นายเป็นแค่สามีเก่า

ตอนที่ 91 เสิ่นอีเวยเจอกับอันตราย



ตอน91เสิ่นอีเวยเจอกับอันตราย

ตอนที่ 91 เสิ่นอีเวยเจอกับอันตราย

ถึงตอนนี้เสิ่นอีเวยจะเห็นสีหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงไม่ชัด ไม่ ต้องคิดก็รู้อยู่แล้วว่า เขาจะต้องมองเห็นแต่ตัวเอง พอคิดได้ แบบนี้ ในใจของเสิ่นอีเวยก็รู้สึกกลัวขึ้นมา จนเหงื่อเม็ดเล็กๆ ไหลซึมออกมาจากหน้าผาก

ไม่ว่ายังไง ก็จะไม่บอกความจริงกับเซิ่งเจ๋อเฉิง ไม่เช่นนั้น สิ่งที่ปิดบังมาทั้งหมดก่อนหน้านี้ ก็เท่ากับว่าสูญเปล่า

เสิ่นอีเวยตั้งสติแล้วบอกกับเซิ่งเจ๋อเฉิงว่า ” ฉันโกหกคุณ ที่จริงแล้วในวันนั้นฉันมีรอบเดือนแล้วก็ปวดท้องมาก จนต้อง ให้หมอจ่ายยาแก้ปวด ถึงฉินโม่จะเป็นเพื่อนที่สนิทมาก แต่ยัง ไงเขาก็เป็นผู้ชาย ถ้าให้พูดความจริงกับฉินโม่ก็รู้สึกอาย ถึงได้ จำใจพูดโกหกไปว่าเท้าพลิก เพื่อให้เขาพาฉันไปส่งที่โรง พยาบาล พอตอนที่เธอถาม ฉันก็เลยปล่อยเลยตามเลย ”

อันที่จริงแล้วเหตุผลนี้ก็ไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไร เดิมทีเสี่ นอีเวยคิดว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงไม่มีทางเชื่อ แต่พอพูดแบบนี้ไปดูเหมือ นเชึงเจ๋อเฉิงก็ไม่ได้ว่าอะไร

เพิ่งเจ๋อเฉิงยิ้มหยัน แล้วพูดว่า ” เธอยังรู้เหรอว่าฉินโม่เป็น

ผู้ชาย ”

เส็่นอีเวยถูกเพิ่งเจ๋อเฉิงพูดจายอกย้อนใส่ แต่ดูแล้วเพิ่งเจ๋อเฉิงก็ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เสิ่นอีเวยเลยรู้สึก โล่งใจไป

ฉันขอพูดเป็นครั้งสุดท้ายนะเสิ่นอีเวย ไม่ว่าอย่างไร ก็ตามอย่าได้พยายามโกหกฉัน ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ชอบเธอ ที่เธอ ต้องมาเป็นภรรยาของฉัน แต่เธอก็ยังต้องเห็นแก่หน้าของสามี เมื่อเกิดเรื่องอะไรขึ้น ฉันหวังว่าคนแรกที่เธอจะขอความช่วย เหลือก็คือฉัน ไม่ใช่ไปขอความช่วยเหลือจากผู้ชายคนอื่น เธอ เข้าใจใช่ไหม ”

เสิ่นอีเวยเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะบอกอยู่แล้ว นั่นก็คือ กำลังเตือนเสิ่นอีเวย ห้ามใกล้ชิดกับผู้ชายคนอื่นที่นอกเหนือ จากเขา มิเช่นนั้นในสายตาคนอื่นก็จะมองว่าเขาเป็นสามีที่ไม่ดี

อย่างที่คิดไว้เลย ตั้งแต่ไหนตั้งแต่ไรเซิ่งเจ๋อเฉิงคิดถึงแต่ ตัวเองเท่านั้น เสิ่นอีเวยไม่เคยอยู่ในใจของเซิ่งเจ๋อเฉิงเลย

เสิ่นอีเวยได้แต่พยักหน้าตอบรับช้า ๆ อยู่ในความมืด

ตอนที่เสิ่นอีเวยตื่นขึ้นมา ก็เป็นเวลา 10 โมงเช้าของวันรุ่ง ขึ้นแล้ว ในห้องที่กว้างใหญ่ไร้ซึ่งผู้คน และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเซิ่งเจ๋อ เฉิงออกไปตั้งแต่เมื่อไร

เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทั้งหมด พูดไปแล้วสำหรับเสิ่นอีเวยก็ เหมือนกับความฝัน เพราะยังไงก็ไม่เหมือนกับเรื่องจริง เมื่อคืน เสิ่นอีเวยถูกผู้ชายใจร้ายสองคนดูถูกรังแก หลังจากนั้นก็ถูกเชิ่ง เจ๋อเฉิงพาตัวไป และเพิ่งเจ๋อเฉิงก็อยากจะบีบคอของเสิ่นอีเวย ให้ตายไปในอ่างอาบน้ำ สุดท้ายทั้งเสิ่นอีเวยกับเซิ่งเจ๋อเฉิงก็ร่วมรักกันอย่างเร่าร้อนที่ด้านหน้าของหน้าต่างตรงระเบียง

เรื่องทั้งหมดมันน้ำเน่าเกินไป แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือ ไม่คิดเลยว่าเมื่อคืนเซิ่งเจ๋อเฉิงได้ฆ่าจิตใจของเสิ่นอีเวยให้ตาย ไปแล้ว

เสิ่นอีเวยยืนอยู่หน้ากระจก ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมามองร่อง รอยแห่งความทรงจำที่คอของตัวเองซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน นอกจากรอยจูบที่เมื่อคืนเซิ่งเจ๋อเฉิงหลงเหลือไว้ ก็ยังมีรอยที่ เพิ่งเจ๋อเฉิงบีบคอเขาอย่างรุนแรง บางครั้งคนเราก็เป็นแบบนี้ แหละ ถ้าเป็นความทรงจำที่เจ็บปวดเราก็ไม่อยากจะไปยอมรับ มัน ถ้าไม่ใช่เพราะรอยที่ปรากฏอยู่บนคอ เสิ่นอีเวยก็คงไม่เคย นึกได้ว่าเมื่อคืนเชิ่งเจ๋อเฉิงคิดอยากจะฆ่าเขาจริง ๆ

เมื่อคืนบรรยากาศตึงเครียดและคลุมเครือมากเกินไป พอ ห้องนี้เข้าสู่สภาวะปกติ ตัวเสิ่นอีเวยเองก็ใจเย็นลงมาแล้ว เขา ถึงคิดได้ว่าเรื่องราวมันร้ายแรงขนาดไหน ใช่สินะ เซิ่งเจ๋อเฉิง เป็นคนช่วยเขาให้รอดพ้นจากอันตราย แล้วก็ยังจูบและยังร่วม รักกับเขาด้วยความเร่าร้อน แต่ในเรื่องราวทั้งหมด มีเรื่องหนึ่ง ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้

นั้นก็คือ เซิ่งเจ๋อเฉิงเกลียดเขาถึงขีดสุด ถึงขั้นสามารถฆ่า เขาให้ตายได้ด้วยมือเขาเอง

ข้างนอกแดดส่องสว่างจ้า เสิ่นอีเวยยืนอยู่ข้างเตียง พอ นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็รู้สึกขนลุก

ใจของเสินอีเวยเจ็บเหมือนมีมีดมากรีด เซิ่งเจ๋อเฉิง ทำไมเธอถึงเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย บางทีก็เหมือนเอามือมาตบที่หน้า บางทีก็คอยป้อนลูกอมหวานๆ ให้ เพิ่งเจ๋อเฉิงเธอชอบความ รู้สึกแบบนี้หรอกหรือ

เสิ่นอีแวยใช้เวลาอยู่ในห้องเป็นเวลานานเพื่อรอให้ใจเย็น ลง แล้วจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยกลิ่นไวน์แล้วถึงออกจาก โรงแรม เสิ่นอีเวยรู้สึกยิ้มเยาะในใจแล้วคิดว่า เซิ่งเจ๋อเฉิงไม่มี ทางคิดจะให้คนเอาเสื้อผ้าสะอาด ๆ มาให้เขาเปลี่ยนแน่นอน

เพราะเมื่อคืนตัวเสิ่นอีเวยถูกเพิ่งเจ้อเฉิงพามาที่นี้ เพราะ ฉะนั้นก็ได้แต่เพียงนั่งแท็กซี่กลับบ้านเอง ก่อนอื่นก็ต้องเปลี่ยน เสื้อผ้าให้สะอาดก่อน

ไม่รู้ว่ารถขับเร็วเกินไปหรือว่ารู้สึกไม่สบาย เสิ่นอีเวยรู้สึก คลื่นไส้อยากจะอาเจียน แต่ก็ไม่อยากจะอาเจียนบนรถเพราะจะ ทำให้คนขับต้องเดือดร้อน ครั้นแล้วเสิ่นอีเวยยื่นมือไปแตะที่ เบาะหน้า แล้วบอกกับคนขับว่า “ โชเฟอร์ ช่วยจอดรถหน่อยคะ ” ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย

แต่คนขับเหมือนไม่ได้ยินในสิ่งเสิ่นอีเวยบอก ไม่มีทีท่าว่า จะหยุดรถ ความรู้สึกก็ยิ่งกระอักกระอ่วนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เสี่ นอีเวยจึงใช้มือกดไปที่ท้องของตัวเอง เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น

แต่ความรู้สึกคลื่นไส้ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ๆ เรื่อย ๆ เพราะรถ ก็วิ่งเร็วจึงยิ่งทำให้รถโยกไปโยกมา จึงทำให้เริ่มรู้สึกเวียนหัว มากขึ้น

” โซเฟอร์ จอดก่อน รีบจอดรถก่อน ” เสิ่นอีเวยรีบโบกไม้โบกมือบอกกับคนขับ

คนขับรถไม่เพียงไม่จอดรถ แต่กลับยิ่งเหยียบคันเร่ง ความเร็วของรถยิ่งเร็วขึ้น ทำให้ลมแรงจากภายนอกรถพัดเข้า มาทางหน้าต่าง จนทำให้ผมของเสิ่นอีเวนต์ยุ่งเหยิงไปหมด

เสิ่นอีเวยรู้สึกแปลก ๆ จึงเงยหน้าขึ้นไปมองที่กระจกมอง หลัง ภายใต้กระจกนั้นก็เห็นใบหน้าของผู้ชายคนหนึ่ง หางตา ของชายคนนี้มีแผลเป็นที่มีลักษณะเป็นเส้นโค้ง และยาวไปถึง แก้ม ชายคนนี้กำลังตั้งใจขับรถอยู่ แต่แววตาของเขาทำให้ รู้สึกถึงความน่ากลัว สายตาจดจ้องอยู่แต่ทางด้านหน้า เหมือน กับไม่ได้ยินสิ่งที่เสิ่นอีเวยได้พูดอยู่

เมื่อเสิ่นอีเวยเห็นแผลเป็นนี้ ทำให้เขานิ่งอึ้งไปสักพัก รู้สึก เหมือนเคยเห็นแผลเป็นแบบนี้ที่ไหนมาก่อน

ในหัวก็แวบขึ้นมา อ๋อ ใช่แล้ว ชายคนนั้นเองที่เซิ่งเจ๋อเฉิง พาไปที่บริษัทแล้วเป็นคนใส่ร้ายฉันนี้เอง

ขณะนั้นในใจของเส่นอีเวยก็เหมือนมีสัญญาณเตือนภัย รู้สึกเสียใจที่เมื่อกี้ไม่สบาย ตอนขึ้นรถเลยไม่ทันได้สังเกตหน้า คนขับรถอย่างละเอียด ถึงแม้ว่าเขาจะโง่แค่ไหน แต่ก็รู้ว่าเรื่อง คงไม่จบลงง่าย ๆ แน่

เสิ่นอีเวยหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋า แล้วกำ โทรศัพท์ไว้แน่น พร้อมกับพูดขู่คนขับรถว่า “ จอดรถเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ ”

ชายคนขับรถเหลือบตามอง เห็นตัวเลข 110 ตัวใหญ่ ๆสามตัวอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ ก็เริ่มยิ่งรู้สึกลนลาน จึงหักพวง มาลัยมาทางขวาอย่างรวดเร็ว เส้น เวยไม่ทันได้ตั้งตัว ตัวเขา จึงเสียหลักจากที่นั่งอยู่ฝั่งด้านขวาก็กลิ้งมาทางฝั่งด้านซ้าย ทำให้ร่างกายเสียสมดุล มือที่ถือโทรศัพท์อยู่ก็ชนเข้ากับประตู อย่างจัง จึงทำให้โทรศัพท์ในมือตกลงไปอยู่ตรงซ่องระหว่าง ข้างประตูกับเบาะ

เสิ่นอีเวยรู้สึกเครียดมาก รีบคลำหาโทรศัพท์มือถือ ชาย คนขับรถรู้ว่าเสิ่นอีเวยกำลังทำอะไร เขาจึงหักพวงมาลัยไปซ้าย ที่ขวาที่เพื่อให้รถโยกไปโยกมา จริง ๆ ตอนนี้เส้นทางที่กำลัง ไปก็ไกลจากเส้นทางที่จะกลับบ้าน แล้วก็เป็นทางที่เปลี่ยวและ ไม่คุ้นเคยมากขึ้นเรื่อย ๆ มีฝุ่นที่ปลิวจากข้างนอกรถเพราะรอย ล้อรถที่ขับผ่าน

ยังไงก็ไม่สามารถเก็บโทรศัพท์ขึ้นมาได้ เป็นเพราะรถที่ ขับฉวัดเฉวียนทำให้เสิ่นอีเวยเจ็บไปทั้งตัว

” จริง ๆ แล้วคุณคือใคร คิดจะทำอะไร เป็นเพราะความ กลัว เสิ่นอีเวยจึงตะโกนถามออกไปเพื่อให้ตัวเองมีความกล้า มากขึ้น เห็นได้อย่างชัดเจนว่าผู้ชายคนนี้ถูกสั่งมา เพราะเขา ไม่คิดที่จะพูดอะไรกับเสิ่นอีเวยเลย รถก็ยังคงวิ่งด้วยความเร็ว ในที่สุดเสิ่นอีเวยก็คลำจนเจอ โทรศัพท์มือถือ เขารีบปลดล็อค หน้าจอ เพื่อเตรียมกด 110

ในช่วงเวลานี้ ในใจของเสิ่นอีเวยรู้สึกสิ้นหวังและไร้ความ ช่วยเหลือใด ๆ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ในเวลาที่ตัวเองต้อง มาเจอกับอันตราย ไม่คิดเลยว่าจะสามารถขอความช่วยเหลือจาก 110 ได้

ใช่สิ แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยมีเพื่อน หลิน โม่เยนเป็นคน ชื่อเกินไป เสิ่นอีเวยจึงไม่อยากให้หลิน โม่เยนต้องเข้ามา เกี่ยวข้องกับชีวิตอันวุ่นวายของเขา ส่วนเสิ่นอีเวยเองก็ไม่มีทาง ที่จะลืมความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อคืนว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงอยากจะบีบคอ เขา มันไม่มีทางลืมได้แน่นอน

ในขณะที่เสิ่นอีเวยกำลังจะกดเบอร์ 110 ก็มีโทรศัพท์โทร เข้ามา เสิ่นอีเวยอึ้งไปสักพัก

มีตัวหนังสือสามตัวปรากฏขึ้นที่หน้าจอว่า ” เชียวหันถึง “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ