ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่83 กลับบ้านเดี่ยวนี้



บทที่83 กลับบ้านเดี่ยวนี้

หยางอี เราต้องการบัญชีWelboสาธารณะของเราเอง อันนี้ไม่ต้องใช้เงิน ” นายไปคิดวิธีจัดการให้เร็วที่สุด”

อานหยานถือกระดาษขาวไว้ กำลังจัดสรรงบประมาณอันน้อยนิดเพียงไม่กี่ แสนที่น่าสงสารของตัวเองอยู่บนโต๊ะ

“ยังมีอีก เดี๋ยวจะให้เงินทุนนายสักห้าหมื่น แล้วนายลองคิดวิธีหาซื้อ คอมพิวเตอร์กับกระดานวาดรูปดิจิตอลมาสักรอบหนึ่ง ตอนนี้ซื้อสักประมาณ ยี่สิบชุดไปก่อน”

“คอมพิวเตอร์คุณภาพสูงกับกระดานวาดรูปยี่สิบชุดเหรอ?”

รูปแบบต้นฉบับการ์ตูนต้องใช้ไฟล์ที่ใหญ่มาก และสิ่งที่ควบคู่กันก็คือพื้นที่จัด เก็บภายในของคอมพิวเตอร์จะต้องสูงมาก

ยังมีอีก ถ้าอยากจะวาดรูปให้ออกมามีคุณภาพสูงแล้วละก็ คุณภาพของ กระดานก็จะต่ำมากไม่ได้

แล้วคอมพิวเตอร์คุณภาพสูงและกระดานเฉลี่ยแล้วเครื่องละสองพันห้า เธอ ไม่ไปขโมยเลยล่ะ?

“นายเก่งด้านเทคนิคคอมพิวเตอร์สักขนาดนั้น ดึงไปดึงมาต่อไปต่อมาถึงจะ เป็นคอมพิวเตอร์เก่าพอมาอยู่ในมือนาย นายก็สามารถเปลี่ยนของผุพังให้ กลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ได้แน่” อ่านหยาแคบมาของหยางเบา ๆ ยิ้มแล้วพูด “ฉันเชื่อใจนาย นายต้องหาสิ่ง ล้ำค่ามาจากตลาดมือสองให้ฉันได้แน่นอน

หยาง เกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว กระดานวาดภาพดิจิตอลคุณภาพสูงนั้นจะ หาของมือสองมาไม่ได้ ของใหม่อันหนึ่งราคาก็ต้องเป็นพันกว่าแล้ว

และเมื่อพูดแล้ว ก็คงได้แต่ต้องมาใส่ใจที่คอมพิวเตอร์เป็นพิเศษแล้วเท่านั้น

แต่ว่า คอมพิวเตอร์ประกอบคุณภาพสูงราคาแค่พันกว่านั้นเหรอ?

แค่คิดแล้ว เขาก็อยากจะไปนั่งวาดวงกลมอยู่ที่ที่มุมไหนสักมุมแล้ว

กู้อานหยานตัดสินใจไม่คุยเรื่องพวกนี้ต่อ แล้วหันไปมองมู่เทียนโยว่

สำนักงานนี้ ตอนแรกเคยตกแต่งมาก่อนแล้ว แต่ว่า ทางอาจจะไม่ค่อย เหมาะสมกับพวกเราใช้งาน ก็เลยต้องตกแต่งใหม่อีกรอบ

มู่เทียนโยวพยักหน้า แล้วรอเธอพูดต่อไป

กู้อานหยานพูดต่อ “คือว่า ค่าตกแต่ง…..สักห้าหมื่นพอไหม?”

มู่เทียนโยว่กำลังคิดว่าที่ตัวเขายังมีเงินอยู่อีกเท่าไหร่

สุดท้าย เขาพยักหน้าแล้วพูด “พอ”

“อานหยาน ค่าตกแต่งห้าหมื่น พื้นที่สามร้อยกว่าตารางเมตร เธอกำลังล้อ เล่นอยู่ใช่ไหม?” เสี่ยวหมี่รีบช่วยเทียนโยวหวงความยุติธรรมขึ้น

“ที่นี่ตอนแรกก็เป็นสำนักงานอยู่แล้ว และเขาเคยตกแต่งมาก่อนแล้ว มีของ หลายอย่างที่เราสามารถใช้งานได้เลย

เพราะว่าเงินทุนมีจำนวนจํากัดมาก ๆ ไม่งั้น เรื่องที่จะตามข้างหลังจะทำยังไง ต่อไปอีก?

“ยังมีอีก คือว่า ยังต้องมีชุดเก้าอี้และโต๊ะทำงาน รวมทั้งห้องทำงานของพวก เราด้วย รวมแล้วน่าจะประมาณยี่สิบกว่าชุด

อีกทั้งเครื่องปรับอากาศ เครื่องกดน้ำและพวกของใช้ประจำวันอีก

กู้อานหยานลองนับนิ้วมือดู แล้วยิ้มหวาน ๆ มองเทียนโยว “พวกนี้ สักสองหมื่น

“ได้” เทียนโยว่คิดก็ไม่คิด แล้วพยักหน้าเลย

กู้อานหยานโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง เทียนโยวพูดว่าได้ ก็ต้องได้แน่

แล้วเธอก็มองซูเสี่ยวหมี่ “เสี่ยวหมี่ เธอไปหางานอภิปรายของเมื่อก่อนไปหา พวกนักวาดมา แล้วจ่ายตามค่าแรงขั้นต่ำให้พวกเขาเขียนการ์ตูนให

“ให้เธอสองแสน แต่ต้องรับประกันว่าภายในหนึ่งเดือน จะต้องมีการ์ตูนวาง

จําหน่ายยี่สิบเล่ม”

“และแน่นอนว่า ภายในยี่สิบทีมนี้ จะต้องให้บางคนมานั่งทำงานที่นี่ด้วย ไม่งั้น ฉันกลัวว่าจะควบคุมไม่ได้

เสี่ยวหมี่เกือบจะเป็นลมแล้ว สองแสน ยี่สิบเล่ม เฉลี่ยออกมาแล้วจ่ายได้แค่ เล่มละหนึ่งหมื่นเองนะ!

เด็ก ๆ ที่เขียนการ์ตูนปกติก็ไส้แห้งอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งแล้วใหญ่เทียบกับค่าแรง ฅนแบกอิฐยังไม่ได้เลย

ถึงแม้เธอจะเป็นฝ่ายจ้างงาน แต่กู้อานหยานที่ขี้เหนียวขนาดนี้ เธอยังโกรธ แทนนักเขียนการ์ตูนทั้งหลายขึ้นมา

ฉันไม่ได้พูดว่าจะต้องวาดเสร็จทีเดียว เธอแค่ต้องรับประกันว่า พอถึงตอน วางจําหน่ายอย่างน้อยพวกเขาจะต้องมีออกมาหาตอน และยังมีเตรียมสํารอง ไว้อีก าตอนก็พอ

“ตอนนี้ในตลาดยังไม่มีราคาที่ค่อนข้างแน่นอนสำหรับสายงานนี้ เธอลองดู เอาเองละกัน ขอแค่ให้พวกเขาทำติดต่อกันหนึ่งเดือนก่อน ฉันก็จะสามารถคิด วิธีหาเงินทุนมาเพิ่มได้ หรือว่าหาคนมาร่วมลงทุนด้วยได้”

แล้วถ้าถึงเวลานั้น ดึงเงินทุนเงินมาไม่ได้จะทำยังไง?

ถ้าจะให้เขาวาดรูป วาดเริ่มต้นไปแล้ว ก็ต้องวาดต่อไปเรื่อย ๆ ซี

ถ้าเงินทุนไม่ต่อเนื่อง พอถึงเวลาจ่ายค่าวาดไม่ทัน แล้วโดนคนอื่นฟ้องขึ้นมา สำนักงานของพวกเขายังไม่ทันมีชื่อเสียงก็จะมีชื่อเสียไปซะก่อน แล้วยังจะทำ ธุรกิจต่อไปได้ยังไงอีก?

สำหรับส่วนนี้ เดี๋ยวฉันคิดหาทางออกเอง” ยังไงซะ ก็คือปัญหาของเงิน เธอก็รู้ตัวแล้ว เริ่มจากตอนนี้ไป จะต้องประหยัด กินประหยัดใช้แล้ว

และแน่นอน แค่ประหยัดกินประหยัดใช้มันไม่พอหรอก ยังต้องคิดหาทาง หาเงินมาเพิ่มอีกด้วย

“ก็ได้ ฉันจะลองดูละกัน แต่ว่าค่าจ้างขนาดนี้ ไม่รู้ว่าจะมีนักเขียนยอมรับ งานหรือเปล่านะ

“ซูเสี่ยวหมี่ ถ้าตอนนี้เธอไม่มีเรื่องอะไรให้ทำ เธอวาดรูปและเขียนนำแล้วฉัน จ่ายให้เธอตอนละห้าร้อยแล้วละก็ อาทิตย์หนึ่งวาดสอนตอน เธอจะรับงาน

ไหม?”

อานหยานจ้องเธอเขม็ง บุคลิกแบบนั้น ถึงกับทำให้ซูเสี่ยวหมี่นิ่งอึ้งไปชั่ว

ขณะ

หลังจากที่อึ้งผ่านไป เธอก็เริ่มคิดไตร่ตรองปัญหานี้ขึ้นมา

อาทิตย์ละสองตอน ตอนละห้าร้อย อาทิตย์ละหนึ่งพัน งั้นเดือนหนึ่งอย่างน้อย

ก็สี่พัน

แล้วถ้าขยันหน่อย หนึ่งเดือนอัปเดตสิบตอน ถ้าเป็นอย่างงั้นหนึ่งเดือนก็จะได้

ห้าพัน

ทุกวันนี้เธอใช้แค่ค่าอาหารวันละไม่กี่สิบ หนึ่งเดือนได้ห้าพัน ก็เหมือนจะไม่

เลวนะ!

ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่า ห้าร้อยต่อหนึ่งตอนถึงจะไม่สูงมาก แต่ก็สามารถดำรง ชีวิตอยู่ได้แล้ว!

ฉันรู้สึกว่าจะต้องมีคนยอมหาเยอะแยะแ ”

คิดแล้ว ก็เริ่มมีความมั่นใจขึ้นมาแล้ว!

นักเขียนการ์ตูนในประเทศมักจะไส้แห้งมากจริง ๆ แต่ว่าทุกคนก็รักการวาด

รูป

ถ้าสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้ ถึงแม้ค่าต้นฉบับจะถูกหน่อย ขอแค่มีความ หวัง ก็ยังมีคนมากมายยินยอมนะ

ในเมื่อมันเป็นอาชีพที่ทุกคนชอบ

“บอกพวกเขาว่า หลังจากผลงานวางจำหน่ายแล้ว ยังจะได้โบนัสเพิ่มตามการ

ติดอันดับอีกด้วย

และนี่ก็คือความหวัง

“พวกเรายังจะช่วยพวกเขาผลักดันยอดขาย และร่วมมือกับหลาย ๆ ฝ่าย ต่อ ไปการเผยแพร่ก็จะยิ่งอยู่ยิ่งสูงขึ้น ผลงานที่ดียังสามารถนำไปทำเป็นการ์ตูนอ นิเมชั่น หรือ หนัง ละคร

คำพูดของกู้อานหยาน ทำให้ชูเสี่ยวหมี่ยิ่งฟังยิ่งตื่นเต้น รู้สึกว่าชีวิตกำลังจะ เดินไปสู่จุดสูงสุดแล้ว! ตื่นเต้นจังเลย!

แต่กู้อานหยานกลับกำลังคำนวณยอดเงินทุนที่เหลือของตัวเอง เริ่มต้นธุรกิจใหม่ที่เอาเงินมาจากคุณชายใหญ่มู่หนึ่งล้านนั้น ตอนนี้ยังเหลือ

อยู่อีกประมาณหกแสนต้น ๆ

จ่ายค่าเช่าสำนักงานไปเจ็ดหมื่นห้า ตกแต่งไปห้าหมื่น ข้าวของเครื่องใช้และ โต๊ะเก้าอี้ในสำนักงานไปสองหมื่นห้า คอมพิวเตอร์และกระดานดิจิตอลห้าหมื่น และหานักเขียนการ์ตูนอีกสองแสน

ที่กล่าวมาขั้นต้นนั้น ก็ใช้ไปสี่แสนเต็ม ๆ แล้ว!

ที่เหลืออีกสองแสน ก็ต้องเตรียมไว้พบกับค่าเข้าค่าน้ำค่าไฟที่จะมาถึงเดือน

หน้านี้แล้ว ค่าแรงพนักงาน และค่าต้นฉบับของนักเขียนที่จะวาดต่อไปอีก……

เธอกำลังประหยัดกินประหยัดใช้แล้ว แต่ว่าเงินนี้ ช่างไม่พอใช้จริง ๆ

ถึงจะรวมกับเงินเก็บหนึ่งแสนของเทียนโบว์ที่เก็บมาหลายปีนี้แล้ว ก็ยังเหลือ แค่สามแสนเท่านั้น

แล้วการ์ตูนก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่เห็นผลช้ามากธุรกิจหนึ่ง ถึงจะเปิดขายไป หลายเดือนแล้วก็ยังเป็นเรื่องที่เปลืองเงินอยู่ดี

สามแสน แล้วต้องเลี้ยงทีมงานอย่างน้อยยี่สิบชีวิต ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ

พวกเขาช่วยกันทำความสะอาดสำนักงานกันไปรอบหนึ่ง นอกจากเทียนโยว์ที่ เกิดมาก็มีร่างกายกำยำล่ำสันแล้ว คนอื่น ๆ กลับเหนื่อยจนขาแทบจะก้าวไม่ ออกแล้ว ช่วงหัวค่ำประมาณหนึ่งทุ่ม ทั้งสี่คนนั่งมาอยู่ที่ร้านนั่งกินเล่นในตรอกหลังตึก สํานักงาน

นอกซะจากว่าเราจะสามารถเซ็นสัญญากับช่องทางต่าง ๆ และต้องได้เห็นไม่ ” กี่เล่มเพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน ไม่งั้น ต่อไปกลัวว่าจะไม่มีเงินทุนเยอะขนาด นั้นแล้ว

ซูเสี่ยวหมี่กับหยาง เป็นพวกสิ้นเดือนก็สิ้นใจ เงินที่ทำงานหามาได้ช่วงปิด เทอมก็โดนพวกเขาใช้จนหมดเกลี้ยงแล้ว

แต่ว่า เซ็นสัญญากับช่องทางต่าง ๆ ก็ใช่ว่าจะเป็นกันได้ง่าย ๆ ช่องทางต่าง ๆ ยังต้องผ่านการตรวจสอบของกองบรรณาธิการอีก

“เธอแค่ต้องรับประกันว่าในยี่สิบเล่มมีห้าเล่มได้เซ็นสัญญาก็พอ เงินทุนก็พอ จะผ่อนคลายลงได้บ้างแล้ว

กู้อานหยานดื่มชาอยู่แม้แต่นิ้วมือก็สั่นไปด้วย รู้สึกเหนื่อยใจจริง ๆ !

“ส่วนที่เหลือที่ไม่ได้เซ็น ก็เลือกเรื่องที่มีเนื้อหาดี ๆ ออกมาบางเรื่องแล้วทำต่อ ไป แล้วส่วนที่เหลือก็ต้องเปลี่ยนเนื้อหาทันที หรือเริ่มวาดใหม่

นอกซะจากว่ากองบรรณาธิการของช่องทางต่าง ๆ จะดูคลาดเคลื่อนไป ส่วน ที่เหลือที่ไม่ได้เห็นก็คงไม่ค่อยมีผลสำเร็จซะเท่าไหร่แล้ว

แต่ว่าเสียงโทรศัพท์ของกู้อานหยานกลับดังขึ้นในเวลานี้พอดี เธอกครับ สาย”ฮัลโหล ปลายสายอีกฝั่ง มีเสียงที่ฟังดูแหบดูมีเสน่ห์ดังขึ้น “อยู่ไหน? กลับบ้าน

เดี๋ยวนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ