ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่ 306 ไม่อย่างนั้นจะเป็นคนที่อยู่รอบข้างเธอ



บทที่ 306 ไม่อย่างนั้นจะเป็นคนที่อยู่รอบข้างเธอ

บทที่ 306 ไม่อย่างนั้นจะเป็นคนที่อยู่รอบข้างเธอ

กู้อานหยานรีบหันกลับไปมอง

เธอไม่กล้าจะเชื่อ และไม่อยากจะเชื่อ!

บนถนนอีกด้านหนึ่งของซอย รถบรรทุกคันหนึ่งชนเข้ากับ ต้นไม้ที่อยู่ข้างทาง และหลังจากชนกับต้นไม้แล้ว รถบรรทุก จึงได้หยุดลง

และอีกด้านหนึ่งของบนถนน คือซินที่นอนจมกองเลือดอยู่ โดยไม่ขยับเขยื้อน

คนขับรถบรรทุกลงมาด้วยความตื่นตระหนก ในขณะที่บนหัว ก็ยังคงมีเลือดออกอยู่

เขาเดินไปข้างๆร่างของซิน และดูกังวลจนไม่รู้ว่าควรจะทำ ยังไง

กู้อานหยานรู้สึกแค่ว่าโลกมันหมุนไปหมด และร่างกายของ เธอก็อ่อนแรงลง จนแทบจะล้มลงไป

หยางอีเองก็ตกใจจนมือเท้าเย็นไปหมด แต่ก็ยังดีที่ยัง สามารถฝืนและประคองร่างของกู้อานหยานไว้ได้
สภาพของกู้อานหยานดูแย่กว่าเขา มือเท้าเย็นไปหมด จนฉัน แทบหาอุณหภูมิในร่างกายไม่เจอ

“เข้าไป…… ดูกัน” น้ำเสียงของเธอเย็นเฉียบ และแหบต่ำจน เกินจะบรรยาย

เมื่อหยาง ปรับอารมณ์ของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติได้แล้ว เขาก็ประคองกู้อานหยานเดินไปอีกด้านหนึ่งของซอย

ดูเหมือนจะมีคนโทรแจ้งตำรวจเรียบร้อยแล้ว และโรง พยาบาลก็ไม่น่าจะอยู่ไกลจากที่นี่ เพราะสักพักรถฉุกเฉินก็มา ถึงทันที

กู้อานหยานเบิกตากว้างมองหมอและพยาบาลที่กำลังทำการ ตรวจให้กับซิน จนในสุดท้ายก็มีผ้าขาวผืนหนึ่งมาคลุมร่างของ ซิน

ซินถูกคลุมไปทั้งหมดทั้งตัว…….

ครั้งนี้เธอล้มลงไปอยู่ตรงพื้นทันที เนื่องจากเธอรับไม่ไหวแล้ว

จริงๆ

หยางอีประคองเธอที่นั่งอยู่บนพื้น และเมื่อเห็นสีหน้าของเธอ ที่ขาวซีด เขาก็มีสีหน้าที่กังวลขึ้นมา: “หยานหยาน แกไม่ต้อง กลัวนะ มันก็แค่อุบัติเหตุนะ มันเป็นแค่อุบัติเหตุจริงๆ!”

คนขับรถบรรทุกคันนั้นก็ถูกจับตัวไปแล้ว ครั้งนี้มันเป็นแค่อุบัติเหตุจริงๆ

ไม่มีการฆาตกรรม ไม่มีการหลบหนี และไม่มีการสมรู้ร่วมคิด สิ่งที่สายตาของพวกเขาเห็นมันก็เป็นแค่อุบัติเหตุเท่านั้น

“มันเป็นแค่อุบัติเหตุแกเข้าใจไหม? มันเป็นแค่อุบัติเหตุ ไม่ได้ เกี่ยวอะไรกับแก”

หยางอึมองไปที่เธอ และไม่ง่ายเลยกว่าที่จะประคองเธอขึ้น

มาได้

“พวกเรากลับกันก่อนเถอะ ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวฉันจะพาแก กลับไปเอง”

กู้อานหยานกลับนำมือไปกุมที่ท้องของตัวเอง เพราะเธอรู้สึก

เจ็บท้องน้อยขึ้นมา

เธอกำลังสั่นเทา ถึงแม้จะขึ้นไปนั่งบนรถแล้วก็ตาม ร่างกาย ของเธอก็ยังคงสั่นเทา

ก่อนหน้านี้ไม่นาน พวกเขายังยืนคุยกันอยู่เลย แต่ตอนนี้ที่ เพิ่งจะผ่านมาได้ไม่นาน ซินกลับเสียชีวิตแล้ว

อุบัติเหตุเหรอ? แต่ทำไม อุบัติเหตุถึงได้เกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ แล้วทำไมถึงได้บังเอิญขนาดนี้ล่ะ?
“แกฟังฉันพูดนะ มันเป็นแค่อุบัติเหตุจริงๆ แกไม่ต้องกลัวนะ!”

หยางอีกลัวจริงๆว่าเธอจะรับไม่ไหว เขาเลยขับรถไปด้วย และปลอบเธอไปด้วย: “ไม่ต้องกลัว ใครก็ไม่อยากให้มันเกิด ขึ้นหรอก แต่ไม่มีใครสามารถรู้ล่วงหน้า เรื่องอุบัติเหตุได้หรอก นะ”

“หยางอี ขับรถดีๆ” กู้อานหยานหลับตาลง ด้วยสีหน้าที่ซีด

ถ้าหากไม่ใช่ว่ามือของเธอยังคงสั่นอยู่ตลอด ใครที่กำลังมอง อยู่ ก็คงคือว่าเธอนั้นหลับไปแล้ว

หยางอีไม่รู้จริงๆว่าจะหาคำปลอบใจที่เหมาะสมคำไหนมา ปลอบเธอดี แต่หยานหยานบอกให้เขาขับรถดีๆ เขาก็คง ทําได้แค่นําสมาธิทั้งหมดมาไว้กับการขับรถ

อุบัติเหตุเหรอ? ดูแล้วน่าจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริงๆแหละ แต่ว่าทำไมถึงได้บังเอิญขนาดนั้น บังเอิญจนน่ากลัว……… ตอนที่หยางอีขับรถไปถึงเจียงซื่อกรุ๊ปนั้น กู้อานหยานก็ได้ หลับไปจริงๆ

แม้แต่ตัวของเธอเองก็ไม่รู้สึกตัว ว่าทำไมช่วงนี้ถึงได้ชอบ นอนขนาดนี้
ทุกคนยังคงยุ่งอยู่ที่สำนักงาน กู้อานหยานจึงเก็บความคิดทุก อย่างลง แล้วกลับไปที่สำนักงาน และเขียนต้นร่างทั้งคืน

ตอนนี้ที่บริษัทมีอยู่หลายสิบกลุ่มย่อย ผลงานของพวกเขาก็ น่าจะสามารถทำได้ทันเหมือนกัน

เห้อหลิงจือและซูเสียวหมี่กำลังเตรียมร่างฉบับการ์ตูนและ การแข่งขัน และทำเป็นแบบมีสีมีเสียง

แอปออนไลน์จะลงเข้าเว็ปในเดือนหน้า ด้านเนื้อหาก็น่าจะ สามารถทำได้ถึงข้อกำหนดขั้นพื้นฐานของคลังหนังสือ

แต่มันก็แค่พื้นฐานเท่านั้น

ไม่ว่าจะเป็นผู้เข้าชมหรือว่าเนื้อหา ก็จำเป็นต้องขยายต่อไป

วันนี้เจียงนานเข้าร่วมประชุมสำคัญประชุมหนึ่ง แล้วตอนเย็น ก็ยังต้องทํางานล่วงเวลาอีก

เพราะฉะนั้นคืนนี้ทั้งคืน กู้อานหยานเลยไม่ได้เจอเขา

เจียงนานส่งข้อความมาหาเธอตอนเวลาสามทุ่ม: “คุณอยู่ที่ สำนักงานใช่ไหม? รอผมก่อนนะ เดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงผมจะไป รับ ”

“ค่ะ” กู้อานหยานตอบกลับไป
และในขณะที่เธอกำลังจะวางโทรศัพท์ อยู่ๆก็มีเสียงข้อความ เข้าดังขึ้นมา และเป็นข้อความที่ส่งมาจากเบอร์ที่เธอไม่รู้จัก

เธอจึงเปิดข้อความดู และข้อความที่อยู่ข้างในทำให้เธอรู้สึก กังวลขึ้นมาทันที: “หยุดสืบหาข้อมูลซะ ไม่อย่างนั้น รายต่อไป ที่จะเกิดเรื่องก็จะเป็นคนที่อยู่ข้างๆเธอ”

คนที่อยู่ข้างๆเธอ! นี่เขาหมายความว่ายังไง!

“หยางอีล่ะ?” กู้อานหยานรีบเดินออกไปทันที แล้วเดินเข้าไป ในห้องทำงานใหญ่ของฝ่ายพัฒนา

“หยางอีไปไหน?” ฉินโจวอยู่ ซูเสี่ยวหมี่กับเห้อหลิงจือก็อยู่ แล้วหยางอีกับหลิวซ่างล่ะ?

หลิวซ่างเขาไม่รู้เรื่องนี้ แต่ว่าหยางอีรู้!

ข้อความนั้นมันหมายความว่ายังไงกันแน่? หรือว่ารายต่อไปที่ พวกมันต้องการจะจัดการคือหยางอี?

“หยางอีบอกว่าหิว ก็เลยไปหาอะไรกินกับหลิวซ่าง แล้วก็ถือ โอกาสซื้ออาหารรอบดึกให้พวกฉันด้วย”

เพราะว่าพวกเขาวาดการ์ตูนมาทั้งคืนแล้ว และทุกคนก็ เหนื่อยมาก หยางอีกับหลิงซ่างก็เลยต้องการออกไปผ่อน

คลาย
แต่ทำไมท่าทางของกู้อานหยานถึงได้ดูตื่นตระหนกอย่างนั้น ล่ะ?

ซูเสี่ยวหมี่ก็รู้สึกกังวลขึ้นมาทันที: “ทำไมเหรอหยานหยาน? เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ? ”

เพราะว่ากู้อานหยานกลัวว่าจะทำให้ทุกคนตกใจ เกี่ยวกับ ข้อความที่ถูกส่งมา เธอเลยไม่ได้พูดอะไรออกไป

เธอส่ายหน้า และรีบไปโทรไปที่เบอร์ของหยางอีทันที

แต่เธอไม่สามารถติดต่ออีกฝ่ายได้! พวกเขาไปที่ไหนกัน? ทำไมถึงติดต่อไม่ได้นะ?

“หยานหยาน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? หยางอีกำลังตกอยู่ใน

อันตรายใช่ไหม?”

สีหน้าแบบนี้ของกู้อานหยาน ทำให้ซูเสี่ยวหมี่รู้สึกตกใจมาก เพื่อนๆที่เหลือก็มาล้อม และจ้องมองอยู่ที่กู้อานหยานทันที เมื่อซูเสี่ยวหมี่ยิ่งมองกู้อานหยาน เธอก็ยิ่งรู้สึกว่ามันดูแปลกๆ

“หยานหยาน แกอย่ามาทำให้พวกฉันตกใจได้ไหม ตกลงมัน เกิดอะไรขึ้นกันแน่? แกรีบพูดมาเร็วๆสิ!”
“มีคนส่งข้อความมาหาฉันโดยที่ไม่ได้ระบุชื่อไว้ บอกว่าจะ จัดการกับเพื่อนของฉัน”

กู้อานหยานไม่สามารถอธิบายอะไรได้มาก เธอจึงรีบโทรไป ที่เบอร์ของมู่เทียนโยวทันที

ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน ของแค่เป็นเบอร์ของก้อานหยาน มู่ เทียนโยวก็จะรีบรับสายเธอทันที

“หยานหยาน มีอะไรเหรอ?”

“เทียนโยว่ ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน?” ไม่รู้ว่าช่วงนี้เทียนโยว่

กำลังยุ่งเรื่องอะไรอยู่ เขามักจะดูลึกลับซับซ้อนอยู่ตลอด “ตอนนี้ฉันอยู่ระหว่างทางกลับไปเจียงซื่อกรุ๊ป อีกแป๊บเดียวก็

ถึงแล้ว”

“เทียนโยว่ นายฟังฉันพูดนะ เมื่อกี้มีเบอร์ไม่ได้ระบุชื่อไว้ส่ง ข้อความมาขู่ฉัน บางทีอาจจะมีคนคิดจะทําร้ายหยางอีอยู่ และตอนนี้หยางอีกับหลิงบางพวกเขาก็ออกไปหาของกินที่ ถนนข้างๆ”

“ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะรีบไปดูเดี๋ยวนี้แหละ ไม่ต้องกังวลนะ เดี๋ยวอีกสักพักฉันพาพวกมันกลับไป”

มู่เทีนยโยว่ตัดสายไปทันที น่าจะไปตามหาพวกหยางอีเขา

นั่นแหละ
“พวกเราก็ไม่สามารถรออยู่ที่นี่ได้เหมือนกัน พวกเรารีบออก ไปตามหาพวกเขากันเถอะ”

เมื่อมีคนเยอะพลังก็จะเยอะกว่า ถ้าหากได้เจอกับคนร้าย จริงๆ อย่างน้อยๆคนเยอะ ก็สามารถทำให้อีกฝ่ายไม่เหิมเกริม จนเกินไป

“ได้!” ฉินโจวไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบหยิบมีดผลไม้ที่อยู่บน โต๊ะขึ้นมาแล้วพุ่งออกไปเร็ว!”

“นี่…เมื่อเห้อหลิงจือมองไปตรงมีดผลไม้ที่อยู่ในมือของเขา ก็ตกใจทันที “นี่………นายจะไปฟันคนจริงๆเหรอ?”

การพกมีดผลไม้ออกไปในเวลากลางคืน มันดูน่ากลัวจริงๆ เสี่ยงที่จะถูกมองเป็นผู้ร้ายแล้วถูกจับ

“งั้น…..งั้นเปลี่ยนเป็นอันนี้เป็นยังไง?” ไม่รู้ว่าใครเป็นคนนำ ไม้เบสบอลมาวางไว้ตรงมุมของห้อง ฉินโจวจึงได้รีบหยิบขึ้น มา

“ไปกันเถอะ” กู้อานหยานเองก็หยิบไม้เบสบอลอีกอันหนึ่งที่ อยู่ข้างๆ แล้วรีบเดินออกไปข้างนอกทันที

ซูเสี่ยวหมี่กับเห้อหลิงจือไม่รู้ว่าควรหยิบอะไรไป พวกเธอจึง ทำได้แค่เดินตามพวกเขาออกไป

พวกเธอเพิ่งจะเดินออกมาจากประตูของตึก ก็เจอเข้ากับผู้ชายรูปหล่อสวมชุดและกางเกงลำรองสีขาว กำลังเดินเข้ามา หาพวกเธอ

เมื่อเห็นไม้เบสบอลที่อยู่ในมือของกู้อานหยาน เจียงนานก็ ขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจ: “ดึกขนาดนี้ ยัง จะไปทะเลาะวิวาทกันที่ไหนอีก?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ