นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่41 หญิงสาวลึกลับ



บทที่41 หญิงสาวลึกลับ

เซึ่งเจ๋อเฉิงปล่อยผู้ชายคนนี้ไปต่อหน้าทุกคน โดยป่าว ประกาศว่า เขาล่อลวงไปซึ่งทรัพย์สินและยังถูกอาชญากร หลอกใช้เป็นเครื่องมือ กุญแจสำคัญของเรื่องไม่ใช่เขา บริษัท เราใหญ่โต ไม่มีความจำเป็นต้องไปซ้ำเติมคนงานธรรมดาคน หนึ่ง

ชายคนนั้นก็ได้กล่าวขอบคุณเชิ่งเจ๋อเฉิง เพราะในใจเขา นั้นคิดว่าเขาได้เงินสองทางช่างน่ายินดีนัก แต่พอหันกลับมา เพิ่งเจ๋อเฉิงก็ป่าวประกาศต่อหน้าทุกคนแบบนั้น

เขาสั่งให้คนสะกดรอยตามและตรวจสอบชายคนนี้ให้ มากยิ่งขึ้นถ้าหากชายคนนี้ไม่โดนจับ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังชายคนนี้ ยังคงบงการและติดตต่อกับเขาอยู่ ทั้งยังคิดจะตกปลาตัวใหญ่ กว่าเดิมพวกเขาก็แค่ให้ชายคนนี้กับผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง ปรากฏตัวออกมา ถึงเวลาพวกก็จะได้จัดการทั้งหมดที่เดียว

หลังจากที่ทั้งสองได้พบกันแล้ว ก็เริ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน แต่เพราะว่าอยู่ห่างมากจึงทำให้บอดี้การ์ดไม่ได้ยินว่าทั้งสอง พูดคุยอะไรกัน

ผู้หญิงที่สวมเดรสสีดำยื่นกล่องเล็กส่งให้ผู้ขายคนนั้น เขา มองไปรอบๆอย่างระมัดระวังก่อนจะรับกล่องนั้นมา

พวกบอดี้การ์ดเริ่มการเคลื่อนไหว พวกเขาค่อยขยับเข้า ใกล้บริเวณที่ทั้งสองพูดคุยกันมากยิ่งขึ้น แต่เวลานี้เองที่สาวชุด ดำนั้นเริ่มรู้สึกผิดสังเกต
อยู่ๆมองมาทางเขาตัวอยู่ฝ่ายต่างตกตะลึง อีกฝ่ายอีกฝ่ายไล่ตาม

หญิงสาวที่สวมชุดนั้นวางแผนมาอย่างดี รถของเธอ จอดอยู่ไม่ไกลจากจุดนั้น และดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยเส้นทาง รอบๆ โรงงานร้างแห่งนี้ดี

ชายหนึ่งหญิงหนึ่งต่างฝ่ายต่างวิ่งไปทางถนนเล็กนั้น คน ของเจ๋อเฉิงแยกออกเป็นสองกลุ่ม ผู้หญิงคนนั้นรีบวิ่งไปยัง กว่าบรรดาบอดี้การ์ดจะตามมาถึง รถของเธอก็ ทะยานออกไปไกลไม่เหลือแม้แต่ฝุ่นแล้ว

ผู้ชายที่รับเงินวิ่งหนีไปทางใต้ดินใต้ดินนั้นมืดและอับ ทั้งสองคงใช้ที่นี่

ไม่อย่างนั้นผู้ชายคนนั้นคงไม่สามารถเข้าออก

ได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว

ชั้นที่ 24ของบริษัทซื่อ ภายในห้องทำงานที่อา เซิ่งเจ๋อเฉิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานหนังแท้สีดำ กำลังโทรศัพท์ด้วยนิ้วมือเรียวยาวของเขา ประหนึ่งกำลังรอ

สายสำคัญอยู่

ทันใดนั้นเองเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เจ๋อเฉิงที่สีหน้า

เรียบเฉยรับสาย

“ว่ายังไง”

“ท่านประธานพวกเราพลาดครับ
เพิ่งเจ๋อเฉิงมีสีหน้าวิตกอยู่สามนาที “เป็นไปได้ยังไง” บอดี้การ์ดเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เขาฟังอย่างละเอียด เพิ่งเจ๋อเฉิงได้ฟังสีหน้ายิ่งมีแวววิตกกังวล

ครั้งก่อนเขาตั้งใจปล่อยชายคนนี้ไปเพื่อให้เขากลับไป ติดต่อกับคนที่อยู่เบื้องหลังเขา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าครั้งนี้จะจับหญิงคนนี้ไม่ได้เชิ่งเจ๋อเฉิงรู้สึกกลัดมาก

เรื่องการฉีดยาครั้งก่อนที่ถึงแม้ว่าเมื่อแล้วแทบจะไม่เกี่ยวข้องกับเสิ่นอีเวยเลย เฉิงนั้น เสิ่นอีเวยคือผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง

แล้วนึกถึงท่าทีของเสิ่นอีเวยที่มีต่อเขาเมื่อคืนก่อน มีความกังวลใจเพิ่มมากยิ่งขึ้น ผู้หญิงคนนี้กล้ามองข้ามเขา ปิด ประตูใส่เขา ตอนนี้เขาอยากจะระเบิดอารมณ์ใส่เธอมาก

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นกดเบอร์ของเสิ่นอีเวยแล้วโทรออกไป

ไม่มีคนรับสาย

เพิ่งเจ๋อเฉิงรู้สึกร้อนรน จึงกดโทรออกไปอีกครั้ง ครั้งนี้ โทรศัพท์ดังไม่กี่ครั้งก็ถูกตัดสายทิ้ง

ความโกรธที่มีอยู่ใกล้ถึงจุดที่ควบคุมไม่อยู่ ผู้หญิงคนนี้

กล้าตัดสายเขา

เสิ่นอีเวยที่กำลังขับรถ อยู่ๆเธอเบรกอย่างกะทันหัน เป็น ช่วงที่การจราจรเริ่มติดขัดมีรถจำนวนมาก รถไม่ขยับไปด้าน หน้าแม้แต่นิดไม่ถึงสิบวินาทีถนนที่อยู่ด้านหลังถูกรถหลากหลายประเภทเข้ามาปิดกั้นเหมือนท่อน้ำอุดตัน

เธอ

หลิน

คุณ

อีก
เหตุผลนี้เสิ่นอีเวยรู้ดี คงจะเป็นเพราะว่าคนที่ทำงานอยู่ ใกล้ชิดกับเจ๋อเฉิงก็จะถูกหล่อหลอมให้มีนิสัยท่าทีเหมือน กับเขาดังนั้นเสิ่นอีเวยจึงแสดงไม่ชอบหลินมา

การที่หลินทำงานใกล้ชิดอยู่กับคนที่เจ้ายศเจ้าอย่าง อย่างเพิ่งเจ๋อเฉิงได้นานหลายปีขนาดนี้ แน่นอนว่าต้องมีเหตุผล หลินเองก็ฟังน้ำเสียงของเสิ่นอีเวยออกว่าไม่พอใจเจ้านาย ของเขาจึงพาลมาโกรธเขาไปด้วย แต่เขารู้จักตาม ในใจของเขานั้นคำนึงถึงสิ่งเดียวก็พอใจ มันก็จะเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก

หลินแล้วตอบไปว่า ที่ท่านนั้น ตัวผมเองก็ไม่แน่ใจว่าต้องการพูดคุยเรื่อง

พูดจบเขาก็ยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาข้อมือ แล้วผมจะขอเตือนคุณสักนิดนะครับว่า ตอนนี้คุณติดขัดมาสามนาทีแล้ว ถ้าพวกเรายังไม่รีบไป คงจะมาในไม่ช้า”

จบคำเตือนของเขา เสิ่นอีเวยหายใจเข้าลึกๆยอมถอยให้แต่เธอก็ยังคงไม่ยอมแพ้ แล้วรถของฉันไม่ต้องจอดทิ้งไว้ตรงนี้นะ”

หลินแล้วหันไปทางรถของตนกวักมือเรียกคนที่ที่ยืน อยู่ข้างๆรถ คนๆนั้นก็เดินมา

คุณไม่ต้องเป็นห่วงครับ รถของคุณจะมีคนขับกลับไป ให้อย่างปลอดภัยไร้ความเสียหายใดๆ
เส้นอีเวยหยิบกระเป๋าจากเบาะที่นั่งข้างคนขับขึ้นมา พร้อมกับแขวะหลินอวี้ว่า “นายนี่มันทำงานทุ่มเทเต็มที่จริงๆ”

หลินอวี่พยักหน้ารับเบาๆ “มันเป็นสิ่งที่ผมควรทำนี่ครับ”

เมื่อเสิ่นอีเวยนั่งรถไปกับหลินอวี้ ตลอดทางเขาขับรถด้วย ความเร็วมาก สิบนาทีหลังจากนั้นรถของพวกเขาก็ขับมาจอด นิ่งที่หน้าประตูใหญ่ของบริษัทเซิ่งชื่อ

เมื่อลงจากรถทั้งสองก็เดินตรงไปขึ้นลิฟต์ ตลอดทางก็ถูก จับจ้องจากสายตาคนจำนวนมาก

เสิ่นอีเวยไม่เข้าใจ จึงเดินไปพร้อมกับถามเขาว่า “คุณผู้ ช่วยหลิน คุณเองก็เป็นคนมีความสามารถ แต่วันๆต้องมาถูก เพิ่งเจ๋อเฉิวเรียกให้มาจัดการเรื่องไร้สาระของพวกเราสองสามี ภรรยาเนี่ย ในใจคุณไม่รู้สึกเบื่อหรือรำคาญบ้างเหรอ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ