ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่209 นี่มัน แก่งแย่งคนมาอย่างเปิดเผย



บทที่209 นี่มัน แก่งแย่งคนมาอย่างเปิดเผย

บทที่209 นี่มัน แก่งแย่งคนมาอย่างเปิดเผย

การแข่งขันในวันนี้ มันเป็นการแข่งความสามัคคีของทีม

อันที่จริงมันง่ายมากๆ เลย ตั้งแต่สิบโมงเช้าไปจนถึงบ่ายสาม ตลอดทั้งห้าชั่วโมงนั้น จะต้องทำเรื่องหนึ่งออกมาให้เสร็จ

ความยากนั้นมันมากมายเหลือเกิน

สําหรับกรรมการกับคนดูนั้น มันก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อเช่นกัน

ดังนั้นเมื่อถึงตอนเที่ยง ก็มีแต่คนเดินออกไป

บนที่ของกรรมการ กลับไม่มีใครออกไปเลย เพราะว่าคุณชาย ใหญ่คู่กับคุณชายรองเจียงก็อยู่ที่นั่นด้วย

ทั้งสองคน ต่างหยิบปากกาและจดลงไปบนสมุดของตัวเอง

เขาเป็นถึงคุณชายของทุกคน และก็ยังเป็นตัวกลางสำคัญของ บริษัทอีกด้วย มีงานยุ่งมากมาย ที่แน่นอนว่าไม่มีทางเสียเวลาห้า ชั่วโมงไปอย่างไร้ประโยชน์เพียงแต่ว่าเมื่อพูดไปอันที่จริงพวกเขาไม่จำเป็นต้องมาเองด้วยซ้ำ

การแข่งขันแบบนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นการคัดทีม แต่แค่ให้คนอื่นมา แทนก็พอแล้ว

มาด้วยตัวเอง ไม่เพียงแค่เสียเวลา แต่ยังน่าเบื่อมากอีกด้วย

ในส่วนของทางมหาวิทยาลัยเจียงโจว ก็ได้จัดสนามกีฬาเป็น โรงอาหารเอาไว้แล้ว และเชิญมู่บ้านเป่ยกับเจียงนานมากินข้าว

ขนาดฝั่งผู้เข้าแข่งขัน โรงเรียนก็จัดให้ทุกคนได้กินด้วยกัน

หลังจากที่คิดพล็อตเรื่องได้แล้ว แต่ยังไม่ลงรายละเอียด กู้อาน หยานก็ใช้เวลาราวๆ หนึ่งชั่วโมง ในการเขียนบทร่างให้เสร็จ

ฉินโจว ในตอนที่เธอเริ่มเขียนเรื่องในบรรทัดแรก ก็เริ่มร่างภาพ เหมือนกัน โดยที่ไม่ได้เสียเวลาไปเลยแม้แต่น้อย

เห้อหลิงฉือนั้นยุ่งวุ่ยวาย เธอรีบเทน้ำชาแล้วส่งให้ทุกคน และ เอาอาหารฟาสต์ฟู้ดมาให้ก่อนจะเก็บกวาดทำความสะอาด
หลังจากที่ฉินโจววาดทุกตารางเสร็จ ก็ส่งต่อให้หลิวช่างตัดเส้น

หลิวซ่างเองก็เหมือนกัน แค่ตัดเส้นไม่นานก็รีบส่งให้ซูเสี่ยวหมี่

กับหยางอื

เมื่อดูรวมๆแล้ว ทีมของพวกเขานั้นดูน้อยนิดและว่างเปล่าเป็น อย่างมาก ทั้งหมดมีเพียงห้าคน แต่ทีมของคนอื่นนั้นอย่างน้อยก็ สิบคน

แค่นับมือของคนนั้น ก็ถือว่าแพ้ไปครึ่งหนึ่งแล้ว

ยังดีที่กู้อานหยานนั้นเขียนบทเสร็จเร็ว แล้วการร่างเส้นของฉิน โจวก็รวดเร็วเหมือนกัน

ถึงแม้ว่าจะมีแค่ห้าคน แค่ความเร็วกลัวไม่ได้ซ้ำไปกว่าคนอื่นเลย

หลังจากที่กู้อานหยานเขียนโครงเรื่องจนเสร็จ ก็เริ่มช่วยหลิว ช่างตัดเส้นด้วย

ตอนเที่ยง ถ้าเกิดเงยหน้าขึ้นมาบ้าง ก็จะมองเห็นฉินโจวกำลัง ตั้งใจวาดภาพวิวอยู่ด้วย
ในใจรู้สึกอบอุ่น ในตอนนั้นเอง ก็รู้สึกซึ้งใจจนอยากจะร้องไห้ ออกมา

ความเชื่อใจระหว่างทั้งสองคน มันสำคัญขนาดไหน ?

เธอเชื่อว่าเขาจะกลับมา เขาเองก็เชื่อว่าเธอจะไม่ไปหาคนอื่นมา แทนตัวเอง

ถ้าเกิดว่าระหว่างทางเกิดอะไรที่ไม่คาดฝันขึ้น แล้วมีคนไม่เชื่อ ใจอีกฝ่าย การแข่งขันครั้งนี้ ก็อาจจะเกิดความเสี่ยงขึ้นเป็นอย่าง มาก

แต่ว่าพวกเขา กลับสามารถทำได้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าพวกเขา นั้นเป็นทีมเดียวกัน !

“อานหยาน กินอะไรก่อนเถอะ” เห้อหลิงฉือรีบเอากล่องของ อาหารฟาสฟู้ดให้เธอ

“โอเค” กู้อานหยานรับมา ก่อนสายตาพลันมองไปเห็นชายคน หนึ่งที่นั่งอยู่

เขานั่งอยู่ตรงโต๊ะอีกฝั่ง ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขตการแข่งกันพอดี
ตอนที่กู้อานหยานเงยหน้า เหมือนกับเขามองเห็นแววตาของ เขามองมาพอดี

เธอรู้สึกอึ้งไปชั่วขณะ เมื่ออยากจะมองเขาอีกครั้ง สาวตาของ คุณชายใหญ่มู่กลับไม่ได้มองอยู่ที่เธอแล้ว แล้วก็ไม่รู้ว่ากำลังมอง ทีมของใครอยู่

เธอหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะก้มหน้ากินข้าวแล้วไม่คิดอะไรไปเอง

อีก

การแข่งขันห้าชั่วโมง มันไม่มีอะไรน่าสนใจเลย

วันนี้ไม่มีการแข่งขันกันในเรื่องของเวลา ก็อาจจะไม่รีบออกจาก สนามแข่งขันก่อน ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไรการใช้เวลาห้าชั่วโมงให้ คุ้มค่ามากที่สุด เป็นสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับทุกคนในตอนนี้

ถ้าเกิดว่าเขียนเรื่องออกมาง่ายเกินไป แล้วทำเสร็จก่อน การ แข่งขันก็จะลดลง

แต่ถ้าเกิดว่าเขียนเรื่องออกมาได้อย่างซับซ้อนมากเกินไป ก็จะ ทำไม่เสร็จทันเวลา จากนั้นก็จะถูกหักคะแนน

โดยภาพรวม การแข่งขันทุกครั้งมันยากขนาดนี้ แต่ทว่าสำหรับความสามารถของทีมของทุกคน ยิ่งยาก ก็ยิ่งน่าสนใจ

การแข่งขันในวันนี้ มันไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเลย

เพราะการกลับมาของฉินโจว ทีมชมรมวาดภาพเมษาเลยรู้สึก เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง

ทุกคน ต่างแสดงศักยภาพที่ดีที่สุดของตัวเอง

หลังจากที่พวกเขาวาดแบบร่างเสร็จ หน้าจอยักษ์ใหญ่นั้นก็ ปรากฏออกมา จนทำให้คนดูนั้นแตกตื่นฮือฮากันขึ้นมา

การวาดสไตล์นี้และฉากความรักต่างๆ มันเป็นฉากสไตล์นี้ มันดู สวยงามจนไม่อาจมีใครมาเปรียบได้ !

“นี่มันเป็นการวาดการ์ตูนที่ไหนกันล่ะ เห็นได้ชัดเลยว่าอยู่ใน ระดับของการทำแอนิเมชันแล้ว”

“ไม่ มันยังมีความต่างจากแอนิเมชันนิดหน่อย

“แน่นอนอยู่แล้ว ภาพประกอบของแอนิเมชัน ต้องใช้เวลาวาด เป็นวันเลยล่ะ”

“แต่สําหรับการวาดการ์ตูนนั้น มันก็ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงเป็นอย่างมาก”

……ขนาดทีมของซูเลย มีคนหันมามองอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก็ต้อง ตกใจอึ้งไป มัน…สวยได้ขนาดนั้นเลยเหรอ ! ”

ซูเล่ยมือสั่น ก่อนจะจับปากกาวาดภาพเอาไว้แน่น

แต่ว่าปากกาวาดภาพที่อยู่ในมือของเธอกลับสั่นเล็กน้อย เหมือนกับว่ามันจะถูกบีบให้หักไปเลย !

เธอไม่ต้องหันไปมองเลยไม่แต่น้อย !

ฉากรักแต่ละฉากของกู้อานหยานนั้น ก็ได้เห็นความสามารถไป ตั้งแต่การแข่งขันในวันก่อนแล้ว

การร่างเส้นของหานเทียน เธอเองก็รู้ดีกว่าใคร

การลงสีของยัยเสี่ยวหมี่อะไรนั่น ความสามารถของเธอก็โดด เด่นกว่าใคร !

พวกเขาเป็นทีมที่ไม่มีทางท้าทายได้เลย ! เธอรู้ดี !

“มองอะไร ? ยังไม่รีบทำอีก ! ” ผู้ช่วยจ้องคนในทีมคนนั้น ก่อน จะด่าด้วยความโกรธ
คนในทีมเลยรีบหันกลับมา ก่อนจะตัดเส้นต่อ แล้วไม่กล้าหัน กลับไปมองอีกเลย

แค่การมองเพียงครู่เดียว มันก็ตราตรึงอยู่ในใจ จนลืมไม่ลงเลย ทีเดียว

เมื่อทีมของคนอื่นมองเห็น ทุกคนก็เหี่ยวเฉาเหมือนกับดอกไม้ที่ ถูกเด็ดออกมา

บางที การแข่งขันอาจจะไม่ได้แพ้ให้กับทีมของคู่ต่อสู้ แต่กลับ แพ้ให้กับใจของตัวเอง

มันชัดเจนเลย ว่าชมรมวาดภาพเมษาในครั้งนี้ ทำให้ทีมอื่นถูก กดลงไปหมด !

หลังจากนั้นห้าชั่วโมง การ์ตูนนั้นก็ถูกปิดผนึกลง

เมื่อผ่านไปครึ่งชั่วโมง ถึงจะมีพิธีกรมาประกาศผลในสนาม

ที่สาม ชมรมวาดภาพของมหาวิทยาลัยเจียงโจว

ที่สอง ซูซินเก๋อ

ที่หนึ่ง ได้แก่ชมรมวาดภาพเมษา
เมื่อรู้ว่ากำลังจะมอบรางวัล คนดูที่ออกไปจากสนามแข่งแล้ว ตอนนี้ก็รีบกลับมาอีกครั้ง

เสียงของคนดูนั้นดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

พิธีกรเชิญแขกมามอบรางวัล แขกที่มามอบรางวัลให้กับที่สามก็ คืออธิการบดีของมหาวิทยาลัยหนิงโป ส่วนที่สองเป็นอธิการบดี ของมหาวิทยาลัยเจียงโจว

ซูเล่ยไม่ได้ขึ้นไปรับรางวัล เพราะการเป็นที่สองนั้น สำหรับเขา มันน่าอับอายเหลือเกิน !

การแข่งขันระหว่างโรงเรียนนั้น เธอไม่เคยได้เป็นที่สองเลย ไม่ เคยเลยจริงๆ !

ซูเล่ยเอาแต่นั่งอยู่ที่พักผ่อน และรอต่อไป

เพราะยังมีอีกสองรายชื่อที่สำคัญมากๆ อยู่

บริษัทเจียงซื่อกรุ๊ปว่าจะเลือกทีมหนึ่งที่จะร่วมงานด้วย มองจาก ตอนนี้ บริษัทเจียงเอกรุ๊ปมีความเป็นไปได้ที่จะเลือกชมรมวาด ภาพเมษาที่สุด

แต่ว่าก็ไม่มีใครมั่นใจ ว่าคนที่คุณชายรองเจียงอยากจะเลือกนั้น จะมีคนอื่นอีกหรือไม่

กู้อานหยานหน้าตาน่าเกลียดขนาดนั้น บางทีคุณชายรองเจียง ไม่ชอบเธอ ก็อาจจะเป็นไปได้

ถ้าเกิดว่าบริษัทเจียงซื่อกรุ๊ปเลือกชมรมวาดภาพเมษาขึ้นมา จริงๆ ถ้างั้น ก็ยังมีอีกรายชื่อหนึ่งที่เป็นตำนาน ก็คือการเลือกขอ งบริษัทมู่ อกรุ๊ป

ข่าวที่ว่าบริษัทมู่ชื่อกรุ๊ปจะจัดตั้งบริษัทวาดการ์ตูนนั้น คงไม่ใช่ ข่าวที่ไม่มีมูล

ซูเล่ยให้คนไปสืบมาแล้ว พวกเขามีการเคลื่อนไหวจริงๆ

ชมรมวาดภาพเมษามีแค่หนึ่งเดียว ถ้าเกิดว่าบริษัทเจียงซื่อกรุ๊ป เลือกไปแล้ว บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็จะเลือกไม่ได้อีก

ถ้าเกิดว่าบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจะต้องเลือกสักทีมจริงๆ ทีมซูซินเก๋อ ของพวกเขานั้นก็มีความเป็นไปได้สูงขึ้น !

หานมินจูนเองก็คิดในแบบเดียวกัน

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นหนึ่งในสาม แต่ทว่า ตัวเองนั้นสวยมาก ไม่แน่อาจจะเข้าตาคุณชายใหญ่มู่ก็ได้
แต่ว่าดาวของคณะพวกเขา ที่ยังสวยกว่าซูเล่ยอีก จะไปกลัว

อะไร ?

ผู้ชายเลือกผู้หญิง ความสามารถนั้นเป็นรอง ที่สำคัญที่สุดก็คือ รูปร่างหน้าตา ใช่ไหมล่ะ ?

“ยินดีด้วยนะ” เจียงนานที่เป็นแขกรับเชิญ ถูกเชิญขึ้นมาให้

รางวัลกับชมรมวาดภาพเมษาด้วยตัวเอง

กู้อานหยานรับรางวัลจากมือของเขา ก่อนจะชูขึ้นกับทุกคนใน

ทีม

ข้างล่างเวทีนั้น มีแต่คนถ่ายภาพและถ่ายทอดสดอย่างครึกครื้น

เจียงนานรับไมค์มาจากพิธีกร ก่อนจะยิ้มกู้อานหยานพลางพูด ว่า “พวกเราบริษัทเจียง อกรุ๊ปตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกชมรมวาด ภาพเมษาเป็นผู้ร่วม เพื่อจะก่อตั้งบริษัทวาดการ์ตูนขึ้นมาใหม่ ไม่รู้ ว่าชมรมวาดภาพเมษาจะยินยอมไหม ? ”

กู้อานหยานกับคนในทีมนั้นก็ฮือฮากันขึ้นมา

กลับไม่คิดเลยว่า จะมีเงาสูงใหญ่เดินมาจากทางด้านกรรมการ อย่างกะทันหัน
ไม่รู้ว่าเขาถือไมค์อยู่ในมือตอนไหน “เดือนหน้าบริษัทมู่ชื่อกรุ๊ป เองก็จะร่วมมือกันก่อตั้งบริษัทวาดภาพเหมือนกัน หวังว่าชมรม วาดภาพเมษาจะเข้าร่วมในฐานะผู้ถือหุ้นนะ

คนดูต่างมีเสียงว้าวขึ้นมาในทันใด

นี่มัน….แย่งคนกันซึ่งๆ หน้าเลยหนิ !

บริษัทเจียงซื่อกรุ๊ปเผชิญกับบริษัทมู่ชื่อกรุ๊ป คุณชายรองเจียง พยายามสู้กับคุณชายใหญ่มู่ หล่อมากจริงๆ เลย !


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ