ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่397 ผมไม่รังเกียจ



บทที่397 ผมไม่รังเกียจ

บทที่397 ผมไม่รังเกียจ

กู้เวยจือยังไม่ทันได้ตอบคำถามของกู้ชิงเหอ ข้างนอกห้อง โถง ก็มีคนมาพอดี

กู้ชิงเหลียนเห็นมู่บ้านเป่ย แววตาก็ประกายขึ้นทันที

รู้ตั้งนานแล้วว่าคุณชายใหญ่มู่แห่งเมืองเป่ยหลิงนั้นเป็น ผู้ชายที่หล่อเหลามากคนหนึ่ง แต่ ไม่คิดเลยว่าจะหล่อเหลา มากถึงขนาดนี้

ถ้าหากไม่ใช่ตัวเองอายุมากขนาดนี้แล้ว และถ้าหาก เด็กลง อีกสักยี่สิบปี เธอคงจะคอยตามจีบตามตื้อเขาแน่นอน

ไม่เคยเห็นผู้ชายหล่อเหลาขนาดนี้มีก่อน

เพียงดูแค่รูปก็ทำให้ผู้หญิงหน้าแดงใจเต้นรัวได้ ตอนนี้ คน จริงๆมาอยู่ตรงนี้แล้ว ยิ่งทำให้คนไม่อาจจะละสายตาได้

“คุณชายใหญ่หมู่ ได้ยินชื่อเสียงก็ไม่สู้ได้พบหน้านะคะ ได้ยินชื่อเสียงมานาน”

กู้ชิงเหลียนเดินเข้าไปหา แล้วยื่นมือออกมา ตระกูลกู้แห่ง หลิงโจวกับบริษัทมู่ชื่อกรุ๊ปแห่งเมืองเป่ยหลิง นั้นทำธุรกิจด้วย กันมาตลอด
โปรเจกต์ที่อยู่ในมือของกู้ชิงเหลียน ก็ต้องเกี่ยวข้องร่วมงา นกับมู่บ้านเอ๋ยไม่มากก็น้อย

มู่จ้านเป่ยจับมือกับเธอเบาๆ เสร็จแล้วทุกคนจึงได้นั่งลงกัน ต่อ

“คุณพ่อ เรื่องดีๆระหว่างเวยจือบ้านเรากับคุณชายใหญ่มู่ จะ เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ใช่ไหมคะ”

กู้ชิงเหลียนได้รับข้อมูลถึงได้มาก่อนแล้ว

ได้ยินมาว่าหลังจากที่คุณชายใหญ่มู่มาแล้ว ก็รีบขึ้นไปดูกู้ เวยจ่อทันที

ตอนนี้ ทั้งสองคนนั่งด้วยกัน ที่ดูราวกับสนิทสนม

บวกกับก่อนหน้านี้ ที่เธอได้หาคนไปสืบเรื่องของกู้เวยจือมา

ก่อนแล้ว

เลยรู้ตั้งนาน ว่ากู้เวยจือกับคุณชายใหญ่มู่นั้นเป็นคู่รักกัน

ในWeiboของกู้เวยจือ เป็นรูปที่คุณชายใหญ่มู่อยู่ในเมือง เป่ยหลิงทั้งหมด

เธอหันไปมองคุณท่าน แต่สายตากลับไม่ทันได้ระวัง ไปตก อยู่บนตัวของหญิงสาวที่อยู่ข้างกายของคุณท่าน
“150……”

ชิงเหลียนลุกขึ้นมาอย่างนุ่มบ่าม “เธอ……”

“ทำไมเหรอ”คุณท่านจ้องมองกู้ชิงเหลียนเธอ แล้วขมวดคิ้ว “ทําเป็นกระต่ายตื่นตูมไปได้”

ลูกสาวทั้งสองของเขา เป็นอันดับหนึ่งของบริษัทตระกูลกู้

ทั้งหมด

ในเรื่องชื่อเสียงด้านความนิ่งความใจเย็น

แม้ลูกสาวคนที่สองจะอารมณ์ร้อนมากกว่าลูกสาวคนคนโต ไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้ถึงกับทําอะไรใจร้อน

“ชิงเหลียน คนนี้เป็นน้องสาวของเวยจือ กู้อานหยานนะ”กู้ชิง

เหอจ้องเขม็งเธอเบาๆ

กู้ชิงเหลียนได้รับสายตาแจ้งเตือนนี้เข้า ก็ทำให้สงบลง

เหมือน เหมือนจริงๆด้วย

ความรู้สึกที่เธอมีต่อกู้อานหยาน มันรุนแรงกว่ากู้ชิงเหอด้วย

สมัยก่อน ตอนที่น้องชายกู้จิ่งซี่กำลังมีความรัก เธอยังคอยช่วยปกปิดคุณท่านอยู่หลายครั้ง เธอจำได้ จำได้ดีสำหรับรูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนั้น

แต่ว่า ทําไมเป็นแบบนี้

วันนี้จิตใจของกู้อานหยานมีความเศร้าใจเล็กน้อย หันไปยิ้ม ให้กับกู้ชิงเหลียน ก็ถือว่าเป็นทักทายแล้วนะ ก็หยิบแก้วขึ้นมา ดื่มอย่างไม่สนใจอะไร

ราวกับบทสนทนาของพวกเขา ไม่น่าสนใจเลยสักนิด

กู้ชิงเหลียนสงบอารมณ์ลง ก็หันไปมองกู้อานหยานอีกครั้ง ถึงจะหันไปสนใจมู่จ้านเป่ยกับกู้เวยจือ

เพื่อปกปิดความไม่เหมาะสมของตัวเองเมื่อกี้ เธอจึงยิ้ม

พูด”เวยจือ ไม่แนะนำให้พวกคุณป้าได้รู้จักหน่อยเหรอ”

หน้าของกู้เวยจือร้อนขึ้นมาเล็กน้อย แน่นอนว่ารู้ความหมาย ของกู้ชิงเหลียนอยู่แล้ว

คุณชายใหญ่มู่ ทุกคนต่างก็รู้จักดีอยู่แล้ว ความหมายของกู้ ชิงเหลียนนั้น คือให้เธอแนะนําความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ทั้งสอง

กู้เวยจือแอบมองมู่บ้านเป่ยครู่หนึ่ง คนท้ายที่กล่าวถึงนี้ไม่มีความคิดที่จะเอ่ยพูดเลยแม้แค่น้อย

เธอแอบขยับเข้าใกล้เขาขึ้นมาอีกนิด เลยทำให้ทั้งสองใกล้ ขึ้นมาไม่น้อยไปกว่าสิบกว่าเซ็น

เขาไม่ขัดขืนเลยสักนิด

กู้เวยจือก็ใจเต้นดีใจขึ้น จนเซอร์ไพรส์ขึ้นมาทันที

“หนู……านเป่ยเป็นเพื่อนสนิทของหนูค่ะ สนิทมาก.……….แบบ

นั้นค่ะ”

วันนี้ที่คุณท่านเห็นพวกเขาทั้งสอง ก็ดูออกถึงความสัมพันธ์ที่ แอบมีใจให้กันอยู่

เรื่องนี้ในทีแรกก็ไม่กล้าจะคิดอะไรทั้งนั้น แต่ คุณชายใหญ่มู่

ในวันนี้ กลับให้ความหวังกับทุกคน

คุณท่านยิ้มเบาๆ”เมื่อก่อน เวยจือได้รับความดูแลจากคุณ ชายใหญ่มู่มาโดยตลอด ผมยังไม่ได้ขอบคุณคุณอย่างจริงจัง เลย”

มู่บ้านเป่ยยิ้มบางๆ เป็นการยิ้มเบาๆ แต่กลับทำให้ผู้หญิง ทั้งหมดที่เห็นในนี้ ต่างก็หลงเสน่ห์ในทันที

เขาพูด”เป็นเรื่องที่ควรดูแลอยู่แล้วครับ”
ความหมายของคำพูดนี้ ชัดเจนจนไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว

กู้เวยถือเป็นความรับผิดชอบของมู่จ้านเปีย

กู้เวยจ๋อตี๋เต้นดีใจ แต่ก็ไม่กล้าแสดงอะไรออกมา แต่ ไม่พูด ก็กลัวว่าจะพลาดอะไรไป

เธอพยายามส่งสายตาให้กับคุณท่านกู้ หวังให้คุณท่านช่วย

อีกแรง

คุณท่านรู้ความหมายของเธอดีอยู่แล้ว แต่ว่า เขายังมอง ความคิดของผู้จ้านเป่ยคนนี้ไม่ออก

ก่อนหน้านี้ยังพูดอย่างชัดเจน เขาไม่ได้รู้สึกกับหลานสาวเขา ในทางชู้สาวแม้แต่น้อย

แต่ตอนนี้ ทำไมท่าทีทั้งหมดกลับไม่เหมือนเดิมแล้ว

“คือว่า……”คุณท่านคิดแล้วคิด จึงพูดอย่างลองใจดู”คุณชาย ใหญ่มู่ กับเวยฉือบ้านพวกเราคบกันเหรอครับ ทำไมคุณท่าน อย่างผมถึงไม่รู้เรื่องอะไรเลย”

ทุกคนต่างเงียบสงบ

กู้อานหยานกำปลายนิ้วมือไว้แน่ หางตาชำเลือง มองมู่จ้าน เป่ยทันที
ความหมายของคุณปู่กู้ในคำพูดนี้ เปิดประเด็นได้อย่าง ชัดเจน

ทีนี้ ใช่ก็ใช้ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่

จากนิสัยของคุณชายใหญ่มู่แล้ว เขาไม่เคยเรียนรู้ความ หมายของคําว่าอ้อมค้อมสองคํานี้

กู้เวยจ๋อตื่นเต้นจนหัวใจเกือบหลุดออกมาจากลำคอออกมา

เธออยากให้คุณปู่ช่วยอีกแรง แต่ไม่คิดว่าคุณปู่จะตรงไป ตรงมาแบบนี้

หากอยู่ต่อหน้าคนมากมายแบบนี้แล้วคุณชายใหญ่มู่ ปฏิเสธ ทันที แล้วต่อไปหน้าของเธอจะยังสามารถเก็บไปตรงไหนได้ อีกล่ะ

คุณปู่ จริงๆเลย….ไม่คิดถึงหน้าเธอเลยสักนิด

ความเป็นจริงนะ คุณท่านแค่ไม่อยากให้มันชักช้าไม่ชัดเจน และที่ไม่อยากที่สุดคือ ให้หลานสาวตัวเองนั้นมีความหวังลม แล้งๆ

คนที่นั่งนอกจากมู่บ้านเป่ยแล้ว คือความในตระกูลกู้ทั้งหมด

เสียหน้าต่อหน้าคนของตัวเอง ก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหาอะไร
ที่สําคัญคือ เรื่องนี้ต้องมีความชัดเจน

สายตาทั้งหมด ต่างจ้องไปหามู่จ้านเป่ย

มู่จ้านเป่ยกลับทำเหมือนไม่รู้ว่าทุกคนคาดหวังกับอะไรอยู่

หลังจากที่หยิบแก้วขึ้นมาจิบชาหมอเบาๆแล้ว เขาวางแก้วลง ก้มหน้าไปมองกู้เวยจือชั่วแวบหนึ่ง

“มาเดือนกว่าแล้ว สร้างความเดือดร้อนอะไรให้ทุกคนไหม

กู้เวยจือรู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นจนจะระเบิดแล้ว โทนเสียงที่ ค่าเอ่ยอย่างรักใคร่เช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเห็นเธอเป็นคนของตัว เองแล้ว

เธอไม่เคยลองมาก่อน ที่จะให้คุณชายใหญ่มู่มองดูตัวเองเป็น ผู้หญิงคนหนึ่ง

เพียงชั่วขณะ ในใจก็รู้สึกปวด นัยน์ตาก็ร้อน น้ำตาก็ไหลออก

มา

เธอส่ายหัว เกือบจะอดไม่ไหวที่จะเข้าไปอยู่อ้อมกอดของเขา

หากสายตามากมายหลายคู่จ้องมองอยู่ เธอต้องเข้าไปอยู่ใน อ้อมกอดแน่ ต้องทำแน่นอน
“ฉัน…ไม่ได้นะ”กู้เวยจือก้มหน้าก้มตา กัดปากบางไว้ หายใจ อย่างผิดปกติ

ห้องโถงมีความเงียบสองวินาทีเช่นเดิม

หลังจากสองวินาทีแล้ว คุณท่านก็ดีใจมาก สุดท้ายมีปฏิกิริยา ตอบสนอง

“เวยจือเป็นแบบเด็กดีขนาดนี้ จะสร้างปัญหาให้คนอื่นได้ยัง ไง”

คุณท่านดีใจจริงๆ และดีใจเป็นอย่างมากด้วย

ในระหว่างที่ไม่รู้ตัว ก็กุมมือของกู้อานหยานไว้ แต่กลับมอง หน้ามู่จ้านเป่ย “แต่เป็นตอนที่เวยจืออยู่ข้างกายคุณชายใหญ่ มู่ต่างหาก ไม่รู้ว่าสร้างปัญหาให้คุณชายใหญ่มู่มากมายขนาด ไหน”

มู่จ้านเป่ยยิ้มเบาๆ ยิ้มนั่น สง่าเรียบหรู

“ปัญหามีนิดหน่อย แต่ว่า ผมไม่รังเกียจ”

กู้อานหยานเข้ามาพักที่ในห้องชั้นสอง
เธอไม่รู้ว่ามู่บ้านเป่ยพักอยู่ที่ไหน และไม่อยากรู้

คืนนี้ เป็นคือสำหรับมู่บ้านเป่ยกับกู้เวยจือ

แต่เธอ ไม่ว่าจะอยู่ข้างกายของมู่บ้านเป่ย หรืออยู่ที่ตระกูลกู้ นี้ ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นส่วนเกิน

ยืนอยู่หน้าระเบียง มองดูวิวยามค่ำคืนด้านนอก เธอไม่รู้ว่าตัว

เองอยากหัวเราะ หรืออยากร้องไห้กันแน่

หัวเราะ เพราะหัวเราะในความโง่ของตัวเอง

ร้องไห้ เพราะความน่าสมเพชของตัวเอง

คนเขาก็เปิดเผยความรักของตัวเองแล้ว แต่เธอสิ กลับเป็น ของเล่นชิ้นหนึ่งที่อยู่ข้างกายของมู่บ้านเป่ย

เขากับกู้เวยจือคบกัน แต่ลับหลัง ก็ยังมีผู้หญิงอย่างเธออยู่ เช่นเดิม

ไม่มีใครรู้ เธอยังคงติดค้างมู่บ้านเป่ยอีกแค่เดือนกว่า

ในเดือนกว่านี้ เธอยังต้องอยู่กับมู่บ้านเป่ยในเวลาต้องการ เป็นคู่ให้เขาในเวลาที่ต้องการปลดปล่อย

หี ไอ้คุณชายใหญ่มู่นี่ เป็นผู้ชายแบบไหนกันแน่
ผู้ขายสารเลวเหรอ

คบอยู่กับกู้เวยจือแล้ว ยังจะไปจู๋จี๋กับผู้หญิงอื่นอีก ไม่ใช่ ผู้ชายสารเลวหรือนั้นเป็นอะไร

คืนนี้มีลม พัดโดนร่างกาย เย็นมาก เย็นจนทำให้คนเหน็บ หนาวเข้ากระดูก

กู้อานหยานไม่รู้มารับลมเย็นในระเบียงนานเท่าไหร่แล้ว ตอน ได้สติกลับมา ก็ลากร่างที่หนาวเย็น กลับมาที่ห้องข้างใน

เพิ่งจะมาพักผ่อนที่เตียง ข้างนอก จู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูดัง ขึ้นมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ