นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่47 การสนทนากลางดึก



บทที่47 การสนทนากลางดึก

ที่กินดื่มจนสำราญแล้วอารมณ์ก็ดีขึ้น ข้างห้องรับแขกมีห้องสันทนาการ เขาใช้จังหวะที่เสิ่นอีเวยล้าง จานอยู่นั้นแวบไปเล่นเกมในห้อง เสิ่นอีเวยล้างจานเสร็จเปิด ประตูออกมา มองเห็นด้านหลังของเซิ่งเจ๋อเฉิงที่นั่ง โยกไปมา อยู่บนพื้น ในใจเปี่ยมไปด้วยความสุข

คืนนี้ทั้งสองอยู่ร่วมกันอย่างสงบ ทำให้ในใจของเสิ่นอีเวย เกิดความรู้สึกแปลกใจ ประหนึ่งว่าการทะเลาะเบาะแว้งหรือโต้ เถียงกันของพวกเขาไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เป็นเพราะเข้าห้องครัว ร่างกายจึงมีกลิ่นควันกลิ่นน้ำมัน ติดตัวอยู่ เสิ่นอีเวยจึงไปอาบน้ำ อาบน้ำเสร็จหล่อนสวมชุดนอน เดินออกมา ผมยังไม่ได้เป่าให้แห้ง ปลายผมยังมีน้ำหยดอยู่

ภายในห้องนอนไม่มีใครอยู่ เสิ่นอีเวยถอนหายใจออกมา เบาๆ เพิ่งเจ๋อเฉิงน่าจะยังเล่นเกมอยู่ที่ชั้นล่าง หล่อนกำลัง เตรียมจะหยิบแผ่นมาส์กออกมาคลุมใบหน้า ในตอนนี้เองที่ หล่อนได้ยินเสียงดังมาจากระเบียงห้อง

หล่อนรู้สึกตกใจ หันหน้ากลับไปมอง เพิ่งเจ๋อเฉิงนั่งอยู่บน เก้าอี้ตรงนั้นข้างๆกันมีโต๊ะทรงกลมด้านบนมีขวดไวน์วางอยู่ ด้วย

เสิ่นอีเวยกำลังสงสัย คืนนี้เกิดอะไรขึ้นกับชายคนนี้

ในขณะที่หล่อนกำลังหาคำตอบอยู่นั้น เจ๋อเฉิงก็เรียก

หล่อน”มานี่สิ”
เป็นเพราะว่าหล่อนเพิ่งอาบน้ำเสร็จจริงรู้สึกเขินอายเล็ก น้อย หล่อนก้มหน้ามองชุดนอนที่ตนเองสวมอยู่ ก็ไม่ได้โป๊อะไร

หล่อนเช็ดผมพลางเดินไปพลาง

หล่อนนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเขา

“ซูเวย”

“ที” เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเขาเรียกหล่อนแบบนี้ ยังไม่ทันได้ ตั้งตัวนอกจากไม่คุ้นเคยแล้วก็ยังไม่คุ้นเคยต่อไปอีก

“เรื่องที่พ่อแม่คุณเสียชีวิตตอนนั้น ไหน” น้ำเสียงของเขาเรียบเฉย เบาๆ นัยน์ตาสีดำเหมือนทะเลลึก

มิด

เสิ่นไปเล็กน้อย ไม่ได้ตอบคำถามเขาในเพราะหล่อนคาดไม่ถึงว่าอยู่ๆเขาจะถามเธอถึงเรื่องนี้ขึ้นมา

หล่อนคิดก่อนจะตอบออกไปว่า “จริงๆ หลังท่าน เสีย ตลอดสี่ปีมานี้ฉันไม่เคยทำใจให้เชื่อได้ท่านตายคือสูดดมแก๊สพิษเข้าไป ฉันรู้สึกว่าอะไรมากกว่านั้น”

คิ้วของเจ๋อเฉิงขมวดขึ้นเล็กน้อยภายใต้อีเวยไม่เห็น

“แล้วปกติคุณเคยคิดถึงเรื่องนี้มั้ย อย่างเช่นว่า ในปีท่านเสียนั้น เกิดเรื่องราวอะไรขึ้นบ้าง”
เสิ่นอีเวยนิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนจะตอบว่า “แน่นอนเคย คิดสิ แต่สุดท้ายคิดอะไรไม่ออก เพราะคุณพ่อคุณแม่เป็นคนดีมี มารยาทดีต่อคนอื่นตลอดมา ฉันติดไม่ออกเลยจริงๆเลยว่าจะมี เหตุผลอะไรที่ต้องโกรธแค้นกันจนถึงกับต้องฆ่าจนดาย และ สถานที่เกิดเหตุก็บ่งบอกว่าแค่สูดแก๊สพิษเข้าไป คืนวันนั้นพวก ท่านก็อยู่ในบ้านปกติ แต่”

เหมือนอยู่ๆ หล่อนก็ฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ นัยน์ตาเิ้นอีเวย เปล่งประกายแวบขึ้นมา แต่เมื่อคิดดูแล้ว หล่อนก็ไม่คิดที่จะพูด ประโยคสุดท้ายนั้นออกมา

เพิ่งเจ๋อเฉิงมองหล่อน “แต่อะไร”

เสิ่นอีเวยยิ้มแล้วปฏิเสธ “ไม่มีอะไร”

เดิมที่หล่อนอยากจะพูดเรื่องนี้ แต่มีบางอย่างที่ทำให้ หล่อนรู้สึกประหลาดใจมาตลอด เสิ่นหุ้ยอยู่ๆก็หนีออกมา ครอบครัวของหล่อนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันสี่คนมาหลายปี ทำให้ เข้าอกเข้าใจวิถีชีวิตของแต่ละคนอย่างดี

เสิ่นหุ้ยเวลานอนจะหลับลึกมาก คืนนั้นเมื่อสี่ปีก่อนไม่มี อะไรผิดปกติ ถ้าหากวันนั้นมีฟ้าผ่า อาจจะทำให้คนในบ้านถูก ปลุกให้ตื่น แต่ก็ไม่มี

แต่กลับกลายเป็นคนที่นอนหลับลึกอย่างเสิ่นหุ้ยที่ตื่นขึ้น มาแล้วหนีออกไป ส่วนพ่อกับแม่ไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่หล่อนคาดเตาเอง แต่หล่อนไม่คิดที่ จะพูดต่อหน้าเข็งเจ๋อเฉิง เขาขอบเงินหุ้ยขนาดนี้ จะยอมให้หล่อนสงสัยในตัวเสิ่นหุ้ยในเรื่องนี้เหรอ

เวลานี้หล่อนไม่คิดหาคนผิดให้ตัวเองอีก คิดมาถึงตรงนี้ อุณหภูมิภายในใจกลับเริ่มหนาวเย็นลง

เพิ่งเจ๋อเฉิงจับความผิดปกตินั้นบนใบหน้าของหล่อนได้ จึงไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเงยหน้าดื่มไวน์ที่อยู่ในแก้วจนหมด ใบหน้าปรากฏรอยเส้นสีแดงๆบางๆ หล่อนรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่ ดื่มเก่งอะไร แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้เขาถึงดื่มเยอะขนาดนี้

หล่อนยังคงแปลกใจ “ทำไมอยู่ๆคุณถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมา”

มือที่ถือแก้วไวน์ของเขาซะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบว่า “ไม่มีอะไรไปนอนเถอะ”

น้ำเสียงและสีหน้าเย็นชา แน่นอนว่าหล่อนเห็น หล่อนลุก ขึ้นยืน มือคลำที่ผม อยู่บนระเบียงมีลมพัดไปมา สักพักผมก็ แห้งเกือบหมดแล้ว

เสิ่นอีเวยนอนลงบนเตียง ไม่ได้ยินว่าที่ระเบียงด้านนอกมี เสียงอะไร หล่อนหันไปมองทางนั้น เพิ่งเจ๋อเฉิงยังคงนั่งเงียบๆ อยู่ที่เดิม เสิ่นอีเวยละสายตากลับ เตรียมตัวเข้านอน

แต่ไม่รู้เป็นเพราะช่วงนี้อารมณ์ไม่ค่อยดีหรือเปล่า ช่วง เวลานี้หล่อนมักจะ นอนไม่หลับ นอนอยู่บนเตียงครึ่งชมแล้วแต่ กลับไม่รู้สึกง่วงนอนเลย ไม่รู้จะทำอย่างไรจริงๆ ในใจหล่อน รู้สึกกลัดกลุ่ม จึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเลื่อนดูแก้รำคาญ กดเข้าไปดูในอัลบั้มภาพ ในนั้นมีรูปแบบชุดเจ้าสาวที่หล่อน ชอบเก็บสะสมมามากมายตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย มีทั้งแบบที่เขียนด้วยมือซึ่งหล่อนถ่ายเก็บไว้ในโทรศัพท์และแบบที่เป็น ไฟล์

เสิ่นอีเวยค่อยๆเลื่อนเปิดดูทีละรูป เหมือนเห็นภาพตัวเอง ที่กำลังพยายามไล่ตามความฝันของตัวเอง แล้วมาดูตอนนี้สิ

หล่อนเคยฝันว่าเจ้าสาวที่ได้สวมชุดแต่งงานที่หล่อน ออกแบบนั้นจะมีชีวิตแต่งงานที่มีความสุขไปตลอดชีวิตแต่โชค ชะตาก็เหมือนเล่นตลกกับชีวิตของคนหล่อนเป็นคนออกแบบ ชุดเจ้าสาวแต่ชีวิตแต่งงานของหล่อนกลับช่างน่าขันไม่มีความ สุขเอาเสียเลย

เพราะความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในใจนี้เอง ดังนั้นเสิ่นอีเวยจึง ใช้เวลาส่วนใหญ่ทุ่มเทให้กับการออกแบบ และพบว่าหล่อนเอง ก็ค่อยหมดเรี่ยวแรงไปเช่นกัน

มองดูภาพที่เมื่อก่อนเธอออกแบบไว้อย่างสวยงาม ยิ่งดู ในใจของหล่อนยิ่งทรมาน หล่อนจึงวางโทรศัพท์ลงไม่ดูอีกต่อ

ไป

เสิ่นอีเวยหลับสนิท จนเวลาประมาณเที่ยงคืน หล่อนก็ งัวเงียตื่นขึ้นมา เพราะรู้สึกเหมือนมีคนดึงผ้าห่มเอาไว้

ตอนแรกหล่อนคิดว่าตัวเองฝัน แต่เพราะแรงนั้นยิ่งมากขึ้น จึงทำให้หล่อนมีสติรู้ตัว

หล่อนพลิกตัวกลับมา พอลืมตาก็พบว่ามีคนๆหนึ่งยืนอยู่ ข้างเตียงจริงๆ ไม่ต้องคิดก็รู้ได้โดยทันทีว่าคือ เซิ่งเจ๋อเฉิง เขา น่าจะอาบน้ำมาเพราะเขาใส่เสื้อคลุมอาบน้ำสีดำอยู่ ด้วยความที่เขาเป็นคนร่างสูงใหญ่ เสิ่นอีเวยที่นอนมองเขายืนอยู่ จึงรู้สึก หวาดกลัวเหมือนถูกคุกคาม

“คุณทำอะไร” หล่อนไม่ได้ลุกขึ้น

เพิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้ตอบคำถามหล่อน เขาโน้มตัวลงไป หล่อนตกใจมาก ใช้สองมือยันหน้าอกของเขาไว้ “เซิ่งเจ๋อเฉิงนี้ ดึกมากแล้วคุณยังไม่นอน คิดจะทำอะไรของคุณ”

เพราะว่าเป็นฤดูร้อน ในห้องจึงเปิดเครื่องปรับอากาศ เสี่ นอีเวยมีเพียงผ้าห่มผืนบางๆคลุมร่างไว้ เซิ่งเจ๋อเฉิงใช้มือเดียว กระชากออกไป ผ้าห่มก็ลงไปกองอยู่ข้างเตียงแล้ว ร่างของ หล่อนจึงปรากฏชัดต่อสายตาเขา

ถึงแม้ว่าหล่อนยังสวมชุดนอนอยู่ แต่ผ้านั้นบางมาก แทบ จะไม่สามารถปิดกั้นมือใหญ่ที่ลูบคลำลงไปของเซิ่งเจ๋อเฉิงได้

เลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ