ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่ 279 ที่แท้เขาทำเพื่อเธอนี่เอง



บทที่ 279 ที่แท้เขาทำเพื่อเธอนี่เอง

บทที่ 279 ที่แท้เขาทำเพื่อเธอนี่เอง

“คุณชายใหญ่มู่ไม่เลือกเธอ แต่กลับไปเลือกผู้หญิงคนนั้น เนี่ยนะ?”

หัวหน้าคนนั้นนำมือของตัวเองมาจับที่คางของอานห ยานไว้แน่น

กู้อานหยานรู้สึกเจ็บที่คางขึ้นมาทันที แต่ใบหน้าของเธอ ถูกเขาเชยขึ้นไว้ เธอจึงไม่สามารถดิ้นหลุดได้

คนที่เป็นหัวหน้าหันกลับไปมองที่กู้เวยจือแวบหนึ่ง แล้ว หันกลับมามองที่ใบหน้าของกู้อานหยานอีกครั้ง

ผู้หญิงสองคนนี้ คนหนึ่งดูบริสุทธิ์และสวยแบบเรียบๆ ส่วนอีกคนดูหยิ่งและดูเสแสร้ง แค่เป็นผู้ชายก็รู้แล้วว่าควร จะเลือกคนไหน

และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ หญิงสาวที่เป็นคนเรียบๆกลับดู สวยกว่าพี่สาวที่เป็นคนเสแสร้ง
ถ้าหากจะพูดว่าคุณชายใหญ่มู่ไม่ชอบผู้หญิงที่ยืนอยู่ ข้างหน้านี้ แต่กลับชอบผู้หญิงที่อยู่ตรงมุม คงไม่มีใครเชื่อ แน่นอน!

“คุณชายใหญ่มู่ยกเลิกสัญญาหมั้นกับเธอตั้งแต่เมื่อ ไหร่?” คนที่เป็นหัวหน้ามองเข้าไปในตาของก็อานหยาน และนัยน์ตาของเขาก็ค่อยๆแสดงรอยยิ้มแห่งความสุขออก มา

เรื่องนี้ดูเหมือนจะค่อยๆชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ

กู้อานหยานไม่ยอมพูดอะไรสักอย่า และมองเขาอย่างไม่ แยแส

ลูกน้องคนหนึ่งพูดขึ้นมา: “ถ้าผมจำไม่ผิด ก็น่าจะเช้าของ วันถัดไป หลังจากที่พวกเราปล่อยผู้หญิงคนนั้นกลับไป ครับ”

“คนที่เป็นหัวหน้าหัวเราะออกมาเบาๆ

จุดประสงค์ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้มันชัดเจนมาก
คนอื่นๆอาจจะไม่อยากเอาชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล มา พัวพันกับเรื่องแบบนี้

การหมั้น หรือจะเป็นการยกเลิกสัญญาหมั้น มันไม่ใช่ เพียงเรื่องส่วนตัว

ดังนั้นจึงไม่มีใครคิดว่าการที่มู่บ้านเป่ยยกเลิกสัญญาหมั้น นั้น เขาทำเพื่อเหตุผลอะไรบางอย่างของเขา

สำหรับคนอื่นอาจจะมองว่าเป็นเหตุผลที่เล็กน้อย

แต่สำหรับมู่บ้านเป่ยแล้ว กลับกลายเป็นว่ามันสำคัญ มากๆ?

“ที่เขายกเลิกสัญญาหมั้นกับเธอ เพราะว่าเขาต้องการจะ ปกป้องเธอใช่ไหม?” หึ เป็นแบบนี้จริงๆด้วย!

เรื่องแบบนี้ ก็จะเพียงคุณชายใหญ่มู่เท่านั้นที่จะกล้าทำ

“คุณพูดเรื่องอะไรของคุณ” คนที่นั่งอยู่ตรงมุมอย่า งกู้เวยจือไม่สามารถยอมรับความจริงของเรื่องนี้ได้
เธอพูดขึ้นมาด้วยความโกรธ: “ที่คุณชายใหญ่มู่ยกเลิก สัญญาหมั้น ก็เพราะไม่ต้องการผู้หญิงหน้าตาขี้เหร่คนนี้ แล้วต่างหาก”

“เขาเนี่ยนะหน้าตาขี้เหร่?” คนที่เป็นหัวหน้ายิ้มขึ้นมา โดย ไม่ยอมหันไปมองเธอแม้แต่นิดเดียว

“ถ้าผู้หญิงคนนี้เป็นคนขี้เหร่ งั้นทั้งเมืองเป่ยหลิง ก็คงหาผู้ หญิงสวยไม่เจอแล้วล่ะ

กู้เวยจือไม่ยอมและกำลังจะตอบโต้ แต่จู่ๆผู้ชายที่อยู่ ข้างๆของเธอก็ตบลงไปที่ใบหน้าของเธอหนึ่งฉาด

กู้เวยจือถูกตบจนต้องร้องด้วยความเจ็บ แล้วก็ร้องไห้ขึ้น มาทันที: “ฉันต่างหากที่เป็นผู้หญิงของคุณชายใหญ่มู่ ตอน นี้มันถูกทิ้งไปแล้ว! ”

“พวกแกกล้าทำแบบนี้กับฉันเหรอ รอให้คุณชายใหญ่มู่มา ก่อนเถอะ คุณชายใหญ่เอาพวกแก……โอ๊ย!”

ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างตบไปที่ใบหน้าของเธออีกหนึ่งฉาด

ตอนนี้กู้เวยจือถูกตบจนไปนอนอยู่บนพื้น โดยไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นมา

เธอจึงทำได้แค่นอนร้องไห้อยู่บนพื้นอย่างเศร้าใจ

กู้อานหยานยังคงจ้องมองผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าของเธอ ผู้ชายคนนี้เขาใส่หน้ากากไว้ จึงไม่สามารถทำให้เธอเห็น ใบหน้าที่แท้จริงของเขาได้

และเขาพยายามกดเสียงของตัวเองให้ต่ำลง เพื่อปกปิด เสียงจริงของตัวเอง

คนของParadise Islandเวลาจะทำเรื่องอะไรก็จะเป็น ความลับตลอด พวกเขาจะไม่เปิดเผย และจะไม่ทิ้งร่องรอย ไว้

พวกเขาทำเงินได้อย่างนับไม่ถ้วนจากเมืองเป่ยหลิงและ เมืองหลิงโจว แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าใครที่เป็น หัวหน้าใหญ่อยู่เบื้องหลังของพวกเขา

เมื่อสักครู่ผู้ชายคนนี้พูดว่า คุณชายใหญ่มู่ยกเลิกสัญญา หมั้นกับเธอ ก็เพื่อจะปกป้องเธอ……

แต่เธอคิดมาตลอดที่เขายกเลิกสัญญาหมั้นกับเธอ ก็เพราะว่าเขารู้สึกผิดต่อกู้เวยจือ

และบวกกับ กู้เวยจือได้หลอกอะไรบางอย่างกับเขา เธอ ไม่เพียงแต่หลอกเขา แต่เธอยังหลอกคุณท่านหญิงด้วย

เธอคิดว่าที่คุณชายใหญ่มู่ยกเลิกสัญญาหมั้นกับเธอ ก็ เพราะทำตามคำพูดของคุณท่านหญิง ดูแลกูเวยจือ……

ตอนนี้ มีเรื่องราวมากมายวนเวียนอยู่ในหัวของเธอ ทำให้จิตใจของเธอไม่สามารถสงบลงได้

“เป็นยังไง? ตอนนี้ รู้สึกอยากจะเจอผู้ชายที่เขาที่เธอไป แล้วใช่ไหม?”

คนที่เป็นหัวหน้ายกมุมปากขึ้นมา ดวงตาที่ลึกของเขาสั่น ไหวเล็กน้อยทำให้คนที่เห็นรู้สึกไม่สบายใจ

“ฉันให้เธอเจอเขาแน่นอน ไม่นานพวกเธอก็จะได้เจอกัน

“นี่แกจะทำอะไรกันแน่?” กู้อานหยานขมวดคิ้วขึ้นมา เธอ ยังพยายามดิ้นให้หลุด แต่มันก็ไม่ได้ผล
“เธอลองเดาดูสิ!”

ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนอารมณ์ดีอยู่ไม่น้อย ทันทีที่เขา โบกมือ ลูกน้องทั้งสองคนที่จับกู้อานหยานอยู่ ก็ลากเธอ ออกไปจากห้องนั้นทันที

“พวกแกต้องการจะทำอะไรกันแน่? ปล่อยฉันนะ!”

กู้อานหยานรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที แต่ความกังวลนี้กลับ ไม่ใช่กังวลเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง

เธอเหมือนจะคิดอะไรออก แต่เธอกลับไม่รู้ว่าพวกมันจะ ทำอะไรกันแน่

แต่ไม่ว่าจะทำอะไร เป้าหมายก็คือมู่บ้านเป่ยทั้งนั้น

อย่ามา อย่าให้เขาตามมาเลย

ขอแค่เขาไม่มา คนพวกนี้ก็จะคิดว่าเธอไม่มีประโยชน์และ ไม่มีค่า เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก บางทีเธออาจจะถูกทิ้งไป ก็ได้
แต่ถ้าหากว่าเขามา……….จะต้องอันตรายมาก! มันจะ

ต้องอันตรายมากแน่นอน!

อย่ามานะ! เธอไม่ต้องการให้เขามาช่วยเธอ

กู้เวยจ๋อก็ไม่ต้องการ!

คุณชายใหญ่ คุณอย่าตามมานะ

อยู่หมู่บ้านเปียก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ ราวกับมี ของอะไรบางอย่างมาทุบตรงหัวของเขา

“คุณชายใหญ่ครับ ดูเหมือนพวกมันจะจอดเรืออยู่บนเกาะ เล็กๆข้างหน้านะครับ

หลีเย่มองไปยังเกาะเล็กๆที่อยู่ข้างหน้า ด้วยสีหน้าที่ จริงจัง: “คุณชายใหญ่ครับ พวกมันมีคนเยอะ ส่วนคนของ พวกเราต้องรออีกครึ่งชั่วโมงถึงจะมาถึงที่นี่ได้ครับ
มู่บ้านเป่ยไม่พูดอะไร แต่สีหน้าที่นิ่งของเขา ก็บอกค่ ตอบแล้ว

ถึงแม้อีกฝ่ายจะมีคนเยอะแค่ไหน แต่เขาก็ไม่สามารถรอ ได้อีกแล้ว! แค่นาทีเดียวก็ไม่สามารถรอได้แล้ว!

ในรูปของกู้เวยจือที่เคยถูกส่งกลับมานั้น อย่างน้อยๆก็มี ผู้ชายประมาณห้าถึงหกคนที่อยู่รอบๆเธอ

แล้วถ้าหากคนในรูปกลายเป็นกู้อานหยานขึ้นมา……เขา ไม่กล้าคิด และไม่อยากคิดเลย!

“คุณชายใหญ่ครับ พวกเราจะอ้อมไปขึ้นอีกฝั่งหนึ่งของ เกาะนะครับ”

“ไม่จำเป็น ไปขึ้นทางท่าเรือเลย” มู่บ้านเป่ยพูดออกมา อย่างไม่แยแส

“ท่าเรือ?” หลีเย่มีสีหน้าที่ไม่เข้าใจ คนพวกนั้นก็ขึ้นไป ทางท่าเรือเหมือนกัน

เพราะฉะนั้นตรงท่าเรือจะต้องมีคนของ Paradise Islandซ่อนอยู่นับไม่ถ้วนแน่นอน แล้วถ้าพวกเขาขึ้นจากทางท่าเรือจริงๆ มันก็เท่ากับว่าพวกเขาเดินเข้าไปติด กับดักเองไม่ใช่เหรอ?

“ไม่ว่าจะขึ้นไปทางไหน พวกมันก็รู้อยู่ดี”

เมื่อมู่บ้านเป่ยยืนขึ้น ฉินอี้ก็รีบยืนขึ้นมาเหมือนกัน “คุณชายใหญ่ครับ งั้นผมขอไปสำรวจทางก่อนนะครับ”

การออกมาเที่ยวครั้งนี้ ฉินอี้พาลูกน้องมาแค่สองคน ส่วน ลูกน้องที่เหลือ ต้องรออีกครึ่งชั่วโมงถึงจะสามารถมาถึงที่ นี่ได้

มู่จ้านเป่ยไม่ยอมพูดอะไร แสดงว่าเขาไม่เห็นด้วยกับ ความคิดนี้

คุณชายใหญ่ต้องการจะทำอะไรกันแน่?

ไม่นานหลีเย่ก็นำเรือมาเทียบอยู่ตรงท่าเรือ

พวกเขาเพิ่งจะเดินขึ้นไปจากท่าเรือ ก็เห็นว่ามีคนที่ใส่ หน้ากากอยู่หลายสิบคน กำลังรอพวกเขาอยู่ไม่ไกล
“คุณชายใหญ่ คนที่เป็นหัวหน้าหัวเราะเบาๆ และเด่น มารับมู่บ้านเปียด้วยตัวเอง: “สิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็น คุณ ชายใหญ่มู่กล้าหาญสมคำร่ำลือจริงๆ ผมนับถือเลย”

“ต้องการอะไร?” ในเมื่อเขามาแล้ว เขาก็รู้ว่าต้องมี เงื่อนไขมากมายรอเขาอยู่อย่างแน่นอน

ครั้งที่แล้วเขาพากู้อานหยานกลับมาจากParadise Island แล้วคนของParadise Islandจะกลับมาหาเรื่อง เขาแน่นอน มันเป็นเรื่องที่เขาได้คาดการณ์ไว้แล้ว

แต่เขาแค่ไม่คิดว่า ทั้งๆที่เขายกเลิกสัญญาหมั้นกับกู้อาน หยานแล้ว แต่คนพวกนี้ก็ยังไม่ยอมปล่อยเธอไปอีก

“คุณชายใหญ่มู่เนี่ยเป็นคนที่ตรงไปตรงมาจริงเลยนะ ครับ” คนที่เป็นหัวหน้าโบกมือเล็กน้อย ทันใดนั้นก็มีลูกน้อง คนหนึ่งเดินถือแก้วไวน์แดงเข้ามา

“คุณชายใหญ่มู่ ไวน์แก้วนี้ได้ผสมยาที่ออกฤทธิ์แรงเอา ไว้ คุณชายกล้าดื่มหรือเปล่า?

ลูกน้องอีกคนหนึ่งเดินหน้ามาสองก้าว แล้วเปิดจอ โทรศัพท์ไว้ข้างหน้าของมู่บ้านเป่ย
ในจอโทรศัพท์ มีผู้ชายสองคนที่กดกู้อานหยานไว้กับพื้น พวกเขาดูไม่ได้รีบทำอะไรกับเธอ แต่พวกเขาค่อยๆถอด เสื้อผ้าของเธอ

กู้อานหยานดิ้นอย่างบ้าคลั่ง แต่ก็ไม่สามารถดิ้นหลุด

มู่บ้านเป่ยหลับตาลง อยู่ๆเขาก็เดินหน้าเข้าไปหนึ่งก้าว แล้วนำแก้วที่อยู่ในมือของอีกฝ่ายมาถือไว้

หลีเย่กับฉินอี้รีบพูดขึ้นมาทันที: “คุณชายใหญ่!

แต่มู่จ้านเป่ยกลับไม่ได้สนใจพวกเขา เขายกแก้วขึ้นแล้ว ดื่มไวน์ในแก้วจนหมดอย่างไม่ลังเล


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ