บทที่45 เธอก็รอฉันฟ้องศาลก็แล้วกัน
บทที่45 เธอก็รอฉันฟ้องศาลก็แล้วกัน
เยฟางฟางฆ่าตัวตาย ตอนนี้เธออยู่ที่โรงพยาบาล ว่ากันว่า
ยังคงไม่ได้สติอยู่เลย
ได้ยินมาว่าก่อนจะฆ่าตัวตายนั้นเธอได้โพสภาพจดหมายที่ เขียนด้วยมือลงบนweibo เนื้อความนั้นเขียนว่าเธอถูกเสี่ยว หมี่กลั่นแกล้ง แถมยังบอกอีกว่ามีผู้ที่มีอำนาจมากอยู่เบื้อง หลังซูเสี่ยวหมี่อีก กด้วย
เรื่องนี้ มันกระทบกับซูเสี่ยวหมีตรงๆเลยนะเนี่ย!
“อานหยาน ตอนนี้ฉันควรจะทำอย่างไรดี ? “ซูเสี่ยวหมี่หลบ ตัวอยู่ในหอพักมาตั้งแต่เช้าแล้ว ตอนนี้เธอไม่กล้าออกไปไหน
เลย
“เธอกินข้าวเที่ยงหรือยัง ? “แค่กู้อานหยานดูก็รู้แล้วว่าเธอ นั้นกลัวจนไม่ได้กินน้ำแม้แต่อีกเดียว
เป็นไปตามคาด ซูเสี่ยวหมี่ส่ายหัว
กู้อานหยานพูดถูก แต่ตอนนี้เลยเวลาข้าวเที่ยงไปแล้ว เธอทําได้แค่สั่งอาหารเดลิเวอรี่
เธอลากเก้าอี้มานั่งกับซูเสี่ยวหมี่ พลางมองหน้าซีดๆของเธอ
“เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ฉันไม่ทันถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไม เธอถึงเดินไปที่ท่าน้ำตรงนั้นล่ะ ? ”
“ก็ฉันเห็นเธอไง ! “ตอนนี้ซูเสี่ยวหมี่รู้แล้ว ว่าตอนนั้นตัวเอง มองผิดไปเอง
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนพวกนั้นตั้งใจจะทำหรือเปล่า หลัง จากที่ฉันโดนรถชน ก็เห็นว่าเธอโดนชายสองคนลากไปที่ ท่าน้ำ”
“เธอก็เลยตามไปตัวคนเดียว ? ”
กู้อานหยานเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรเห็นใจในความซื่อบื้อ
ของเธอดี หรือว่าควรด่าดี !
“ฉันยังคุยโทรศัพท์กับเธออยู่เลยนี่ ? ฉันจะโดนลากไปแบบ นั้นได้ยังไง ? “นี่ไง! ไม่มีความสามารถในการแยกแยะเลยหรือไง ?
“ซูเสี่ยวหมี่คิดาๆ ใบหน้าของเธอก็เริ่มมองขึ้น เรื่อยๆ เหมือนกับว่า…เหมือนกับว่าจะ
ตอนนั้นเธอเองก็คุยโทรศัพท์กับฐานพยานอยู่ แล้วทำไมถึง เห็นเงาของผู้หญิงที่ดูเหมือนกับจานหยาน ตามไปแบบนั้น ละ ?
ทันใดนั้นเสี่ยวหมี่ก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นโง่มาก ! หรือเป็น เพราะว่าตอนที่เธอโดนรถชน เธอโดนชนจนมันแล้ว ?
“แต่ทว่า ในเมื่อตอนนี้เรื่องมันเป็นแบบนี้ ฉันควรจะทำ อย่างไรต่อไปดี
แฟางฟางฆ่าตัวตาย ไม่รู้ว่าจะเป็นหรือตาย เธอเป็นแค่ นักเรียนธรรมดาคนหนึ่ง นอกจากข่าวบนอินเตอร์เน็ตแล้ว ก็ไม่ ได้รับข่าวสารอะไรเกี่ยวกับเผ่ฟางฟางอีกเลย
“คนอย่างเอฟางฟาง จะมาฆ่าตัวตายได้อย่างไร ? ในเมื่อเธอ เป็นคนที่รักตัวเองขนาดนี้
อ่านหยาบเม้มปาก พลางคิดอย่างจริงจัง
ซูเสี่ยวหมี่เองก็ทำได้แค่มองเธอ แล้วรอเธอพูดอะไรสัก
อย่าง
ก้อานหยานโพล่งขึ้นมาว่า : “เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ฉันไม่ สงสัยเย่ฟางฟางเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ ดูๆแล้วเธออาจจะเป็น ตัวบงการด้วยซ้ำ”
“อะไรนะ ? เธอกำลังจะบอกว่า เย่ฟางฟางเป็นคนสั่งให้ผู้ชาย พวกนั้นมาจับตัวฉันไปเหรอ ? ”
ซูเสี่ยวหมี่ตกตะลึง เธอแทบไม่อยากจะเชื่อ !
“แต่ทว่า ฉันมีเรื่องบาดหมางอะไรกับเธองั้นเหรอ ? คงไม่ใช่ เพราะฉันไปหัวเราะเยาะเธอที่โรงแรมนั้นใช่ไหม ?
แค่หัวเราะเยาะเธอไม่กี่คำ ก็เลยให้คนมาลักพาตัวไปอย่าง นั้นน่ะเหรอ ถ้าเป็นแบบนี้ เย่ฟางฟางก็ใจแคบไปหน่อยล่ะมั้ง
“แล้วถ้าจะให้คนมาลักพาตัวฉันเนี่ย จะต้องเสียเงินอีกตั้ง
เท่าไหร่ ? คนขี้เหนียวอย่างเย่ฟางฟาง ไม่มีทางยอมเสียเงิน ขนาดนั้น เพื่อมาทำร้ายคนอื่นแบบนี้หรอก ? ”
คําพูดนี้ ทําให้กู้อานหยานถึงกับต้องขมวดคิ้ว ราวกับว่าความคิดในหัวของเธอนั้นชัดเจนขึ้นมากแล้ว
เสี่ยวหมี่ต้องไม่รู้แน่ๆ เหตุผลที่คนพวกนั้นทำ เพราะต้องการ
จะขัดขวางงานแต่งงานยังไงล่ะ
แต่ทว่า เสี่ยวหมี่เองก็พูดถูก คนขี้เหนียวอย่างเย่ฟางฟาง จะ ไปยอมจ่ายเงินแพงขนาดนั้นเพื่อลักพาตัวเสี่ยวหมี่เนี่ยนะ ?
หรือว่า เรื่องนี้ จะไม่เกี่ยวกับเย่ฟางฟางเลยจริงๆ ?
“ซูเสี่ยวหมี่ ! “ข้างนอก มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น จากนั้น หอของ
เธอก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
กู้อานหยานและซูเสี่ยวหมี่สบตากันโดยทันที ซูเสี่ยวหมี่เช็ด
น้าตา ก่อนจะเดินไปเปิดประตู
เมื่อประตูเปิดออก ก็มีผู้หญิงหลายคนพยายามจะเข้ามา
ผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าชี้มาที่ซูเสี่ยวหมี่ ด้วยความโกรธแค้น
ว่า : “ซูเสี่ยวหมี่ เธอมันร้ายมากเกินไปแล้วนะ เธอทำให้คน คนหนึ่งต้องฆ่าตัวตาย ทำไมเธอถึงเลวได้ขนาดนี้ ! ”
“นั่นสิ ตอนนี้เย่ฟางฟางยังอยู่ในโรงพยาบาลอยู่เลย เธอรีบ ไปคุกเข่าขอโทษเดี๋ยวนี้เลยนะ ! ” ผู้หญิงอีกคนหนึ่งรีบแทรก
เข้ามา
ผู้หญิงคนอื่นๆก็ชี้มาที่ซูเสี่ยวหมี่ แต่ละคนเอาแต่ด่าเธอ : “ซู เสี่ยวหมี่ เธอมันไม่ใช่คนแล้ว ! ”
“ถ้าเกิดเ ฟางฟางตายขึ้นมานะ เธอจะรับผิดชอบได้ไหม ?
“ซูเสี่ยวหมี่ เธอมีใครอยู่เบื้องหลังใช่ไหม ? ใช่ผู้ชายที่มีเงิน หนาใช่ไหม ? “
“ต้องเป็นคนมีหน้ามีตาแน่ๆเลย ! ”
“เธอพูดอะไรน่ะ ? อย่ามาใส่ร้ายแบบนี้นะ ! “ซูเสี่ยวหมี่โกรธ จนควันออกหู แต่ก็ไม่รู้จะเถียงอย่างไรดี
พวกกลุ่มผู้หญิงที่เข้ามาล้อมเธอเอาไว้ แถมข้างนอกก็ยังมี คนอีกไม่น้อยที่ยืนมอง เพียงแต่ไม่มีใครเข้ามาช่วยเธอเลยสัก
คน
ซูเสี่ยวหมี่ตกใจกลัวจนตัวสั่น เธอไม่รู้เลยว่าจะตอบกลับ อย่างไรดี
มีคนก้าวเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น เพื่อที่จะผลักเธอ
ทันใดนั้น มีคนจับข้อมือของผู้หญิงคนนั้นก่อนจะผลักเธอ
กลับไปอย่างแรง !
“กู้อานหยาน เธอกล้ามาแตะฉันเหรอ ! “หลังจากที่ผู้หญิง คนนั้นเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นใคร ก็รีบพูดด้วยความ
โมโหว่า : “ยัยขี้เหร่ เธออยากตายหรือไง ? ”
“พวกเธออยากจะทะเลาะกันในโรงเรียนเหรอ ? ฉันบอก เพื่อนทุกคนไปหมดแล้ว อีกไม่นานครูก็จะมาถึงแล้ว ถ้าเธอ กล้าลงไม้ลงมือก็ลองดู”
ถึงแม้ว่ามหาวิทยาลัยหนิงปอของพวกเขาจะไม่ใช่มหาลัย อันดับหนึ่ง แต่ว่า ก็ถือว่าเป็นมหาลัยที่มีชื่อเสียงอยู่พอตัว
ถ้าจะต้องมาทะเลาะกันในนี้ อาจจะโดนมหาลัยไล่ออกได้ ง่ายๆเลย ! มาตรการของมหาลัยก็เข้มงวดอยู่ไม่น้อย !
ผู้หญิงคนนั้นชื่อว่าเซียวเสี่ยว เธอเป็นนักเรียนรุ่นเดียวกับกุ้ อานหยานแต่อยู่กันคนละคณะ
เธอชี้ไปที่ซูเสี่ยวหมี่ พลางพูดด้วยความโมโหว่า : “ซูเสี่ยว หมี่ทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน พวกเรา……
“ขอถามหน่อยนะว่าเสี่ยวหมี่ทำอะไรเหรอ ? ”
“เธอทําให้เยฟางฟางต้องตาย ! ”
“งั้นบอกฉันหน่อยสิ ว่าเธอทำอะไรบ้างล่ะ ? “กู้อานหยานก้าว เข้าไปใกล้ขึ้น ก่อนจะจ้องหน้าของเซียวเสี่ยวอย่างจัง : “กี่ โมง ที่ไหน ทําอะไร แล้วพูดอะไรบ้าง ! ”
ไม่มีใครนึกถึงเลย ว่าผู้หญิงน่ารังเกียจและอ่อนแออย่างกู้ อานหยาน จะกล้ามากขนาดนี้ !
เมื่อถูกเธอจ้อง และถูกถามคำถามที่เย็นชาแบบ ขนาดคน อย่างเซียวเสี่ยวยังต้องถอยหลังออก เพราะกลัวเธอเข้าแล้ว
“เธอ…เธอ…..เสี่ยวหมี่พูดอะไรหรือทำอะไรบ้างนั้น ใน จดหมายของเยีฟางฟางก็ไม่ได้เขียนเอาไว้อย่างชัดเจน
เย่ฟางฟางพูดแต่เพียงว่าถูกหญิงปีหนึ่งแซ่ซูผู้ที่ชอบแต่ง หน้าแต่งตัว แล้วก็มักจะอยู่กับหญิงที่เรียนอยู่ปีหนึ่งแซ่กู้ผู้ที่ มีหน้าตาอัปลักษณ์นั้นกลั่นแกล้ง
คนที่รู้จักกับเย่ฟางฟางรู้กันหมด ว่าเธอกับกู้อานหยานไม่
ถูกกัน
ถ้างั้นคนที่หน้าตาน่าเกลียดแซ่กู้ที่มักจะอยู่กับนักเรียนหญิงปี หนึ่งแซ่” นั้น ถ้าไม่ใช่ซูเสี่ยวหมี่แล้วจะเป็นใครไปได้อีก ?
ที่มหาวิทยาลัยหนิงปอ มีแค่ไม่กี่คนหรอกที่เต็มใจจะคลุกคลี กับกู้อานหยาน !
“เธอไม่มีหลักฐานอะไรด้วยซ้ำ ที่จะมาพิสูจน์ว่าเสี่ยวหมี่ กลั่นแกล้งเย่ฟางฟาง เธอฟังความจากเย่ฟางฟางแค่ด้าน เดียว ก็มาตัดสินว่าเสี่ยวหมี่ทำให้คนอื่นต้องฆ่าตัวตายแบบนี้ แล้ว ! ”
กู้อานหยานก้าวหน้าขึ้นอีกหนึ่งก้าว เซียวเสี่ยวเองยังคง
ตกใจจนถอยหลังไปอีก อีกเพียงนิดเดียวก็จะถอยไปถึงประตู
แล้ว
ข้างนอกนั้นมีแต่คนมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยกระของกู้อานห
ยาน ที่กำลังเถียงกันไปกันมา
ในขณะที่เซียวเสี่ยวกำลังเถียงอยู่ ก็ค่อยๆหยุดยืนอยู่กับที่
เธอพูดอย่างไร้ความปราณีว่า : “หึ ! เธอทำเรื่องใหญ่ขนาด นี้ คนตระกูลเย่จะปล่อยเธอไปหรือยังไง ? ซูเสี่ยวหมี่ เธอรอ
โดนฟ้องเลยก็แล้วกัน ! ไม่แน่ ครึ่งชีวิตที่เหลือของเธอคงจะต้องไปใช้ชีวิตในคุกแล้วมั้ง ! ”
ที่นี่คือมหาลัย จะมาตบตีกันไม่ได้ เพราะฉะนั้น ผู้หญิงพวก นั้นจึงได้แต่พูดแดกดันเธอ พลางหัวเราะเยาะเย้ยก่อนจะเดิน จากไป
กู้อานหยานปิดประตูใส่อย่างจัง ก่อนจะหันหลังกลับ แต่ดัน เห็นซูเสี่ยวหมี่กำลังนั่งขดอยู่ตรงมุมห้อง โดยที่ตัวของเธอนั้น สั่นไปหมด
ถ้าเกิดเย่ฟางฟางตายขึ้นมาจริงๆ ญาติๆตระกูลเย่คงจะไม่ ปล่อยเธอไปจริงๆ !
ถึงแม้ว่าตระกูลเย่จะไม่ได้เป็นกลุ่มชนที่สูงที่สุด แต่ทว่า ภาย ในเมืองเป่ยหลิงนั้นก็ถือว่ามีอำนาจอยู่ไม่น้อย
เธอเป็นแค่นักเรียนธรรมดาคนหนึ่ง จะไปสู้ได้อย่างไร ?
“อานหยาน”เธอกอดแขนของกู้อานหยานเอาไว้แน่น ก่อนจะ จริงๆเหรอ ? ”
พูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนว่า : “ฉันจะต้อง…….ฉันจะต้องติดคุก
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ