บทที่141เรื่องของหวายหลี่วิลลา
บทที่ 141 เรื่องของหวายหลวิลล่า
แม้ว่าคุณจะยังป่วยอยู่ แต่ไหวพริบของท่านก็ยังไ
เหมือนเดิมอยู่เสมอ
สีหน้าของเพิ่งเจ๋อเฉิงก็ยังคงเย็นชาเหมือนเดิม เสิ่นอีเวย ได้แต่ปิดปากให้เงียบสนิทไม่พูดอะไรออกมา คุณปู่เพิ่งก็ได้แต่ ถอนหายใจ แล้วก็หยิบมือคนละข้างของทั้งสองคนนำมาวาง ทับกัน ฝ่ามือของเพิ่งเจ๋อเฉิงนั้นปิดทับมือของเสิ่นอีเวยได้พอ
ติบพอดี
มือของเสิ่นอีเวยสั่นเบาๆ ส่วนมือของเพิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้มี
อะไรเกิดขึ้นเลย
อย่าคิดว่าฉันแก่ขนาดนี้แล้วจะไม่รู้เรื่องนะ แถมเข้าใจว่า ตอนนี้สภาพร่างกายของตัวเองเป็นยังไงอีกด้วย ครั้งนี้ ฉันรู้ดี ว่าเวลาเหลืออยู่ไม่กี่เดือนแล้วแหละ
พูดถึงตรงนี้คุณก็หยุดพูดต่อ
ฟังเสียงชายชราที่พูดคำพูดเหล่านี้ออกมากอย่างนิ่งสงบ หัวใจเสิ่นอีเลยค่อยๆบีบรัดเกร็งขึ้นเรื่อยๆ จนเจ็บขึ้นไปเรื่อยๆ คอรู้สึกตีบตันอย่างบอกไม่ถูก มือของเธอถูกมือของเพิ่งเจอ เฉิงเกาะกุมไว้เลยทำให้หล่อนรับรู้ถึงความรู้สึกว่ามือเขากำลัง สันนิดๆ
คุณปู่ถามเชิงเจ๋อเฉิงต่อ : “เจ๋อเฉิง บอกฉันมา… หมอบอก ว่าฉันยังอยู่ได้นานเท่าไหร่?
เสิ่นอีเวยมองไปยังเพิ่งเจ๋อเฉิง หล่อนกำลังครุ่นคิดว่าจะ ปลอบโยนชายชราอย่างไรถึงจะทำให้เขาลดความเสียใจลงได้
บ้าง
แต่แล้ว เขากลับได้ยินเพิ่งเจ๋อเฉิงตอบกลับอย่างชัดถ้อย ชัดค่า : ” หมอบอกว่าจะอยู่ได้นานที่สุดสามเดือน
เสิ่นอีเวยตกใจในใจเริ่มโมโหเขาขึ้นมา อาการป่วย หนักขนาดนี้แล้วเขายังจะพูดความจริงออกไปโดยไม่ปิดบังอีก เขาไม่กว่าว่าจะรับไม่ได้เลยหรอ?
ทว่าเมื่อกลับมามองที่คุณปู่ สีหน้าของท่านยังคงครุ่นคิด ราบเรียบปกติดี ไม่มีตรงไหนเลยที่จะแสดงออกถึงความกลัว หรือตื่นตระหนกใดๆ
คุณปู่เพ้อรำพึงรำพันกับตัวเอง : “ดูเหมือนว่า…ถึงเวลาที่ ควรจะต้องสั่งเสียเรื่องต่างๆ หลังจากงานศพแล้ว
พูดจบคุณปู่ก็ไอหนักอยู่หลายครั้ง เสิ่นอีเวยรีบตบหลังคุณ เบาๆ แต่เธอไม่ได้สนใจสายตาที่สับสนของเพิ่งเจ๋อเฉิงที่มอง เธออยู่ข้างๆ
“ดูเหมือนว่า … ตาแก่อย่างฉันตายไปก็คงไม่ได้เห็นหน้า เหลนแล้ว จะพูดอีกคนอย่างเพิ่งสวนคงไม่มีโชคในด้านนี้
เล่นเวยถึงกับสั่นอยู่สักพัก เพราะเธอคิดถึงลูกที่เพิ่งสูญเสียเขาไปที่เพิ่งจะมีอายุครรภ์ได้เตือนกว่า…..
หล่อนหันกลับมามองเพิ่งเจ๋อเฉิง นาทีนั้น หล่อนอยากจะ ค้นหาความรู้สึกจากผู้ชายคนนี้ขึ้นมาบ้าง มันก็แต่ความรู้สึก ผิดนิดหน่อย ใจหล่อนถึงได้ชื่นใจขึ้นมาบ้างแต่กลับไม่มี ไม่มี อะไรในนั้นเลย
เพิ่งเจ๋อเฉิงทำเหมือนไม่ได้ยินที่เขาพูดเลยเอาแต่ก้มหน้า
ก้มตาคิดอะไรอยู่
พฤติกรรมของทั้งคู่ในตอนนี้มันทำให้เส้นเวยรู้สึก กระดากใจ ระหว่างเธอกับเขามันเกิดเรื่องที่ไม่มีความสุขแบบ นั้นขึ้นมา แค่สัมผัสทางกายนิดหน่อยมันทำให้เธอเสียอก เสียใจ
หล่อนเลยดึงมือกลับมาอย่างไม่บอกไม่กล่าว
หลังจากพูดคุยกัน พูดถึงเรื่องการพูดสนทนา แท้จริงแล้ว ส่วนใหญ่คุณเป็นคนพูดเองเออเองอยู่คนเดียว จนถึงตอนที่ แพทย์ส่วนตัวเดินเข้ามาเตือนว่าอย่ารบกวนท่านนานเกินไป ให้ท่านได้พักผ่อนเยอะๆ เพิ่งเจ๋อเฉิงกับเงินอีเวยถึงได้ออกมา จากห้องพัก
ทั้งคู่เดินออกมา เพิ่งเจ๋อเฉิงก็เดินลงบันไดไปเหมือนไม่ อยากจะอยู่กับเงินอีเวยนานเกินหนึ่งวินาที
เสิ่นอีเวยพูดขึ้นมาจากทางด้านหลังของเขา : “คุณพูด ความจริงกับคุณปู่ออกไปแบบนั้น ไม่กลัวหรอว่าคุณจะรับไม่ ได้?”
เชิงเจ๋อเฉิงหยุดเท้าลงแล้วหันกลับมาหาเธอ แล้วมองเลย อย่างสนอกสนใจ : เธอคิดว่าทุกคนจะเป็นเหมือนเธอที่ขี้กลัว ไปหมดทุกอย่างหรอ?”
เงินอีเวยอึ้งไปสักพัก ไม่เคยคิดเลยว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงเขาจะ ตอบเธอแบบน
“คุณหมายความว่ายังไง?”
เพิ่งเจ๋อเฉิงหัวเราะแห้งๆ : “ตอนช่วงปู่เป็นวัยรุ่นเมื่อหลาย สิบปีที่ผ่านมา เขาสร้างบริษัทเชิงชื่อด้วยสองมือของเขาเอง เธอก็ควรจะฟังเรื่องนี้มาไม่มากไม่น้อยอยู่ ตระกูลของฉันทั้ง สามชั่วอายุคน ทุกคนต่างอยู่ในวงจรการทำธุรกิจดิ้นรนกันมา อยู่หลายปีที่ผ่านมา ฉันเขาเป็นคนที่ใจแข็งแกร่ง แม้ว่าเขา ใกล้จะตายก็ตามแล้วยังไง? เธอรู้สึกว่าแค่เขารู้อาการป่วย จริงๆตัวเอง เขาก็ถึงกับรับไม่ได้เลยหรอ? เสิ่นอีเวย อย่าคิดว่า คนในตระกูลเพิ่งจะปกติธรรมดาไปนะ”
คำพูดที่ไร้ความอบอุ่นและความรู้สึกของเพิ่งเจ๋อเฉิง มัน ทำให้อุณหภูมิในร่างกายของเสิ่นอีเลยค่อยๆลดลงเรื่อย
คำพูดทั้งหมดทั้งมวลของเขาเมื่อครู่ มันมีคำที่เผลอหลุด ออกมาถึงสองครั้ง “คนตระกูลเซิ่ง” มันช่างเป็นคำพูดที่ทำให้ เธอดูห่างไกลไปมากจริงๆ ก็ใช่อีก เขาก็ถือว่าเธอเป็นคนนอก มาโดยตลอด ทําไมหล่อนต้องไปใส่ใจสิ่งนี้ด้วยหล่ะ?
ถ้าจะพูดให้ถูกต้องทุกเรื่องทั้งหมดมันคือเธอคิดหาเรื่อง
ไปเองเท่านั้น
ปีนันที่เป็นหุ้ยเกิดเรื่องขึ้น ทุกคนต่างไม่เชื่อในสิ่งที่เธอ อธิบายกลับคิดไปว่าเป็นเธอที่สั่งการให้คนไปทำร้ายพี่สาว แท้ๆของตัวเอง จนการแสดงออกของเพิ่งเจือเพิ่งเปลี่ยนแปลง ไปมากจนเขาเข้าขั้นเกลียดเธอ
ในช่วงนั้น เสิ่นอีเวยรับไม่ได้กับแรงกดดันกับเสียงวิพากษ์
วิจารณ์เลยตัดสินใจหนี ก่อนวันเดินทางออกนอกประเทศอยู่
ดีๆก็ได้รับคำเชิญ บอกว่าค่าเชิญ ในความเป็นจริงมันกลับ เป็นการขอแต่งงานที่แสนจะธรรมดามาก เวลานี้เสิ่นอีเวยกลับนึกถึงเรื่องตัวเองในเวลานั้นขึ้นมา รู้สึกว่าตัวเองในตอนนั้นช่างโง่เขลาเต็มประดา คนโง่คนหนึ่งที่
รักเซิ่งเจ๋อเฉิง
ตอนขอแต่งงาน เพิ่งเจ๋อเฉิงพูดกับเธออย่างไม่มีปิดบัง เขาพูดต่อหน้าเธออย่างชัดเจนว่า การแต่งงานของเธอกับเขาก็ เพื่อที่จะล้างแค้นเธอ ทรมานเธอ
ทว่าเงินอีเวยในตอนนั้นกลับเข้าข้างตัวเอง หล่อนไม่ได้ คิดถึงพี่สาวตัวเอง เงินหุ้ยที่นอนเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ คิดว่าคง มีสักวันที่ตัวเองจะเข้าไปอยู่ในใจของผู้ชายคนนี้ได้ ถึงแม้ว่า ตอนนี้เขาจะเกลียดตัวเองก็ตาม
ตอนนั้นเสิ่นอีเวยเลยตอบตกลง
เธอคิดมาโดยตลอดว่าการที่เพิ่งเจ๋อเฉิงเลือกแต่งงานกับ ตัวเองคงจะไม่เสียใจอะไรในภายหลัง แต่ตอนนี้กลับมาคิดดู แล้ว เสิ่นอีเลยคิดว่าตัวเองคิดผิด ผิดมาก ผิดมหันต์ ในตอนแรกเธอไม่ควรที่จะหอบหิ้วความโชคดีนี้เอาไว้ ความสัมพันธ์ ของทั้งคู่คงไม่ตกอยู่ในสภาพนี้ได้
ตอนที่เสิ่นอีเวยดึงความผิดกลับมา เพิ่งเจ๋อเฉิง ก็ไม่ได้อยู่
บนตึกชั้น นแล้ว
หล่อนเดินลงจากตึกแล้วพบเพิ่งเจ๋อเฉิงกำลังนั่งอยู่บน โซฟา มีคนเดินเข้ามาทางประตู เสิ่นอีเลยหัน
กลับไปมอง ก็พบหัวหน้าพ่อบ้านยามรักษาการณ์คนนั้น
เขาเดินมายืนหน้าเพิ่งเจ๋อเฉิงแล้วกล่าวรายงานเสียงเบาๆ
– “คุณเชิง ด้านนอกมีคนมาขอพบคุณเงินครับ
เสิ่นอีเวยที่กำลังยืนอยู่ที่บันไดถึงกับตกใจที่ได้ยินชื่อของ ตัวเอง สิ่งแรกที่ในใจคิดคือ….หรือว่าเป็นเงินเหยียนซึ่ง
เป็นไปไม่ได้หรอก เขาไม่กล้าขนาดนั้นที่จะมาหาเธอที่นี่
ได้
เพิ่งเจ๋อเฉิงหันกลับไปมองเสิ่นอีเวยอย่างปกติแล้วถาม หัวหน้าพ่อบ้าน: “คนนั้นได้บอกไหมว่าเขาชื่ออะไร?”
“เขาบอกว่าเป็นอาแท้ๆของคุณเงิน รบกวนคุณเงินพบ
เขาหน่อยครับ”
ใจเสิ่นอีเวยเต้น “ตุ๊บๆ” สีหน้าเปลี่ยนไปที่แท้เป็นเส้นเหยี
ยนซึ่งจริงๆ!
“หัวหน้าพ่อบ้านหยวน ตอนนี้คนคนนั้นอยู่ไหน?
หัวหน้าพ่อบ้านหยวนกล่าวรายงานเบาๆ : “รออยู่ที่หน้า
ประตูบ้านครับ”
หล่อนคิดเรื่องที่เสิ่นเหยียนซึ่งมาขอยืมเงินแบบไม่มี เหตุผลนั่นแล้วก็ปฏิเสธไปหลายครั้งแล้ว ทว่าเงินเหยียนซึ่งก ลับมาหาเธอถึงที่นี่จนได้! เสิ่นอีเลยคิดไม่ออกจริงๆว่าตัวเองจะ จัดการเขาอย่างไรดีจนถึงกับขยับเท้าไม่ออกไปพักหนึ่ง
ตอนที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เสียงเยือกเย็นของเพิ่งเจ๋อเฉี งดังขึ้นมา : “ที่นี่เป็นสถานที่ที่ให้คุณได้พักผ่อน เธอให้เขา ตามเธอมาถึงที่นี่ได้หรือว่าเธอต้องการให้ฉันออกไปรับหน้า แล้วแก้ปัญหาให้เธอใช่ไหม?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ