ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่ 420 ความเชื่อใจจุดสุดท้ายนั้น ไม่มีแล้ว



บทที่ 420 ความเชื่อใจจุดสุดท้ายนั้น ไม่มีแล้ว

บทที่ 420 ความเชื่อใจจุดสุดท้ายนั้น ไม่มีแล้ว

สถานที่กู้เวยจือให้กู้อานหยานไปคือ ท่าเรือผู้หยวน

แต่ว่า ที่กู้อานหยานบอกกู้ชิงเหอ กลับเป็นท่าเรือเฉียนธาน

เธอไม่สามารถให้กู้ชิงเหอไปกับตัวเอง เพราะกู้เวยถือเคยพูด ว่า ขอแค่ไม่ใช่เธอที่ไปคนเดียว คุณปู่จะเกิดอันตรายได้

แต่ว่าเธอเองก็รู้ หากเธอไปคนเดียวจริงๆ จะต้องเกิดอันตราย หนักมาก!

แต่ว่าเวลาไม่เยอะแล้ว ภายในหนึ่งชั่วโมง หากยังไม่ไปอีก ไม่รู้ว่ากู้เวยจือจะทำอะไรคุณปู่

กู้อานหยานมองโทรศัพท์ อยากจะโทรหากู้จิ้งหย่วน คิดไม่ ถึงว่า เบอร์โทรศัพท์ของกู้จิ้งหย่วนแสดงขึ้นว่าไม่สามารถโทร ได้

เขาจะต้องมุ่งตรงไปทางน่านน้ำสากลแน่นอน

เวลานี้ ระยะห่างไกลเกินไปแล้ว ติดต่อไม่ได้ก็ปกติ

นี่เป็นแผนร้ายของกู้เวยจือแน่นอน ตั้งใจเหลือเบาะแสว่าตัว เองยังอยู่ที่น่านน้ำสากลกับกู้จิ้งหย่วน เพราะว่าให้กู้จิ้งหย่วนออกห่างไปที่ไกล ล่อเสือให้ออกจากถ้ำเพื่อที่จะจัดการกับ แผนที่วางไว้ได้ง่ายๆ

ลองโทรไปหลายรอบมาก ก็ยังคงโทรไม่ติด กู้อานหยานยอม แพ้แล้ว

เธอโทรไปอีกเบอร์หนึ่ง

แต่ยังคงเป็นเหมือนตอนนั้น เบอร์โทรศัพท์ของมู่จ้านเป่ย ขึ้น ว่ากำลังปิดเครื่องอยู่

แม้กระทั่งความหวังสุดท้าย ก็ขาดไปแล้ว

กู้อานหยานมองจากช่องว่างทางประตู เห็นกู้ชิงเหอกำลังคุย โทรศัพท์ไปด้วย เดินเข้าห้องไปด้วย

เธอรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าไปอีกชุดหนึ่ง เดินออกจากห้องนอน แล้วไปหาของกินที่ห้องครัว ใช้ช่วงเวลากลางดึกที่ไม่มีใคร ออกจากห้องรับแขกไป

ในโรงรถมีรถไม่น้อยเลย กุญแจส่วนใหญ่ก็อยู่บนรถ

กู้อานหยานเปิดรถหนึ่งในนั้นออก กำลังจะสตาร์ทรถ สีหน้า

ของเธอก็มีความแย่ลง

สำหรับเขา ก็ยังคงมีความเชื่อใจอยู่ แล้วก็ ความรู้สึกเป็นที่
ในตอนที่ไม่มีใครสามารถช่วยได้ คนที่นึกถึง คือมู่จ้านเป ยมาโดยตลอด

เธอหยิบโทรศัพท์ออกมา ส่งข้อความให้มู่จ้านเป่ย “กู้เวยจือ ให้ฉันไปที่ท่าเรือผู้หยวนตอนนี้ ตอนนี้ฉันจะไปคนเดียว ไม่รู้ว่า มีอันตรายหรือเปล่า”

หลังจากที่ส่งข้อความออกไปแล้ว เธอก็สตาร์ทรถ ขาข้าง หนึ่งเหยียบอยู่บนคันเร่ง นำรถขับออกมาจากโรงรถ

มู่บ้านเป่ยกับกู้คือเวยอาจจะคบกันแล้วก็ได้

มู่บ้านเป่ยอาจจะไม่สนใจเธอแล้วก็ได้

อาจจะ….มีอาจจะนับไม่ถ้วน แต่ว่า เธอก็ยังคงเชื่อใจเขา ยากจะพึ่งพาเขา

นี่อาจจะเป็นการพึ่งพาสุดท้ายที่มีต่อเขาแล้วก็ได้

ทั้งชีวิตนี้ เธอขับรถมาหลายปี

เกิดใหม่อีกครั้ง ราวกับว่ายังไม่เคยขับ

ตอนแรกรู้สึกไม่ค่อยคุ้นมือ แต่ในไม่ช้า ทักษะการขับรถก็กลับมาแล้ว

รถหรูสีดำ อยู่ในท่ากลางค่ำคืนราตรี ราวกับเจ้าเอลฟ์…

ท่าเรือ หยวน

ท่าเรือนี้ที่ร้างไปหลายปีมาก คืนนี้มีความเงียบสงบที่พูดไม่

ออก

นอกจากแสงไฟอ่อนๆ จากที่ไกลแล้ว รอบๆ ข้าง กลับมืดไป

ทั้งผืน

กู้อานหยานจอดรถอยู่ที่ว่างตรงหัวท่าเรือ ลงจากรถแล้วเดิน ไปทางที่มีแสงไฟ พึ่งเดินไปครึ่งทาง โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

เธอนึกว่ากู้เวยจือ แต่คิดไม่ถึงว่า กลับเป็นมู่บ้านเป่ย

“เธออยากทำอะไร?” เสียงที่แตกใหญ่ของมู่บ้านเป่ยดังผ่าน

มา

สิ่งที่ดังผ่านมาพร้อมกับเสียง คือเสียงของลม เขาเหมือน กำลังรับลมอยู่ และลม ก็แรงมากๆ

เสียงของลมถึงขั้นยิ่งอยู่ยิ่งดังขึ้น เขาเหมือนกำลังอยู่ระหว่างการเดินทาง?

ไม่ ไม่ได้เหมือนการขับรถรับลม? หรือว่า ขับเรือ?

เขาอยู่ที่ไหนกันแน่?

“กู้เวยจอบอกว่า ขอแค่ฉันมา เธอจึงจะปล่อยคุณปู่”

“เธอโง่หรือง่าว? เธอไปแล้วหล่อนจะปล่อยคนจริงๆหรอ? กู้ เวยจือเป็นคนแบบไหน เธอไม่รู้?”

โชคดีที่มู่จ้านเป่ย จู่ๆก็มีความคิดอยากจะเปิดเครื่อง ไม่เช่น นั้น คงจะพลาดข้อความจากยัยเด็กนี่ไปจริงๆ!

ผู้หญิงคนนี้ โง่จริงๆ!

“ตอนนี้ รีบกลับไปเดี๋ยวนี้ ฉันพูดแล้ว คุณปู่ของเธอไม่เป็น อะไร ได้ยินไหม!”

“คุณพูดว่าอะไรนะ?” ปลายนิ้วของกู้อานหยานกระชับแน่น ขึ้นมาทันที “คุณปู่ของฉัน?”

ทำไมเขาถึงรู้? ทำไม เขาถึงมั่นใจขนาดนั้น?

หัวใจของกู้อานหยาน จู่ๆก็เย็นไปครึ่งหนึ่ง
มีความคิดบางอย่างที่น่ากลัว ผ่านเข้าไปในสมอง ทันใดนั้น ก็ รู้สีกหนาวจนเธอสั่นไปทั้งตัว

“มู่จ้านเป่ย คุณรู้ คุณรู้ทุกอย่าง! ตัวอย่างเส้นผมของฉันกับ คุณปู่ คุณเป็นคนสั่งให้คนอื่นไปเปลี่ยน ใช่ไหม?”

อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ มีแต่เสียงฮูๆ ของลม นอกจากนี้ ก็ ไม่มีการตอบกลับอย่างอื่นอีกเลย

เขาเงียบ การเงียบแสดงว่า เขายอมรับแล้ว!

“ทำไม?” กู้อานหยานเหมือนตะโกนเลย!

ทําไมเขาถึงทําแบบนี้? ทำไมถึงต้องเปลี่ยนตัวอย่างเส้นผม ของเธอกับคุณปู่ ทำไมถึงต้องห้ามให้เธอกับคุณปู่ยอมรับกัน?

“คุณรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ตั้งแต่ที่ยังไม่มาหลินโจว? ทำไมคุณถึง

ไม่รีบพูด? คุณ……

ทันใดนั้น เธอกระวนกระวายมาก มือที่จับโทรศัพท์ สั่นไม่ หยุดเลย

“คุณ….กับกู้เวย อร่วมมือกัน จะจัดการคุณปู่ฉันกับพี่ชายใหญ่?”
ถึงว่าล่ะคืนวันนั้น เขาเห็นตัวเองกับกู้จิ้งหย่วนนอนอยู่บน เตียง ยังสามารถเงียบสงบได้ขนาดนั้น ไม่มีการตอบสนองใดๆ เลย

ที่แท้ เขาก็วางแผนกับกู้เวยจือตั้งนานแล้ว!

ไม่แน่ เขาอาจจะมีส่วนร่วมด้วยก็เป็นได้!

“มู่บ้านเป่ย คุณบอกฉัน ทำไมคุณต้องทำแบบนี้? คุณอยาก จะได้บริษัทตระกูลกู้หรอ?”

“ฉันไม่ได้มีความหมายที่อยากจะได้บริษัทตระกูลกู้”

ถึงแม้อำนาจจะใหญ่มาก แต่ว่า บริษัทมู่ชื่อกรุ๊ปของเขาก็ไม่

แย่

กับบริษัทตระกูลกู้แล้ว เขาไม่มีความสนใจ!

“งั้นเพราะอะไรกันแน่? ทำไมคุณถึงร่วมมือกับกู้เวยจือมา จัดการกับพวกเรา?”

กู้อานหยานเกือบจะหมดหวังแล้ว คิดไม่ถึงว่าในตอนที่ ตัวเองอยู่ในสภาวะอันตรายที่สุด คนที่อยากจะพึ่งพามาก ที่สุด สุดท้ายแล้ว กลับเป็นคนที่เสียบมีดตั้งแต่แรก!

เธอมองผู้ชายคนนี้ไม่ออก มองไม่ออกจริงๆ!
“มู่บ้านเป่ย….”

“เรื่องอื่น ฉันไม่อยากอธิบาย แต่ว่าตอนนี้ เธอรีบกลับไปที่ บ้านกู้ ห้ามออกจากบ้านก็แม้แต่ครึ่งก้าว!”

เสียงของมู่บ้านเป่ยฟังแล้วเย็นชามาก ถึงแม้ลมจะแรงมาก กลับยังไม่สามารถต่อต้านความเย็นบนตัวเขาได้

“ทําไมฉันต้องฟังคุณ? คุณอยากทําร้ายคุณปู่! คุณ ไอ่คน

เลว!”

กู้อานหยานตื่นตระหนกจนเกือบจะโยนโทรศัพท์ทิ้ง

ตั้งแต่ที่เขาเงียบไป เธอก็เริ่มหมดหวังแล้ว

เธอแค่ไม่เข้าใจ นี่เป็นเพราะไรกันแน่?

เขาช่วยเหลือกู้เวยจือ มาหลอกคนในตระกูลกู้ ต่อต้านไม่ให้ เธอกับคุณปู่ยอมรับกัน….

ตั้งแต่อยู่ที่เป่ยหลิง เขาก็มีส่วนร่วมกับเรื่องทั้งหมดนี้แล้วใช่ ไหม?

คุณชายใหญ่มู่ เขามีทุกอย่าง เขาต้องการอะไรกันแน่? หรือว่าเงินสำคัญขนาดนี้จริงๆ? เขามีบริษัทมู่ชื่อกรุ๊ปอยู่แล้ว ยังใช้วิธีแบบนี้ มาแย่งชิงทรัพย์สมบัติของบริษัทตระกูล

เธอไม่อยากจะเชื่อเลย เขาจะเป็นคนแบบนั้น

แต่ว่าเขาเปลี่ยนตัวอย่างผมของเธอกับคุณปู่ นี่คือเรื่องจริง! กู้เวยจืออาจจะพูดโกหกทั้งหมด แต่อย่างน้อยบางคำหล่อนก็ พูดถูกแล้ว

ข้างกายของเธอ มีคนมากมายอยากจะทำร้ายเธอ แต่เธอ กลับไม่รู้ เธอโง่จริงๆ!

“กู้อานหยาน เชื่อฟังนะ! รีบกลับบ้าน! ฉันรับรองกับเธอเลย คุณปู่เธอไม่เป็นอะไรทั้งนั้น ผ่านไปไม่กี่วัน เขาก็สามารถกลับ บ้านได้แล้ว”

“งั้นคุณบอกฉัน ตอนนี้คุณปู่ของฉันอยู่ที่ไหนกันแน่? เขาทำ อะไรอยู่? เมื่อไหร่เขาจึงจะสามารถกลับมาได้?”

“ตอนนี้ฉัน ยังไม่สามารถบอกได้ เธอ……

มีเสียงตุ๊ดดังขึ้น กู้อานหยานกลับวางสาย!

โทรอีกครั้ง เบอร์ของยัยเด็กนั้น ก็โทรไม่ติดอีกแล้ว!
มองดูหน้าจอโทรศัพท์ที่ค่อยๆดับไป มู่จ้านเป่ยกระวน

กระวายจนเส้นเลือดเผยออกมาอ่อนๆ!

ยัยเด็กนั้น จะไม่เชื่อเขาอีกต่อไปแล้วจริงๆ!

เขาโทรไปอีกเบอร์หนึ่ง “รีบส่งคนไปที่ท่าเรือผู้หยวน เดี่ยว

หลังจากวางสายแล้ว เขาหันไปมองหลีเย่ที่กำลังขับสปีดโบ๊ ทอยู่ “ไม่ได้กินข้าวหรอ? ทำไมช้าขนาดนี้? ออกไป ฉันมาเอง!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ