ตอนที่ 23 คุณก็กลัวเจ็บเหมือนกันหรอ
เสนอเวยงงหมด เธอแทบจะไม่รู้เลยว่าพวกเขาพูดคุย
อะไรกันอยู่?
เพิ่งเจ๋อเฉิงแววตาเย็นชาและพูดว่า”ตอนนี้คุณยังมีอะไรจะ
พูดอีก”
เสิ่นอีเวยจ้องมองพวกเขาทั้งสามคนในที่เกิดเหตุอย่าง มีนงง “คุณหมายความว่าอะไร? ตกลงคุณต้องการให้ฉันพูด อะไรกันแน่?”
“เกิดเรื่องถึงขั้นนี้แล้ว คุณยังจะแสแสร้งแกล้งทำอีก
หรอ?”
จ่าน้ำเสียงของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็มีโทนสูงขึ้น ทำให้ภายใน
ห้องทำงานเงียบอย่างผิดปกติ เสิ่นอีเวยเผยสีหน้าไร้เดียงสา “ตกลงคุณกำลังพูดเรื่อง
อะไรอยู่? ฉันแทบจะไม่รู้จักผู้ชายคนนี้เลย!”
ผู้ชายที่สวมใส่เสื้อเกษตรกรทั้งชุดคนนั้นเอ่ยปากพูดว่า “โย่ คุณ ทำไหมถึงทำเป็นไม่รู้จักผมด้วยล่ะ? ก่อนหน้านี้คุณยัง จ้างให้ผมไปวางยาให้คนอื่นเลย ตอนนี้ทำใหมถึงมาพูดว่าไม่รู้ จักผมด้วย!”
เสิ่นอีเวยเบิกตากว้าง เพราะเธอแทบจะไม่อยากเชื่อในสิ่ง
ที่ตัวเองได้ยินมาเลย
ผู้ชายคนนี้ที่อยู่เบื้องหน้าแต่งตัวเหมือนกับเกษตรกร และดูท่าทางชื่อตรง แต่ภายในดวงตากลับประกายแสงอำมหิต
เสิ่นอีเวยพูดแก้ตัวอย่างรีบร้อนว่า “คุณพูดจาเหลวไหล อะไรกัน! ฉันไม่เคยรู้จักคุณ แล้วฉันจ้างคุณตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
“ก็เมื่อครึ่งเดือนก่อนไง ตอนนั้นคุณถือเงินสองแสนมาหา ผม ให้ผมฉีดยาให้กับผู้ป่วยคนหนึ่งในโรงพยาบาล ผมรู้จัก คุณ ในมือถือของผมยังมีรูปภาพของคุณด้วย!”
เสิ่นอีเวยไม่คิดก็รู้ว่าตัวเองตกอยู่ในกับดักแล้ว แต่ตอนนี้ สิ่งที่สำคัญคือไม่รู้ว่าจะคุมเชิงผู้ชายคนนี้ที่อยู่เบื้องหน้าได้ อย่างไร ส่วนเซิ่งเจ๋อเฉิง เมื่อเสิ่นอีเวยหันหน้ามองเขา ก็เห็น ภายในดวงตาสะท้อนประกายความเคืองโกรธ จนแทบจะแผด เผาเธอไว้ในนั้น
เสิ่นอีเวยสูบลมหายใจเข้าลึกๆ และพูดว่า “ให้พวกเขา ออกไปก่อน ฉันจะอธิบายให้ฟัง”
หลังจากผ่านไปสองวินาที เพิ่งเจ๋อเฉิงก็หันหน้ามองหลินอ วี่แวบหนึ่ง “พาเขาออกไปก่อน”
ตอนนี้เหลือเพียงพวกเขาสองคนในห้องทำงานที่กว้าง ใหญ่ที่เหมือนกับเป็นดินแดนนรก เสิ่นอีเวยได้กลิ่นบรรยากาศ อันมืดครึ้มแล้ว
เพิ่งเจ๋อเฉิงปรับนาฬิกาบนข้อมือ แต่ดวงตาจ้องมอง
สีหน้าของเสิ่นอีเวย “ไม่ใช่ว่าจะอธิบายหรอกหรอ? อธิบายมา
สิ ผมกำลังฟังอยู่”
เส้นอีเวยหยุดชะงักชั่วครู่ และพูดว่า”คุณเชื่อคำพูดของผู้ชายคนนั้นหรอ?”
“ยารักษาโรคเบาหวานที่อยู่ในถ้วยยาของหุ้ยในโรง พยาบาลเป็นหลักฐาน ตอนนี้มีพยานบุคคล และหลักฐานก็ แน่นหนาด้วย แล้วผมจะมีเหตุผลอะไรไม่เชื่อล่ะ?”
เสิ่นอีเวยรู้สึกแสบจมูกเล็กน้อย “เซิ่งเจ๋อเฉิง คุณก็อยาก เล่นงานฉันอยู่แล้วไม่ใช่หรอกหรอ? และคุณเองก็ไม่เคยเชื่อฉัน มาตลอดอยู่แล้ว พอเจอเบาะแสอะไรก็โยนพาลมาใส่ฉัน แต่ ถึงอย่างไรต่อให้เมื่อกี้ผู้ชายคนนั้นว่าเป็นฉัน ฉันก็ยังยืนยันว่า ฉันไม่ได้ทำ”
ชั่วพริบตาอุณหภูมิบนใบหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็ยิ่งเย็นชา “เสิ่นอีเวย สำหรับคุณการยอมรับความผิดเป็นเรื่องยากมาก ขนาดนั้นเลยหรอ?”
ความรู้สึกคับแค้นและความรู้สึกน้อยใจภายในใจของเสี่ นอีเวยที่อยู่เบื้องหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงถือเป็นเรื่องปกติไปแล้ว จากนั้นก็มีเสียงร้องขุนเคืองแฝงด้วยเสียงดังขึ้น “ฉันไม่ ได้ผิด! ไหมฉันต้องยอมรับด้วย!”
ภายในดวงตาของเซิ่งเจ๋อเฉิงเผยแววตาเย็นชา เหมือน กับกรวยน้ำแข็งได้พุ่งเข้าไปทุ่มแทงหัวใจของเสิ่นอีเวยจน ชอกช้ำ
เจ๋อเฉิงที่มีระดับความโกรธสุดขีดก็ลุกขึ้นยืนจาก เก้าอี้ และแขนอันยาวก็จับเสิ่นอีเวยยันข้างโต๊ะทำงาน แต่ขณะ กันบริเวณเอวของเสิ่นอีเวยกลับชนเข้ากับขอบมุมของโต๊ะเธอรู้สึกเจ็บปวดเหมือนกับหัวใจจะทะลักออกมาจากทรวงอก
“เจ็บ…”
เมื่อเห็นเสิ่นอีเวยขมวดคิ้วอย่างเจ็บปวด ดึงเจ๋อเฉิงกลับ ไม่หลงเหลือความปราณี แต่เขาพูดอย่างเยือกเย็นว่า “ผู้หญิง จิตใจโหดเหี้ยมอย่างคุณ คิดไม่ถึงว่าจะกลัวเจ็บด้วย?”
ขณะที่เสิ่นอีเวยกำลังจะเอ่ยปากพูด คางก็ถูกจับไว้อย่าง แน่น จนเธออ้าปากไม่ออกเลย
เพิ่งเจ๋อเฉิงพูดต่อว่า “ผมขอเตือนคุณว่า รอให้ผมมีหลัก ฐานเพียงพอในมือก่อน ผมจะจับคุณส่งเข้าคุกด้วยตัวเอง ให้ คุณได้ชิมรสชาติความเจ็บปวดที่มากกว่าเสิ่นหุ้ยร้อยเท่าพัน เท่า!”
เสิ่นอีเวยพยายามฉีกปากยิ้มเย้ยหยันขึ้น “แต่คุณเคยคิด บ้างไหมว่า ถ้าหากฉันเข้าคุก คุณก็จะไม่มีลูกตลอดชีวิต เซิ่ง เจ๋อเฉิง ถ้าหากคุณไม่มีลูก คุณปู่ก็คงไม่ยอมมอบหุ้นจำนวน มากของบริษัทเซิ่งชื่อให้กับคุณแน่!”
“มือของเซิ่งเจ๋อเฉิงหยุดชะงักชั่วขณะ วินาทีต่อมา มือของ เขากลับเพิ่มแรงมากขึ้น และภายในดวงตาของเขาก็เผย ประกายความขุนเคืองอันมหาศาลด้วย “คุณกล้าขู่ผมหรอ?”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ