บทที่6 การท้าทายของสวี่อันฉิง
สวี่อันฉิงยิ้มร่าเข้ามาทักทาย “คุณเซิ่ง
มาแล้วหรอคะ?”
เมื่อไม่กี่ชม.ก่อนหน้านี้พึ่งเจอกัน ตอนนี้ก็เจออีกแล้ว
ทำตัวเป็นผีคอยตามหลอกหลอนอยู่นั่น เสิ่นอีเวยแอบมองบนอย่างเซ็งๆ
ถึงจิตใจของสวี่อันฉิงจะร้าย แต่ก็เป็นสาวสวย
โดยเฉพาะคืนนี้หล่อนจงใจแต่งตัวสวยจนสว่างกร
ะจ่างตา
พอเห็นหล่อนพูดเสียงอ่อนเสียงหวานกับเซิ่งเจ๋อเฉิ ง เธอก็เลือดขึ้นหน้า
“คุณสวีไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ”
สวีอันฉิงที่ยืนอยู่ด้านข้างหันมองเธอตั้งแต่หัวจรดเ ท้า ยิ้มมีนัยยะว่า “คุณนายเซิ่ง
ไม่คิดว่าเราจะเจอกันอีกเร็วขนาดนี้”
เสิ่นอีเวยมองหล่อนอย่างเฉยเมย ในใจคิด ผู้หญิงคนนี้ทำไมแสดงละครเก่งขนาดนี้เนี่ย?
แต่เพราะเชิ่งเจ๋อเฉิงอยู่ข้างๆ
ก็ต้องทำให้เนียนสินะ เสิ่นอีเวยไม่ได้สวนกลับ
อได้ยินเขาถามว่า เธอ
“พวกคุณสองคนรู้จักกันหรอ?”
เสิ่นอีเวยมองสวี่อันฉิงฝ่ายหลังรีบแย่งเบนประเด็นว่า
“ฉันกับคุณนายเซิ่งเป็นเพื่อนเก่ากันแล้วค่ะ เมื่อก่อนเราสนิทกันมากนะ!
หล่อนจงใจเน้นคำว่าคุณนายเซิ่ง
หล่อนรู้ทั้งรู้ถึงความสัมพันธ์อันย่ำแย่ระหว่างเธอกั บเขายังมาทำตี่เนียนสนิทสนมอีก
“จริงสิ
ครั้งที่แล้วคุยเรื่องงานกับคุณเพิ่งมีผลดีกับการร่ว
มงานของเรามากเลย
คุณเซิ่งนี่เก่งสมคำร่ำลือจริงๆ
รู้ลึกรู้จริงกับธุรกิจที่ดินตอนนี้
ก็คือว่า …เมื่อวานคุณรีบขอตัวกลับก่อนเพราะเหตุ
สุดวิสัย
ฉันยังมีหลายคำถามอยากปรึกษาคุณนะคะ”
เสิ่นอีเวยแอบหน้าซีด
คำพูดหล่อนนี่มันยั่วยวนชัดๆ !
สวีอันฉิงพูดซะดูดี
ทั้งอธิบายแบบมีนัยยะถึงการกระทำของเสิ่นอีเวย
เมื่อวาน
แถมยังหาโอกาสในการก้อร้อก้อติกกับเซิ่งเจ๋อเฉิง ต่อไปอีก
พอเชิ่งเจ๋อเฉิงได้ยินอย่างนั้น
ก็นึกถึงการก่อกวนของเธอเมื่อวาน เขาเลยมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก เขาเหล่ตามองเธอหนึ่งที่
ทำให้สายตาที่มองกลับไปที่สวี่อันฉิงก็เยียบเย็นไ”เมื่อวานเพราะต้องจัดการเรื่องด่วนบางอย่าง ทำให้เสียเวลาไป ต่อไปจะคุยงานกันโอกาสยังมีอีกเยอะครับ
คุณสวี่ไม่ต้องใส่ใจไปหรอก”
สวีอันฉิงเบ้ปาก ดูไม่พอใจที่เขาเย็นชากับหล่อน เลยพูดต่อว่า “แต่ถ้าฉันไม่พอใจ
การร่วมงานของคุณพ่อกับคุณเซิ่งอาจจะถูกยกเลิ กก็ได้นะคะ!
เซิ่งเจอเฉิงเงียบลงไปอึดใจ สายตาเย็นชา ก่อนพูดออกมาง่ายๆสองคำ “ตามใจ”
สวีอันฉิงสะอึกในฉับพลัน จนไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี
พอเสิ่นอีเวยเห็นสวี่อันฉิงโดนหักหน้า ก็แอบดีใจ ธุรกิจของเซิ่งเจ๋อเฉิงใหญ่แค่ไหน
ทั้งเมืองแทบจะรู้กันหมด
สวี่อันฉิงกลับคิดว่าจะข่มขู่เขาได้ น่าขำจริงๆ
แต่เธอเองก็รู้
ที่แท้ระหว่างพวกเขาสองคนเป็นการร่วมงานทางธุ รกิจอย่างเปิดเผย
แต่เกือบโดนเธอทำเป็นการจับชู้คาหนังคาเขาไปซ
ะแล้ว.
สวี่อันฉิงยังไม่ยอมสงบเสงี่ยม
หล่อนหันมองเสิ่นอีเวยพลางว่า “แต่จะว่าไปแล้ว เมื่อวานที่โรงแรมไห่เฉิงผู้ชายที่อยู่ข้างๆคุณนายเ
ซึ่ง ถ้าฉันเดาไม่ผิดละก็คงเป็นหนุ่มโฮสต์ล่ะสิ?
ไม่คิดเลยว่าคุณเชิงจะใจกว้างขนาดนี้
ถึงขนาดยอมให้ภรรยาของตัวเองเล่นซุกซนด้านนอกด้วย”
สวีอันฉิงแกล้งพูดเสียงสูงตอนพูดประโยคนี้ คนรอบข้างได้ยินคำว่าหนุ่มโฮสต์ก็หันกันมามอง
เสิ่นอีเวยหน้าแดงด้วยความอาย
แทบอยากหาที่ซุกหัวหนี
พอเห็นสีหน้าสะใจของสวี่อันฉิง
เธอบอกตัวเองว่าจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด
เธอเงยหน้าแอบเหล่เซิ่งเจ๋อเฉิงที่ยืนข้างๆ เขาตัวสั่นด้วยความโกรธ ก็จริงนะ
ต่อให้เขาไม่รักเธอ
แต่ภรรยาตัวเองออกไปเล่นซุกซนกับหนุ่มโฮสต์ ก็ดูไม่ใช่เรื่องน่าชื่นชมอะไร
“ถ้าฉันเดาไม่ผิดละก็ คุณสวี่เองก็ไม่ย่อยนี่คะ ในเมื่อคุณสามารถมองแวบเดียวรู้ว่าคนนั้นเป็นหนุ่
มโฮสต์
แสดงว่าคุณเองก็ไปที่แบบนั้นบ่อยๆจริงไหมคะ?”
ทั้งสองคนผลัดกันใส่คนละประโยค
ประกายไฟห้ำหั่นกันเห็นๆ พอเสิ่นอีเวยพูดจบ ก็มีเสียงหัวเราะดังมาจากคนรอบข้าง ทำเอาสีหน้าสวี่อันฉิงแดงสลับขาว
เซิ่งเจ๋อเฉิงที่มองอยู่นิ่งๆทนไม่ไหวอีกต่อไป เบรคคำอย่างเย็นชา
“ผมไม่เคยรู้เลยว่าลูกสาวประธานสวี่จะมีเวลาว่าง มายุ่งเรื่องส่วนตัวของสามีภรรยาคนอื่นด้วย”
พอเสิ่นอีเวยเห็นเซิ่งเจ๋อเฉิงออกปากปกป้องตัวเอง ก็รู้สึกดีใจมาก เธอหันมองสวี่อัน ฉิงแววตาท้าทายอย่างปิดไม่มิด ใช่สิ
ถ้าแค่ได้รับการปกป้องเพียงน้อยนิดจากเขา ก็ทำให้ตัวเองดีใจลิงโลดเหมือนเด็กได้
เสิ่นอีเวยยกมือขึ้นทำท่าจะคล้องแขนเขา แต่เธอกลับเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังพุ่งตรงมาที่พว
กเขา
ด้านหลังตามมาด้วยบอดี้การ์ดที่พยายามห้ามหล่
อน
เป้าหมายของผู้หญิงคนนั้นเธอมองแว้บเดียวก็รู้
เซิ่งเจ๋อเฉิงน่ะเอง
ในมือหล่อนยังมีของที่สะท้อนแสงได้ มันเป็นมีดเล่มหนึ่ง
ในสมองของเสิ่นอี้เวยเหมือนมีระเบิดดังขึ้น ไม่คิดสักนิด รีบตะโกน “หลบไป!
ผู้หญิงที่ถือมีดร้องตะโกนขึ้น “เซิ่งเจ๋อเฉิง ไอ้คนสารเลว คืนลูกสาวฉันมานะ! 11
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ