจในอะไร เธอเลยรีบวิ่งหาไปเชิงเจ๋อเฉิง
อาลัยตายอยาก อาเพศยากหลีกหนี จึงได้เพียงแต่ยอมรับ
แต่ว่าเธอไม่อยากให้เขารู้ความจริง เพราะไม่อยากให้เขา
ได้ใจ
แต่ว่าเขากลับเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างในคำพูดของเธอ เ นอีเวย ในใจก็กลัวว่าเขาจะยิ่งเจาะลึกลงไป เธอไม่อยากให้ใน จิตใจของเธอเหมือนถูกดึงเอ็นออกมากจากร่าง เธอจึงเพียงแต่ ร้องขอ …ให้ผู้ชายคนนี้เหลือศักดิ์ศรีให้กับตนเองบ้าง
โชคดีที่สายตาของเขาเริ่มอ่อนลง และไม่ได้พูดอะไร
เงินอีเวยได้นอนลงบนเตียงและพลิกตัว เธอไม่รู้ว่าเขา ออกไปตอนไหน ร่างกายนั้นอ่อนเพลียมากและในความ สะลึมสะลือก็หลับไป
เช้าของวันที่สอง เสิ่นอีเวยขณะที่ไปบริษัท และได้หยุดอยู่ ร้านยาร้านหนึ่ง ได้ยืนอยู่ตรงที่หน้ากระจก ในใจเหมือนกับ เปิดขวดที่ไม่รู้ว่ากลิ่นอะไร
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ